ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นนักศึกษาชนะรางวัลด้านสื่อโทรทัศน์ท่ามกลางผู้เข้าประกวดมืออาชีพ เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ ภาคภูมิ จันทรัตน์ หรือ อัฐ นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ปี 4 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สร้างประวัติศาสตร์คว้ารางวัลชนะเลิศสาขา Drama Series และยังสามารถคว้ารางวัลใหญ่ Best of the Best จากเวที The Creator ที่เฟ้นหานักสร้างคอนเท็นต์บันเทิงหน้าใหม่ จัดโดย อสมท (MCOT) จากคณะกรรมการระดับแนวหน้าไม่ว่าจะเป็น คุณเอส คมกฤษ ตรีวิมล (ผู้กำกับภาพยนตร์แฟนฉัน เพื่อนสนิท) คุณเช็ค สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ (พิธีกรรายการคนค้นฅน) คุณเอ วราวุธ เจนธนากุล (ผู้บริหารและพิธีกรเกมโชว์ชั้นนำในเครือ Zense Entertainment) ลองมาดูว่าจากเด็กที่เรียนอย่างเดียว พลาดโอกาสเข้าโปรแกรมพิเศษ อะไรเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาสามารถประสบความสำเร็จในเวทีระดับประเทศได้
น้องอัฐช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยค่ะ ว่ามีจุดเปลี่ยนอะไรจึงทำให้เลือกเรียนนิเทศศาสตร์
ตอนมัธยมปลาย ผมเรียนศิลป์ภาษาฝรั่งเศสครับ เพราะผมรู้สึกว่าสายวิทย์ไม่สนุก ตอนนั้นผมชอบการเป็นดีเจมากเลย เพราะรู้สึกว่าสนุกดีที่ได้ทำให้คนฟังสนุก ผมอยากให้คนฟังมีความสุขครับ แล้วพอดีว่าช่วงเข้ามหาวิทยาลัย ผมได้ดูคลิปใน Youtube ที่ล้อเลียนภาพยนตร์ของภาคฟิล์ม แล้วผมชอบมาก และได้ยินชื่อเสียงของนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพมานานแล้วว่ามีชื่อเสียงมาก ผมก็เลยตรงมาที่นี่เลยครับ
ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย มีความประทับใจอะไรบ้าง
ช่วงปี 1-2 จะเรียนภาคทฤษฎีซะเป็นส่วนใหญ่ พอปี 3 เริ่มได้จับอุปกรณ์ในห้องจัดรายการที่มีประสิทธิภาพดีและทันสมัยมากครับ
แล้วในระหว่างเรียน น้องอัฐได้มีโอกาสทำกิจกรรมพิเศษบ้างไหมคะ
ตอนปี 1 ผมเรียนแล้วก็กลับบ้าน พอปี 2 มีโครงการ Outstanding Program ผมเห็นว่าน่าสนใจ ก็เลยลองไปสมัครดู ปรากฏว่าตกสัมภาษณ์ เพราะผมไม่เคยทำกิจกรรมอะไรเลย ก็เลยรู้สึกเป็นปมในใจ พอผมได้มีโอกาสเลือกเอก Broadcast ผมก็อาสาทำกิจกรรมทุกอย่างของภาคเลยครับ ทุกครั้งที่มีงานพรีเซนต์ ผมก็จะไปช่วยงาน พอได้เรียนไปด้วยและทำกิจกรรมไปด้วย ผมรู้สึกดีและสนุกมากๆ เลยครับ
อะไรที่ทำให้เราอยากเข้าร่วมประกวด The Creator คะ
ปลายปีที่แล้ว ตอนปี 4 เทอม 1 ผมต้องหาที่ฝึกงาน แล้วผมเองก็ยังไม่ค่อยมีผลงานอะไรเลย วันหนึ่งผมเห็นโฆษณาโครงการนี้ทางโทรทัศน์ ก็คิดว่าน่าสนใจดี ตอบโจทย์คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ผมก็เลยลองสมัครส่งผลงานไป ตอนแรกก็ไม่ได้หวังอะไร คือถ้าได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ ปรากฏว่าผมติด 10 คนสุดท้ายครับ
“A Little Love of Phobia” ผลงานที่ได้รับรางวัลชิ้นนี้ มีที่มาและแนวคิดอย่างไรบ้างคะ
ผมชอบดูภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่มากเลย คิดว่าการมีพลังพิเศษนี่มันวิเศษมากๆ แล้วผมก็คิดว่าตอนเด็กๆ ทุกคนมีความกลัว ไม่ว่าจะกลัวความมืด กลัวความสูง ไม่ว่าจะเป็นคนเก่งยังไง ก็ต้องมีความกลัว ขึ้นอยู่ว่าจะแสดงออกหรือไม่ ก็เลยเอาแนวคิดมาผสมกันเป็นพล็อตเรื่องนี้ครับ
ในฐานะที่เป็นนักศึกษาที่ผ่านเข้ารอบ รู้สึกอย่างไรบ้างที่ต้องแข่งขันกับมืออาชีพ
ผมรู้สึกว่าคนอื่นๆ เก่งมาก เป็นทีมงานเบื้องหลัง โปรดิวเซอร์สถานีโทรทัศน์ชื่อดัง เวลาพรีเซ็นต์ พวกเขาเป็นมืออาชีพมากๆ ตอนแรกผมก็ท้อนะ เพราะเราเป็นคนเดียวที่เป็นนักศึกษาอยู่เลย แต่ผมได้กำลังใจจากเพื่อนๆ ครอบครัว พี่เอส (คมกฤษ ตรีวิมล) และคำแนะนำจากอาจารย์ครับ
ในการประกวดครั้งนี้ น้องอัฐได้นำความรู้และประสบการณ์จากการเรียนที่คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพมาใช้อย่างไรบ้างคะ
อย่างก่อนส่งงาน คณบดีก็ได้ให้คำแนะนำการพรีเซ็นต์งาน และการเขียน proposal ด้วยครับ มาประกวดครั้งนี้ใช้ความรู้จากที่เรียนเยอะมากๆ ครับ เพราะเหมือนเขียนงานส่งอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นการคิด theme, plot, reference ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์เยอะมากๆ
ได้คำแนะนำอะไรดีๆ จากมืออาชีพอย่างพี่เอสบ้างคะ
พี่เอสบอกว่าพล็อตเรื่องของเราควรจะทำออกมาเป็นซิตคอมมากกว่า เพราะเราเล่นเกี่ยวกับความกลัว ถ้าทำเป็นซีรีส์จะดูเครียดเกินไป พี่เอสยังสอนวิธีการเขียนเรื่อง เล่าเรื่อง บุคลิกในการพรีเซ็นต์ด้วยครับ
นอกจาก 2 รางวัลที่ได้ คือ Drama Series และ Best of the Best ยังได้อะไรจากการประกวดครั้งนี้อีกบ้างคะ
ได้โอกาสครับ ผมเชื่อว่าหลายคนมีความคิดสร้างสรรค์ แต่ไม่มีโอกาส โครงการนี้เหมือนเป็นโอกาสที่ให้เราได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ มีหลายครั้งพอเราขาดโอกาส เราก็จะท้อ แล้วล้มเลิกไป แต่ถ้าเราได้โอกาส แล้วลองทำดู ผมเชื่อว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วเราจะไม่เสียใจครับ
หลังจากนี้น้องอัฐมีการวางเป้าหมายไว้อย่างไรบ้าง
ผมอยากเข้าไปคุยกับทางผู้ใหญ่ของ อสมท (MCOT) ว่าผมอยากมีส่วนร่วมในการผลิต sitcom จากโครงเรื่องของผม ผมอยากเป็นทีมเขียนบทครับ แต่ถ้าได้แสดงด้วยก็ดีนะ พอแสดงได้ครับ (หัวเราะ)
น้องอัฐมีใครเป็นแรงบันดาลใจหรือแบบอย่างในการดำเนินชีวิตบ้างคะ
คุณแม่และพี่ชายครับ เพราะพวกท่านสู้เพื่อผม ทำงานส่งผมเรียน ผมรักพวกท่านมากครับ
เห็นว่าอยู่ในช่วงกำลังฝึกงาน ช่วยเล่าประสบการณ์ฝึกงานให้ฟังหน่อยค่ะ
ผมกำลังฝึกงานอยู่ที่ช่อง 9 อสมท ครับ ทำด้าน proposal รายการ ฝึกงานสนุกดีครับ ได้คิดงาน ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่
สุดท้าย มีอะไรอยากฝากถึงน้องๆ ที่สนใจด้านนิเทศศาสตร์ และอยากเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือเพื่อนๆ ที่กำลังศึกษาอยู่บ้างคะ
ฝากถึงทุกคนนะครับ ถ้าคุณมีความคิดสร้างสรรค์ ก็ปล่อยออกมา ทำมันให้เต็มที่ครับ และถ้าน้องๆ กำลังมองหามหาวิทยาลัยที่เปิดโอกาสให้เราได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คือที่ที่ดีมากๆ ครับ
1 ความคิดเห็น