ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย (คณะอักษรศาสตร์)

 
คณะอักษรศาสตร์ Issue 002 week1, February 2009
 
คณะอักษรศาสตร์
ตอนที่ 2/4 : จากรุ่นพี่ถึงรุ่นน้อง : ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
 
เสียงจากคนที่อยู่คณะอักษรศาสตร์
" เรียนอักษรจบแล้วไปทำอะไร? เรียนอะไรกันบ้าง?
ต้องอ่านหนังสือเยอะมั้ย? จะเรียนไหวมั้ยน้า? "
 
        พี่แก้มว่าคำถามเหล่านี้กำลังวิ่งวนอยู่ในหัวของน้องๆ ใช่มั้ยคะ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เราจะไม่มีทางรู้ได้ หากเราไม่ได้เจอด้วยตัวเอง แต่ถ้าหากเราได้รับรู้ประสบการณ์จากรุ่นพี่ที่เค้าได้พบเจอกันมาแล้ว เราก็จะมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้มากขึ้น
        วันนี้พี่แก้มมีรุ่นพี่สามคนจากคณะอักษรศาสตร์ มาบอกเล่าประสบการณ์ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เพื่อให้น้องๆ ได้เข้าใจชีวิตของเด็กอักษรได้ดีขึ้นนะคะ ใครอยากรู้เรื่องอะไร ลองไปอ่านกันเล้ย!
 
สาวอักษรคนที่ 1: น้องเมย์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
 
พี่แก้ม: แนะนำตัวนิดนึงค่ะ
น้องเมย์ : สวัสดีค่า ชื่อเมย์นะคะ เรียนอยู่คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ (นครปฐม) เอกภาษาญี่ปุ่น โทประวัติศาสตร์ ปี 4 ค่ะ
 
พี่แก้ม: ตอนเอนทรานซ์ เตรียมตัวก่อนสอบยังไงบ้าง จะเข้าคณะนี้ควรเน้นคะแนนส่วนไหนดี?
น้องเมย์ : ตอนเอนทรานซ์ก็เตรียมตัวทั่วไปแหละค่ะ ไปกวดวิชาด้วย แล้วก็อ่านหนังสือเองด้วย ตอนนั้นรู้แล้วว่าตัวเองไม่ชอบเรียนสายวิทย์ อยากเรียนอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องเรียนเลข เลยคิดว่าหนีมาทางสายภาษาดีกว่า แล้วสนใจภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้ว เลยอยากเข้าคณะอักษรฯ ค่ะ
          ตอนที่เมย์สอบมันยังเป็นเอนทรานซ์ระบบเก่าอยู่ ก็เลยไม่ค่อยเข้าใจเรื่อง A-NET, O-NET เท่าไหร่ (ขอโทษนะคะT^T) แต่ก็คิดว่าควรจะเน้นพวกไทย สังคม แล้วก็ภาษาอังกฤษให้เยอะๆ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษนะ เท่าที่เห็นพวกคะแนนไทยสังคมก็จะไล่ๆ กัน มันจะมาตัดกันตรงภาษาอังกฤษเนี่ยแหละค่ะ
 
 
 
 
พี่แก้ม: เอกไหนที่กำลังฮิตสุดๆ คะ?
น้องเมย์ : อืม ที่คณะมีทั้งหมดประมาณ 10 กว่าเอก เอกที่คนชอบเข้าก็จะเป็นพวกเอกภาษาค่ะ ที่ป๊อบมากๆ เลยก็พวกจีน ญี่ปุ่น เกาหลี แล้วแต่กระแสของปีนั้นๆ 555+ เข้ามาปีหนึ่งน้องๆ ทุกคนจะไม่มีวิชาเอกวิชาโทนะคะ จะได้เข้าเอกเข้าโทก็ปี 2 เทอม 2 พี่เองก็ไม่เคยเรียนญี่ปุ่นมาก่อนเลยจนกระทั่งมาเรียนที่นี่แหละค่ะ มันไม่ยากหรอกค่ะ ถ้าเรามีความพยายาม p(>_<)q
          สำหรับเอกญี่ปุ่น พอเข้าเอกมาได้ก็จะได้เรียนอะไรอีกเยอะมากๆ เลย ทั้ง Reading, Writing, Listening & Speaking, Culture (เป็นวิชาที่ให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับพวกวัฒนธรรมแล้วก็ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น สนุกดีนะ แต่ว่ามันหนักหน่อยตรงที่ต้องเรียนต้องสอบเป็นภาษาญี่ปุ่นเนี่ยแหละ) Structure (วิเคราะห์โครงสร้างของรูปประโยคญี่ปุ่น พูดง่ายๆ ก็คือเจาะแกรมม่านั่นแหละค่ะ T^T) การแปล ล่าม การอภิปราย วรรณคดี การอ่านข่าวญี่ปุ่นหรือการพูดต่อหน้าสาธารณชน และอื่นๆ อีกมากมาย
 
พี่แก้ม: การเรียนของคณะนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ หนักมากมั้ย? มีการทำกิจกรรมอะไรบ้าง?
น้องเมย์ : การเรียนที่นี่บอกตามตรงเลยค่ะว่าหนักเอาการ (มาก) โดยเฉพาะเอกญี่ปุ่นนี่ โดนอาจารย์เคี่ยวซะเปื่อยเลยล่ะค่ะ (555+) อาจารย์เค้าเคยพูดมาประโยคหนึ่งว่า "ครูไม่อยากให้เอที่นี่ไปเท่ากับบีที่อื่น" นะ... อึ้งไปเลย555+ แต่ก็ดีค่ะ ได้เรียนรู้อะไรหลายหลากดี แล้วมันก็สนุกด้วย ยังไงก็อยากให้พยายามแล้วก็สม่ำเสมอกับมัน เพราะการเรียนภาษามันต้องใช้เวลา :) 
           การเรียนของคณะนี้ก็มีทั้งทฤษฎีและปฏิบัติปะปนกันไป ช่วงปี 2 ปี 3 อาจจะเป็นทฤษฎีมากหน่อย แต่พอขึ้นปี 4 จะได้พูดจนไม่อยากพูดเลยล่ะค่ะ อารมณ์ประมาณว่า จะให้ฉันพูดญี่ปุ่นเยอะไปหนายยย ฉันเป็นคนไทยนะยะ! ประมาณนั้นเลย 555+ แต่อาจารย์ไม่ดุเลยค่ะ ใจดีและน่ารักมาก ช่วงที่เข้ามาใหม่ๆ เค้าอยากจะดูเฮี้ยบนิดนึงเพราะยังไม่ค่อยสนิทกันมาก แต่พอขึ้นปีสูงๆ นี่ไม่ต้องพูดถึง ฮากระจาย ทั้งอาจารย์คนไทยแล้วก็อาจารย์คนญี่ปุ่นด้วย (หัวเราะ)
           การทำกิจกรรมที่นี่แล้วแต่สมัครค่ะ อยากเข้าร่วมก็เข้า ไม่อยากเข้าร่วมก็ไม่เป็นไร ไม่บังคับ ที่นี่เค้าถือเรื่องสิทธิส่วนบุคคลนะ :) แล้วก็สิทธิพิเศษของชาวอักษรก็คือสามารถแต่งชุดไปรเวทมาเรียนได้ล่ะ แต่ต้องเป็นการเกงขายาวหรือกระโปรงนะ ส่วนกางเกงขาสั้นก็ไม่ควรใส่มาค่ะ เค้าให้อิสระขนาดนี้แล้วก็ควรเคารพสถาบันบ้างล่ะเนอะ
 
พี่แก้ม: ความภูมิใจในคณะ
น้องเมย์ : ภูมิใจในทุกอย่างที่เป็นอักษรนะ เพราะเมย์ก็มั่นใจเหมือนกันว่าเราก็ไม่แพ้ใคร เรียนที่นครปฐมมันก็ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพมาก นั่งรถตู้จากเซ็นทรัลปิ่นเกล้ามาแค่ 45 นาทีเอง แล้วก็ไม่ต้องเข้าไปต่อสู้กับรถติดในกรุงเทพด้วย ตื่นสายได้อีกหน่อย (หัวเราะ)
 
พี่แก้ม: จบแล้วไปทำงานอะไรได้บ้าง และวางแผนสำหรับอนาคตอย่างไร
น้องเมย์ : จบไปก็ทำได้หลายอย่างค่ะ อย่างเมย์ก็เรียนเอกภาษาญี่ปุ่นมาทำได้หลายอย่างเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นล่าม นักแปล พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เลขานุการ พวกผู้ติดต่อประสานงานในบริษัทญี่ปุ่นน่ะค่ะ ถ้าเรียนเอกญี่ปุ่นมา ช้อยส์งานมันจะหลากหลายแล้วก็มีงานรองรับเยอะ แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจตอนนี้เราอาจจะเลือกงานได้ไม่มากเท่าแต่ก่อน แต่อาจารย์เค้าก็การันตีนะคะว่าเอกญี่ปุ่นที่นี่ได้งานทำทุกคน :)) ก็เชื่อเค้าเถอะค่ะ (555+)
           ส่วนเรื่องอนาคต เมย์ก็คิดว่าจบแล้วจะทำงานเลย อยากลองหาประสบการณ์ก่อน อยากเอาความรู้ร้อนๆไปลองใช้ดูในชีวิตจริงน่ะคะ ^___^ จริงๆ แล้วเมย์ก็ชอบงานเขียนเหมือนกันแหละค่ะ แล้วก็ชอบงานแปลด้วย มันได้เกลาภาษาน่ะค่ะ แบบว่าชอบได้พร่ำเพ้อว่างั้น 555+ เคยคิดเหมือนกันว่าถ้าได้ทำงานเกี่ยวกับหนังสือก็คงจะดี เพราะว่าเมย์ก็เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก!
           น้องๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับคณะอักษรศาสตร์ได้ที่ http://www.arts.su.ac.th/ นะคะ
 
 
สาวอักษรคนที่ 2: น้องแอร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอกภาษาญี่ปุ่น
 
พี่แก้ม: แนะนำตัวนิดนึงค่า
น้องแอร์ : สวัสดีค่ะทุกคน ชื่อ แอร์ ค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ปี 2 เอกภาษาญี่ปุ่น คณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ
 
พี่แก้ม: ตอนเอ็นทรานซ์ เตรียมตัวก่อนสอบยังไงบ้าง จะเข้าคณะนี้ควรเน้นคะแนนส่วนไหนดี?
น้องแอร์ : แอร์เป็นพวกไม่ชอบอ่านหนังสือแต่จะตั้งใจเรียนในห้องเอามากกว่า ทีนี้พอเปิดเทอม ม.6 เห็นเพื่อนๆ เริ่มอ่านหนังสือกัน เราก็เริ่มนอนใจไม่ได้ ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าง เลยใช้การทำแบบฝึกหัดหรือข้อสอบเก่าเป็นการทบทวนแทนการอ่านหนังสือเป็นส่วนมาก ก็มีไปเรียนกวดวิชาบ้าง แต่ที่สำคัญคือการเก็บเล็กผสมน้อยมาตั้งแต่ตอนเรียนในห้องมากกว่า เพราะงั้นถ้าถามว่าก่อนสอบเตรียมตัวยังไง ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษค่ะ ก็แค่รู้ว่าต้องใช้แนนอะไรยื่นบ้างแล้วก็เน้นวิชาเหล่านั้น อย่างคณะอักษรฯ สมัยที่สอบตั้งใช้ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคม แล้วก็ภาษาที่สาม ถ้าจะให้บอกว่าควรเน้นคะแนนส่วนไหนดี ในทางทฤษฏีก็คงต้องดูว่าวิชาไหนใช้คะแนนมากสุด แต่ในความเป็นจริงแอร์คิดว่าตั้งใจทำวิชาที่เราถนัดให้ได้คะแนนดีๆเป็นเรื่องที่เป็นไปได้มากกว่า
 
พี่แก้ม: ที่นี่มีวิธีการเลือกเอกอย่างไรบ้าง?
น้องแอร์ : ที่อักษรจุฬา นอกจากเอกภาษาต่างๆ (ไทย อังกฤษ บาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น สเปน อิตาลี) แล้ว ได้ข่าวว่าแว่วๆ ว่าปีหน้าจะเปิดเอกเกาหลีค่ะ (กรี๊ดด อยากซิ่ววว) ยังมีเอกภูมิศาสตร์ ปรัชญา ภาษาศาสตร์ และเอกการละครด้วยค่ะ
           พูดถึงเอกละครนิดนึงค่ะ หลายคนอาจจะงง อ่าวเอกละคร งี้ไปเรียนนิเทศไม่ดีกว่าเหรอ? คือของนิเทศ จะอารมณ์ การตลาดมากกว่าอ่ะค่ะ เช่นเป็นสื่อ ทำโฆษณา บลาบลา แต่ของอักษรจะเน้นที่การแสดงการเขียนบทโดยตรง (ฟังเขามา) หลังจากที่สอบคัดเลือกเข้ามาแล้ว จะเลือกเอกตอนปี 2 ค่ะ โดยเกณฑ์การเข้าเอก ขึ้นอยู่กับแต่ละเอก ยกเว้น บางเอกที่รับเข้ามาต่างหาก เช่น เอกญี่ปุ่น เอกภูมิศาสตร์ สำหรับเอกภาษาญี่ปุ่นตอนนี้เปิดรับต่างหากไม่เกี่ยวกับ 300 คนของอักษรแล้วค่ะ คนที่จะเข้าเอกญี่ปุ่นได้ต้องเลือกตั้งแต่ตอนยื่นคะแนนเลย มาเลือกทีหลังไม่ได้แล้วค่ะ เอกนี้รับทั้งหมด 35 คนค่ะ ช่วงคะแนนปีที่แล้ว 8900-8020 (สูงระฟ้า) หลายคนเห็นคะแนนแล้วอาจตกใจ เค้าว่ากันว่า อันไหนสูง อีกปีมันจะต่ำลงเพราะคนไม่กล้าเลือก ฮ่าๆ 
           เอกญี่ปุ่นที่นี่ เป็นเอกเดี่ยวนะคะ คือ ไม่สามารเรียนวิชาโทได้ เนื่องจากเรียนเข้มข้นล้วงลึกจริงๆ ค่ะ ทั้งนี้เพื่อคุณภาพล้วนๆ คนที่จะมาเรียนต้องชอบจริงๆค่ะ ขอแถมขู่เอาไว้ล่วงหน้าด้วยเค้าว่าหนักที่สุดในคณะฮ่าๆ แต่จบไปได้เราก็จะสบายแล้วค่ะ คุยกับพี่ปี 4 มา คือไม่ต้องห่วงเรื่องงานเลยค่ะ มีมาแน่ๆ แล้วเค้าอยากเลือกเราก่อนด้วย ทุกอย่างมันก็ต้องลำบากมาก่อนถึงจะสบายได้จริงมั๊ยคะ เรื่องทุนไปญี่ปุ่นก็มีแน่ๆ มากมายไม่ต้องห่วง ต่อสู้กันเองในเอก เอิ๊กๆ
 
 
 
 
 
พี่แก้ม: การเรียนของคณะนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ
น้องแอร์ : เคยมีคนบอกว่าเข้าอักษรฯ มาแล้วเหมือนเอ็นท์ทุกวัน ขอบอกว่าไม่จริงค่ะ แอร์ว่าเอ็นท์นี่ง่ายไปเลยต่างหาก แต่อย่าเพิ่งตกใจ มันก็เป็นธรรมดาที่เราจะต้องเจออุปสรรค์ที่ยากขึ้นเพื่อพัฒนาตัวเอง แอร์เคยคิดว่าเข้าอักษรฯ มาแล้วคงอ่านแต่หนังสือ จำๆ แล้วก็ไปสอบ แต่ความจริงไม่ได้น่าเบื่ออย่างนั้น เพราะอักษรฯ สอนให้เรารู้จักคิด ให้เราได้วิเคราะห์สิ่งใกล้ๆ ตัวเรา อย่างบทความ วรรคดี รวมไปถึงภาพยนตร์ ทำให้เราเข้าใจผลงานเหล่านั้นอย่างหลากมุมมองมากขึ้น
            แอร์คิดว่าอักษรฯ ทำให้เราเป็นคนลึกซึ้งขึ้นนะ แอร์เรียนเอกญี่ปุ่นซึ่งทุกคนกล่าวขานกันว่าเรียนหนักสุดๆ ถ้าถามว่าตอนนี้เรียนไหวไหม ก็ไหวนะ เพราะเรียนด้วยความชอบด้วยมั้ง เวลาเรียนอะไรที่ชอบ ก็จะมีแรงฮึดอยากจะทำให้สำเร็จ เพราะงั้นถ้าอยากเข้าคณะนี้ก็ลองถามตัวเองว่าชอบภาษาจริงๆ หรือเปล่า ถ้าชอบแล้วละก็เรื่องอื่นมันก็เป็นเรื่องเล็ก จริงไหม?^^
 
พี่แก้ม: ความภูมิใจในคณะ
น้องแอร์ : คณะเราเรียนกันอย่างเข้มข้นมากจริงๆ อย่างที่หลายคนคิด แต่ก็เพื่อที่จะได้จบออกไปอย่างมีคุณภาพ ที่สำคัญหลายคนอาจจะคิดว่าอยู่ที่นี่แล้วแข่งกันเรียน แอร์ว่าไม่จริงหรอก คนที่ต้องแข่งด้วยคือตัวเราเองต่างหาก ดีเสียอีกอยู่ท่ามกลางคนเก่งๆ จะได้พยายามๆมากขึ้นตัวเองก็จะได้เก่งขึ้นกว่าเดิม
 
พี่แก้ม: จบแล้วไปทำงานอะไรได้บ้าง และวางแผนสำหรับอนาคตอย่างไร
น้องแอร์ : อาชีพที่เด็กอักษรจบไปแล้วทำได้ มีหลากหลายมากค่ะ เพราะเราเรียนภาษา อะไรที่เกี่ยวกับภาษาเราก็ทำได้หมด พื้นฐานอย่างล่ามหรือนักแปล ก็แตกแขนงออกไปได้อีกว่า เป็นล่ามที่ไหน หรือแปลอะไร บางคนก็เป็นนักเขียน บางคนก็เป็นอาจารย์สอนภาษา ส่วนสิ่งที่กังวลในอนาคตก็คือการวางแผนอนาคตเนี่ยแหละค่ะ อยากจะเรียนให้สูงๆ แต่ก็กลัวว่าสูงเกินไปแล้วจะกลายเป็นคนทำงานไม่เป็น ก็เลยอยากจะลองทำงานก่อน แต่ก็มีหลายคนบอกว่าพอทำงานแล้วก็จะไม่อยากทิ้งเงินเดือนกลับไปเรียนอีก เพราะงั้นตอนนี้ก็เลยพยามคุยกับผู้ใหญ่แล้วก็รุ่นพี่หลายๆ คนเอาไว้
           ใครสนใจรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับเอกต่างๆ ลองเข้าไปดูได้นะคะ http://www.arts.chula.ac.th/index_th.html
           อันนี้บอร์ดของอักษรค่า ล็อกอินเข้าไปถามป้าๆ ในคณะได้ค่ะ http://www.artschula.net/forums/index.php?
 
สาวอักษรคนที่ 3: น้องบี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอกภาษาอังกฤษ
 
พี่แก้ม: แนะนำตัวนิดนึงค่ะ
น้องบี : สวัสดีค่ะ ชื่อ ชาดาภัค เสนีวงศ์ ณ อยุธยาค่ะ ชื่อเล่นชื่อบี กำลังศึกษาอยู่ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยค่ะ ชั้นปีที่ 2 เอกภาษาอังกฤษค่ะ
 
พี่แก้ม: ตอนเอ็นทรานซ์ เตรียมตัวก่อนสอบยังไงบ้าง จะเข้าคณะนี้ควรเน้นคะแนนส่วนไหนดี?
น้องบี : ตอนเอ็นทรานซ์ก็คงเตรียมตัวเหมือนกับคนอื่นๆ แหละค่ะ อ่านหนังสือเยอะพอสมควร เพราะว่าตัวเองไม่ได้ไปเรียนพิเศษที่ไหนเลย เหตุผลที่ไม่เรียนก็หลายอย่างแหละค่ะ ทั้งเรื่องเงินบ้าง (อันนี้เป็นปัจจัยสำคัญเลยก็ว่าได้) และอีกอย่างตัวเองเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเรียนกวดวิชา ก็เลยเลือกที่จะไม่ไปเรียนดีกว่า
           เวลาอ่านบีมักจะอ่านหนังสือตอนกลางคืนมากกว่าค่ะ เพราะว่าเงียบดี อาศัยว่ารุ่นพี่เอาหนังสือมาให้อ่านบ้าง และก็ตัวเองซื้อมาบ้าง เวลาอ่านบีก็เริ่มเตรียมตัวอ่านตั้งแต่ตอนปิดเทอมใหญ่ตอน ม. 6 แล้วค่ะ ตอนนั้นอ่านวิชาภาษาไทยสังคม แล้วก็วิทย์ พอช่วงประมาณหนึ่งเดือนก่อนที่จะสอบก็ทำโจทย์เยอะๆ ให้ชินกับคำถามค่ะ แล้วก็เริ่มอ่านวิชาที่เหลือให้หมด แต่ขอแนะนำไว้เลยนะคะว่าควรจะอ่านเนื้อหาให้หมดไปก่อนตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วเวลาที่เหลือก็มาทำโจทย์จะดีกว่าค่ะ  
           สำหรับบีวิชาที่อ่านสุดท้ายเลยก็คือวิชาคณิตศาสตร์ค่ะ เพราะเป็นวิชาที่ไม่ชอบมากๆ ไม่รู้ว่าอยู่ศิลป์-คำนวณมาได้ไง อ่านแล้วเครียดมากเลย อ่านไปร้องให้ไปเลยอ่ะค่ะ (อันนี้เรื่องจริงน้า) คะแนนออกมาเลยเน่า ได้ 30 เต็มร้อยของวิชา A-net คณิตศาสตร์ ไม่รู้ว่าเข้ามาได้ยังไง อาจจะเป็นเพราะว่าได้คะแนนในส่วนของวิชาภาษาอังกฤษ กับภาษาไทยช่วย เลยเข้ามาเรียนที่นี่ได้ แหะๆ เวลาที่เลือกว่าจะเน้นอ่านวิชาอะไรก็ต้องดูค่ะว่าเราจะเลือกยื่นวิชาไหน อย่างบีก็เลือกที่จะเอาคณิตศาสตร์ยื่นเพราะว่าภาษาที่สามเรียนแค่ภาษาจีนและก็ไม่ค่อยเก่งค่ะ เลยเลือกเอาเลขยื่นดีกว่า แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าระบบเค้าไปถึงไหนกันแล้วน้า ตามไม่ทันเลยค่ะ
 
 
 
 
พี่แก้ม: แนะนำคณะอักษรศาสตร์ให้น้องๆ รู้จักหน่อยจ้า และเอกไหนบ้างที่กำลังฮิตสุดๆ ?
น้องบี : คณะอักษรฯก็เป็นคณะที่เรียนเกี่ยวกับทางด้านภาษาเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ตอนนี้ก็มีเปิดภาคอินเตอร์แล้วด้วยค่ะ สาขาภาษาและวัฒนธรรม เอกที่คนชอบเข้ามากที่สุดก็เอกอังกฤษนี่แหละค่ะ เข้ากันทีเกือบครึ่งชั้นปีแน่ะ เวลาเราจะเลือกเอกก็ต้องดูค่ะว่าเราชอบเรียนภาษาอะไรมากที่สุด เรียนในสิ่งที่เราชอบจะมีความสุขมากกว่านะ เวลาเราเลือกได้แล้วก็ต้องดูว่าทางคณะต้องให้เราผ่านวิชาตัวไหนก่อนถึงจะเข้าเอกได้ และเกรดก็ต้องผ่านเกณฑ์ด้วยค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะผ่านกันหมดนะคะ ถ้าใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติมก็มาดูได้นะคะที่เว็บไซต์คณะค่ะ http://www.arts.chula.ac.th/
 
พี่แก้ม: การเรียนของคณะนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ และทำกิจกรรมเยอะมั้ย?
น้องบี : ตอนเรียนที่คณะก็มีทั้งเรื่องสุขเรื่องทุกข์ปนๆ กันไปค่ะ ชีวิตมีสีสันดีค่ะ ไม่เหมือนกับการเรียนตอน ม. ปลาย เลยค่ะ จะว่าสบายก็ได้ จะว่าหนักก็ได้ พอๆ กันค่ะ เพราะเรียนที่คณะอักษรต้องอ่านเยอะมากๆ หนังสือมีให้อ่านเยอะมากเลยค่ะ คนที่ไม่รักการอ่านจริงก็คงเรียนลำบากหน่อยค่ะ แล้วก็เรียนที่นี่เวลาสอบก็ไม่ค่อยจะมีข้อสอบแบบ choice หรอกค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบอัตนัยมากกว่า บรรยายทีเป็นหน้ากระดาษเลยค่ะ บางทีมีสมุดมาให้เป็นเล่มๆ เลย (บางวิชาเท่านั้นแหละค่า...^^ อย่าเพิ่งตกใจ) แต่บีคิดว่าการที่เค้าให้เราตอบแบบนี้จะได้คะแนนเยอะกว่านะคะ เพราะว่าเราได้บรรยายความคิดของเราได้เต็มที่ เอากันแบบว่าน้ำท่วมทุ่งไปเลย ไม่ต้องกลัวนะคะว่ามาอยู่คณะอักษรฯ แล้วจะเขียนไม่เก่ง เพราะเราจะกลายเป็นคนเขียนเก่งแบบว่าแถได้เรื่อยๆ ไปเลยแหละค่า 555+ เรื่องกิจกรรมที่คณะก็มีอยู่หลายกิจกรรมนะคะ ที่เด่นๆ ก็จะมีกิจกรรมรับน้องของคณะค่ะ คณะอักษรเป็นคณะที่ไม่มีประเพณีการว้ากน้องเลยค่ะ พี่เชียร์ทุกคนน่ารักมาก อบอุ่นเป็นกันเอง เราไปปรึกษาได้ทุกเรื่องค่ะ แล้วก็มีกิจกรรมรับน้องที่สนุกมากๆ มีการมานอนค้างที่คณะด้วยนะ ได้เพื่อนมากมายเลยแหละค่ะ กิจกรรมเด่นๆ อีกอันนึงก็คือกิจกรรมวันลอยกระทงค่ะ เพราะว่าเป็นงานใหญ่ของจุฬาฯ และคณะอักษรฯของเราก็เป็นคณะที่ได้รางวัลชนะเลิศมา 16 ปีซ้อนแล้ว เย้ ภูมิใจมากเลยค่ะ งานนี้ทุกคนจะทุ่มเทมากเลย ทำขบวนกระทงออกมาให้อลังการมากที่สุด ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำเลยค่ะ นับว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีได้ดีมากเลย
 
พี่แก้ม: ความภูมิใจในคณะ คณะของเรามีจุดเด่นที่ตรงไหน จบแล้วไปทำอะไรได้บ้าง
น้องบี : เมื่อพูดถึงความภูมิใจในคณะของเราแล้วล่ะก็ คณะของเรามีประวัติมายาวนานแล้วว่า เป็นคณะที่มีแต่คนสวยๆ มาเรียน 555+ เป็นคณะที่สาวๆ มักเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ อันนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจได้รึเปล่านะ 555 เรามาคุยเรื่องที่เป็นการเป็นงานกันดีกว่านะ ก็หลายๆ คนถามกันว่าเรียนอักษรแล้วจบไปทำงานเป็นอะไร เป็นคำถามที่ตัวเองก็เคยเจอเหมือนกันค่ะตอนที่ตัดสินใจเลือกคณะนี้ เวลาเข้ามาแล้วเราก็จะค้นพบว่า เมื่อเราจบจากคณะอักษรฯเราสามารถไปทำอาชีพได้หลายอย่างเลยค่ะ เพราะถ้าเรามีความรู้เกี่ยวกับภาษาเป็นอย่างดี การไปทำงานที่เราใช้ภาษาได้ก็จะทำให้มีโอกาสสูงกว่าคนอื่นๆ เราสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ เป็นเลขาฯ เป็นแอร์โฮสเตส ทำงานโรงแรมก็ทำได้ หรือจะเป็นงานที่บริษัทต่างประเทศก็ได้ค่ะ ยิ่งถ้าเรามีความรู้ภาษาที่คนอื่นๆ ไม่ค่อยรู้กัน ก็จะได้เครดิตมากเลยค่ะ
 
พี่แก้ม: วางแผนสำหรับอนาคตอย่างไร
น้องบี : สิ่งที่บีกังวลเวลาจบไปแล้ว ก็คงจะเป็นเรื่องงานแหละค่ะ เพราะว่าไม่รู้ว่าอนาคตเราจะได้เป็นอะไรเนอะ ทุกคนคงกังวลเหมือนๆ กันล่ะค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะฝันสูงไปรึเปล่า เพราะกะว่าจบไปแล้วจะไปสมัครเป็นแอร์ฯ ที่สายการบินเอมิเรตส์อ่าค่ะ (ชุดสวยดีเนอะ..^^) แต่ว่าเราก็ต้องเผื่อใจไว้ เพราะว่าอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ถ้าไม่ได้งานนี้ก็คงไปหางานอื่นๆ ทำอ่ะค่ะ อาจจะเป็นเลขาฯ ก็ได้ เพราะเป็นงานที่น่าสนใจดีเหมือนกันค่ะ ถ้าน้องๆ คนไหนมีคำถาม หรือข้อสงสัยอะไรก็ ส่ง e-mail มาถามได้นะคะที่sneak-n-peek@hotmail.com
 
 
          สาวๆ อักษรฯ นี่น่ารักกันจริงๆ เลยน้า น้องๆ ทุกคนคงได้รับข้อมูลดีๆ จากรุ่นพี่ทั้งสามคนไปเต็มเปี่ยมเลยนะจ๊ะ ใครสนใจอยากเข้ามาเล่าประสบการณ์แบบพี่ๆ ทั้งสามคนก็แนะนำตัวว่าเรียนอยู่คณะใดแล้วส่งมาที่ gam@dek-d.com นะคะ ^^ ขอให้น้องๆ โชคดีทุกคนค่ะ
 
 

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
Trick_Art Member 17 ก.พ. 52 18:29 น. 11

หลายจิตหลายใจมากเลยตอนนี้

อังกฤษก็ชอบ ญี่ปุ่นก็อยากเรียน

เอาเหอะ เรียนไปเดี๋ยวก็รู้เองแหละ(เพิ่งอยู่ม.3 จะกังวลอะไรมากมายฟะ เลือกสายให้ถูกก่อนดีมั้ย?)

0
กำลังโหลด
Aueng 27 ก.พ. 52 23:04 น. 15
คห.11 และ คห.13

เราก็อยู่ม.3 เหมือนกัน

อยากเข้าอักษรฯ จุฬาฯ มากมาย

แต่ว่า...รับตรง 100%

คิดหนักค่า!!!

แต่ก็จะสู้ เพื่ออักษรฯ จุฬาฯ อิอิ
0
กำลังโหลด
~ VolcaniK ~ Member 6 มี.ค. 53 14:29 น. 41
มาตอบให้ ไม่รู้ช้าไปเปล่า (สำหรับคนที่อยากรู้เกี่ยวกับอักษร ศิลปากร)

เกณฑ์ในการเลือกเอกตอนปีสอง เทอมสอง เป็นอะไรที่เข้าใจง่ายมาก คือ ต้องเก็บหน่วยกิตรายวิชาพื้นฐานของคณะให้ครบทุกหน่วยกิต และรายวิชาเบื้องต้นอีกสี่สาขาวิชา   ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าเกรดรวมของวิชาเบื้องต้น (เด็กอักษรเรียกว่า "ขา")  ของวิชาที่จะเลือกเป็นเอก ถึง C ก็สามารถเข้าได้แล้วอ่ะคับ   มีเพียงเอกภาษาอังกฤษเท่านั้นล่ะที่ต้องต่อสู้กันหนักหน่อย ถ้าต่ำกว่า B นี่ชวดแหงๆ (ขนาดจะเข้าโท ยังต้องไม่ให้ต่ำว่า c+ เลย) 

ส่วนภาษาญี่ปุ่น ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานก็เรียนก็ได้นะ (เท่าที่รู้) แต่ถ้ามีพื้นฐานมันจะดีกว่ามาก  เพราะก่อนจะได้ลงทะเบียนเรียน ทางภาควิชาเขาจะมีการสอบเบื้องต้นก่อนเล็กน้อย (ให้คัดตัวอักษรอะไรซักอย่างอ่ะ--พี่ไม่รู้ เพราะพี่ไม่ได้เรียน ^^)  อันนี้รวมถึงภาษาปัจจุบันตะวันออกอีกสองภาษาด้วย คือ จีนกับเกาหลี -- เขาสอนพื้นฐานแต่เริ่มเลย  แบบว่าไม่ว่าจะมีพื้นมาก่อนหรือไม่ ทุกคนเริ่มต้นที่ศุนย์เหมือนกันหมดทุกคน

หวังว่าคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยต่อคนที่อยากรู้นะ ^^
0
กำลังโหลด

55 ความคิดเห็น

ฟ้า 6 ก.พ. 52 16:25 น. 1
ว้าว !!! ชักเริ่มสนใจแล้วสิ ตอนนี้ก้อไม่แน่นอนอยู่ ที่แน่ ๆ ไม่ชอบสายวิทย์ฯ ตอนแรกตั้งใจจาเข้านิเทศอ่ะ เอาไงดีหว่า
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
รักพี่แก้มจัง 6 ก.พ. 52 18:31 น. 5
ขอบคุณพี่แก้มมากๆเลยค่ะ
ปีนี้ก็จะเอ็นท์แล้วอ่ะค่ะ ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับคณะนี้มากเท่าไรเลย
และก็กะว่าจะเอ็นเข้าอักษรแหละค่ะ
ขอบคุณมากจริงๆเลยนะค่ะ ที่ทำให้รู้ว่ามันเป็นยังไง ^______^
วันหลังเอามาลงอีกนะค่ะ แต่แอบเสียดายเอกญี่ปุ่นไม่ให้ลงโทจิงๆเหรอเนี้ย(จุฬาอ่ะ)
อยากเลยโทอิตาเลียนค่ะ 5 5 5

(แล้วจะเข้ามาติดตามใหม่นะค่ะ)

ไทย สังคม ฮื่อๆๆๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
lullabelle Member 7 ก.พ. 52 22:14 น. 8
สำหรับน้องๆ ที่กังวลว่าเรียนสายอื่นที่ไม่ใช่สายศิลป์แล้วจะสอบอักษรฯได้มั้ย ถ้าเราอยากเข้าจริงๆ ไม่ว่าสายไหนก็เข้าได้ค่ะ ขอให้เราทำคะแนนในส่วนภาษาดีๆ แล้วก็ดูว่าต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง เป็นกำลังใจให้ทุกคนเลยค่ะ^^
0
กำลังโหลด
Ming 7 ก.พ. 52 22:58 น. 9
อยากเข้าอักษรมากกก>< ตอนนี้อยุ่ม.5 คร่าพี่
,,ถ้าอ่านหนังสือตอนนี้ กลัวจาลืม แต่ก้กลัวว่า
จาแอดไม่ติด งานโรงเรียนก้เยอะมากก แต่ก็จะพยายามคะ
คือระบบใหม่ถ้าจายื่นคะแนน ลงGAT,PAT1,7ไว้ถูกแล้วใช่มั๊ยคะ?
อยากรู้เกี่ยวกับเอกจีน จุฬาอ่ะคะ เรายื่นจีนสอบช่วยได้มั๊ยคะ
เสียดายไม่มีรับตรงม๊างง ..
อยากให้พี่ๆเอกจีนมาเล่าประสบการณ์บ้างจัง ^^

ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากมายคร่า ,,,,จาสู้ต่อไป
0
กำลังโหลด
moo*nat Member 9 ก.พ. 52 19:51 น. 10

อยากเรียนมากเลยค่ะ แล้วก็รู้ด้วยว่าเรียนยาก

อยากเข้าแต่ไม่รู้จะเข้าได้รึเปล่า คนเก่งๆที่อยากเข้าคณะนี้เยอะมากเลยค่ะ

ที่เรียนเสริมภาษาอังกฤษที่ไหนดีๆบ้างอ่ะค่ะ ช่วยแนะนำหน่อยน่ะค่ะ

0
กำลังโหลด
Trick_Art Member 17 ก.พ. 52 18:29 น. 11

หลายจิตหลายใจมากเลยตอนนี้

อังกฤษก็ชอบ ญี่ปุ่นก็อยากเรียน

เอาเหอะ เรียนไปเดี๋ยวก็รู้เองแหละ(เพิ่งอยู่ม.3 จะกังวลอะไรมากมายฟะ เลือกสายให้ถูกก่อนดีมั้ย?)

0
กำลังโหลด
เรียนแล้วเหนื่อยแต่คุ้ม!? 19 ก.พ. 52 23:18 น. 12
อักษรญี่ปุ่นจุฬานี่สุดยอดแห่งความถึกอะ

เกรดตกกันระนาว เหอเหอ

แต่เค้าบอกว่าสองกลางๆถึงปลายๆของจุฬาเท่ากับสามกว่าของที่อื่น =w=
0
กำลังโหลด
คิดตรงเด๊ะ 21 ก.พ. 52 22:51 น. 13
คห.11เหมือนกันเลย อยู่ม.3อ่า,,

ชอบพี่บีอ่ะ

จากที่อ่านมาตรงทุกอย่าง

อยากเป็นแอร์สายการบินเอมิเรตส์ เช่นกัน

ไม่ใช่ว่าชุดสวยอ่าแต่ว่าได้เงินดีๆๆๆ

5 5 5 5+

ขอบคุนค่ะที่ทิ้งเมลล์ไว้ให้

อยากเรียนเอกอังกฤษแล้วเราต้องสอบ pat ไหนอ่ะ

pat7มีแต่พวกจีน-เยอรมันอ่า

เอกอังกฤษ เนี่ยวิชาอังกฤษแล้วที่ต้องดีมีวิชาอื่นอีกไหมค่ะ

ที่ต้องทำคะแนน

ปล.ชอบพี่บีอ่ะ!!!!~
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Aueng 27 ก.พ. 52 23:04 น. 15
คห.11 และ คห.13

เราก็อยู่ม.3 เหมือนกัน

อยากเข้าอักษรฯ จุฬาฯ มากมาย

แต่ว่า...รับตรง 100%

คิดหนักค่า!!!

แต่ก็จะสู้ เพื่ออักษรฯ จุฬาฯ อิอิ
0
กำลังโหลด
ปอนด์ 1 มี.ค. 52 21:01 น. 16
คห.7เรานี่แหละศิลป์-คำนวณจะเรียนอักษรล่ะ ส่วนคห.9คะแนะนำว่าถ้ารู้ตัวว่าเริ่มจะมีกำลังใจก้ออ่านเถอะค่ะรับรองไม่มีลืม(คือไปเจอข้อสอบมันจะงขึ้นมาเอง) แล้วอ่านได้เร็วเท่าไหร่มันดีกะตัวเองนะเพราะมาอ่านใกล้สอบจะรู้สึกว่าก่อนหน้านี้ฉันทำอะไรอยู่ตั้งนานหว่า แล้วก้อจนไฟลนก้นแบบว่าอ่านไม่ทันลนมากๆ555+
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด