เทคนิคเด็ด! สอบเข้ามหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ จากรุ่นพี่เจ้าของคะแนน SAT 1350

เทคนิคการฟิต Sat Critical Reading ของเกอิมีอะไรบ้าง แชร์ให้เพื่อนๆ น้องๆ หน่อย

ปกติเป็นเด็กกิจกรรมด้วยค่ะ ขั้นแรกเลยต้องแบ่งเวลาให้เป็นก่อน ช่วงแรกก็อ่านไปเรื่อยๆ แบบไม่มีจุดหมาย เลยเริ่มหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เด็กที่เค้าได้ Ivy League คะแนน SAT สูงๆ เค้าจะบอก บอกเป็นข้อๆ เลยค่ะ ก็เลยลองเอามาทำตาม แต่ที่สำคัญต้องลองดู แล้วปรับให้เข้ากับเราด้วยว่าวิธีไหนเวิร์ก เช่น วิธีท่องศัพท์มีหลายวิธี

• จัด Group แบ่งเป็นที่มีความหมายคล้ายกัน หรือ หน้าตาคล้ายกันแต่ความหมายไม่เหมือน
• Flash Card การ์คคำศัพท์ (แต่วิธีนี้ไม่ค่อยเวิร์คกับหนูเท่าไร เพราะมันจะจำได้แค่ระยะสั้น พอจำเยอะขึ้นก็เริ่มเบลอ)
• Reading อ่านบทความที่ยากๆ เช่นการแพทย์ การเงิน ซึ่งวิธีนี้ เวิร์กที่สุดสำหรับหนู เพราะพอเราเจอศัพท์บ่อยก็จะจำไปเอง และที่สำคัญยังทำให้เข้าใจ Sense ของคำศัพท์ วิธีการใช้ คำและเนื้อเรื่องได้ดีขึ้นว่ามาแนวไหน เป็นบวกหรือลบค่ะ

พูดถึงการแบ่งเวลา มีวิธีจัดการกับชีวิต ม.ปลาย สุดยุ่งเหยิงยังไงบ้าง

     ก่อนที่เราจะเริ่มทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่จะรู้ว่าเราจะไปทางไหน มีช่วงนึงตอนช่วง ม.6 หนูพักทุกอย่างแล้วก็ถอยออกตัวเองดูว่า “ทำไมเราถึงอยากเรียน แล้วเราอยากเรียนจริงรึเปล่า แล้วถ้าเรา อยากเข้าอินเตอร์อ่ะ เราต้องทำอะไรบ้าง แล้วเราอยากได้มันมากขนาดไหน” หนูก็เริ่มตั้งเป้าเลยว่าหนูอยากได้ทุน!! แล้วถ้าเราตั้ง ความหวังไว้สูง เราก็ต้องพยายามให้ได้ ทำให้ฮึดได้อีกค่ะ จากนั้น ก็เริ่มวางแผนชีวิต เช่น

• กำหนดเป้าหมายการอ่านก็จะจัดไว้เลยค่ะ ว่าต้องทำ Reading 1 section และ Math 3 section ต่อวัน
• Airplane Mode !ข้อนี้สำคัญมาก เพราะติดโทรศัพท์มากกกก บางทีเอาไปซ่อนเลยค่ะ ลบ Instagram ไปช่วงนึงเลย เหลือเอาไว้แต่ app ที่ต้องตามข่าว Admission
• จัดลำดับความสำคัญและความพอดี ชีวิตคนเราประกอบด้วย
• 3 อย่าง คือ สังคมการเรียน การนอนแต่เราจะเลือกทำเต็มที่ ได้แค่ 2 อย่าง เช่นถ้าช่วงนี้เรามีกิจกรรมที่โรงเรียน แล้วต้อง เรียนพิเศษและอ่านหนังสือหนัก เราก็อาจจะต้องนอนน้อยลง ต้องจัดการชีวิตตัวเองให้ได้
• ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ ต้องดูว่าเราพยายามขนาดไหนแล้ว เพราะ ในโลกนี้ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ มีแต่คำว่ายังไม่ได้ทำ

มีช่วงที่ทำให้เขวไปบ้างมั้ย

     มีค่ะ มีช่วงนึงที่คะแนน SAT หนูนิ่งหลังจากสอบหลายรอบและ ก็ดิ่งไปเกือบ 100 คะแนน เพราะว่าชิวว่าเราได้คะแนนดีระดับนึง แล้ว ยอมรับว่าจิตตกค่ะเลยกลับมาดูตัวเองค่ะ กลับคิดวิเคราะห์ ข้อสอบดูอีกที เปลี่ยนวิธีอ่านหนังสือ เช่นหานิยายภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับอเมริกามาอ่านเยอะขึ้น เช่น Great Gatsby เพราะเราต้อง เพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ การเมือง เรื่องสีผิว แล้วกลับ มาลุยทำ SAT อีกที ปรากฏว่าทำได้ดีเคยได้สูงสุด 570 แถม ทำ CU-AAT verbal ได้ 640 เต็ม 800

สุดท้ายอยากให้เกอิฝากถึงทุกคนที่กำลังมอง โปรแกรมอินเตอร์ไว้หน่อย

อยากฝากถึงน้องๆ ว่า ก่อนที่เราจะเลือกคณะ ก่อนอื่นเราต้องถามตัวเองว่าเราชอบอะไรกันแน่ กิจกรรมที่โรงเรียนเราถนัดงานด้านไหน เรามีทักษะที่ทำได้ดีอะไรบ้าง ถ้าเราต้องเรียนในคณะนั้น แล้วไม่ใช่แค่อยู่กับมันแค่ 4 ปี แต่เราต้องอยู่ในสายอาชีพนี้ทั้งชีวิต อย่าตามเพื่อน ตามกระแสที่สำคัญการเข้าอินเตอร์ไม่ใช่สอบง่าย อย่างที่ทุกคนคิด เพราะภาษาอังกฤษมันยากกว่าปกติหลายเท่า ต้องทุ่มเทกับมันจริงๆ ให้ดูเรื่องระยะเวลาที่จะพัฒนาตัวเองได้ ด้วยค่ะ

สุดท้ายต้องขอบคุณป้าอู๊ด ครูพิมและโรงเรียน A Plus Inter-Ed Language School ที่เป็นเหมือนครอบครัวมาก ที่นี่เป็นเหมือนคนในครอบครับที่ปรึกษาได้ทุกเรื่องเทคนิคดีๆ ที่ถูกต้องและช่วยวางแผนการเลือกคณะ คอยให้กำลังหนูตลอด ในช่วงที่หนูลังเลทำให้หนูเข้าใจจริงๆว่า วิธีทำคะแนน SAT และวางแผนเลือกคณะให้ได้ตามเป้าจริงๆ ต้องทำอย่างไรค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเคล็ดลับดีๆ จากรุ่นพี่คนเก่งอย่าง “พี่เกอิ” หลายคนบอกว่า การจะสอบเข้านั้นว่ายากแล้ว การจะ เรียนให้จบนั้นยากกว่า และนั่นก็เป็นเหตุผลที่พี่เกอิพยายามย้ำนัก ย้ำหนาว่า น้องๆ ต้องรู้ความต้องการตัวเองก่อนว่าชอบอะไร สุดท้ายนี้ หวังว่าน้องๆ จะได้เคล็ดลับดีๆ ไปเป็นแนวทางการ เตรียมตัวกันนะคะ ขอให้น้องๆ สอบติดตามที่ตั้งใจสมกับที่ได้ พยายามเต็มที่ สู้ๆ ค่ะ