พาเที่ยว BU Open House

     สวัสดีค่ะน้องชาว Dek–D เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พี่เมษ์แอบแวะไปที่งาน BU Open House ของม.กรุงเทพมาค่ะ งานนี้ทางมหาวิทยาลัยเปิดบ้านต้อนรับน้องๆ ให้สามารถเข้าชมทุกคณะ ทุกสาขาวิชาได้อย่างหนำใจ!! แถมยังได้ร่วมกิจกรรม work shop กับพี่ๆ ม.กรุงเทพกันแบบเต็มอิ่ม ลงมือทำให้รู้กันไปเลยว่าชอบคณะนี้จริงๆ หรือเปล่า มาดูกันค่ะว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

     จากการเข้าชมเนี่ย พี่เมษ์บอกเลยว่ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ นับเป็นมหาวิทยาลัยที่ส่งเสริมความสร้างสรรค์ในตัวของผู้เรียนทุกตารางนิ้ว เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็น Creative University จะสร้างสรรค์อย่างไร มาเริ่มกันเลยค่ะ

“พี่เมษ์มีโอกาสเยี่ยมชมมาทั้งหมด 4 คณะด้วยนะคะ มาดูไปพร้อมๆ กันเลย”

     เริ่มกันตั้งแต่ตัวอาคาร ทุกๆ อาคารและทุกส่วนในอาคารที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้เป็นพื้นที่เรียนรู้ ซึ่งน้องๆ สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ เพราะเชื่อว่าจินตนาการต้องเริ่มจาก Story ที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ทุกตึกจึงมีเรื่องราว มีความหมาย ตั้งแต่ตึกซึ่งเป็นไอคอนของมหาวิทยาลัยอย่างตึกเพชร ที่มีความหมายล้ำลึก! ว่าทุกคนคือเพชร แต่จะส่องประกายต่อเมื่อต้องเจียรไนย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คือ ที่ๆจะเจียรไนยคุณด้วยสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ที่ทั้งน้องๆและอาจารย์ต้องร่วมกันปล่อยของออกมา

     คณะแรก คณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่มีถึง 4 สาขา ไฟฟ้า, อิเล็กทรอนิกส์, คอมพิวเตอร์ และมัลติมีเดีย โอ้โหความพร้อมของอุปกรณ์ พี่ๆ และคณาจารย์พร้อมมาก แถมยังการันตีด้วยรางวัลที่กวาดมาจากหลายสถาบัน โดยเฉพาะโฮโลแกรมที่ผสมผสาน story ที่สร้างสรรค์ที่เป็นเพียง 1 ใน 2 แห่งของประเทศที่สามารถทำได้ !!!

     อ่อ อยากบอกน้องๆ ว่า วิศวะ ม.กรุงเทพพร้อมรับน้องๆ สายศิลป์–คำนวณ และพร้อมจะอัพสกิลทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ให้น้องๆ ทุกคนอย่างเต็มที่ เพราะที่นี่เชื่อว่าแนวคิดครีเอทีฟที่อยู่ในตัวน้องๆ สร้างยากกว่าความรู้ ซึ่งพี่เมย์ได้ไปเห็นผลงานของรุ่นพี่นักศึกษา ที่เอามาโชว์แล้ว ต้องบอกเลยว่าน้องๆนักศึกษาสมัยนี้ โชคดีมากๆ เพราะอุปกรณ์การเรียนการสอนที่นี่พร้อมมากจริงๆ

     ย้ายมาดูอีกคณะ กับคณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะนี้กระตุกความคิดสร้างสรรค์และ ความเป็นศิลปินตั้งแต่ตึกเลย เพราะภายในตึกออกแบบได้น่าสนใจ และน้องๆที่มาชมงาน ก็จะได้พูดคุยกับรุ่นพี่พร้อมปรึกษาแนวทางการศึกษาแบบใกล้ชิด แถมยังได้ชมผลงานของพี่ๆ นักศึกษาด้วย

     แอบแวะมาทานข้าวยังมีเซอร์ไพรส์เลยเพราะภายนอกอาจจะเข้าใจว่าเป็นภัตตาคาร แต่ที่นี่คือสาขาวิชาการจัดการการโรงแรมและภัตตาคารซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการท่องเที่ยว สอนจนครบองค์ความรู้ จบออกไปแล้ว สามารถทำงานได้จริง เพราะที่นี่สอนตั้งแต่การเตรียมอุปกรณ์ ฝึกกันตั้งแต่งานเสิร์ฟ งานครัว และเตรียมพร้อมน้องๆให้รู้และเข้าใจกระบวนการทั้งหมดในการบริหารร้านอาหาร และสามารถเป็นเจ้าของภัตตาคาร ร้านอาหาร และธุรกิจบริการได้

     หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ก็มาดูคณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยวกันต่อ เพราะยังมีอีกหลายสาขาที่น่าสนใจ ในงาน Open house มีการสาธิตและให้น้องๆ ลองเรียนรู้การทำงานในสาขาที่ตนเองสนใจ เช่น ถ้าน้องๆสนใจสาขาการจัดการธุรกิจสายการบิน ก็มีการพาน้องๆ เข้าไปชมเครื่องบินจำลองรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งใช้ในทางพาณิชย์ จบออกไปไม่ต้องไปติวเพิ่ม ก็สามารถทำงานจริงได้ทันที ซึ่งน้องๆจะได้เห็นวิธีการทำงานของพี่ๆที่สาธิตให้ดู ก็พอจะเป็นไอเดียให้น้องๆได้รู้แล้วว่า ตัวเองมีความชอบและสนใจในสาขาวิชานี้หรือไม่ ถ้ายังไม่ใช่ละก็ลองไปดูสาขาวิชาการจัดการการโรงแรมกันต่อ

     ทันทีที่มาถึงรุ่นพี่พร้อมจะพาน้องๆ ไปรู้จักกับห้องจำลองแบบต่างๆ แยกตาม type ห้องที่ใช้ในธุรกิจโรงแรมในปัจจุบันนี้จริงๆ มีห้องฝึกปูเตียงให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติ รวมทั้งห้องสปาให้ได้ฝึกเรียนกันจริงๆ นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการจัดดอกไม้ในห้องจัดดอกไม้ หรือแม้แต่การจำลองห้องเรียนให้เป็นมุมเครื่องดื่มให้น้องๆที่มาชมงานได้ลองผสมเครื่องดื่มแบบไม่มีแอลกอฮอล์กันสนุกสนาน การทำร้านCoffee shop ฯลฯ มีให้น้องๆได้เลือก ได้ลองปฏิบัติจริงจนรู้จักตัวเอง ระหว่างทางเดินชมงานในตึกนี้ พี่เมษ์สังเกตเห็นความใส่ใจของมหาวิทยาลัยในการสร้างนักศึกษาให้มี creativity จริงๆค่ะ เพราะระหว่างทางที่เดินพี่เมษ์สังเกตเห็น Quote ต่างๆ ซึ่งพอเราออกจากลิฟท์มา ก็จะเห็นข้อความเหล่านั้นทันที เป็นการสร้างให้น้องๆเกิดแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ

     คณะสุดท้าย พี่เมษ์ปิดท้ายด้วยคณะเด็ดที่ห้ามพลาด นั่นก็คือคณะนิเทศศาสตร์ ซึ่งต้องยกให้เป็นคณะขึ้นชื่อของมหาวิทยาลัยกรุงเทพนี้มาอย่างยาวนาน เริ่มสำรวจคณะนี้ พี่เมษ์ได้ไปที่ชมผลงานรุ่นพี่ที่ห้องฉายภาพยนตร์ 2K ระบบ Dolby Digital 7.1 ซึ่งเป็นห้องฉายภาพยนตร์ระบบ DOLBY Digital Cinema System ขนาด 120 ที่นั่ง ระบบเสียงรอบทิศทาง DOLBY Digital Surround Sound 7.1 Channel รองรับการฉายภาพยนตร์ 3 มิติ พอได้นั่งดูผลงานของรุ่นพี่แล้วอดคิดไม่ได้จริงๆว่าน้องนักศึกษารุ่นนี้ได้เปรียบมาก ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มที่เพราะมีอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัยและสะดวกสบายในกาการคิดงานได้จริงๆ

     แล้วพี่เมษ์ก็เดินไปดูโรงถ่ายภาพยนตร์ Soundstage มาตรฐานสากล ซึ่งที่นี่มีให้น้องๆนักศึกษาได้ใช้งานถึง 3 โรงทีเดียว ผนังบุวัสดุกันเสียงคุณภาพสูงป้องกันเสียงรบกวน (NC28) รองรับงานผลิตภาพยนตร์ตลอดจนงานผลิตสื่อต่างๆ อาทิภาพยนตร์โฆษณา Music Video รายการโทรทัศน์ กิจกรรมทางการการตลาด (Event)

     เดินต่อมาที่สตูดิโอให้น้องๆ ชมการถ่ายทำรายการ และเป็นส่วนร่วมของการถ่ายทำรายการ , เปิดสตูดิโอให้น้องๆ ได้ทดลองประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ใช้เรียนใช้สอนกันจริงๆ ทั้งกล้อง ห้องอัดเสียง ห้องตัดต่อ ห้องภาคเสียง ฯลฯ ซึ่ง ม.กรุงเทพ ยังลงทุนให้นักศึกษาเต็มที่ และหากน้องๆ ได้เข้ามาเรียนจริงๆ อุปกรณ์ทุกชิ้นสามารถนำไปทำงาน ทำโปรเจคได้จริง แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มด้วย!!

     “เป็นยังไงกันบ้างคะ 1 วันใน ม. กรุงเทพ บรรยาการที่น่าเรียนสุดๆ ไปเลยใช่มั้ยละ เชื่อเลยว่าน้องๆ จะต้องได้รู้จักตัวเอง และรู้ว่าคณะไหนคือคณะที่ใช่สำหรับเราแน่ๆ เพราะอุปกรณ์ และความพร้อมของคณาจารย์ รวมถึง สิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างที่เอื้อต่อการเรียนการสอน และการสร้างประสบการณ์ให้น้องๆ อย่างเต็มที่ จบไปทำงานได้จริง และมีประสบการณ์ แถมยังมีรางวัลการันตีมากมายขนาดนี้ ช้าไม่ได้แล้วค่ะ ... แล้วอย่าลืมไปติดตามข่าวสารเพิ่มเติมหรือสอบถามข้อมูลได้ที่ www.bu.ac.th เลยนะคะ”