|
|
สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... คณะในฝันเดือนนี้ก็เข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 สำหรับคณะเภสัชศาสตร์ วันนี้ พี่เป้ ขออาสาพาน้องๆ มาพูดคุยกับรุ่นพี่ที่จบจากรั้วเภสัชศาสตร์ ไม่พูดพร่ำทำเพลงมาก เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าตอนนี้พี่ๆ เค้าใช้ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัยกันยังไงบ้าง
|
|
|
|
|
รุ่นพี่คนที่1 : จุฑาทิพย์ เชาว์กิจดี (พี่แก้ว) เภสัชกรร้านยา ธุรกิจส่วนตัว
|
|
พี่เป้: ช่วยแนะนำตัวให้น้องๆ รู้จักหน่อยค่ะ?
|
พี่แก้ว: สวัสดีค่ะ ชื่อพี่แก้ว เภสัชกรหญิงจุฑาทิพย์ เชาว์กิจดี จบจากคณะเภสัชศาสตร์ ม. รังสิต ตอนพี่เรียนไม่มีสาขาแบ่ง ใช้เวลาเรียน 5 ปี แต่ตอนนี้รู้สึกจะเริ่มเปลี่ยนเป็น 6 ปีแล้ว
|
|
พี่เป้: ทำไมตอนนั้นถึงอยากเรียนคณะเภสัชศาสตร์คะ
|
พี่แก้ว: ที่บ้านมีกิจการร้านขายยาค่ะ เลยอยากเรียนเพื่อมาช่วยงานที่บ้าน
|
|
พี่เป้: พอเข้าไปเรียนจริงๆ แตกต่างจากที่คิดมั้ย?
|
พี่แก้ว: ยากกว่าที่คิดเยอะ คือทั้งแล็บทั้งอ่านหนังสือ หนักมากๆ
|
|
พี่เป้: คิดว่าคนที่จะเรียนคณะนี้ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?
|
พี่แก้ว: ก็ต้องใจรัก แล้วก็ขยัน ต้องอ่านหนังสือเยอะๆ เพราะว่ามัน เป็นวิชาที่ท่องจำเยอะ
|
พี่เป้: เมื่อจบมาแล้วได้ยินว่าต้องสอบใบประกอบวิชาชีพ เนื้อหาข้อสอบเป็นยังไงบ้างคะ
|
พี่แก้ว: มันจะรวมทุกวิชาที่เราเรียนมาตั้งแต่ปี1 มารวมกัน แล้วมีแบ่งย่อยเป็นหัวเรื่องๆ ไปอีก พี่จบหลายปีแล้ว ไม่รู้ว่าข้อสอบตอนนั้นกับตอนนี้เหมือนกันมั้ย
|
|
พี่เป้: แล้วเพื่อนคนอื่นๆ ทำงานอะไรบ้างคะ?
|
พี่แก้ว: เยอะแยะเลย เช่น ผู้แทนยา เภสัชกรในโรงพยาบาล หรือไปอยู่ในโรงงานก็ได้
|
|
|
|
|
|
|
|
พี่เป้: คิดว่าอาชีพเภสัชกรมีความยากง่ายยังไงบ้างคะ
|
พี่แก้ว: ความยากคือต้องอ่านหนังสือเยอะๆ เพราะรายละเอียด ยามันเยอะมาก และต้องรู้หลายอย่างเลยทีเดียว
|
|
พี่เป้: ปัญหาที่พบสำหรับอาชีพเภสัชกรคือ
|
พี่แก้ว: ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเท่าไหร่ ส่วนมากจะเป็น การคุยกับลูกค้าให้เค้าเข้าใจว่าเราต้องการสื่ออะไร ให้เค้าไปปฎิบัติได้
|
|
พี่เป้: สุดท้ายนี้อยากให้ฝากถึงน้องๆ ที่อยากเข้าคณะนี้หน่อยค่ะ
|
พี่แก้ว: คิดก่อนว่าเราใจรักจริงๆ มั้ย เพราะบางคนจบมาไม่ชอบ แล้วเสียเวลาไป 5 ปี ถ้าใจรักก็เรียนเลยค่ะ
|
|
|
|
|
รุ่นพี่คนที่ 2 : อุบลวรรณ เติมสารทรัพย์ (พี่ออย) นักศึกษาปริญญาโท Seoul National University ประเทศเกาหลีใต้
|
|
พี่เป้: ช่วยแนะนำตัวแก่น้องๆ หน่อยค่ะ?
|
พี่ออย: ชื่อ อุบลวรรณ เติมสารทรัพย์ (ออย) เรียนจบป.ตรีจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะเภสัชศาสตร์ สาขาบริบาลทางเภสัชกรรม (แยกสาขาเรียนตอนปี 5)
|
|
พี่เป้: ทำไมตอนนั้นพี่ออยถึงเลือกเรียนคณะเภสัชศาสตร์คะ?
|
พี่ออย: ตอนนั้นอยากเรียนหลายคณะอยู่ทั้งแพทย์ วิศวะ สถาปัตย์ ไม่เคยคิดว่าจะเลือกเภสัชเลย แต่ที่บ้านอยากให้เรียนก็เลยเลือก เห็นว่ามันก็ดูไม่ยากเท่าไหร่ เริ่มเรียนแรกๆ ก็คิดว่าไม่น่าเลือกมาเลย มีแต่วิชาท่องจำ เพราะตัวเองถนัดวิชาคำนวณ แต่เรียนก็มีบางวิชาที่ใช้การคำนวณเหมือนกัน เลยไม่แย่ไปเลยทีเดียว แต่ตอนนี้เรียนจบแล้วก็คิดว่าเราเรียนเภสัชมาก็ดีนะ ได้เรียนเกี่ยวกับสุขภาพ รักษาโรค มาใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย สนุกกับการฝึกงานที่รพ. ได้เจอทั้งหมอ คนไข้หลายๆ อย่างที่ถ้าไม่ได้เรียนก็จะไม่ได้สัมผัสกับคนเหล่านั้น แล้วก็รู้สึกดีเวลาที่คนรู้จักชอบมาถามเราเกี่ยวกับยา จะใช้ยาอะไรดี ยานี้ใช้อย่างไร มีผลข้างเคียงอะไรมั๊ย ข้อควรระวัง การดูแลสุขภาพ แล้วเราให้คำตอบกับเค้าได้ เหมือนเราได้ดูแลคนรอบตัวเราไปด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในเวลางาน 555
|
|
พี่เป้: ปี 1-5 ปีไหนคิดว่าหนักที่สุด?
|
พี่ออย: เค้าว่ากันว่าปี 3 หนักสุด แต่พี่ว่าปี 3 กะ 4 น่าจะหนักพอๆ กัน เพราะเริ่มเรียนเนื้อหาที่เฉพาะมาทางด้านเภสัชโดยตรง เช่น เกี่ยวกับการปรุงยา เรื่องโรคและยา กลไกการออกฤทธิ์ของยา พืชสมุนไพร เป็นต้น แล้วก็เรียนเยอะด้วย มีทำแลบ ไม่มีเรียนวิชาพื้นฐานทั่วไป แล้วก็วิชาเลือกเหมือนปี 1 - 2
|
|
|
|
|
|
|
|
พี่เป้: ได้ยินว่าตอนนี้กำลังเรียนปริญญาโทอยู่ ว่าแต่เรียนที่ไหนเหรอคะ?
|
พี่ออย: ตอนนี้เรียนป.โท เภสัชศาสตร์ สาขาเภสัชศาสตร์ ม.โซล (Seoul National University) ประเทศเกาหลีใต้ค่ะ
|
|
พี่เป้: ทำไมถึงเลือกไปเรียนต่อที่เกาหลีใต้ล่ะคะ
|
พี่ออย: สาเหตุที่เลือกเรียนต่อที่นี่ เนื่องจากที่เกาหลีมีการพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างเห็นได้ชัด สนับสนุนทางด้านการทำวิจัยเป็นอย่างมาก และมีการให้ทุนแก่นักเรียนต่างชาติมาเรียนต่อเยอะ ก็เลยสมัครทุนของทางมหาลัย แล้วก็ได้มีโอกาสได้รับทุนนั้นมา
|
|
พี่เป้: แล้วการเรียนเภสัชของที่นั่น เหมือนหรือต่างจากที่เคยเรียนที่ไทย
|
พี่ออย: การเรียนของป.โทจะแตกต่างจากที่เรียนป.ตรีมาอยู่แล้ว ที่ไทยอาจจะสบายๆ หน่อย แต่ที่เกาหลีเค้าจะถือว่าเป็นวัฒนธรรมในการเรียนของเค้าเลยคือ จะต้องเข้ามาอยู่ในแล็บทั้งวัน คล้ายการเข้ามาเรียนรู้ด้วยตนเอง เรียนรู้งานจากรุ่นพี่หรือช่วยรุ่นพี่ทำงาน แล้วก็เริ่มทำงานวิจัยของเรา ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำๆ เรียกได้ว่าแล็บเป็นบ้านไปเลยทีเดียว และก็ที่นี่นักเรียนจะให้ความสำคัญกับการทำวิจัยมากๆ มากกว่าการเรียนในห้องเรียน อาจเป็นเพราะว่าเภสัชที่เกาหลีจะเน้นการพัฒนาและการวิจัยยามากกว่าการเป็นเภสัชในโรงพยาบาล
|
|
|
พี่เป้: แล้วหลังจากเรียนจบปริญญาโท อนาคตอยากทำงานอะไรคะ
|
พี่ออย: อนาคตอยากลองทำงานหลายๆ ด้าน ทั้งทางด้านเภสัชเอง แล้วก็ด้านอื่นๆ ด้วย และก็เปิดร้านขายยาเป็นของตัวเอง
|
|
พี่เป้: อยากให้ช่วยฝากถึงน้องๆ ที่อยากเข้าคณะนี้
|
พี่ออย: ตอนนี้คณะเภสัชจะเรียน 6 ปีแล้วก็เลือกสาขาเรียนตั้งแต่ตอนแอดมิชชั่นเข้ามาเลย จะเลือกสาขาอะไรก็ต้องดูความชอบและความถนัดของเราด้วย จริงๆ ก็เป็นเรื่องยากที่จะให้มาเลือกสิ่งที่เราอยากเป็นหรืออยากทำตอนนี้ทั้งๆ ที่เราไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรซักเท่าไหร่ เพิ่งจะอยู่แค่ม.6 เอง แต่น้องสามารถถามจากรุ่นพี่ๆ หรือหาข้อมูลรายละเอียดได้จากเวบไซต์ต่างๆ ของเพียงเราตั้งใจจริง และทำในสิ่งที่เราชอบหรือต้องการมัน เราก็จะพร้อมที่จะทุ่มเทกับมันและสามารถทำให้ให้มันสำเร็จได้ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้น้องๆที่อยกาเข้าคณะเภสัชด้วย ส่วนน้องๆห ลายคนจะคิดว่าถ้าเรียน 6 ปีก็เท่ากับแพทย์เลย งั้นเข้าคณะแพทย์ไปเลยไม่ดีกว่าหรอ จริงๆ แล้วงานทางด้านเภสัช นอกจากจะสามารถเป็นเภสัชกรในรพ.หรือร้านยาแล้ว ยังมีงานด้านเภสัชนี้มีให้เลือกหลายหลายที่น่าสนใจ เช่น เป็นเภสัชกรในโรงงานในด้านพัฒนาสูตร ตรวจสอบคุณภาพทั้งยา เครื่องสำอางค์ และผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ เป็นนักวิจัย เป็นตัวแทนให้ข้อมูลยาและขายยา เป็นต้น ซึ่งบทบาทของเภสัชกรก็มีความสำคัญไปไม่น้อยกว่าสาขาอื่นๆ เลยทีเดียวค่ะ
|
|
|
|
|
รุ่นพี่คนที่ 3 : ปุญญานี เวชชาภินันท์ (พี่ปุญ) ผู้แทนยา บริษัท NOVARTIS
|
|
|
|
พี่เป้: แนะนำตัวแก่น้องๆ หน่อยค่ะ? พี่ปุญ: ชื่อปุญญานี เวชชาภินันท์ ชื่อเล่นปุญค่ะ จบมัธยมที่สาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร แล้วก็ต่อที่เภสัช ศิลปากรเหมือนเดิม จบมา2ปีแล้ว
พี่เป้: อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้อยากเรียนคณะนี้คะ? พี่ปุญ: ตอบจริงๆ เลยว่าตอนเเรกไม่ได้อยากเรียนเภสัชเลย แต่ที่บ้านอยากให้เรียนเพราะเป็นร้านขายยา เราก็เลยตามใจที่บ้านเพราะไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษเลย ตอนสอบก็วิชาของสายวิทย์ปกติค่ะ แต่แอบบอกว่าติดได้เพราะ ไทย สังคม แหละ
พี่เป้: บรรยากาศการเรียนของที่ศิลปากรเป็นยังไงบ้าง? พี่ปุญ: เภสัช ศิลปากรจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองนะ พี่ที่ทำงานเคยบอกว่า เดินมาเนี่ย รู้เลยคนไหนศิลปากร งงเหมือนกันไม่รู้ทำไม เรื่องเรียนก็หนักเหมือนกัน ปี 1 เรียนรวมกับคณะวิทย์ เข้าคณะเต็มตัวก็เหมือนจะเป็นปี 2 เทอม 2 แน่ะ ไม่เครียดมากเท่าไหร่ มีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำเรื่อยๆ เป็น 5 ปีที่เหนื่อยแต่มีความสุขสุดๆ ปีท้ายๆ จะมีงานจะเยอะมากทำกันแทบไม่ทัน ปี4-5จะมีวิชาเลือกให้เลือกว่าอยากเรียนแนวไหน เราเลือกเรียน Pharmaco กับการตลาดยา เพราะอยากทำงานผู้แทนยาสุดๆ
|
|
|
|
|
พี่เป้: ตอนนี้ทำงานอะไรอยู่เหรอคะ? พี่ปุญ: Meadical sales represantative หรือผู้แทนยาที่บริษัท NOVARTIS
พี่เป้: เนื้องานที่ต้องรับผิดชอบมีอะไรบ้าง? พี่ปุญ: ง่ายๆ คือขายยานั่นเอง แต่เราต้องขายอย่างมีความรู้ ผู้แทนแต่ละคนจะมียาที่รับผิดชอบขายและมียอดขายที่บริษัทตั้งให้ ต้องรู้รายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับยาของเราและอัพเดทข้อมูลใหม่ๆ ให้กับแพทย์ตลอด ม้นไม่ใช่แค่ขายแต่ต้องทำให้สุดท้ายแล้วคนไข้ต้องได้รับประโยชน์จากยามากที่สุด ปลอดภัยที่สุด เหมือนเป็นบัดดี้ของหมอในเรื่องของยานั่นเอง
พี่เป้: จุดยากจุดง่ายของงานนี้คืออะไร? พี่ปุญ: การสื่อสารสำคัญมากสำหรับผู้แทนยา ตัวเราเป็นแบบนึงแต่ต้องสื่อสารกับแพทย์หลากหลายแบบ มันไม่ง่ายเลยที่จะคุยเข้าได้ดีกับทุกคน อีกอย่างนึงยาทุกตัวมีข้อดีข้อเสียต่างกัน การทำงานต้องซื่อสัตย์ไม่ใช่บอกแต่ข้อดีของยา เพราะชีวิตคนซ่อมไม่ได้ งานเหนื่อย เครียดพอสมควรแต่รับรองได้ว่าถ้าทำผู้แทนรอดแล้วออกไปทำงานอื่นได้หมด (อยากรู้ทำไมหาคำตอบเองนะคะ....)
พี่เป้: สุดท้ายนี้อยากให้ฝากถึงน้องๆ ที่อยากเข้าคณะนี้หน่อยค่ะ? พี่ปุญ: ต้องตั้งใจพอสมควรเลยนะ สิ่งที่สำคัญมากๆ คือความรับผิดชอบ อย่าลืมว่าสิ่งที่เราเรียนมันเกี่ยวกับชีวิตคน เภสัชกรเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่สำคัญไม่ด้อยกว่าใคร แต่ก็ไม่ต้องถึงกับเรียนอย่างเดียว ทำกิจกรรมด้วยเดี๋ยวเครียดตาย สุดท้ายพี่ๆ ศิลปากรทุกคนยินดีต้อนรับน้องๆ ที่อยากเข้าเรียนที่นี่ทุกคนนะคะ สู้สู้ค่ะ |
|
|
|
|
|
|
น้องๆ ที่สนใจเรียนคณะนี้ก็อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อม เพราะพี่แต่ละคนอ่านหนังสือและฟิตกันมากๆ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ อย่ารอช้า รีบขยันอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบกันตั้งแต่บัดนี้ อนาคตเภสัชกรไม่หนีไปไหนแน่ๆ....ฟันเฟิร์ม
|
|
|
|
50 ความคิดเห็น
อ่า ~
อยากเรียนๆ เภสัชนะ แต่ ฟิสิกส์ไม่ค่อยจะแข็งแรง มันจะรอดมั้ยเนี่ย = =
มันคงต้องใช้ฟิสิกส์ด้วย ใช่รึป่าว ๕๕ ๕+ เคมีนี่ก็คงต้องใช้อยู่แล้วแหละเนอะ - -''
ต้องตั้งใจกว่าเดิมแล้วแฮะ แบบนี้ TT
^
ฟิสิกส์ใช้น้อย(มั้ง)
นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่เลือกเภสัชไว้ในใจ = = not ฟิสิกส์ โฮะๆๆๆๆ =o=
พยายามให้เต็มที่
พี่ก็ชอบแค่ชีวะ เคมีกะฟิสิกพี่ก็ไม่ค่อยถนัด
ปี1น้องจะได้เรีรยนวิชาวิทย์พื้นฐานทั้งหมด
ทุกอย่างจะเหมือนเริ่มต้นเท่ากันหมด
ขึ้นอยู่กับความขยัน อดทน
เอ็นทรานซ์เข้ามาอะแค่เริ่มต้น
สู้ๆต่อไปนะน้อง พี่ๆทุกคนรอต้อบรับน้องอยู่ค่ะ
แล้วเจอกันจ้า
สู้ๆน่ะจ๊ะ สัมภาษไม่ยากหรอก ทำตัวตามสบายย ชิวๆ ^^
แล้วมาเป็นรุ่นน้องพี่ให้ได้น้า
แล้วเจอก่านน^^
^^ พี่ปุญเค้าจบมาสองปี แต่เราเพิ่งปีสอง
สู้ๆนะ
แล้วมาเปงรุ่นน้องของพี่ให้ได้ SU!!
^^
แต่คงยากน่าดู
คนส่วนใหญ่ถ้าไม่ติดหมอก็เลือกเภสัช ไม่ติดทันตะก็เลือกเภสัช บ้างก็บอกว่าคะแนนไม่ถึงหมอเลยเลือกเรียนเภสัช
คือเราอยากรู้ว่ามีใครคิดถึงเภสัชอันดับ 1 บ้างมั้ย หรือไม่ก็คนที่อยากเป็นเภสัชจริงๆ ไม่ใช่เป็นคณะที่สำรองจากแพทย์ หรือคณะอื่นๆ
อย่างน้อยเราก็คนนึงล่ะที่อยากเข้าเภสัช!!
ตอนเอ็นท์โควต้า มช เราเลือกเภสัช 6 ปีอันดับ 1 เภสัช 5 ปีเปนอันดับสอง
เลยติดเภสัช 6 ปีที่มช แต่คะแนนเราก้อถึงหมอนะ แต่ไม่เอาอะอยากเรียนเภสัช
ตอนนี้อยู่ปี สอง แล้วจ้า