" อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการศึกษาต่อ "

 

      สวัสดีค่ะชาวเด็กดีทุกคน เวลาผ่านไปเร็วเหมือนกันนะเนี่ยเผลอแป๊บเดียว ก็ก้าวเข้าสู่เทอมที่สองแล้ว ช่วงนี้คงเป็นช่วงเปิดเทอมของใครหลายคนใช่ไหมคะ ว่าแต่ปิดเทอมที่ผ่านมานี้ทำอะไรกันบ้างคะ หลายคนคงมีกิจกรรมเยอะแยะไปหมด กิจกรรมยิ่งมากก็ยิ่งรู้สึกว่าวันๆ หนึ่งมันวิ่งหายไปไหนก็ไม่รู้มารู้ตัวอีกทีก็เปิดเทอมเรียบร้อยแล้ว (เหมือนยังไม่ได้พักเลย) แต่เอาน่าปิดเทอมเดือนหนึ่งก็เหมือนกับชาร์จพลังไปแล้วกว่าครึ่ง เรามาสู้กันอีกในเทอมนี้กันดีกว่า เป็นห่วงก็น้องๆ ม.6 ไม่รู้ว่าปิดเทอมที่ผ่านมาดูหนังสือไปแล้วกี่ตั้ง หรือกวดวิชาไปแล้วกี่แห่ง แล้วไอ้ที่ติวหนักๆ แบบนี้รู้ใจตัวเองแล้วหรอว่าต้องการเรียนอะไร อนาคตอยากเป็นอะไร จริงอยู่ค่ะที่ว่าการสอบเข้ามหาลัยให้ได้คะแนนดีๆ นั้น สามารถเลือกได้หลายคณะ แต่ว่าเราอย่าลืมให้ความสำคัญกับอนาคตหรือสิ่งที่รอเราอยู่ข้างหน้าด้วย เพราะไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีความสุขเลยกับสิ่งที่พลาดไป บางคนเลือกเรียนหมอ เรียนๆๆ ไปได้สักพักรู้สึกตัวอีกทีว่าชอบวิศวะมากกว่า เป็นแบบนี้คงไม่ดีแน่ใช่ไหมคะ



    งั้นเอาละ มาทบทวนกันอีกทีว่าอยากเป็นอะไรดี เอาที่จบแล้วได้ทำงานแน่นอนไม่ต้องมานั่งแกร่วเดินเตะฝุ่นหางานให้ลำบาก และที่สำคัญเลยคืออย่าเลือกเรียนตามเพื่อนนะคะ  เพราะแต่ละคนมีความชอบความถนัดไม่เหมือนกัน บางคนชอบงานกิจกรรม บางคนชอบงานอยู่กับที่ บางคนชอบท่องเที่ยว หรือบางคนชอบงานด้านการบริการ ต่างคนต่างหลากหลายบุคลิกลักษณะ และในวันนี้มีอีกหนึ่งสถานที่ศึกษาที่เกี่ยวข้องกับงานด้านบริการในโรงแรม ซึ่งเป็นโรงเรียนแห่งแรกของประเทศไทย ที่เปิดสอนทางด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว นั้นก็คือโรงเรียนการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยวนานาชาติ หรือเรียกกันสั่นๆ ว่าสถาบัน
“ ไอทิม ” (I-TIM) โดยเปิดมาแล้วยาวนานถึง 22 ปี และได้ให้ความรู้และผลิตบุคลากรไปมากมาย ในส่วนบทความนี้จะเป็นการเปิดใจสัมภาษณ์นักศึกษาปี 2 ของสถาบัน 2 คน ว่าเรียนที่ไอทิมเป็นยังไง และมีความคิดอะไรบ้าง เพื่อเป็นไกด์และเป็นแนวทางให้กับน้องๆ ที่ยังไม่รู้ใจตัวเอง และน้องๆ ที่อยากเรียนทางการโรงแรมและการท่องเที่ยวได้เป็นแนวทางต่อไปค่ะ

                     
 
ชุลีพร บุญทัน   กุลปวีณ์ จีรพงษ์อุดม

Q: แนะนำตัวเองหน่อยค่ะ
ชุรีพร : สวัสดีค่ะ ชื่อ ชุลีพร บุญทัน เป็นประธานนักเรียนปี 2552 และตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ค่ะ
กุลปวีณ์ : สวัสดีค่ะ ชื่อ กุลปวีณ์ จีรพงษ์อุดม เรียกสั้นๆ ว่าผึ้งก็ได้ค่ะ ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่ I-TIM ปี 2 ค่ะ

Q: ก่อนมาเรียนที่นี้รู้จักสถาบันไอทิมจากที่ไหน
ชุรีพร : ทาง Internet ค่ะ และ ได้มีโอกาส เข้ามาเยี่ยมชมภายใน I - TIM ค่ะ
กุลปวีณ์ : พอดีมีญาติมาเรียนที่ไอทิมแล้ว ตอนที่พี่เค้ารอจะไปฝึกงานตอนปีหนึ่งที่ต่างจังหวัดพี่เค้าก็มาพัก
ที่บ้านผึ้ง ก็เลยถามพี่เค้าว่าพี่เค้าเรียนที่ไหน พี่เค้าก็บอกว่า I-TIM ซึ่งตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ได้ยินชื่อ I-TIM รู้สึกไม่คุ้นเลยค่ะ

Q: ทำไมถึงตัดสินใจเลือกเรียนที่สถาบัน I-TIM
ชุรีพร : สนใจในเนื้อหา และ กระบวนการเรียนการสอนแบบอเมริกันที่ผสมผสานกับ วิชาปฎิบัติสไตล์
สวิซ ค่ะ และได้มีโอกาสฝึกงานถึง 5 เดือนเต็ม ทั้งในและนอกสถานที่ค่ะ

กุลปวีณ์ : หลังจากที่ได้คุยกับพี่ที่เป็นญาติกันก็ทำให้เรารู้ว่าที่นี่แหละคือที่ๆเราอยากเรียน ที่นี่แหละคือที่ๆ เหมาะกับเราที่สุด ด้วยเหตุผล 3 ข้อใหญ่ๆ หนึ่งคือหลักสูตรที่นี่น่าสนใจมากตรงที่เราได้เรียนทฤษฎีควบคู่ไปกับการปฏิบัติซึ่งการที่เราได้ปฏิบัติหรือลงมือทำจริงๆ สำหรับสายงานอาชีพนี้ประสบการณ์ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก รวมทั้งการไปฝึกงาน 5 เดือนซึ่งเราจะได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก สองคือเราได้เรียนในสิ่งที่รักได้เรียนในวิชาที่จำเป็นจะต้องใช้จริงๆ ในสายงานอาชีพนี้คือเราไม่ต้องเรียนวิชาอื่นๆ ที่เมื่อเราจบไปแล้วเราก็ไม่ค่อยได้ใช้ซึ่งถือว่าเป็นการประหยัดเวลามากๆ ค่ะ และข้อสุดท้ายคือสถาบันนี้เป็นหลักสูตรนานาชาติซึ่งภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำงานในปัจจุบัน

 

Q: บรรยากาศการเรียนการสอนที่ไอทิมเป็นอย่างไรบ้าง
ชุรีพร : รู้ประทับใจนับตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเรียน ทั้งระบบที่คาดคิดไว้ ได้เรียนทั้งแบบ Management และ Practical class ที่เรียนกับอาจารย์ที่เป็นผุ้มีประสบการณ์สูงและ อาจารย์ที่เป็นเจ้าของภาษาอีกด้วย
กุลปวีณ์ : อาจารย์ทุกท่านน่ารักและเป็นกันเองมากๆ ตอนเรียนปีหนึ่งเนื้อหาก็เยอะนะค่ะแต่ก็ยังเรียนไม่ค่อยหนักเท่าไหร่แต่พอขึ้นปีสองซึ่งเป็นปีสุดท้ายเนื้อหาค่อนข้างเยอะและเข้มข้นมากขึ้นซึ่งอาจารย์หลายๆท่านก็สามารถสอนให้เราเข้าใจได้อย่างง่ายดาย สิ่งแวดล้อมที่นี่ก็ดีมากๆทุกคนช่วยเหลือกันดีจนเราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ทุกครั้งที่ใกล้สอบก็จะช่วยกันติวหนังสือ รุ่นพี่ติวให้รุ่นน้องบ้าง ติวกันเองบ้าง ช่วยเหลือกันเป็นอย่างดีค่ะ

Q: เข้ามาไอทิมต้องฝึกงานตั้งแต่ปี 1 ทั้งที่มหาวิทยาลัยทั่วไปเขาให้ฝึกในปี 4 ตอนนั้นรู้สึกอย่างไรบ้าง
ชุรีพร : ได้มีโอกาสฝึกงานที่ Grand Hyatt Erawan Bangkok41 ด้าน kitchen department ได้รับประสบการณ์มากมาย จาการฝึกงานครั้งนี้ ตอนแรกเป็นกังวลเป็นอย่างมาก กลัวที่จะทำงานไม่ได้ แต่พอได้ไปฝึกงานจริงๆ ทำให้ได้รู้ว่า โรงเรียนได้สอนการจากทำงานจริง ทำให้เราได้เตรียมตัวกับการทำงานเป็นอย่างดี ถึงแม้เป็นแค่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 แต่สามารถทำงานเทียบเท่า นักศึกษาชั้นปีที่ 4 เลยค่ะ
กุลปวีณ์ : ได้ประสบการณ์เยอะมากเลยค่ะ โชคดีมากๆ ที่มีโอกาสได้ฝึกงานตั้ง 5 เดือน ฟังดูเหมือนจะนานนะค่ะแต่พอไปทำจริงๆแค่แป๊บเดียวเอง สิ่งที่ได้รับบางอย่างเราไม่สามารถหาได้จากในห้องเรียนซึ่งมันคุ้มมากๆที่ตัดสินใจมาเรียนที่นี่ เรียนจากที่ไหนจะดีที่สุดล่ะค่ะถ้าไม่ใช่เรียนจากประสบการณ์จริง

Q: การฝึกงานในปีสองคิดไว้หรือยังว่าจะฝึกที่ไหนค่ะ
ชุรีพร : ตั้งเป้าหมาย ไว้ที่ Sheraton Seattle, USA ค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ขั้นดำเนินการค่ะ
กุลปวีณ์ : คิดไว้แล้วค่ะว่าจะไปฝึกงานที่ต่างประเทศ อยากจะไปเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษและไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศด้วย คิดไว้หลายที่นะคะ แต่ที่ๆ อยากไปมากที่สุดน่าจะเป็นที่ The Broadmoor Colorado Springs, Colorado เพราะพี่ที่เป็นญาติเค้าก็ไปฝึกที่นี่มาตอนปี 2 และพี่เค้าก็บอกว่าที่นี่ดีมากๆ

Q: คิดว่าเรียนแล้วได้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงมากน้อยแค่ไหน
ชุรีพร :   ใช้ทั้งหมดที่เรียนมา จากการที่ได้ไปฝึกงาน ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการปฏิบัติงานและภาษาอังกฤษ

Q: ได้รับอะไรบ้างเมื่อเรียนที่ I-TIM
ชุรีพร : ได้รับความรู้ใหม่ที่ สำคัญกับการทำงานด้านโรงแรม ซึ่งเรียนรู้จากสถานการณ์จริง ทำให้เราได้มีการฝึกฝนตลอดเวลาและได้รับโอกาสฝึกงานในระยะเวลาที่เหมาะสม สิ่งที่ I-TIM ให้รับรองได้ว่าคุณไม่สามารถได้รับจากที่อื่นใด

Q: ดูเป็นคน Active ท่าทางจะชอบทำกิจกรรมตั้งแต่เด็กใช่หรือเปล่า
ชุรีพร : ใช่ค่ะ เริ่มตั้งแต่ปีที่ 1 ได้รับเลือกเป็น Intake leader (ประธานรุ่น) รุ่น 41 และ ในขณะนี้ กำลังดำรงตำแหน่งเป็น Student President (ประธานนักเรียน) ปี 2552 ค่ะ การทำงานในตำแหน่งเหล่านี้ ส่งผลให้ทีการเตรียมตัวที่ดี ก่อนที่จะออกไปทำงานจริงค่ะ

 

Q: รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานนักเรียน
ชุรีพร : ดีใจและไว้ใจในตัวเอง คนเราต้องศรัทธา ในตัวเองก่อน ก่อนที่จะให้คนอื่นศรัทธาในตัวเรา
เพราะฉะนั้นจึงตั้งทำหน้าที่เป็นตัวแทนนักศึกษาที่ดี ของเพื่อนๆ และรุ่นน้องค่ะ

Q: เห็นว่ามีความกังวลในด้านภาษาก่อนที่จะมาเรียนที่สถาบันไอทิมวิธีแก้ไขอย่างไรบ้างคะ
กุลปวีณ์ : เมื่อก่อนตอนเด็กๆไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษมากๆไม่สนใจเรียนเลยแต่พอโตขึ้นเริ่มรู้ว่าอะไรสำคัญสำหรับอนาคตของเราก็เลยเริ่มสนใจภาษาอังกฤษตอนประมาณ ม.ปลาย วันเสาร์อาทิตย์ก็ไปเรียนพิเศษเพิ่มเติมซึ่งครูที่สอนสอนสนุกและตลกมากๆทำให้เรารักภาษาอังกฤษและอยากที่จะเก่งภาษาอังกฤษเร็วๆ ครูสอนอีกว่าภาษาอังกฤษอยู่รอบๆตัวเราๆสามารถเรียนรู้มันได้อย่างง่ายดายเพียงแค่เปิดตาและเปิดใจให้กว้างและมองไปรอบๆ ถ้าวันไหนพอมีเวลาว่างก็จะเรียนรู้ด้วยตัวเองไปด้วยอะไรที่ทำแล้วทำให้เราพัฒนาภาษาอังกฤษได้จะทำหมดทุกอย่าง เพราะเรารู้ตัวว่าเราช้ากว่าคนอื่นเราก็เลยต้องขยันกว่าคนอื่น

 

Q: มีวิธีการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างไรบ้างคะ
กุลปวีณ์ : วิธีเรียนภาษาอังกฤษของผึ้งก็เหมือนกับที่คนทั่วๆไปทำกันคือ ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ซึ่งมันช่วยเราได้เยอะจริงๆ แต่สิ่งที่ต่างกันอาจจะอยู่ตรงที่ความตั้งใจและความพยายาม หลายคนมักท้อ ล้มเลิกความตั้งใจและมักจะพูดว่าภาษาอังกฤษมันยากเกินไป แน่นอนมันไม่ง่ายเลยแต่มันก็ไม่ยากเกินไปสำหรับคนที่ตั้งใจจริงๆ เราไม่มีทางจะเก่งภาษาอังกฤษได้ภายในเวลาแค่ไม่นาน ของอย่างนี้มันเกิดมาจากการสั่งสมและเรียนรู้ เคยมีบ้างเหมือนกันที่ท้อแต่ไม่คิดที่จะยอมแพ้ เราไม่รู้หรอกว่าเราเข้าใกล้ความสำเร็จแค่ไหนตอนที่เราล้มเลิก บางทีตอนที่เรายอมแพ้ เราอาจจะเข้าใกล้สิ่งที่เราต้องการเพียงแค่นิดเดียวก็ได้ แล้วทำไมเราต้องยอมแพ้ล่ะ

Q: คิดว่าศักยภาพของนักศึกษา I-TIM เมื่อเทียบกับสถาบันอื่นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
กุลปวีณ์ : ศักยภาพของนักศึกษา I-TIM ไม่ได้ด้อยไปกว่าสถาบันอื่นเลย ถึงแม้ว่าเราเรียนแค่ระยะเวลา 2 ปีซึ่งน้อยกว่าสถาบันอื่นแต่สิ่งที่เราเรียนรู้และได้รับนั้นมันมากกว่าที่อื่นแน่นอน เนื้อหาที่เราเรียนทุกอย่างเข้มข้นและตรงประเด็น ผึ้งเชื่อนะค่ะว่าเด็กของเรามีศักยภาพ เพราะ เราได้ผ่านการฝึกฝน อบรมและปฏิบัติจริงมาแล้ว ทั้งในเวลาที่เราเรียนที่ไอทิมและเวลาที่เราไปฝึกงาน เราผ่านการทำงานจากสถานที่จริงมาแล้วตั้ง 5 เดือน ซึ่งหลักสูตรของทางไอทิมถือว่ามีส่วนช่วยอย่างมากในการสร้างและพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาให้มีความเป็นมืออาชีพในการทำงาน เพราะ เราเรียนทฤษฎีควบคู่ไปกับการปฏิบัติ

Q: คิดว่าตัวเองเปลี่ยนไปเยอะไหมใน 1 ปีที่ผ่านมา
กุลปวีณ์ : ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ หลังจากที่เราผ่านการฝึกงานมาแล้วเราจะมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เวลาทำงานมันฝึกให้เรามีความรับผิดชอบ ความอดทนและสามารถทำงานภายใต้ความกดดันที่มี รวมทั้งเรียนรู้การทำงานกับคนหมู่มากซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เราต้องรู้จักปรับตัวให้เป็น หนึ่งปีผ่านไปรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นและเริ่มมองถึงอนาคตตัวเองเป็นสำคัญ มันเหมือนกับว่าหลังจากนี้เราจะต้องรับผิดชอบอนาคตตัวเองอย่างจริงจังแล้วนะ เราจะมาทำเป็นเล่นหรือทำตัวเป็นเด็กๆไม่ได้แล้ว มีเรื่องอีกมากมายที่เราต้องตัดสินใจเลือกซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่สำคัญต่ออนาคตเราทั้งนั้น

Q: หากมีนักศึกษารุ่นน้องสนใจเรียนทางด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวมีข้อแนะนำอย่างไรบ้าง
ชุรีพร : การโรงแรมและการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่กว้างใหญ่ และ สำคัญอีกอย่างหนึ่งของประเทศเรา อุตสากรรมด้านนี้มีงานที่รองรับแน่นอน และถ้าเราเลือกสถาบันที่ดีและคุณภาพ สามารถสอนให้เราได้รู้จักกับการโรงแรมจริงๆยิ่งทำให้เราเป็นคนที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับการทำงานด้านนี้ค่ะ
กุลปวีณ์ : หากใครคิดว่าสายงานนี้เหมาะสมกับเราจริงๆก็อยากให้มาเรียนค่ะ มีอะไรหลายๆอย่างมีเรื่องหลายๆเรื่องที่รอให้เราเรียนรู้ สายงานนี้มีเรื่องให้เราเรียนรู้มากมายไม่รู้จบ ทั้งสนุก ท้าทาย และน่าตื่นเต้น หากใครที่ไม่ชอบความจำเจสายงานนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่สนใจ ถึงแม้งานจะค่อนข้างหนักแต่สิ่งที่เราได้รับมันเป็นประสบการณ์ที่ดีที่มาช่วยเติมเต็มให้ชีวิตเรามีสีสันและน่าสนใจมากขึ้น

 

 

 

Q: อยากฝากอะไรถึงน้องๆ ทั้งที่เรียนสายการโรงแรม และน้องๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเรียนต่อด้านไหนดี
ชุรีพร : ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองและเศรษฐกิจในตอนนี้ อุตสาหกรรมต่างๆ ต่างลดทรัพยากรบุคคล แต่สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมเป็นอุตสาหกรรม ที่เข้ามาพยุงเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ฉะนั้น จึงเปิดโอกาสให้มีบุคคลากรได้มีงานทำมากขึ้น และยิ่งบุคคลากรนั้นมีประสิทธิภาพ ผ่านการขัดเกลามาจากสถาบันที่มีคุณภาพแล้วล่ะก็ ยิ่งทำให้ทุกอย่างวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วค่ะ
กุลปวีณ์ : สำหรับคนที่เรียนสายงานนี้อยู่แล้วก็อยากจะให้ทุกคนสนุกและมีความสุขกับการเรียน สายงานนี้มีเรื่องน่าสนใจมากมายให้เราเรียนรู้รวมทั้งอยากให้ทุกคนใส่ใจเข้าไปเวลาที่เราเรียนและเวลาทำงานเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆออกมา สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกเรียนอะไรดีอยากจะให้ถามตัวเองก่อนว่าอยากทำอะไร ทำอะไรแล้วเรามีความสุข ขอให้เลือกเรียนหรือทำสิ่งนั้นโดยยังไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องเงินก่อน เพราะถ้าหากเราได้ทำหรือเรียนในสิ่งที่ตนเองรักเราก็จะมีความสุขที่จะได้ทำมันทุกๆวันโดยไม่รู้จักเบื่อเราจะสามารถสร้างสรรค์สิ่งดีๆออกมาได้ อย่าเลือกเพราะตามเพื่อนหรือว่าเลือกเพราะทำแล้วจะได้เงินเยอะ มีทางให้เลือกสองทาง คือทำงานอย่างมีความสุขและสนุกที่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองรักอาจจะได้เงินเยอะหรือไม่เยอะแต่นั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญขอแค่เรามีความสุขและอยากจะตื่นขึ้นมาในทุกๆเช้าเพื่อที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองรัก หรือจะเลือกทำงานที่ตัวเองไม่ได้รักต้องฝืนใจทำแต่ได้เงินเดือนเยอะกว่า ซึ่งคนส่วนมากมักเลือกข้อหลังแต่คนที่รักตัวเองจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน

     จบบทสัมภาษณ์ของทั้ง 2 คน พร้อมรอยยิ้มเล็กๆ และแอบคิดในใจว่านอกเหนือจากความรู้ที่ได้สั่งสมเพิ่มเติมทั้งจากไอทิมและจากประสบการการณ์ฝึกงานทางด้านวิชาชีพแล้ว เหนือสิ่งอื่นใดก็คือความรักและเคารพในวิชาชีพของตนเอง ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่หายากยิ่งในตัวของผู้คนทุกวันนี้ สุดท้ายนี้สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเรียนด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวกับสถาบันไอทิม


สามารถติดต่อสอบถามได้ที่
02-732-0170-3 ต่อ 201-206 Hotline: 08-555-111-85
E-mail: info@i-tim.ac.th www.i-tim.ac.th
พี่ปอย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

68 ความคิดเห็น

copyninja 26 พ.ย. 52 20:12 น. 1
ค่าเทอมๆละเท่าไหร่คับ

อยากเรียนจริงๆ นะ แต่ก็กลัวไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม (บอกมาเป็นตัวเลขเลยนะคับ)

สนใจตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ว่าไม่ได้ตัดสินใจ แต่ปีหน้าจะซิ่วไปเรียน

ก็เลยอยากรู้เรื่องค่าใช้จ่าย

ปล. อีกอย่างก็กลัวตกสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ดีดี้ 26 พ.ย. 52 22:20 น. 3
สำหรับความคิดเห็นที่ 1 นะคะ

เราอยู่รุ่นที่ 41 นะคะ

ค่าเทอมประมาณ 89,XXX อ่ะค่ะ

ถ้าสนใจวันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2552 นี้เรามีงาน I-TIM Open House นะคะ ตั้งแต่ประมาณ 9 โมงเช้าอ่ะค่ะ

ถ้าสนใจก้อมาร่วมงานของเราได้นะคะ

ซอยรามคำแหง 50 นะคะ เข้าซอยมาประมาณ 700 เมตรอ่ะค่ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
วอน_นอน_คุก Member 27 พ.ย. 52 14:12 น. 6
พี่ค่ะ คือมีคนที่ ไอทิม ไปแนะแนวที่รร.อ่ะค่ะ อยากถามว่ามีคณะที่เกี่ยวกับการบินด้วยหรอค่ะ ?? เห็นบอกว่าเพิ่มมาใหม่อ่ะค่ะ
0
กำลังโหลด
Liu 27 พ.ย. 52 19:20 น. 7
ตอบ คห. 5 จบไปแล้วหางานง่ายค่ะ ส่วนการฝึกงานต่างประเทศ แล้วแต่คะแนนความประพฤติของแต่ละคน แล้วก็ความสมัครใจค่ะ

ตอบ คห.6 ไม่มีการบินโดยตรงคะ คนที่ไปแนะแนวเค้าอาจจะหมายถึง การฝึกงานและการทำงานในสายการบินรึเปล่าคะ อันนั้นมีค่ะ



เสาร์ที่ 28 พฤศจิกายนนี้ เชิญมางาน I-TIM open house งานเริ่มปะมาณเก้าโมงค่ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
D_EK Member 27 พ.ย. 52 20:32 น. 9
สนใจสถาบันนี้มากเลย เพราะพี่สาวเคยแนะนำและอยากถามต่อว่าถ้าผมจบ ปวช การโรงแรมมาเนี่ยผมจะมาต่อที่ i-tim ได้มั้ยครับ
0
กำลังโหลด
||`๛ เอวัง ๛` || Member 27 พ.ย. 52 22:05 น. 11

เอิ่ม ตอนนี้ intake ล่าสุดเท่าไหร่หว่า?
พี่ไอทิม intake 33 Manhattan ค่ะ


ความคิดเห็นที่ 8  
ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ  แต่สนใจในด้านนี้

คิดว่าจะพอไปรอดมั้ยคะ  - - "
PS.  อาจจะเป็นกำแพงหรือเปล่า ที่สร้างโดยไม่ตั้งใจ อาจจะเป็นความหวังที่สูงไป ยากจะปีนขึ้นมา
Name : l6omirbmydKN < My.iD > [ IP : 117.47.234.154 ]
Email / Msn: -
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 / 20:31

ไปรอดค่ะ ขอแค่มีความตั้งใจ เพื่อนพี่ตอนเรียนแรกๆ ภาษาอ่อนมาก พี่ต้องเป็น taking dic ตลอดเวลา ตอนนี้อะนะ ใช้ชีวิตที่เนเธอแลนด์ไปแล้วม้าง อ้อ อีกอย่างพี่คนนั้นเค้า ฝึกงานที่เนเธอแลนด์ด้วยอะคะ ^_^

ความคิดเห็นที่ 9  
สนใจสถาบันนี้มากเลย เพราะพี่สาวเคยแนะนำและอยากถามต่อว่าถ้าผมจบ ปวช การโรงแรมมาเนี่ยผมจะมาต่อที่ i-tim ได้มั้ยครับ
Name : D_EK < My.iD > [ IP : 112.142.49.211 ]
Email / Msn: -
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 / 20:32


จบจากที่ไหนก็ได้ค่ะ อย่างที่บอกว่า ขอแค่มีความตั้งใจจริงๆอะคะ

ความคิดเห็นที่ 5  
จบไปแล้วจะได้งานทำเลยรึป่าว

แล้วจะได้ไปฝึกงานต่างประเทศทุกคนมั๊ยคะ
Name : miki [ IP : 203.172.214.236 ]
Email / Msn: miki_kky(แอท)hotmail.com
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 / 11:47

อยู่ที่คะแนนจิตพิสัย และเกรดเฉลี่ยด้วยค่ะ รุ่นที่พี่เรียน เพื่อนครึ่งห้องได้ไปฝึกงานต่างประเทศค่ะ 

Ps. ใครไปงาน I-tim Open House ฝากบอกคิดถึงอาจารย์ Sunil ด้วยนะคะ ^_^
และประกาศหา Intake 33 Manhattan Milan Surin Cassablanca, always miss all of you kla. See ya soon ja
0
กำลังโหลด
ปากกาแก้ว Member 28 พ.ย. 52 00:12 น. 12

ตายแล้ววว...พี่สาวคิดถึงอาจารย์ Sunil หรอคะ???

อิอิ

เดี๋ยวรุ่นน้องคนนี้จะไปบอกแกให้นะ >>> อาจารย์แกสบายดีค่ะพี่ ยังใจเย็นเหมือนเดิม อิอิ

ยังงัยถ้ามีโอกาสก็กลับมาเยี่ยมโรงเรียนบ้างนะคะ พวกหนูกำลังจะจบแล้วค่ะ Intake 41 แล้ว...เวลามันผ่านไปไวจริงๆเลยเนาะ

อยากรู้จังเลยว่ารุ่นพี่ที่จบไปรุ่นเก่าๆตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้วกำลังทำอะไรกันอยู่...น้องๆยังรอฟังข่าวอยู่นะคะ

^________^

0
กำลังโหลด
นู๋กะปุ้ง Member 28 พ.ย. 52 00:37 น. 13
does I-TIM has another university in the other country? i really really reallyyy wanna be Chef in the future ,but my plan is to go to Canada next year. so i wonder if I-TIM have any relationdship with another univesity in Canada. and i sorry that i have to write my message in English. Now i'm study in France.
0
กำลังโหลด
มา_^รู^_โกะ Member 29 พ.ย. 52 15:20 น. 14
อยากเีรียนจังคะ แล้วเค้ามีเกณฑ์การรับสมครยังไงบ้างหรอคะ พอดีไม่รู้จักคนที่เรียนที่ I-TIM เลยสักคน
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
จ๊ะจ๋า 29 พ.ย. 52 17:55 น. 16
สถาบันนี้เน้นการโรงแรมโดยเฉพาะป่ะค่ะ เพราะไปดูเว็บอ่ะเห็นแต่การโรงแรม

คือนู๋ชอบท่องเที่ยวอ่ะค่ะ

จบแล้วหางานให้ทำเลยหรอคะ

แล้วเขารับเลยหรือสอบเข้าคะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
jane 30 พ.ย. 52 10:22 น. 19
สำหรับ คำตอบของความคิดเห็นที่ 14 นะค่ะ

เกณฑ์การรับสมัครของ I-TIM

1.วุฒิการศึกษาขั้นต่ำระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า

2.อายุ 17 ปีขึ้นไป

3.มีใจรักในงานโรงแรมและการท่องเที่ยว

สำหรับ คำตอบของความคิดเห็นที่ 15 นะค่ะ

ส่วนสูงไม่ใช่อุปสรรคค่ะ

สำหรับ คำตอบของความคิดเห็นที่ 16 นะค่ะ

สำหรับการโรงแรมและการท่องเที่ยว มีลักษณะที่ไม่แตกต่างกัน การโรงแรมก็เป็นส่วนหนึ่งใน

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสถาบันไอทิมก็ได้สอนพื้นฐานของทั้งการโรงแรมและการท่องเที่ยวไว้เช่น

กันนักศึกษาที่จบจากไอทิมมีบางส่วนที่ไปทำงาน เช่น ไกด์ สจ๊วด แอร์ หรือทำงานตามสถาบันการท่อง

เที่ยวต่างๆเช่น AOT สำหรับการรับสมัครเรียน จะมีการสอบวัดระดับความรู้พื้นฐานทางด้านภาษาอังกฤษ

ซึ่งผลที่ได้จะทราบว่าต้องเรียนปรับพื้นฐานหรือไม่
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด