สวัสดีค่ะน้องๆ เด็กแอดฯ 55 เป็นยังไงกันบ้าง หลังจากฟังแถลงข่าวเฉลยข้อสอบบางข้อของ O-NET ไปแล้ว ใครที่ตอบถูกก็มีคะแนนให้อุ่นใจไปแล้ว แต่ใครที่ตอบ ผิดก็คงถึงกับเซ็งทีเดียว
วันนี้ พี่มิ้นท์ ก็มีข่าวO-NET มาฝากเหมือนกัน เกี่ยวกับที่มีกระแสก่อนหน้านี้ว่าจะมีการสอบ O-NET มากกว่า 1 ครั้ง มาดูกันว่าโอกาสเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงจะมีการพัฒนา จัดทำธนาคารข้อสอบ และระบบ E-Testing ด้วย ไปตามอ่านในรายละเอียดพร้อมๆ กันเลยค่ะ
ศ.กิตติคุณ ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เผยว่า ในการประชุมบอร์ด สทศ.เมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมด้วย รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผ.อ. สทศ.ได้รายงานให้บอร์ดรับทราบถึงการนโยบาย ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช ร.ม.ว. ศึกษาธิการ ภายหลังเข้าพบเพื่อชี้แจงการดำเนินงานของ สทศ. โดยทางรัฐมนตรีศึกษาธิการนั้น ได้เข้าใจ และเห็นความสำคัญของการจัดทดสอบ แต่เห็นว่า สทศ.ควรพัฒนาระบบทดสอบให้เข้มแข็งขึ้น และทำได้มากกว่า 1 ครั้ง โดยเฉพาะ O-NET อีกทั้งควรพัฒนาระบบ E-Testing ซึ่งเป็นระบบการสอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ซึ่งจะสร้างโอกาส และเชื่อมโยงสู่การนำไปใช้ประโยชน์ต่อการศึกษาได้มากขึ้น
นอกจากนี้ สทศ.ควรมีการแจ้งผลการสอบ และเฉลยข้อสอบเพื่อการเรียนรู้แก่ผู้เรียน ซึ่ง สทศ.ได้รายงานว่า ที่ผ่านมา มีการพูดคุยในประเด็นนี้ และมีการวางแผนดำเนินการ เพียงแต่ว่าการจะทำเรื่องนี้ต้องมีธนาคารข้อสอบ หรือ Item Bank เพื่อรองรับเหมือนอย่างสถาบันทดสอบทั่วโลก “รมว.ศึกษาธิการ เห็นด้วยว่า สทศ.ควรมีธนาคารข้อสอบและให้เร่งดำเนินการ โดยให้ไปจัดทำรายละเอียด และตั้งงบประมาณของปี 56 เพื่อมาเสนอ รวมถึงการพัฒนาระบบ E-Testing ซึ่ง สทศ.อาจจะเริ่มต้นทำการวิจัยนำร่องเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมออกข้อสอบเป็นประจำ โดยมีจุดหมายปลายทาง คือ การประกันว่าผู้สำเร็จการศึกษาต้องมีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.สุชาติ ให้ความเห็นว่าควรทำให้เด็กเห็นความสำคัญกับการนำคะแนนโอเน็ตไปใช้มากกว่านี้ เพราะเด็กใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัยเพียง 30% สทศ.จึงเสนอว่า ควรให้ O-Net ใช้เป็นส่วนหนึ่งของการจบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่ง สทศ.เคยพยายามผลักดันมาแล้วและเกือบสำเร็จในปี 2551 ครั้งนี้ ถือเป็นจังหวะดี เพราะ รมว.ศธ. ให้การสนับสนุนพร้อมสั่งการให้เร่งทำรายละเอียดขึ้นมาเสนอ โดยบอร์ด สทศ.รับทราบและเห็นชอบให้ดำเนินการโดยเร็วเช่นกัน” ประธานบอร์ด สทศ.กล่าว
ก็ไม่รู้ว่าแผนพัฒนาระบบ E-testing รวมถึงกำหนดให้ใช้คะแนน O-NET เป็นส่วนหนึ่งของการจบหลักสูตรจะเริ่มใช้ในปีไหนกันแน่ แต่ที่รู้ๆ คือ มีโอกาสเกิดขึ้นจริง ส่วนเรื่องที่ให้สอบมากกว่า 1 ครั้ง พี่มิ้นท์มองว่าถึงแม้จะเหนื่อยแต่ก็เป็นเรื่องดีนะ อย่างน้อยน้องๆ ก็สามารถเลือกคะแนนที่ดีที่สุดได้ แถมการสอบโอเน็ตก็ไม่เสียตังค์ด้วย(นี่แหละสำคัญสุด) เอาเป็นว่า สทศ.จะเอาแผนนี้ไปใช้กันปีไหน ก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปนะคะ
ข่าวจาก www.manager.co.th |
65 ความคิดเห็น
แค่นี้ยังทำร้ายนักเรียนม.6 ไม่พออีกเหรอครับ สทศ. - -"
ใช่ว่าสอบแล้วมันจะช่วยได้เยอะ ถ้ามันสอบได้ แต่ไม่เรียน
แล้วคนที่อยากเรียนมาตกงี้
จบเห่กันพอดี = =
แต่ถ้าตอนนี้หนูอยู่ ปี 1 จะเห็นด้วย ///////////////////////////////////////////////////////////////////////
เพราะถ้าจะเอามาเป็นเกณฑ์ จะต้องแจ้งให้ทราบก่อน 1 ปี
เข้าใจนะ สทศ ยูโน่วววว
ก่อนกดเข้ามาอ่าน >>
ตอนกำลังอ่าน >>
หลังอ่านจบ >>
โนวววววววววววววว ยู คานท์ ดู ดิส ทู มี TT [ ~~ ] TT
ทำให้เด็กอยากมาโรงเรียนก่อนดีกว่าไหม
เอาแต่ยัดวิชาการทั้งๆที่เด็กไม่สนใจจะได้ผลได้ไงครับ จัดสอบไปก็ไร้ค่าาา เง้อออ
อีกอย่าง... แค่นี้ยังทำให้เด็กเครียดไม่พออีกเหรอคะ สทศ. พวกผู้ใหญ่เอาเกณฑ์นู่นนี่มายัดให้เด็ก เด็กปวดหัวจนสมองจะระเบิดกันหมดแล้วค่ะ! ถ้าหากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยต้องมีนั่นนี่เยอะขนาดนี้ เด็กเหนื่อยมากค่ะขอบอก... เผลอบางคนเหนื่อยกับการสอบอาจจะหันไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ไม่ต้องใช้การสอบเข้า เพราะจบมาก็ทำงานได้เหมือนกัน
ความคิดเห็นส่วนตัวนะ ไม่ต้องเท้าความยาวสาวความยืดต่อเน้อ! :)
ถ้าจะเอาจริงเราคงต้องตั้งม๊อบประท้วงแล้วล่ะ นับวันๆ เหมือนกับว่านักเรียนถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพไปทุกทีโดยคนกลุ่มหนึ่งที่คิดจะทำนาบนหลังนักเรียน