รุ่นพี่ คนที่ 1 สกุลเพ็ญ จันทรโสตถิ์ (พี่เอย) หลักสูตรพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลเกื้อการุณย์ ชั้นปีที่ 4 พี่เป้ : ก่อนอื่นช่วยแนะนำตัวแก่น้องๆ ด้วยค่ะ พี่เอย : สวัสดีค่ะ ชื่อสกุลเพ็ญ จันทรโสตถิ์ค่ะ หรือเรียกสั้นๆ ว่า พี่เอยค่ะ ตอนนี้กำลังศึกษาระดับชั้นปี 4 หลักสูตรพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลเกื้อการุณย์ค่ะ แต่ทำไม๊(เสียงสูง) คนอื่นชอบเข้าใจว่าพวกเราเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิระพยาบาล...เหอๆ แต่เดิมก็คือวชิระนั่นแหละค่ะ ขอเรียกอย่างย่อว่าเกื้อฯ แล้วกันนะคะ คือเกื้อฯ เนี่ยเดิมเป็นอีกหนึ่งสถาบันสมทบของมหิดลค่ะ แต่สังกัดสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร
พี่เป้ :ทำไมถึงเลือกเรียนพยาบาลล่ะคะ พี่เอย : เพราะพี่เอยเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ค่ะ ..ก๊ากกกก (เน่าได้อีก) มีที่มาค่ะตอนพี่เอยอายุ 9 ขวบ คุณแม่ตั้งครรภ์ดำเนินมาจนถึง 36 weeks และอยากจะคลอดเต็มที วันนั้นนอนเป็นเพื่อนแม่ค่ะ แม่ปลุกพี่เอยกลางดึก ( 23.40 น.) แต่นานมากกว่าจะตื่น จนกระทั่งมีน้ำอะไรไม่รู้เปื้อนตามเตียง และแม่ก็บอกว่ารู้สึกเกร็งหน้าท้อง สงสัยน้องอยากจะเกิด พี่เอยตกใจมากทำไรไม่ถูก พอนำแม่มาถึงโรงพยาบาล (พี่ช่วยเวรเปลเข็นเตียงแม่ด้วยแหละ ...^.^ภูมิใจ)
ผ่านไปหลายชั่วโมงน้องคลอดออกมาปลอดภัย พยาบาลก็ช่วยดูแลแม่และน้องอย่างดี ( ตรงนี้แหละที่ประทับใจมาก )แต่ที่ไม่คาดคิดคือ คุณแม่เสียเลือดมากเพราะนานถึง 40 นาทีแล้วแต่รกยังไม่คลอด พยาบาลจึงตามหมอมาช่วยล้วง สถานการณ์ตอนนั้นตึงเครียดมากค่ะ แต่มีพยาบาลสุดสวยมาช่วยปลอบใจ และแจ้งข้อมูลและความเป็นไปอย่างละเอียด ทำให้พวกเรารู้สึกดีขึ้นค่ะ และแล้วแม่ก็ปลอดภัย พี่ก็เลยฝันไว้ว่าโตขึ้นจะเป็นพยาบาลให้ได้
พี่เป้ : แล้วสอบเข้ามาเรียนคณะพยาบาลด้วยวิธีใดคะ พี่เอย : สอบเข้ามาเรียนด้วยระบบ Admission ตรงค่ะ โดยส่งหลักฐานสมัครสอบรอบตรง แล้วยื่นคะแนน O-net & A-net พอผ่านแล้วก็สอบสัมภาษณ์ ตรวจร่างกาย น้องๆที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของสถาบันที่ http://www.kcn.ac.th
พี่เป้ : พอเข้ามาเรียนจริงๆ แตกต่างจากที่คิดไว้ตอนแรกมั้ยคะ พี่เอย : แตกต่างมากเลยค่ะ ตอนแรกไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องอดหลับอดนอนขนาดนี้ (เหอๆ... เป็นเรื่องที่กลุ้มใจที่สุด ) และต้องมีการปรับตัวมากกว่าที่คิดไว้เยอะ
สำหรับกฎระเบียบของสถาบันและระบบการอยู่ในสังคมที่นี่ พี่ต้องใส่กระโปรงคลุมเข่า เสื้อตัวใหญ่แขนไม่สั้นมาก รองเท้าคัชชูขาวถุงเท้าขาว ผมรวบตึงเหนือท้ายทอยหนึ่งฝ่ามือด้วยโบว์สีขาว ติดกิ๊บดำเอาผมหน้าขึ้น เข้าหอไม่เกิน 2 ทุ่ม แถมระบบ Seniority (ระบบพี่กับน้องค่ะ)แรงมาก (เหอๆ อย่าพึ่งถอดใจนะคะ ) แต่ทุกสิ่งทุกอย่างพอมาถึงบัดนี้แล้ว ทำให้เราเป็นคนมีระเบียบวินัย ตรงต่อเวลา รู้จักจัดการและวางแผนกับชีวิตของตนเองในแต่ละวัน และเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน มีกิริยามารยาทเรียบร้อย มีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เราซึ่งจะเป็นพยาบาลในอนาคตจะได้มีความสุขกับการทำงานและทำหน้าที่ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อการบรรเทาทุกข์แก่ผู้อื่นเป็นสุขอย่างยิ่งของพวกเราค่ะ
รูปจากคณะพยาบาลศาสตร์ ม.เชียงใหม่
พี่เป้ : แล้วได้ทำกิจกรรมอะไรในคณะบ้างคะ พี่เอย : เป็นประธานองค์การนักศึกษาค่ะ ดูแลเกี่ยวกับกิจการหรือกิจกรรมของนักศึกษาในสถาบันค่ะ อย่างเช่นกิจกรรมของนักศึกษาที่จัดขึ้นทุกเดือน, กิจกรรมที่จัดเป็นประเพณี (จีบน้อง รับน้อง ปีใหม่ สงกรานต์ ลอยกระทง กีฬาสถาบัน ฯลฯ) ,ค่ายอาสา, โครงการช่วยเหลือสังคมต่างๆ, รวมถึงกิจกรรมชองชมรม กิจการการหารายได้อื่นๆ ค่ะ การจัดกิจกรรมของนักศึกษาทุกครั้งจะต้องมีการประชุมหารือค่ะ ที่ผ่านมามีทั้งความสนุก ภูมิใจ เหนื่อย และท้อแท้ค่ะ
พี่เป้ : สุดท้าย อยากให้ฝากข้อคิดหรือกำลังใจแก่น้องๆ หน่อยค่ะ พี่เอย : แฮ่ ๆ ...ขอฝากกำลังใจให้น้องๆ ที่ตั้งมั่นว่าจะเลือกเรียนพยาบาลนะคะ แล้วสำรวจใจและความต้องการของตัวเองให้ดีค่ะ ก็จงมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึง เรียนจบเป็นพยาบาลอย่างที่ตั้งใจไว้ สำหรับวิชาชีพพยาบาลนี้ถือเป็นอีกอาชีพที่มั่นคง เป็นงานด้านการบริการสุขภาพค่ะ นอกจากจะทำงานเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ยังเป็นการสั่งสมบุญไปในตัวนะคะ เพราะเรามีส่วนอย่างยิ่งในการช่วยเหลือผู้อื่นและสังคม และยังเป็นพื้นฐานที่จะนำไปสู่ความสำเร็จด้านอื่นๆ อีกด้วยน้องๆ อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองนะคะ จะได้มีกำลังใจและกำลังกายที่แข็งแรง ก้าวต่อไปได้อย่างมั่นใจ..... จ๊วฟๆ |
พี่เป้ : แล้วตั้งแต่เรียนมา เอยชอบเรียนวิชาอะไรบ้างคะ พี่เอย : พี่เอยชอบวิชาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวชศาสตร์ค่ะ เพราะพี่คิดว่าวิชาจิตเวชเป็นการศึกษาที่แตกต่างจากการเรียนวิชาอื่นๆ คือเน้นด้านจิตใจเป็นสำคัญ และจิตใจนี่เองมีส่วนให้เกิดความไม่สมดุลทางกายด้วย อีกอย่างที่ชอบวิชานี้เพราะมีอยู่ช่วงนึงพี่ไปฝึกภาคปฏิบัติที่โรงพยาบาลศรีธัญญา ได้คลุกคลีอยู่กับผู้ป่วยที่นั่นและทำให้พี่รู้สึกว่า พวกเค้าเพียงแค่ป่วยจิต แต่ยังมีความสามารถ มีคุณค่า ไม่ต่างจากคนปกติเลย หากเราช่วยให้เค้าดีขึ้นหรือหายขาด (อยากให้เป็นอย่างนั้น) ให้เค้าสามารถปรับตัวอย่างเหมาะสมเมื่อกลับไปสู่สังคม เค้าก็จะไม่เป็นภาระ หรือปัญหาของสังคม
พี่เป้ :แล้วบรรยากาศที่เกื้อการุณย์เป็นยังไงบ้างคะ พี่เอย : เกื้อฯ เป็นพื้นที่เล็กๆ ริมแม่น้ำเจ้าพะยาแต่ไม่แออัด ค่อนข้างร่มรื่น หอพักใกล้ที่เรียน(ภาคทฤษฎี) ค่ะ บรรยากาศการเรียนไม่เครียดมากค่ะ อาจารย์ที่มาสอนมีทั้งอาจารย์ประจำของสถาบันและอาจารย์แพทย์จากที่อื่นซึ่งล้วนแต่บรมจารย์เก่งกล้าวิชาทั้งนั้นค่ะ แต่ละท่านมีเทคนิคการถ่ายทอดวิทยายุทธให้เราไม่ซ้ำแบบ ทำให้นักศึกษาเรียนไปหัวเราะไป สนุกสนานค่ะ เราเรียนแบบเพื่อนช่วยพื่อน พี่ช่วยน้องค่ะ ที่โดดเด่นคือ อยู่เกื้อฯ สบายปลอดภัยพ่อแม่เราหายห่วงค่ะ
ส่วนการเรียนภาคทฤษฏีเราจะฝึกปฏิบัติที่Ward( หอผู้ป่วย) ตามโรงพยาบาลต่างๆ ของกรุงเทพมหานครค่ะ แต่และกลุ่มจะมีอาจารย์คอยดูแล และเราเองก็ต้องเรียนรู้จากพี่ๆ บน ward จากผู้ป่วยและญาติด้วยค่ะ
พี่เป้ : ส่วนตัวคิดว่าคุณสมบัติของคนที่จะเรียนพยาบาลควรมีอะไรบ้างคะ พี่เอย : น้องๆ ต้องมีใจรักและศรัทธาในวิชาชีพค่ะ มีอัธยาศัยและสัมพันธภาพที่ดี ทั้งสัมพันธภาพทางสังคม ( social relationship) และสัมพันธภาพเชิงวิชาชีพ (professional relationship) ซึ่งพัฒนาได้เรื่อยๆ ค่ะ มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในวิชาชีพพยาบาล และที่ขาดไม่ได้ คือเป็นคนซื่อสัตย์ อดทน มานะบากบั่น ศึกษาหาความรู้ตลอดเวลาด้วยค่ะ แต่ถึงอย่างไรก็ตามพี่เชื่อว่าทุกคนสามารถที่จะเรียนได้แหละค่ะ มันขึ้นอยู่ที่ตัวเราทั้งนั้น สู้ๆนะคะ
|
89 ความคิดเห็น
แต่ดันติดตั้งแต่รับตรงเเล้ว
555+
ความรู้ตอนนี้ใส่ไหคืนครูหมดเเย้ว
อิอิ แอบภูมิใจในวิชาชีพนะเนี่ย
อยากถามรุ่นพี่คนที่ 1 คับ
ว่าเกื้อเรียนเปนเทอมหรือเปนปีคับ
แล้วมีเวลาหยุดช่วงไหนมั่ง
ปิดเทอมรึป่าว
(กำลังจะไปเรียนแล้ว 31 นี้ ยังม่ายพ้อมเลย 555)
หุ หุ ๆๆ
เพราะน้องจะได้เรียนทุนกรุงเทพทุกคนและได้บรรจุรับราชการ
ในสังกัดสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานครเมื่อจบไป
เราเรียน3 เทอมจร้า ก็มีหยุด ปกติ
แต่จะมีเรียนชัมเมอร์
ขอบอกว่าที่นี้เรียนและขึ้นวอดหนักมากๆค่ะ
"ฮยอกแจ" เอาใจช่วย
อีก 2ปีเท่านั้น YY
อ้าวๆๆ
แล้วผู้ชายเกื้อหละคับ
ทามงัยดี
หัวไม่ไปทางนี้แต่ก็โอเคนะ(?)
ก็แอบเห็นใจคนที่นอนดึกๆเหมือนกัน
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
น่านรักเด็กพี่ส้มๆๆๆๆๆ