ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัย(คณะบริหารธุรกิจ)

คณะบริหารธุรกิจ Issue 003 week2, March 2009
 
คณะบริหารธุรกิจ
ตอนที่ 3/4 : จากรุ่นพี่ถึงรุ่นน้อง : ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัย
 
เสียงจากศิษย์เก่าคณะบริหารธุรกิจ
        เมื่อครั้งที่แล้วพี่ยีนได้พาน้องๆ ไปเจาะลึกชีวิตในรั้วรอบขอบคณะบริหารฯ ไปแล้ว  มาคราวนี้ ใครที่ยังสงสัยว่า เรือสำเภาลำนี้จะพาน้องไปสู่ฝั่งฝันได้หรือเปล่า คงพอโล่งใจกันได้บ้าง เพราะพี่ยีนได้นำพี่ๆ บัณฑิตคณะบริหารธุรกิจจากสองสถาบัน มาจับเข่าคุยถึงชีวิตการทำงานหลังจบการศึกษาไปแล้ว เรื่องราวของแต่ละคนจะน่าสนใจแค่ไหน ไปติดตามกันเลยครับ...
 

รุ่นพี่คนที่ 1 :
พี่เวทย์ ผู้จัดการ Network Academy 
                                              บริษัท SCG Network Management จำกัด เครือ SCG
 

 
พี่ยีน: ช่วยแนะนำตัวหน่อยให้น้องๆ รู้จักสักนิดสิครับ?
พี่เวทย์: ชื่อ ณรงค์เวทย์ วจนพานิช เรียกพี่เวทย์ได้ครับ จบป.ตรี สาขาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ครับ
 
พี่ยีน: ทำไมถึงเลือกเรียนคณะนี้ครับพี่เวทย์?
พี่เวทย์: นึกถึงภาพผู้บริหารใส่สูท มีห้องทำงาน มีลูกน้อง ได้คิดและทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันครับ อีกอย่างคือจบคณะนี้แล้วทำงานได้กว้าง เติบโตในอาชีพได้สุดๆ เป็นที่ต้องการของทุกองค์กรครับ
 
พี่ยีน: กิจกรรมสมัยเรียนทำอะไรบ้างเหรอครับ?
พี่เวทย์: เท่าที่จำได้ก็เป็นแกนกลุ่ม ประมาณว่าหัวหน้ากลุ่ม กรรมการกลุ่ม คนรับใช้ในกลุ่ม เพื่อนๆ ในกลุ่มก็มีประมาณ 50-60 คน นอกจากนี้ยังเป็น...
      - พนักงานขาย  Thammasat Dummy Company
      - นักกีฬาวอลเลย์บอลคณะ ตอนแข่งงานเพื่อนใหม่มหาวิทยาลัย
      - หัวหน้าทีมโต้วาทีคณะพาณิชยศาตร์ฯ ได้รางวัลชนะเลิศนักโต้วาทีดีเด่น มหาวิทยาลัย
      - รองประธานชมรมปาฐกถาและโต้วาที
      - Staff ชมรมเชียร์ งานกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย
      - กรรมการฝ่ายหาทุน ชมรมเชียร์ มหาวิทยาลัย
 
พี่ยีน: คิดว่าคณะนี้ให้อะไรกับพี่เวทย์บ้างครับ?
พี่เวทย์: ให้พื้นฐานความเป็นนักบริหาร ทั้งความรู้และมุมมอง ได้เพื่อนๆ ที่ดี อาจารย์ที่เคารพและเป็นแรงบันดาลใจครับ
พี่ยีน: ส่วนใหญ่เพื่อนๆ ของพี่เวทย์ที่จบมาด้วยกัน ทำอะไรกันต่อไปบ้างครับ?
พี่เวทย์: เป็นนักการตลาด นักขาย นักโฆษณา หลายคนก็เรียนต่อครับ
 

 


                                                           พี่เวทย์ (ผู้จัดการ Network Academy)

 

พี่ยีน:
พี่เวทย์จบมาแล้วทำงานเลยหรือเปล่าครับ?
พี่เวทย์: จบมาได้งานเลย 7 ที่ แต่สมัครจริงๆ แค่ที่เดียว คือ ที่ SCG หรือปูนซิเมนต์ไทยครับ ได้ที่นี่ก็ทำงานเลย เริ่มที่ตำแหน่งเป็นผู้แทนขายครับ เป็นตัวแทนบริษัทไปพบตัวแทนจำหน่ายในเขตที่รับผิดชอบ เพื่อสื่อสารเรื่องนโยบาย กลยุทธ์ โปรแกรมทางการตลาดให้ผู้แทนจำหน่ายรับรู้ และบริหารกำกับดูแลให้ผู้แทนจำหน่ายปฏิบัติตาม
      นอกจากนี้ยังต้องศึกษาข้อมูล จุดอ่อน จุดแข็งของช่องทางการจัดจำหน่าย และวางกลยุทธ์ แผนงาน นำเสนอผู้บริหารให้เห็นชอบและนำมาปฏิบัติ สร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและองค์กรท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งยังเป็นตัวแทนบริษัทในพื้นที่เขตที่ดูแล ต้องรู้ข้อมูลพื้นที่ให้มากที่สุด เหมือนเป็นหูเป็นตา เป็นแขนเป็นขาของบริษัทครับ

 

พี่ยีน: ได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไหมครับ?
พี่เวทย์: เรียนต่อโทหลังทำงานไป 3-4 ปีครับ เรียนต่อสาขาจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ ที่เลือกสาขานี้เพราะเข้าใจแล้วว่า  สำหรับคนโตๆ ระดับผู้บริหารนั้น สิ่งที่ท้าทายและต้องเติมคือเรื่องคน ทำงานกับคน เข้าใจคน และบริหารคน และการทำการตลาด
      หัวใจอยู่ที่ลูกค้า ลูกค้าก็คือคนที่เราต้องจูงใจให้ทำตาม  เราต้องพัฒนาให้เติบโต เขาโต เราก็โตอีกอย่างความรู้เรื่องบริหารที่เรียนมาตอนป.ตรี ยังใช้ไม่หมดเลย พอจบก็ได้ทำงานด้านพัฒนาลูกค้าที่ SCG แล้วก็ไปทำงานด้าน Branding (การบริหารตราสินค้า) ดูแลเรื่อง Re-Positioning HOME MART Brand (การเปลี่ยนแปลงจุดยืนทางการตลาดของยี่ห้อหรือแบรนด์ HOME MART) ซึ่งครอบคลุมงานส่งเสริมการตลาด พวกโฆษณา ส่งเสริมการขาย ประชาสัมพันธ์ เปิดตัวแถลงข่าวด้วย สนุก โหด มัน ฮาครับ  ทั้งยังได้ทำงานกับ เอเจนซี่ ออร์แกไนเซอร์ และบริษัทที่ปรึกษาต่างๆ เยอะมาก ได้ไปดูงานต่างประเทศ ได้ความรู้ประสบการณ์เต็มๆ ครับ

พี่ยีน:
แล้วงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เป็นอย่างไรบ้างครับ?
พี่เวทย์: พี่เป็นผู้จัดการ Network Academy บริษัท SCG Network Management จำกัด ของ SCG ครับ ดูแลการพัฒนาลูกค้ากลุ่มผู้แทนจำหน่ายและกลุ่มผู้รับเหมาขนาดกลางและขนาดย่อม พัฒนาให้เขาทำธุรกิจไปกับเราได้อย่างยั่งยืน  โดยต้องเข้าใจธุรกิจ ความต้องการ และความจำเป็นในการถูกพัฒนาให้สอดคล้องไปกับนโยบายบริหารการตลาดของเรา 
       ทาง SCG ต้องพัฒนาตั้งแต่เจ้าของ ผู้บริหาร ผู้จัดการ หัวหน้างาน และพนักงานในองค์กรของลูกค้าให้มีศักยภาพในการแข่งขัน ต้องเข้าไปจัดการ set บางระบบงาน เช่น การบริหารบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ ทั้งยังร่วมวางแผนงานองค์กร และงานอาสารับใช้ ตามที่ผู้บริหารระดับสูงไว้วางใจให้มาครับ
 
พี่ยีน: สิ่งที่คาดหวังไว้ในระหว่างเรียน กับสิ่งที่เป็นจริงหลังเรียนจบและออกมาใช้ชีวิตในสังคมการทำงาน ต่างกันบ้างไหมครับ?
พี่เวทย์: ต่างครับ ก่อนจบอยากเป็นนักการตลาด อยากทำงานส่งเสริมการขาย แต่เขารับเป็นผู้แทนขาย ทำงานไปแล้วรู้สึกดีใจที่ได้เริ่มอย่างนี้ เพราะสอนให้เราเข้าถึงลูกค้าซึ่งเป็นหัวใจของงานการตลาดครับ
อีกอย่างคือชีวิตการทำงานไม่สวยงามเหมือนช่วงที่เรียนอยู่ ชีวิตจริงไม่เหมือนตำรา เราต้องรู้เท่าทัน ปรับใจ ปรับตัวให้ได้ครับ

พี่ยีน:
มีอะไรอยากฝากน้องๆ บ้างไหมครับ?

พี่เวทย์: สำหรับน้องๆ ที่ฝันอยากเข้าคณะนี้ พี่อยากฝากว่า ฝันให้ไกลไปให้ถึง ตั้งสติให้มั่น ทำความเห็นให้ชอบให้ถูก คณะนี้น่าจะเรียนสนุก จัดอยู่พวก "เรียนง่าย เก่งยาก" ครับ ต้องเปิดกว้าง ชอบความท้าทายและการเปลี่ยนแปลง จึงจะประสบความสำเร็จได้ดีครับ
     
การเรียนรู้จำเป็นสำหรับทุกจังหวะของชีวิต แต่การเรียนต่อปริญญาโทไม่ใช่คำตอบสำเร็จรูปครับ น่าจะทำงานก่อนแล้วเรียนรู้ว่าขาดอะไร อ่อนอะไร อยากเสริมสร้างจุดแข็งอะไร  จะได้รู้ว่าควรเรียนต่อแบบไหนดีครับ แต่ถ้าบ้านมีตังค์ เรียนให้พ่อแม่ปลื้ม อันนี้ก็อีกเรื่องครับ
      ชีวิตหลังเรียนจบ มันเป็นอีกช่วงหนึ่งที่จะพิสูจน์ความแข็งแรงของชีวิต ว่าโตพอที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นผู้ใหญ่หรือไม่ สองปีแรกหลังจบอาจจะเป็นการเรียนรู้ของจริงเท่านั้น ต่อจากนั้นเราอาจจะเก่งและแกร่งพอที่เรียนรู้และทำสิ่งต่างๆ ต่อไป
      
หลายคนพ่ายแพ้ อ่อนแอ จนต้องหนีออกไปเรียนต่อ เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น หรือเป็นพนักงานแบบตายซากสายลมแสงแดดตั้งแต่เยาว์วัย พี่อยากบอกว่า ทำให้มากในสองปีแรกหลังจบ เรียนรู้ให้มากกับทุกอย่างที่ได้ทำ  อย่าปล่อยผ่านแบบไร้สติ และอย่าคิดหนีปัญหาอุปสรรคครับ

 




รุ่นพี่คนที่ 2 : พี่นัท Marketing Executive บริษัท แอดวานซ์อะโกร จำกัด
 
 
 
พี่ยีน: ช่วยแนะนำตัวให้น้องๆ รู้จักหน่อยครับ?
พี่ตาล: สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ นัท จบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา คณะวิทยาการจัดการ สาขาการตลาด จบมาได้ 4 ปีแล้วนะคะ ปัจจุบันทำงานเป็น Marketing Executive ให้กับบริษัท แอดวานซ์อะโกร จำกัด (ผู้ผลิตกระดาษดับเบิ้ลเอ) ดูแลสินค้ากระดาษค่ะ ดูแลและรับผิดชอบโปรโมชั่นและกิจกรรมการตลาดเป็นหลัก
 
พี่ยีน: ทำไมถึงเลือกเรียนคณะนี้ครับ?
พี่นัท: ตอนนั้นอยากรู้ว่าการตลาดคืออะไร และสำคัญอย่างไรกับธุรกิจ ก็เลยเลือกเรียนสาขานี้ค่ะ อีกอย่างก็มีความคิดแบบเด็กๆ ว่า ถ้าวันหนึ่งมีธุรกิจของเราเองขึ้นมา คณะนี้ สาขานี้คงช่วยให้เรามีความรู้ที่สามารถไปใช้ได้ค่ะ
 
พี่ยีน: ระหว่างเรียนได้ทำกิจกรรมอะไรบ้างครับ?
พี่นัท: ตอนอยู่ปี 3 ก็เข้าร่วมประกวดแผนการตลาดของสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT Awards) ปีนั้นปุ้มปุ้ยปลายิ้ม เขาเป็นสปอนเซอร์ของการประกวดค่ะ ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2
ที่สนุกที่สุดของกิจกรรมนี้คือ เราทำงานกันเป็นทีม เน้นสนุกสนานเป็นส่วนใหญ่ ไม่ถึงกับเครียดมากมายจนเกินไป ทำอยู่ด้วยกันอยู่ประมาณ 1 เดือนกว่าๆ แต่สุดท้ายผลงานออกมาดีเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ค่ะ
 

                                                                                              พี่นัท (คนซ้าย)


 

 



 
พี่ยีน: คิดว่าคณะนี้ให้อะไรกับพี่นัทบ้างครับ?
พี่นัท: ช่วยเปิดมุมมองทางธุรกิจ และให้ความรู้ที่เป็นพื้นฐานนำไปใช้ในการทำงานจริงได้ เวลาเราออกมาทำงานแล้ว ในโลกธุรกิจจริงๆ ต้องอาศัยทั้งความรู้ที่เรียนมาและประสบการณ์ในการทำงานหลายๆ องค์ประกอบร่วมกัน ถึงจะช่วยให้เราทำงานสำเร็จได้ พี่นำความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติที่ได้รับตอนเรียนมาประยุกต์ใช้ในการทำงานได้ ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ เพราะตอนเรียนเราไม่ได้เรียนแค่ทฤษฎีเท่านั้นนะคะ เรายังลงมือปฏิบัติกันอย่างจริงจัง เช่น ทำแผนการตลาด แผนสื่อประชาสัมพันธ์ แผนการขาย จัดบูธขายสินค้า หรือแม้กระทั่งหาไอเดีย และถ่ายทำสื่อโฆษณากันเองด้วยค่ะ (พอคิดถึงภาพการทำงานในอดีต ก็อดยิ้มไม่ได้เลยทีเดียว)
       นอกจากนี้ที่คณะยังเน้นการทำงานเป็นทีม คือเราจะผลัดเปลี่ยนทำงานกลุ่มด้วยกันทั้งสาขา เปลี่ยนกลุ่มไปเรื่อยๆ ทุกวิชา เพื่อทำให้เราทุกคนรู้จักกัน และฝึกการทำงานร่วมกันเป็นทีม และเรียนรู้นิสัยใจคอซึ่งกันและกันค่ะ
 
พี่ยีน: พี่นัทจบมาแล้วทำงานเลยหรือเปล่าครับ?
พี่นัท: จบมาแล้วก็หางานอยู่ประมาณ 2 เดือนค่ะ แล้วก็ได้ทำงานเป็น Marketing Executive ดูแลในส่วนของ Loyalty program (การสร้างความภักดีในยี่ห้อหรือตราสินค้า) จัดกิจกรรมเพื่อรักษาให้ลูกค้าซื้อสินค้ากับเราอย่างต่อเนื่อง และหาสิทธิประโยชน์นำเสนอต่อสมาชิกค่ะ
 
พี่ยีน: ส่วนใหญ่เพื่อนๆ ที่จบมาด้วยกันกับพี่นัท ไปทำอะไรกันต่อครับ?
พี่นัท: เพื่อนๆ ที่จบมาก็ทำงานในสายงานการตลาดเป็นส่วนใหญ่ค่ะ บางส่วนก็ดูแลในสายงานจัดจำหน่ายและการจัดการการผลิต และบางคนก็ทำงานด้านการสื่อสารการตลาด ตอนนี้เพื่อนๆ กระจายตัวกันทำงานในธุรกิจต่างๆ หลากหลายด้านค่ะ

พี่ยีน: พี่นัทได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไหมครับ?
พี่นัท: ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรียนต่อค่ะ อาจจะอีกสัก 1-2 ปี คงเรียนต่อ MBA (บริหารธุรกิจ) เพื่อต่อยอดจากความรู้เดิมที่เรียนมาค่ะ
 
พี่ยีน: ตอนก่อนเรียนจบกับหลังเรียนจบ สิ่งที่คาดหวังไว้ต่างกันบ้างไหม?
พี่นัท: ก็มากพอสมควรเลยค่ะ ตอนแรกที่จบมาก็คิดว่า หางานทำแล้วก็แค่นั้นเอง แต่พอทำงานจริงๆ แล้วรู้สึกว่า มันไม่ได้จบแค่ที่เราหางานและได้งานทำเท่านั้น นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้น
     เพราะในชีวิตการทำงาน ความรับผิดชอบเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุดค่ะ เราไม่สามารถจะขอเลื่อนส่งงานได้ เหมือนเลื่อนส่งรายงานวิชาต่างๆ แต่ต้องทุ่มเทและจริงจังในการทำงานมากขึ้นค่ะ ทั้งยังต้องมีความรับผิดชอบและความตั้งใจมากขึ้น
 
พี่ยีน: อยากฝากอะไรถึงน้องๆ บ้างไหมครับ?
พี่นัท: อยากให้น้องๆ ใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยให้คุ้มค่า เก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตให้มากที่สุดนะคะ ต้องพยายามตั้งใจเรียน ไม่ใช่เรียนอย่างเดียวนะคะ ถ้ามีโอกาสก็ให้ทำกิจกรรมหลายๆ ประเภท เช่น เล่นกีฬา เล่นดนตรี เข้าร่วมสโสร เป็นต้น จะทำให้น้องๆ ได้ทักษะและประสบการณ์เพิ่มขึ้น มีเพื่อนเพิ่มขึ้น และได้ฝึกฝนการทำงานทีม เป็นการฝึกการอยู่ร่วมกันในสังคม
    เพราะจริงๆ แล้ว โลกของการทำงานด้านนอกเป็นอีกด้านหนึ่งของชีวิต คือเราต้องทำงานจริงๆ ไม่เหมือนการทำงานส่งครูอาจารย์ และต้องทำงานกับคนอื่นๆ มากมาย ถ้าเราได้รับการฝึกฝนในมหาวิทยาลัยมาบ้าง จะทำให้เราปรับตัวง่ายขึ้น และในชีวิตการทำงาน ต้องพยายามรับผิดชอบงานที่รับมอบหมายให้มากที่สุดนะคะ รับรองว่าความพยายามบวกกับความรับผิดชอบ จะทำให้น้องประสบความสำเร็จแน่นอนค่ะ
 






รุ่นพี่คนที่ 3 : พี่ปอ ประกอบส่วนตัวธุรกิจเกี่ยวกับก่อสร้าง
                           และค้าปลีกวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างของครอบครัว





พี่ยีน: ช่วยแนะนำตัวให้น้องๆ รู้จักหน่อยครับ?
พี่ปอ: สวัสดีค่ะ พี่ชื่อปอ ศิริพร อึ้งพาณิชย์กุล อายุ 26 ปี
 ปัจจุบันช่วยธุรกิจก่อสร้างและค้าปลีกวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างของครอบครัวอยู่ค่ะ
 
พี่ยีน: ทำไมถึงเลือกเรียนคณะนี้ครับ?
พี่ปอ: เหตุผลที่เลือกเรียนคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาบริหารธุรกิจเอกการธนาคารและการเงิน(Finance and Banking) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะอยากนำความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจของครอบครัว พี่ปอเป็นลูกคนโตค่ะ จึงเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องเข้ามาดูแล จึงเลือกเรียนสาขานี้เพื่อจะนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาธุรกิจที่มีอยู่อีกอย่างเป็นเพราะความสนใจส่วนตัวในด้านตลาดเงินและตลาดทุน จึงคิดว่าจะนำความรู้มาใช้ในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ค่ะ
 
พี่ยีน: ระหว่างที่เรียนอยู่ในคณะนี้ ได้ทำกิจกรรมอะไรบ้างครับ?

พี่ปอ: กิจกรรมที่เข้าร่วมหลักๆ ก็ชมรมเชียร์ เพื่องานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ ตลอดเวลา 4 ปี ที่อยู่ในมหาวิทยาลัย และที่ขาดคงไม่ได้เลยก็คือ งานรับน้องของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี งานนี้พี่เองเป็นคนถูกรับในปีแรก และเริ่มเป็นคนรับน้องและแกล้งน้องๆ ในปีที่ 2 และเริ่มแกล้งน้องใหม่หนักขึ้นในปีที่ 3

พี่ยีน: พี่ปอคิดว่าคิดว่าคณะนี้ให้อะไรกับพี่ปอบ้างครับ?
พี่ปอ:
อย่างแรกเลยก็คงต้องเป็นเรื่องที่การเรียนในคณะและสาขานี้ ได้ให้ความรู้และประสบการณ์กับตัวพี่ตามที่พี่ต้องการ ทั้งยังได้มิตรภาพจากรุ่นเดียวกัน รุ่นพี่ และรวมถึงรุ่นน้อง ที่ปัจจุบัน ยังมีการติดต่อ ช่วยเหลือกันได้อยู่ตลอดเวลาอีกอย่าง เนื่องจากคณะที่พี่เรียน เป็นคณะที่เก่าแก่มาก มีนิสิตเก่าหลายรุ่นที่มีชื่อเสียง และได้ทำประโยชน์ให้สังคมมากมาย นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้พบปะผู้คนมากขึ้น และได้เป็นแรงผลักดันให้เราได้ทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคม ตามที่รุ่นพี่เหล่านี้ได้ริเริ่มเอาไว้ค่ะ

พี่ยีน: ส่วนใหญ่เพื่อนๆ ของพี่ปอที่จบมาด้วยกัน ทำอะไรกันต่อไปบ้างครับ?
พี่ปอ: ส่วนใหญ่ก็เรียนต่อปริญญาโท และหลังจากจบปริญญาโท ก็จะแยกย้ายกันไปทำงานตามสาขาที่เรียนมา เช่น ธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ บริษัทที่ปรึกษาทางด้านการเงิน ประกันภัย และอื่นๆ อย่างเช่นธุรกิจส่วนตัวค่ะ  

พี่ยีน: ชีวิตหลังเรียนจบปริญญาตรีของพี่ปอเป็นอย่างไรบ้างครับ?
พี่ปอ:
เรียนจบมาก็ทำงาน 1 ปีที่สถาบันการเงินแห่งหนึ่ง เป็นงานด้านวิเคราะห์ความเสี่ยงทางด้านการเงิน แล้วจากนั้นก็ไปเรียนต่อปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ ที่ University of London ประเทศอังกฤษ เพื่อต่อยอดความรู้ให้มากขึ้นจากปริญญาตรี และคิดว่าจะนำความรู้มาใช้ให้เป็นประโยชน์เพื่อสังคมโดยรวม ด้วยการกลับมาสอนที่มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสิ่งที่พี่หวังไว้ว่าจะได้ทำนอกเหนือจากงานธุรกิจส่วนตัวค่ะ 

        พอจบปริญญาโทมาแล้ว ก็มาทำงานกับธุรกิจของครอบครัว ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจก่อสร้างและค้าปลีกวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ส่วนใหญ่จะรับผิดชอบงานด้านการขายและบัญชีค่ะ และในอนาคต คาดว่าจะขยายกิจการไปในส่วนที่ยังไม่เคยทำ เช่น ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และปรับปรุงภาพลักษณ์โดยรวมของกิจการค่ะ

พี่ยีน: ก่อนเรียนจบกับหลังเรียนจบ สิ่งที่คาดหวังไว้ต่างกันบ้างไหมครับ?
พี่ปอ:
การเรียนในคณะและสาขานี้ ให้ความรู้และประสบการณ์กับตัวพี่ตามที่ต้องการเลยค่ะ แต่ก็มีบางอย่างที่ต่างออกไป แต่ต่างแบบด้านดี ก็คือ ได้มิตรภาพดีๆ จากเพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆ ค่ะ

พี่ยีน:  อยากฝากอะไรเพิ่มเติมกับน้องๆ บ้างไหมครับพี่ปอ?
พี่ปอ: โดยส่วนตัวพี่คิดว่าการทำงานประมาณ 1-2 ปี หลังจากที่เราเรียนจบปริญญาตรีมานั้น น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ก่อนที่จะตัดสินใจไปศึกษาต่อ เพราะได้ช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้ตัวเรามากขึ้น และจะช่วยให้เราได้ประโยชน์จากการไปศึกษาต่อมากขึ้นด้วย การศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและสูงกว่า เป็นสิ่งที่พี่คิดว่าจำเป็นในปัจจุบัน เพราะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ตัวเราเอง ทั้งในด้านการงานและด้านอื่นๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุด พี่คิดว่าเป็นเรื่องของการตั้งใจทำงานมากกว่า ใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่ได้จากการเรียน มาใช้ในการทำงานและช่วยเหลือสังคมเท่าที่เราจะทำได้
   
 
         
         เป็นอย่างไรบ้างครับกับประสบการณ์อันโชกโชนของพี่ๆ ทั้งสอง คงทำให้น้องๆ มองเห็นลู่ทางการทำงานหลังเรียนจบคณะนี้ไปไม่น้อยใช่ไหมครับ
สำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับคณะบริหารธุรกิจ ก็ส่งอีเมลมาถามพี่ยีนได้ครับที่ gin@dek-d.com คำตอบสำหรับทุกคำถามจะถูกรวบรวมไว้ในบทความครั้งต่อไปกับ "ที่ตรงนี้มีคำตอบ" นะครับ คอยติดตามกันได้เลยครับ...

 

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

13 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
seria 24 มี.ค. 52 17:28 น. 2
ขอบคุณค่ะ

เป็นหัวข้อที่ดีมากๆ

แล้วยิ่งสำหรับที่ใครยังนึกไม่ออกว่าจะเรียนไปทางไหน

ฟังจากพี่ๆที่จบไปแล้วมาเล่าสู่กันฟัง

ทำให้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของการเลือกคณะได้เลยค่ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Keyword_007 Member 27 พ.ค. 52 15:11 น. 6

แม่บอกว่าถ้อยากเรียนบริหารให้ต่อเป็นป.โทแทน  ป.ตรีให้มุ่งเรียนไปทางใดทางหนึ่งก่อน  ToT

แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าอยากเรียนอะไร  ม.ปลายแล้วด้วย

0
กำลังโหลด
เครียดโว๊ย 26 มิ.ย. 52 18:41 น. 7
ทำไมมีแต่สาขาการตลาดกับการเงินอะ
แล้วสาขาการจัดการไม่มีเหรอคะ
จะหางานได้ยากเหรอคะ กังวลอะ
ปีนี้ม.6 แล้วด้วย
0
กำลังโหลด
PR_MBA_MUIC 2 ก.ค. 52 15:40 น. 8
เปิดรับสมัครนศ. ป. โท MBA

วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการวิเคราะห์และสร้างตัวแบบธุรกิจ ( หลักสูตรนานาชาติ ) ซึ่งเป็นหลักสูตรเดียวในเอเชีย เปิดรับสมัครออนไลน์ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2552 และสามารถส่งหลักฐานการสมัครได้ที่ 175 ชั้น 12
อาคารสาทรซิตี้ทาวเวอร์ ถนนสาทรใต้ ทุ่งมหาเมฆ กรุงเทพฯ 10120
หรือสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 0-2679-5053-5 หรือ www.muic.mahidol.ac.th /mba

หลักฐานในการสมัคร
1. สำเนาทะเบียนบ้าน 2 ชุด
2. สำเนาบัตรประชาชน 2 ชุด
3. Transcript 2 ชุด
4. ใบปริญญาบัตร 2 ชุด
5. จดหมายรับรอง จากหัวหน้า / จากมหาวิทยาลัย จำนวน 2 ฉบับ ( 1 คน / 1 ฉบับ )
6. รูปถ่าย 2 นิ้ว 4 ใบ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด