ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึก(ไม่)ลับ เด็กวิทย์ หัวใจศิลป์

    ลำดับตอนที่ #50 : 11 ความเครียด ของเด็กเตรียมแอดมิชชั่น!!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.86K
      6
      14 ก.ย. 51

    บทความที่ 50 แล้ว เย้!!!!!

     

    ....ช่วงนี้อยากบอกว่าปวดหัวมากมากมายเลย ทั้งงาน ทั้งสอบปลายภาคซึ่งหนังสือยังไม่อ่าน (สงสัยจะตกสังคมอีก เหะๆ) การเมืองก็ยังไม่ลงรอย แถมมาด้วยสตอร์ม เซอจ อีก พอดีบ้านผมอยู่ บางบอน ซะด้วยสิ เหอๆ หนาวๆร้อนๆกันไปตามๆกัน....

     

    ....เพราะฉะนั้นก็ อย่าลืมช่วยกันดูแลรักษาโลกด้วยนะครับผม ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ลดภาวะโลกร้อนกันดีกว่านะ ^^ (ให้รอดจากสตอร์ม เซอจก่อน เหอๆ)....

     

    หลังจากที่รู้กำหนดการสอบกันไปแล้ว ผมเชื่อว่า เพื่อนๆหลายคนคงจะสมัครสอบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหล่ะ ตัวผมเองยังไม่กล้าจะสมัครเลย เพราะต้องรอคิดให้มันรอบคอบหลายๆอย่างก่อน ผมเลยอยากจะมาเตือนเพื่อนๆว่า

     

    คิดให้ดีก่อนตัดสินใจนะครับผม ชีวิตเราทั้งชีวิต อาจจะดูว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันก็เป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากๆ

     

    จะว่าไปแล้ว มันก็ เครียด เหมือนกันนะ ชีวิตเด็กม.ปลายเนี่ย แต่พอผ่านพ้นมันไปแล้ว อาจจะทำให้หวนคิดถึงมันได้อีกเมื่อไหร่ก็ได้ ^^

     

    อดทนอีกนิดนะครับ.....

     

    ....อย่างที่ผมเคยบอกไป ช่วงนี้เป็นเวลาเตรียมตัวสอบของแท้แล้ว และจะยิ่งมาคุขึ้นไปอีก เมื่อถึงช่วงเทอม 2 ของม.5 (หรือเพื่อนๆยังไม่รู้สึกร้อนๆหนาวๆกัน - -“) แน่นอนว่า ต้องเกิดทั้งความ เครียด และความ กลัว เป็นธรรมดา ผมเชื่อเลยว่า อาการแบบนี้ ต้องเคยเกิดขึ้นกับเพื่อนๆแล้วแน่นอนเลย

     

    1. กลัว สอบแอดมิชชั่นไม่ติด

    เป็นความกลัวพื้นฐานเลย ไม่ว่าจะไปถามเพื่อนๆ รุ่นพี่คนไหนๆ คำตอบก็จะได้เหมือนๆกันว่า กลัวที่จะแอดไม่ติด เพราะเวลาถึงจุดๆนั้นแล้ว คงไม่มีใครสามารถมั่นใจได้ว่า ตัวเองจะแอดติดรึเปล่า (คนที่ไม่กลัวเลย มันคือเทพครับ - -)

    เนื่องจากว่า ปีๆหนึ่ง มีนักเรียนสมัครสอบแอดมิชชั่นกว่า 200,000 คนทั่วประเทศ แต่มหาวิทยาลัยรัฐรับได้แค่ไม่กี่หมื่นคนเอง จำนวนตัวเลขตรงนี้มันคงกดดันให้หลายๆคนเครียดจนทำอะไรไม่ถูกเลยก็ได้

     

    1. กลัว อ่านหนังสือไม่ทัน

    ผมก็กลัวอยู่เหมือนกันนะ พอเทียบวันที่เหลือ กับจำนวนหนังสือที่ต้องอ่าน แค่เห็นก็แทบจะสลบแล้ว เวลาสอบ ผมเชื่อว่า หลายๆคนคงไม่อ่านแค่ในตำราเรียนอย่างเดียวหรอก ถ้าอ่านแค่ในตำรา เราก็ไม่สามารถไปสู้เพื่อนๆจากทั่วประเทศได้แน่นอน ทั้งหนังสือเก็งข้อสอบ หนังสือจากสำนักพิมพ์ต่างๆ จะถูกมาสุมๆกันในช่วงใกล้สอบแบบนี้ เห็นแล้วก็น่าท้ออยู่เหมือนกัน

    ที่สำคัญ ถ้าเฉลี่ยแล้วต้องอ่านกันวันละ 50 หน้า หลายคนคงแทบกระอักเลือดกันเลยทีเดียว

    หลายคนเริ่มเลิกเที่ยว เอาเวลามาทุ่มให้กับการอ่านหนังสือ ถ้าหนักคงถึงขั้นไม่กินข้าวกินปลากันเลยทีเดียว สังเกตได้ง่ายๆเลย ช่วงนี้เพื่อนคนไหนซูบไป หรือน้ำหนักเกิน สันนิฐานได้เลยว่า เขากำลังทั้งใจอ่านหนังสืออย่างหนักอยู่ (ถ้าไม่ใช่จุดประสงค์อื่น เช่นลดน้ำหนัก อกหัก อะไรแบบนี้อ่านะ - -)

    บางคนอ่านแบบข้ามวันข้ามคืน ไม่ได้พักผ่อนเลย สมองก็จะล้าเกินไป บางทีอาจจะต้องหามส่งโรงบาล

    ฯลฯ อีกหลายสาเหตุมากมาย ที่เกิดจากการกังวลว่าจะอ่านหนังสือทันรึเปล่า….

     

    เชื่อไหมว่า...ในขณะที่เพื่อนๆกำลังนั่งเล่นคอมฯอยู่

    มีหลายคนเริ่มอ่านหนังสือกันแล้ว!

     

    1. กลัว เกรดในโรงเรียนออกมาไม่ดี

    กลายเป็นความกดดันที่น่ากลัวอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ ถึงแม้เราจะตั้งใจอ่านหนังสือเตรียมสอบมากมายแค่ไหน ถ้าเกรดได้ออกมาไม่ดีก็ต้องจอดเหมือนกัน แต่ที่สำคัญ คะแนนในห้องส่วนใหญ่มาจากการส่งงานแทบทั้งนั้น เรียกได้ว่า ถ้าไม่ส่งงานเลย เกรดไม่ดีก็ไม่มีทางออกให้แน่นอน

    ถ้าหากเรากังวลแต่ทำงานส่ง เราก็จะไม่มีเวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบ ที่อาจจะมีครั้งเดียวในชีวิตของเรา

    ถ้าหากเรามัวแต่อ่านหนังสือเตรียมสอบ แล้วไม่ได้ส่งงาน 20% ตรงส่วนนี้ (GPAX) อาจจะไม่สามารถฉุดคะแนนเราขึ้นมาได้เลยก็ได้

    เรียกได้ว่า เครียดทั้ง 2 ทางเลยหล่ะ

     

    1. เครียด กิจกรรมในโรงเรียน

    กิจกรรมในช่วงนี้ไม่ค่อยอยากให้ทำ ตี่ก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะทำใช่รึเปล่า?

    มันเป็นส่วนสำคัญก็จริงสำหรับคนที่ยังหาตัวเองไม่เจอ แต่พอถึงเวลาแบบนี้แล้ว เชื่อว่าหลายๆคนคงอยากอยู่บ้านอ่านหนังสือมากกว่า ที่สำคัญกิจกรรมบางอย่าง ถ้าทำก็ต้องทำออกมาให้ดีด้วย โดยเฉพาะกิจกรรมที่เชิดหน้าชูตาให้กับโรงเรียน เวลาในการอ่านหนังสือก็จะถูกแบ่งให้กับกิจกรรมมากขึ้น

    ถ้าจะทำกิจกรรมก็ทำได้ครับ แต่คงจะต้องเพลาๆลงบ้างแล้วหล่ะ (ยกเว้นแต่คนจะเอาความสามารถพิเศษของเราตรงนี้ ไปใช้ในการรับตรงได้)

     

    1. กลัว ระบบการสอบ

    ยิ่งในระบบใหม่นี้ เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะฉะนั้นจะคิดจะทำอะไรก็ต้องระมัดระวังดีๆ

     

    1. กลัว เพื่อนๆขยันกันมากขึ้น

    ในเวลาใกล้สอบแบบนี้ เพื่อนๆหลายคนก็เริ่มจะลงมืออ่านหนังสือกันอย่างบ้าระห่ำกันเลยทีเดียว (หรือว่าไม่ทำกัน) หากเราไปคุยกับเพื่อนๆช่วงนี้ คงมีแต่คำถามที่ว่า อ่านหนังสือไปถึงไหนแล้ว นั่นจะยิ่งทำให้เรากดดันหนักขึ้นไปอีก เพราะเรารู้ว่า เพื่อนเราอ่านถึงขนาดนี้แล้วหรอ แต่เรายังไม่ถึงไหนเลย ยิ่งทำให้เราเครียดยิ่งขึ้นไปอีก

    ช่วงนี้ หลายคนถึงกับมองเพื่อนเป็นคู่แข่งตัวฉกาจกันเลยทีเดียว - -

     

    1. เครียด เรื่องเรียนพิเศษ

    ยิ่งมีเวลาน้อย การกวดวิชากลายเป็นเรื่องจำเป็นไปซะแล้ว สำหรับวัยรุ่นยุคนี้

    แน่นอนว่า การกวดวิชาแต่ละครั้ง ไม่ใช่ถูกๆเลย โดยเฉพาะ สำหรับคอร์สเตรียมสอบแอดมิชชั่น ทุกที่เริ่ม Start กันที่ 4000 บาทแทบทั้งนั้น เรียกได้ว่า อยากเรียนให้ทัน คงจะต้องลงทุนกันมากหน่อยหล่ะ

    ในกรณีแบบนี้มันจะเครียดกันทั้ง 2 ฝ่าย นั่นก็คือ ทั้งเรา ที่เรียนหนักจนไม่มีเวลาพักผ่อน และพ่อแม่ ที่ส่งเงินให้เราเรียนพิเศษ

     

    1. เครียด ที่ต้องสอบพร้อม เด็กเทพ กับ เด็กซิ่ล

    สำหรับคนธรรมดาอย่างเราๆแล้ว เราอาจจะไม่มีประสิทธิภาพในการเรียนที่ดีเลิศขั้นเทพอย่างเด็กหลายๆคน แน่นอนว่า ถ้าเราหวังคณะดีๆเอาไว้ คงจะต้องเข้าชิงกับเด็กขั้นเทพซะหน่อยหล่ะ โดยเฉพาะคณะที่เรียนยากๆอย่างแพทย์ ซึ่งมีแต่เทพเรียนกัน (แล้วเราเป็นอะไรเนี่ย - -) เพราะฉะนั้น คนที่อยากเป็นหมอคงจะต้องพยายามกันให้มาก มากจนถึงมากที่สุด มากกว่าคนที่คิดว่ายังไงก็สอบติดอยู่แล้ว - -

    เด็กซิ่ลก็ถือว่าน่ากลัวพอๆกัน เพราะจะเป็นการเพิ่มประชากรที่สอบแอดมิชชั่นแต่ละปีให้สูงขึ้น แต่ก็อย่าไปถือโทษโกรธเคืองอะไรเลยนะครับผม ไม่ใช่เพราะว่าเขาจะมาแย่งที่นั่งเราหรอก อยากให้เข้าใจว่า คนเราย่อมต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองทั้งนั้น การที่เขาจะซิ่ลก็เป็นสิทธิของเขา เราพยายามในส่วนของเราให้ดีที่สุดก็พอ

     

    1. เครียด สอบตรง โควตา

    มีหลายคนที่ไม่มั่นใจกับระบบแอดมิชชั่นก็แห่กันมาสอบตรงเป็นจำนวนมาก การรับตรงนั้นสามารถรับนักเรียนได้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะฉะนั้นอัตราการแข่งขันมันก็จะสูงขึ้นกว่าแอดมิชชั่น ถ้าสอบติดก็โล่งไป ถ้าสอบไม่ติดก็คงต้องมาเครียดกันต่อ

    ที่สำคัญมีการจัดสอบตรงก่อนสอบแอดมิชชั่นเสียอีก เรียกได้ว่า คงต้องขยันกันตั้งแต่เนิ่นๆเลยหล่ะ

     

    1. เครียด สอบสัมภาษณ์

    คงไม่มีใครที่รับตรงได้แล้ว แต่ต้องยืนคอตก เพราะตกสอบสมภาษณ์ใช่รึเปล่า?

    ที่เครียดก็คือ เราจะพูดยังไงให้เขาอยากรับเราเข้าเรียน ต้องจัด Port ยังไงให้น่าสนใจ ทำยังไงก็ได้ให้เขาสนใจในตัวเรา ซึ่งก็ถือว่ากดดันอยู่เหมือนกัน เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าคณาจารย์ที่มารุมสัมภาษณ์เรา

     

    1. เครียด กับผลคะแนน

    ถึงแม้ว่าคะแนนสอบของตัวเองจะออกมาแล้ว แต่ก็ไม่มีใครมั่นใจได้เลยว่า คะแนนของเราจะมากพอที่จะเข้าเรียนต่อได้รึเปล่า เพราะขณะที่เราได้คะแนนเท่านี้ ก็ยังมีอีกหลายคนที่ได้คะแนนมากกว่าเรา ไม่แปลกหรอกที่หลายๆคน ถึงแม้ว่าจะได้คะแนนเยอะ แต่ก็ยังกังวลไม่หาย

     

    ….11 ความเครียดของเด็กเตรียมแอดมิชชั่น เพื่อนๆว่าไงกันบ้างครับ....

    ....ช่วงนี้ใกล้สอบปลายภาคแล้วด้วย ตังใจอ่านหนังสือกันด้วยนะครับ....

    ....อย่าลืมเอาหลักมั่วข้อสอบในบทความเก่าๆผมไปใช้ด้วยหล่ะ อิอิ ^^....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×