ชีวิตหลังเรียนจบ! ยังค้นหาตนเองได้หรือไม่?



       เมื่อนานมาแล้ว พี่เกียรติได้ดราม่าใส่บทความ "ดราม่าสุดๆ เป้าหมายชีวิต คิดไม่ออก" เป็นบทความที่เขียนขึ้นเพื่อให้น้องๆ ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องค้นหาตนเอง และมีสามคำถามให้ได้ลองตอบเพื่อพิจารณาหาเป้าหมายในชีวิตของตนเอง ด้วยหวังว่าเป้าหมายดังกล่าวจะช่วยค้นหาคณะและอาชีพที่เราอยากทำได้จริงๆ 

 
 
   แต่เรื่องยังไม่จบนะคะ เพราะจู่ๆ ก็มีรุ่นน้องมหาวิทยาลัยเขียนมาทาง Facebook ว่า "เรื่องนี้มันยังไม่น่าจบ มันน่าจะยังมีภาคต่อนะพี่" พี่เกียรติจึงไม่รั้งรอ ได้ติดตามสอบถามว่าว่า ทำไมคิดว่าบทความยังไม่น่าจบ จึงได้ข้อมูลน่าสนใจและเป็นประโยชน์ แก่น้องๆ มากทีเดียว

     รุ่นน้องของพี่เกียรติคนนี้ชื่อ  พี่ซาว คะ พี่ซาวเรียนจบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชาเครื่องกล สาขาเครื่องกล ตอนนี้ยังทำงานในด้านวิศวกรรมตามสาขาที่จบนี่แหละ แต่เหตุที่พี่ซาวบอกว่าบทความดังกล่าวยังไม่จบนั้น เพราะว่า แม้จะเรียนจนจบปริญญาตรีแล้ว แต่หนทางชีวิตมันยังไม่หยุดดราม่าน่ะสิ น้องๆ ชาว Dek-D.com ต้องมาฟัง เอ้ย อ่านรายละเอียดเลยจ้า



    "การเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอาจจะมีหลายหนทาง แต่หลังจากที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี พี่พบว่ายังมีหลากหลายเส้นทางที่ให้เราได้เลือกกันอีกมากมายครับ" เช่น

     1) การศึกษาต่อในระดับปริญญาโทตามสายงานที่ได้สำเร็จมา แต่ก็มาพร้อมอีกคำที่เราได้ยินบ่อยๆ คือ คำว่า   “เปลี่ยนสาย” หมายถึง การเรียนต่อในระดับปริญญาโทที่ไม่ตรงกับสายงานเดิม ตรงนี้แหละครับ ที่ว่าดราม่า จะเปลี่ยนสายทีก็ต้องคิดกันหนักทีเดียว ว่าจะเรียนใหม่เลย หรือเรียนที่ยังพอเกี่ยวกับของเดิมที่เราจบมา
     2) การทำงาน ส่วนใหญ่ก็ทำงานตามสายงานที่จบมา หรือก็ ”เปลี่ยนสาย” อีก คือ ทำงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายงานที่จบมาอีก บางคนก็เรียนจบมาแต่ก็ต้องกลับไปดูแลกิจการที่บ้าน หรือไม่ก็ตั้งตัวเป็นผู้ประกอบการเจ้าของธุรกิจของตัวเองเลยก็มีนะครับ
    3) เรียนปริญญาตรีที่อื่นควบไปด้วย ซึ่งพี่ก็เห็นหลายๆ คนทำกันนะครับ (แต่พี่ไม่สามารถครับ แหะๆ) ก็จะเป็นช่องทางหนึ่งของการเปลี่ยนสายหลังเรียนจบปริญญาตรีใบแรก

 
พี่ซาว บอกเล่า:
พี่เกียรติ:  
การที่เรียนจบปริญญาตรีมาแล้ว น่าจะประกอบอาชีพตามที่เรียนจบมาไปเลย แต่ทำไมยังคิดจะเปลี่ยนเส้นทางสายอาชีพอีก


     เมื่อเราได้ออกไปเผชิญโลกภายนอก ได้ทำงานมาแล้ว พี่กลับพบว่าสนใจในเรื่องของด้านธุรกิจ เพราะเห็นว่าในบริษัทหนึ่งๆ จะประกอบไปด้วยหลายแผนก และต้องทำงานเกี่ยวข้องกัน จึงจะเป็นบริษัทที่สมบูรณ์ได้ โดยเฉพาะทางด้านการตลาดที่จริงๆ ก็สนใจตั้งแต่เรียนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว จึงคิดจะปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ และคาดว่าจะเปิดธุรกิจของตนเอง หรืออย่างน้อยก็อาจจะกลับไปทำงานทางด้านวิเคราะห์ทางธุรกิจในบริษัทด้านวิศวกรรม

       ตอนนี้ก็เลยอยากจะเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจครับ แต่ก็ยังสำรวจหลักสูตรอยู่ เพราะมีทั้งหลักสูตรที่รับคนไม่มีประสบการณ์ หรือที่รับเฉพาะคนเคยทำงานมาแล้ว เป็นต้น

 
พี่ซาว บอกเล่า:
พี่เกียรติ:  
เลือกเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอย่างไร ตอนนั้นมั่นใจที่จะเลือกคณะหรือไม่ เสียดายช่วงเวลาที่ผ่านมาไหม


     ย้อนกลับไปตอนที่ยังหัวเกรียนๆ เลือกเพราะว่าชอบฟิสิกส์ด้านกลศาสตร์ หุ่นยนต์กลไก แล้วก็ที่จุฬาฯ ใกล้บ้านด้วย เลยเลือกวิศวะ จุฬาฯ เป็นอันดับแรกครับ แล้วก็ไม่รู้สึกเสียดายเวลาที่เรียนผ่านมา เพียงแค่ว่าลักษณะงานทางด้านวิศวกรรมในประเทศเราอาจจะไม่หลากหลายเท่าเมืองนอก เช่น ไม่ค่อยมีสายงานด้านหุ่นยนต์ หรือวิศวกรทางด้านอื่นๆ เป็นต้น
      แต่การเรียนวิศวะ ก็ช่วยเรื่องความคิดเป็นระบบระเบียบ มีตรรกะมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้ "ถูกต้องถูกที่" และประโยชน์อย่างมากครับ

 
 
พี่ซาว บอกเล่า:
 

พี่เกียรติ:  

สิ่งที่อยากฝากน้องๆ ชาว Dek-D.com


    การเลือกเรียนในระดับปริญญาตรีนั้น อาจจะไม่ใช่สำคัญที่สุด แต่ก็นับว่าเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของชีวิตเลยก็ว่าได้ ขอให้การเลือกนั้นเลือกโดยตัวน้องเอง และคิดว่าจะไม่เสียใจกับสิ่งที่เลือกไป ศึกษาข้อมูลแวดล้อมให้ดีครับ บางคนมีสิ่งที่ชอบ(สิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ อยากเป็น ปลื้ม) บางคนมีสิ่งที่ใช่(ถนัด สามารถ ทำสิ่งนั้นๆ ได้ดี) ก็พิจารณาให้ดีในการเลือกคณะว่าจะที่ชอบ หรือที่ใช่ 
   ถ้าใครมีคณะทั้งที่ชอบและใช่เป็นคณะเดียวกัน ก็เลือกได้เลยครับ โดยส่วนตัวเช่นตัวพี่เอง  พี่ก็เลือกคณะที่ชอบนะครับผม ขอให้น้องๆ เดินตามความฝันของตัวเอง ฝันให้ไกลไปให้ถึงนะครับทุกคน


 
พี่ซาว บอกเล่า:
 

 
        จากที่พี่เกียรติฟังพี่ซาวเล่ามา พอจะสรุปได้ว่า ชีวิตเรายังดราม่า เอ้ย อนาคตและอาชีพยังเปลี่ยนแปลงได้แม้จะเรียนจบปริญญาตรีมาแล้ว เพราะเรายังมีโอกาสได้ทำตามที่เราสนใจหรือพอจะ "เปลี่ยนสาย" คณะหรืออาชีพอีกได้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อปริญญาโทสายใหม่ หรือเป็นวิศวกรก็ยังไปเป็นนักบริหารธุรกิจได้ ทั้งนี้ก็เพราะ เมื่อเราโตขึ้น เปลี่ยนสังคมที่เรียนใหม่ เรามีโอกาสที่จะได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อาจทำให้เราค้นพบอะไรอีกมากมายในอนาคตก็ได้่
      แต่พี่เกียรติว่าพี่ซาวโชคดีมากเลย เพราะแม้ว่าพี่ซาวคิดจะเปลี่ยนสายอาชีพตอนเรียนจบปริญญาตรีมาแล้ว แต่ก็ยังสามารถเปลี่ยนและเรียนต่อในด้านที่สนใจใหม่ได้ อย่างที่พี่ซาวบอกว่าแม้จะเรียนและจบระดับปริญญาตรีแล้ว ก็ยังมีทางเลือกชีวิตให้ค้นหาต่อไปได้ แต่พี่เขาก็กำชับแล้วนะว่า "ขอให้การเลือกนั้นเลือกโดยตัวน้องเอง และคิดว่าจะไม่เสียใจกับสิ่งที่เลือกไป ก็พิจารณาให้ดีในการเลือกคณะว่าจะที่ชอบ หรือที่ใช่"

      แต่ถ้าเราไม่เลือกดีๆ แต่แรก อาจเปลี่ยนไม่ทันนะ เราอาจไม่โชคดีเหมือนพี่ซาวก็ได้ อย่างใครเรียนจิตรกรรมมา จู่ๆ ต้องการเป็นหมอ แบบนี้คงจะยากพอสมควรทีเดียวนะ พี่เกียรติหวังว่าน้องๆ จะโชคดีค้นหาตนเองเจอแต่แรกๆ เลยจ้า


ไม่ว่าจะทางไหน เรื่องอนาคตก็ยังต้องค้นหาอยู่เสมอ


ขอขอบคุณ: น้องซาว และบ้านอินเดียน่าที่ทำให้เราพบกัน
พี่เกียรติ
พี่เกียรติ - Community Master ถนัดแฝงตัวตามกระทู้เด็กดี มีความสนใจเป็นล้านเรื่องขึ้นอยู่กับดราม่าขณะนั้น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

28 ความคิดเห็น

พรุ่งนี้ไม่สายถ้าไฟไม่มอด 7 ต.ค. 54 04:04 น. 1
ตอนนี้หนูเรียนเทคนิคการแพทย์ใกล้จบแล้วค่ะ

แต่ ชอบทำอาหาร อยากมีร้านอาหารไทย จีน ฝรั่ง เบเกอรี่ เค้ก กาแฟ

ได้หมด ชอบทำอาหารมากๆๆ คิดไว้ว่าเรียนจบปอตรีแล้วจะไปเรียนคอร์สทำอาหาร

ซักอย่างให้เป็นเรื่องเป็นราว แล้วจะทำร้านอาหารค่ะ ^^
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Mega-cool Member 7 ต.ค. 54 09:08 น. 3
ต้องเลือกให้เหมาะกับตัวเองที่สุด...แต่ถึงรู้ว่าตัวเองเดินอยู่บนเส้นทางที่ไม่ใช่ก็ยังสามารถถอยออกมาได้ ไม่มีคำว่าสายไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่!
0
กำลังโหลด
Amoris Member 7 ต.ค. 54 09:40 น. 4
       อยากลงเรียนดิจิตอลเอฟเฟกต์ค่ะ สร้างเกมออนไลน์แล้วก็ทำเอฟเฟกต์ประกอปหนัง
คิดว่าตัดสินใจไม่น่าผิด เพราะตั้งใจไว้ตั้งแต่มัธยม 1 แล้วค่ะ ^-^
แต่ใจจริงๆรักดนตรีมาก อยากเรียนไวโอลิน แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นนักไวโอลินอะไรขนาดนั้น (แต่ถ้าได้เป็นจะมีความสุขม๊ากมากค่ะ 5555) ชีวิตมันวุ่นวายมากๆเลยเนอะ


0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
clouddy = [BB] Member 7 ต.ค. 54 11:06 น. 7

ตอนเด็กมีความฝันหลายอย่างมากเลยค่ะ
ทั้งเล่นดนตรีไทย กีฬาว่ายน้ำ วิ่ง แบต จักรยาน เทควันโด
ลองเรียนภาษานู่นนี่มาหลายรอบ
แต่ในที่สุดก็พบว่ามันยังไม่ใช่

สรุปคือ ตอนนี้ก็ยังไม่ใช่ต่อไป แต่ที่ชอบมากที่สุดเห็นจะเป็นเทควันโด แต่เข่ามันไปไม่ไหวก็ช่วยไม่ได้นี่เนอะ
(ยังไม่แก่ แต่เข่าก็เสื่อมซะแล้ว ดราม่าจริงชีวิตนี้)

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
z-girl ,, * Member 7 ต.ค. 54 23:41 น. 12
เมื่อตอนอยู่ ม.6 เครียดว่ากลัวจะไม่มีที่เรียน + ต้องเลือกตามที่พ่อแม่หวัง
ก็เลยคิดว่าติดอะไร ก็เรียนๆไปก่อน ค่อยไปตั้งใจตอนเข้ามหาลัยเอา ..

แต่ .......... ชีวิตมันไม่ได้ง่ายแบบนั้นหน่ะสิ่ !
ตอนนี้รู้สึกคิดผิดมากเลย เพราะอะไรที่มันไม่ใช่ตัวเรา
มันก็ใช่ว่าจะทำออกไปได้ดีเนอะ ?

อยากให้น้องๆที่ยังมีโอกาส เลือกเยอะๆนะ
ค่อยๆคิด ว่าจริงๆแล้วเราต้องการอะไรกันแน่?

เพราะมันส่งผลกับอนาคตของเรามากเลยทีเดียว
ไม่ต้องกลัวว่าติดที่หลังเพื่อน ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่เรียน
ติดก่อน ติดหลังก็ติดเหมือนกันจ้ะ :D

มันอยู่ที่เราใช้ชีวิตมากกว่า ... .
ว่าจะทำให้ดีที่สุดได้แค่ไหน?
เป็นกำลังใจให้ทุกคนจ้า <3
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
PanizzZ Member 11 ต.ค. 54 13:11 น. 17
 เพราะสิ่งที่ชอบกับสิ่งที่ใช่ มันไม่เคยไปด้วยกันได้ เมื่อถึงเวลาต้องเลือก  พ่อแม่ก็เป็นตัวแปรสำคัญทำให้เราไม่ได้เลือกทั้งในสิ่งที่ชอบ และในสิ่งที่ใช่  มันแย่ยิ่งกว่าเมื่อทำมันออกมาได้ไม่ได้ แต่ยังต้องพยายามเพื่อเป้นความหวังให้พ่อแม่ต่อไป  ทั้งๆที่สิ่งที่ชอบและใช่ อยุ่ใกล้มือเรานี่เอง แต่ก็ไขว่คว้ามาไม่ได้ เฮ้อ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
rainnykimki Member 15 ต.ค. 54 15:00 น. 20
เรียนอีกอย่าง ทำอีกอย่างคะ ตอนแรกก็หางานทำตรงสาขาที่เรียนนั่นแหละ แต่เพิ่มอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อให้การหางานทำกว้างขึ้น จีงลองสมัครงานที่ไม่ได้เรียนมา แต่ชอบและถือเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวที่เป็นมาก่อน.... ก็มีความสุขดีนะ ออกจะมีความสุขมากกว่าตอนเรียนวิชานั้นซะอีก ถึงแม้จะเสียดายช่วงเวลา 4 ที่ที่เล่าเรียนมา แต่ถ้าไม่คิดมากก็ไม่มีอะไรอ่ะ แค่ทำงานแล้วมีความสุข แล้วได้เงินไปช่วยจุนเจือที่บ้านก็พอแล้ว ^^
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด