คณะรัฐศาสตร์
ภาคความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ตอนที่ 3/3 : ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัย (นักการทูต)

             สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ..... มาแล้วๆๆๆ เจอกับ พี่เป้ และคณะในฝันกันอีกเช่นเคย สำหรับสัปดาห์นี้เรายังอยู่กันที่ "คณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ" ^^ อย่างที่สัญญาเอาไว้ค่ะว่าสัปดาห์นี้ พี่เป้ จะกลับมาพร้อมกับรุ่นพี่คนเก่งทีปัจจุบันทำงานเป็นนักการทูตของกระทรวงต่างประเทศ .... อาชีพในฝันที่จัดได้ว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติและน่าภาคภูมิใจมากๆ  ดังนั้น ใครอยากเป็นนักการทูต ต้องอ่าน !!


ก่อนอื่นอยากให้แนะนะตัวเองกับน้องๆ หน่อยค่ะ

สวัสดีค่ะ พี่ตาลนะคะ อรวิจิตร์ ชูเพชร พี่เรียนจบจากคณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (International Relations: IR) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี 2552 ค่ะ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ ตำแหน่งนักการทูตปฏิบัติการ กองวัฒนธรรมสัมพันธ์ กรมสารนิเทศค่ะ


อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้เลือกเรียนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเหรอคะ

ที่จริงแล้ว ตั้งแต่เด็กก็ฝันเป็นหลายอย่างนะคะ ไม่ว่าจะเป็นคุณหมอ คุณครู ซึ่งเป็นอาชีพใฝ่ฝันของเด็กๆ ทุกคน แต่พอโตขึ้น ก็เริ่มทราบว่าชอบเรียนทางด้านภาษาและสังคมศาสตร์และก็ค่อนข้างมีความถนัดในวิชาด้านนี้ ซึ่งตอนเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาก็เลือกเรียนในสายศิลป์-ภาษาฝรั่งเศสค่ะ

ในการเลือกคณะ ตอนนั้นพี่ก็มีความมุ่งมั่นว่าจะเลือกคณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะเราเป็นคนชอบติดตามข่าวสารต่างๆ โดยเฉพาะเหตุการณ์บ้านเมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับสังคม ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย เศรษฐศาสตร์ รวมถึงสังคมวิทยา แล้วก็ยังมีความสนใจในด้านภาษาต่างประเทศ ซึ่งภาควิชา IR ถือว่าเป็นการผสมผสานทั้งสังคมศาสตร์และภาษาศาสตร์อย่างลงตัวค่ะ


อยากให้ลองเล่าย้อนกลับไปตอนเรียนหน่อยค่ะ เป็นยังไงบ้างกับการเรียน IR ที่จุฬาฯ ^^

ความประทับใจตอนเรียนมีมากมายเลยค่ะ เรียกว่าได้ว่าเป็น 4 ปี ที่น่าจดจำในชีวิตทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ ซึ่งในภาควิชาก็ค่อนข้างมีจำนวนน้อย คือประมาณ 60 คน ทำให้จะรู้จักกันหมดและช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะในเรื่องเรียน ซึ่งจะมีเพื่อนที่คอยทำหน้าที่บริการสังคม คือจดเลคเชอร์อย่างสวยงาม ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีพระคุณกับเพื่อนๆ อย่างสูงค่ะ 555

ส่วนอาจารย์ของคณะฯ ก็ถือว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและทุ่มเทเพื่อให้นิสิตได้ความรู้และนำความรู้เหล่านี้ไปต่อยอดได้ ทำให้คณะรัฐศาสตร์ถือเป็นคณะในลำดับต้นๆ ที่มีการทำรายงานหลายชิ้นมากกกกก.....5555 ซึ่งในช่วงเวลาปิดเทอมที่เพื่อนๆ คณะอื่นๆ ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เราก็ต้องอยู่ในห้องสมุด ทำรายงาน แต่สิ่งเหล่านี้ล่ะค่ะ  ที่จะทำให้เราได้ฝึกและพัฒนาตนเอง แถมยังสร้างความอดทนให้เราต่อไปเมื่อเราเผชิญกับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตค่ะ

 


แล้วหลังเรียนจบแล้ว เป็นมายังไงถึงได้สอบเข้ามาเป็นนักการทูตที่กระทรวงต่างประเทศเหรอคะ มีขั้นตอนการสอบยังไงเหรอคะ

การเข้าทำงานในกระทรวงการต่างประเทศจะเข้าได้ 2 ทางนะคะ ทางแรกคือ การเป็นนักเรียนทุนกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งจะสอบตั้งแต่ ม.4 หรือ ม.6 เพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี-โท หรือเอกด้วย และกลับมาทำงานในกระทรวงฯ ค่ะ ส่วนทางที่ 2 คือ การสอบเข้าโดยใช้วุฒิปริญญา ซึ่งพี่ตาลก็สอบเข้ามาด้วยวิธีนี้ค่ะ โดยใช้วุฒิรัฐศาสตรบัณฑิต อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศก็ยังเปิดโอกาสให้น้องๆ ที่จบจากคณะวิชาอื่นๆ ในด้านสังคมศาสตร์เข้าสอบเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐศาสตร์ นิติศาสตร์ อักษรศาสตร์ เป็นต้นค่ะ

ลักษณะของการสอบก็จะมีทั้งสอบข้อเขียน (ภาค ก และ ข) และสอบสัมภาษณ์ (ภาค ค) ซึ่งผู้ที่จะเข้าสอบสัมภาษณ์ได้จะต้องสอบผ่านข้อเขียนทั้ง 2 ภาคก่อนค่ะ

โดยข้อสอบข้อเขียนภาค ก จะมีลักษณะเป็นปรนัย (เลือกชอยส์) คือ
-วิชาความรู้รอบตัวทางสังคมทั้งหมด เช่น สถานการณ์บ้านเมือง นโยบายต่างประเทศ ประวัติศาสตร์
-วิชาความรู้ทางภาษาอังกฤษ

ส่วนภาค ข จะมีลักษณะเป็นอัตนัย (เขียนตอบ) 2 วิชาเช่นกันค่ะ คือ
-วิชาภาษาอังกฤษ แบ่งเป็นการเขียนเรียงความ การสรุปความ การแปลทั้งไทยเป็นอังกฤษ และอังกฤษเป็นไทย
-วิชาความรู้ทั่วไปทางรัฐศาสตร์ ก็จะเป็นการเขียนตอบในเรื่องนโยบายต่างประเทศ เศรษฐกิจระหว่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ และกฎหมายระหว่างประเทศค่ะ

เมื่อสอบข้อเขียนผ่านก็จะเป็นกระบวนการสอบสัมภาษณ์ค่ะ ซึ่งเรียกได้ว่า ผู้เข้าสอบทุกคนมีความกดดันมากทีเดียวเลยค่ะ เพราะเป็นการสอบแบบเข้าค่าย 3 วัน 2 คืนที่พัทยา ซึ่งภายในค่ายก็จะมีการทำกิจกรรมกลุ่มร่วมกัน ได้แก่ การอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion) และกิจกรรมเดี่ยว ได้แก่ การพูดต่อหน้าสาธรณชนเป็นภาษาอังกฤษ (Public Speaking) โดยเราจะไม่ทราบหัวข้อมาก่อนและจะต้องเตรียมก่อนขึ้นพูดประมาณ 10 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการสัมภาษณ์เดี่ยว (Interview) โดยคณะกรรมการผู้ทรวงคุณวุฒิทั้งในกระทรวงฯ หน่วยงานรัฐและเอกชนอื่น ๆ ค่ะ เรียกได้ว่าการจะสอบเข้ามาต้องผ่านหลายกระบวนการและใช้เวลาพอสมควรทีเดียวเลยค่ะ


โห ฟังดูยากมากๆ เลย แล้วอย่างนี้ก่อนสอบต้องเตรียมตัวอะไรยังไงบ้างเหรอคะ

การเตรียมตัวก่อนสอบถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามข่าวสาร อ่านหนังสือ ซึ่งควรทำเป็นประจำทุกวันอยู่แล้วไม่เฉพาะก่อนสอบ โดยเฉพาะในประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ ตลอดจนสังคมวัฒนธรรม เรียกได้ว่า จะต้องมีความรอบรู้ให้ครอบคลุมทุกๆ ด้านให้ได้มากที่สุดค่ะ


แล้วตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบที่ทำในกระทรวงต่างประเทศตอนนี้คืออะไร มีหน้าที่อะไรบ้าง

งานในกระทรวงฯ ที่แต่ละคนได้รับมอบหมายก็อาจจะมีเนื้องานที่แตกต่างกันไปตามกรม/กองที่ตนสังกัดค่ะ อย่างพี่ตาล อยู่กองวัฒนธรรมสัมพันธ์ ก็รับผิดชอบงานทางด้านวัฒนธรรมทั้งหมด โดยเน้นการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยออกสู่สากล ซึ่งจะช่วยประสานงานและอำนวยความสะดวกให้สถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ฯ ของไทยทั่วโลกในการดำเนินกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ ค่ะ

ปัจจุบัน “การทูตเชิงวัฒนธรรม” ถือว่ามีบทบาทมาก เพราะเป็นอีกหนึ่งทางในการดำเนินความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ค่ะ อย่างเช่นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมาก็มีการอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายยังประเทศเพื่อนบ้านที่นับถือศาสนาพุทธจำนวน 11 ประเทศค่ะ ซึ่งพี่ตาลก็ได้มีโอกาสไปมา 2 ที่ คือ ที่รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย และกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่าค่ะ


ได้ยินว่าพอเข้ามาแรกๆ จะต้องบินไปฝึกงานที่ต่างประเทศด้วย จริงรึเปล่าคะ

เมื่อสอบเข้าได้ ข้าราชการแรกเข้ากระทรวงฯ ทุกคน จะต้องผ่านหลักสูตรนักการทูตแรกเข้าเป็นเวลา 6 เดือนค่ะ ซึ่งประกอบไปด้วยการเรียนในห้องเรียน การฝึกงานตามกรม/กองต่างๆ เช่น กรมการกงสุล กรมพิธีการทูต กรมสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงฯ และต้องบินไปฝึกงานเป็นเวลา 1 เดือนในสถานเอกอัครราชทูตฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ฯ ในต่างประเทศค่ะ ซึ่งพี่ตาลไปฝึกงานที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

การไปฝึกปฏิบัติงานจริงที่สถานเอกอัครราชทูตฯ นั้น ทำให้ได้ประสบการณ์มากมายค่ะ เพราะทำให้เราเห็นภาพการทำงานของนักการทูตจริงๆ ซึ่งเรียกได้ว่าต้องทำงานในหลายมิติมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านกงสุล เกี่ยวกับการคุ้มครองคนไทยในต่างประเทศ ด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม หรือด้านพิธีการทูตค่ะ ทำให้นักการทูตจะต้องมีลักษณะที่สำคัญคือ ทักษะการปรับตัวเข้ากับสภาวะต่างๆ การเรียนรู้อย่างรวดเร็วและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างรอบคอบ เพราะจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ ในหลายๆ ด้านค่ะ

นอกจากนี้การไปฝึกงานที่อินโดนีเซียนั้น ทำให้ได้มีโอกาสพบปะบุคคลระดับสูงที่บริหารบ้านเมือง เช่น รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย คณะกรรมาธิการของสภาฯ ต่างๆ นักธุรกิจไทยที่นั่น รวมถึงบุคคลในทุกระดับ ซึ่งการพบปะกับบุคคลมากหน้าหลายตาและทุกระดับถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเป็นนักการทูต ซึ่งจะเป็นการเปิดโลกทัศน์ของเราให้กว้างขึ้นอีกด้วยค่ะ


เค้าว่ากันว่า ในบรรดานักการทูตมีแต่คนเก่งมากๆๆ หัวกะทิระดับขั้นเทพจริงมั้ยคะ

ด้วยกระบวนการคัดเลือกบุคลากรที่เข้มข้น ทำให้กระทรวงการต่างประเทศอาจได้ชื่อว่าเป็นอีกที่หนึ่งที่มีคนเก่งอยู่มากมายทีเดียว แต่การที่เราได้อยู่ท่ามกลางคนเก่งๆ มากมาย พี่ตาลคิดว่าเป็นผลดีกับตัวเรามากเลยค่ะ เพราะทำให้เราได้ซึมซับกระบวนการคิด เรียนรู้จากบุคคลเหล่านี้ และนำมาพัฒนาตัวเราค่ะ


สุดท้ายอยากให้ฝากถึงน้องๆ ที่อยากเรียนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและอยากเป็นนักการทูตหน่อยค่ะ

สำหรับน้องๆ ที่อยากเป็นนักการทูตนะคะ พี่ตาลก็ขอฝากน้องๆ ว่า ถ้ามีความตั้งใจจริง พี่ตาลเชื่อว่าน้องๆ ทุกคนสามารถทำได้อย่างแน่นอนค่ะ ทั้งนี้จะต้องเกิดจากความมุ่งมั่นและมีการฝึกฝนและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะการสร้างความรอบรู้ให้ตนเอง เปิดหูเปิดตาให้เป็นคนโลกกว้าง และการมีกระบวนการคิดวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและครอบคลุมในทุกๆ ด้าน รับรองว่าการเป็นนักการทูตไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่ะ

              โอ้โห คนอะไรทั้งสวยทั้งเก่ง ขอชมจากใจเลย สุดยอดมากๆๆๆ ยังไง พี่เป้ ก็ต้องขอขอบคุณพี่ตาลด้วยนะคะ ที่อุตส่าห์เสียเวลามาพูดคุยกับน้องๆ แถมเล่าเรื่องราวชีวิตของนักการทูตกันอย่างละเอียดยิบ ว่าแต่แถวนี้มีใครอยากเป็นนักการทูตบ้างมั้ยนะ ขอเสียงหน่อยเร้วๆๆๆ

               สำหรับคณะในฝันเดือนหน้า ใครเป็นคนรักเทคโนโลยีและรักการใช้ชีวิตกับคอมพิวเตอร์เตรียมตัวให้ดี เพราะคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จะมาเจอกับน้องๆ ทุกคน !

 
พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

หนูอัน HOTTEST Member 26 ม.ค. 54 21:57 น. 10
อยากเป็นทูตจังค่ะ   


แต่ไม่เก่งภาษาอักฤษ ถ้าจะใช้ภาษาที่สามอันอื่นเช่น จีน อย่างนี้จะโอเคมั๊ยคะ??
1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Neko-pan Member 26 ม.ค. 54 21:37 น. 9
อยากเป็นนักการทูต !~ แมวพลาดตอนสอบตรงมาแล้ว สำหรับคณะรัฐศาสตร์.. แต่แอดมิดชั่น แมวจะไม่พลาดอีก สู้ๆ ฝันเราเหมือนกัน เราก็สู้ไปด้วยกันนะ เด็กดี ^ ^ แอดฯติดยกเว็บ !!!!! [b-001] [b-001]
0
กำลังโหลด
พี่ตาล 28 มี.ค. 54 16:12 น. 68
ขอบคุณค่ะน้องๆ ทุกๆคน พี่ไม่ได้เข้ามาตอบนานเลย
ยังไงเป็นกำลังให้น้องๆทุกคน ตั้งใจทำตามความฝันนะค่ะ
สู้ๆ ค่ะ
1
กำลังโหลด

246 ความคิดเห็น

กันตพร 4 พ.ย. 55 20:00 น. 181
ตอนนี้หนูเรียนยุคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์เอกภาษาอังกฤษ หนูจะเป็นฑูตได้มั้ยคะ คือหนูอยากทำอาชีพนี้มากๆเลยค่ะ
0
กำลังโหลด
ปลั๊ก 17 พ.ย. 55 18:48 น. 182
พี่ตาลคับ
ตอนนี้ผมกำลังศึกษา BA - Economics, Political Science, Sociology อยู่ที่ Christ University บังกาลอ ประเทศ อินเดีย แล้วผม กะว่าจะต่อ ป.โท IR อาจจะที่อินเดียเหมือนเดิม

ตอนนี้ผมสงสัยว่า ตอนที่เราสมัครนั้น ถ้าเราสอบได้ เราสามารถเลือกได้รึป่าวครับว่า เราจะทำงานด้านไหน ตำแหน่งไหน ใน สถานฑูต หรือ สถานกงสุล
แล้วเราสามารถเลือกได้หรือเปล่าคับว่าเราจะทำงาน ในสถานฑูต หรือ สถานกงสุล
การที่ สมมติว่าผมเรียนจบโท หรือ เอก นั้น แล้วผมมาสอบเข้าทำงานในทะทรวงต่างประเทศนั้น จะมีผลหรือไม่กับตำแหน่ง ที่ผมจะได้รับ หรือว่า เมื่อสอบแล้ว ก็ต้องเริ่มตั่งแต่ต้น แล้วค่อยๆไต่เต้า ขึ้นไปเรื่อยๆคับ

แล้วจากที่ผมอ่านมาแล้วด้านบน ตำแหน่งไหน ทำงานอะไร ยังไงบ้าง ครับ ขอคร้าวๆก็ได้คับ

ผมเคยได้ยินมาว่า การเป็นนักการฑูต สามารถที่จะจบ ด้าน เศรษศาสตร์ มาก็ได้ จิงรึป่าวคับ
ถ้าจริง แล้วเราจะมีการทำงานต่างกัน กับ นักการฑูตที่จบด้านการฑูต หรือ IR โดยตรงอย่างไรบ้างคับ

ผมเห็นข้อความสุดท้าย โพสเมื่อปีที่แล้ว ไม่ทราบว่าจะยังมีคนเข้ามาดูอยู่รึป่าว
แต่ยังไง ก็ขอบคุณพี่ มากกๆน่ะ สำหรับข้อมูล คำแนะนำต่างๆ ที่ได้ให้พวกเราได้อ่าน และรับรู้กัน จะได้เตรียมตัวได้ทัน
0
กำลังโหลด
พี่จิ๋ว 30 พ.ย. 55 10:42 น. 183
ขอขอบคุณน้องตาลมากนะคะที่ช่วยตอบข้อข้องใจของน้องๆ ได้ดีมาก ลูกสาวพี่เองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ใฝ่ฝันในอาชีพนี้ พี่จะให้ลูกสาวเข้ามาอ่านนะคะ เพราะตอนนี้เหมือนน้องก็ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำแนะนำดีๆ ให้กับน้องๆ ค่ะ

พี่จิ๋ว
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Arale_loveGiyul_Alexe Member 8 ม.ค. 56 20:24 น. 186
พี่ตาลคะ หนูอยากถามนิดนุงว่า เห็นบอกมันมีทุน ม.4 ม.6 ของกระทรวงนี่ เป็นทุนแบบไหนอะไรยังไงเหรอคะพี่ตาล
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
wanlaka 7 ก.พ. 56 11:31 น. 190
อยากจะถามว่าคนที่เป็นนักการทูตได้ต้องได้ภาษาทุกภาษาเลยไหมค่ะหรือว่าได้ภาษาอังกฤษก็พอ
จาก..น้องส้ม
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
vava 15 มี.ค. 56 09:27 น. 194
การสอบเป็นนักการทูตจำกัดมั๊ยค่ะว่าจะต้องมีอายุเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ที่จะมีสิทธิ์สอบเเล้วส่วนมากข้อสอบออกเเนวไหนค่ะจะได้อ่านไว้เพราะตอนนี้อยู่เเค่ ม.1เองจะได้มีเวลาเตรียมตัวมากๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ปังปอนด์ 29 มี.ค. 56 18:20 น. 196
พี่ตาลค่ะ คือตอนนี้หนูสอบติด IR อ่ะค่ะ แต่ว่าตอน ม.6 เรียนวิทย์-คณิตมา หนูเลยไม่แน่ใจว่าตัวเองจะเรียนได้มั๊ย แต่เอาจริงๆก็ชอบน่ะค่ะ พี่ช่วยแนะนำหน่อยได้มั๊ยค่ะว่าจะต้องทำยังไง เตรียมตัวยังไง
0
กำลังโหลด
พีท 29 มี.ค. 56 18:33 น. 197
พี่ตาล หรือ ใครก็ได้แนะนำผมที ผมอยากเรียน IR มากอ่ะครับ แต่เรียนสาย วิทย์-คณิตมา (จะรอดมั๊ยเนี่ย) ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างอ่ะครับ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Frommaheart 15 เม.ย. 56 15:22 น. 200
รู้สึกเสี่ยงจังที่เปลี่ยนสายใจอยากเรียน IR และอยากทำงานที่กระทรวงต่างประเทศมากๆ

แต่ก็เสี่ยงมากหากสอบเป็นนักการฑูตไม่ได้

ภาษาก็แค่ปานกลาง

ทั้งๆ ที่เลือกลงสหเวชหรือวิศวะตามสายที่เรียนมาก็ลุ้นได้ไม่เหนื่อยมาก

และจบมาโอกาสได้ทำงานก็สูง T^T เครียดจังเลยค่ะ

เมื่อหัวใจกับความเป็นจริงไม่สอดคล้องกัน
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด