สวัสดีค่าน้องๆ... ช่วงนี้หน้าแอดมิชชั่นเว็บ Dek-D.com ถือว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน กลายเป็นน้องๆ หน้าใหม่ เด็กแอดฯ ปี 56 ส่วนพี่ๆ แอดปี 55 ก็ไปได้ดิบได้ดีในมหา'ลัยในฝันกันแล้ว^^ ถ้าใครได้ติดตามช่วงประกาศผลแอดมิชชั่นที่ผ่านมา ก็จะรู้ว่าปีนี้คณะไหนมาแรง มีคนเลือกมากที่สุด ซึ่งก็ถือว่าผิดคาดไปค่อนข้างเยอะ ที่สาขาท็อปฮิตในปีก่อนๆ ติดอันดับน้อยมาก แต่น้องๆ รู้มั้ยคะ บางสาขาก็แทบจะไม่เคยติดท็อปฮิตและเด็กรุ่นใหม่ก็ไม่ค่อยให้ความสนใจ หนึ่งในสาขาที่ว่าก็คือ "สาขาเกษตร" ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพี่มิ้นท์ไปเจอข่าวข่าวนึง เนื้อข่าวมีใจความว่า ค่อนข้างน่าเป็นห่วงที่เด็กเลือกเรียนสาขาเกษตรนี้ลดลง ประเด็นนี้น่าสนใจมากๆ เลยเก็บมาฝากน้องๆ และลองคิดตามดูว่าเป็นอย่างนั้นจริงมั้ย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) เปิดเผยว่า จากผลการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาด้วยระบบกลาง หรือ แอดมิชชันกลาง ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่า นักเรียนเลือกเรียนในสาขาการเกษตรน้อยลงจนน่าเป็นห่วง และเท่าที่ดูไม่ใช่เฉพาะใน ม.เกษตรศาสตร์ เท่านั้น ที่มีคนเลือกเรียนคณะ/สาขาเกษตรน้อยลง มหาวิทยาลัยอื่นๆ ก็น้อยลงเช่นกัน ทั้งที่ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม และการเกษตรถือเป็นทางรอดของประเทศ แม้กระทั่งในกลุ่มอาเซียนเองยังยอมรับในความสามารถของบ้านเรา โดยเมื่อเร็วๆ นี้ คณะทูตจากประเทศอินโดนีเซีย ได้มาเยี่ยมชม ม.เกษตรศาสตร์ และบอกว่า จะส่งนักศึกษาของอินโดนีเซียมาเรียนด้านการเกษตรที่ ม.เกษตรศาสตร์ เราก็รู้ดีว่าสถานการณ์ของบ้านเราน่าห่วง มีคนเลือกเรียนเกษตรน้อยลง หรือหากเลือกเรียนก็ไม่ได้ตั้งใจมาเรียนจริงๆ แต่เลือกเป็นอันดับท้ายๆ เพราะคะแนนต่ำ และขอให้แอดมิชชันติดเท่านั้น พอปีต่อไปก็ไปสอบใหม่ และไปเรียนที่อื่น ไม่ได้ตั้งใจเรียนสาขาเกษตรจริงๆ เรื่องนี้ถือว่าน่ากลัวมาก เพราะหากเราผลิตบัณฑิต เพื่อออกไปพัฒนาการเกษตรของประเทศน้อยลง ต่อไปผลผลิตทางการเกษตรที่ออกมาของบ้านเราจะสู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ ยิ่งขณะนี้หลายประเทศพัฒนาการเกษตรไปมาก ไม่ว่าจะเป็นประเทศเวียดนาม ที่ตอนนี้ผลิตข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 กิโลกรัม ต่อ 1 ไร่ ขณะที่บ้านเราเฉลี่ยอยู่ที่ 800 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่ เท่านั้น และหากเราเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ เราก็อาจสู้เพื่อนบ้านไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน สินค้าเกษตรจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นทางรอดของประเทศอธิการ มก.กล่าว รศ.วุฒิชัย กล่าวต่อว่า ดังนั้น แทนที่มหาวิทยาลัยต่างๆ จะไปมุ่งเน้นเรื่องการปรับระบบแอดมิชชัน ตนอยากให้ทุกมหาวิทยาลัยมามุ่งเน้นที่การผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ และส่งเสริมให้เด็กหันมาสนใจเรียนสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศมากขึ้น เช่น สาขาด้านการเกษตร หรือเร่งผลิตครูที่มีคุณภาพ ไม่ใช่เน้นแต่คณะยอดนิยม ถือว่าเป็นเรื่องจริงที่น่าหดหู่อยู่เหมือนกันนะคะ เมื่อลองมาคิดตาม ก็มีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกันว่าเดี๋ยวนี้น้องๆ เลือกเรียนสาขานี้ลดลง ส่วนสาขาที่ได้รับความสนใจ ส่วนใหญ่ก็เป็นสาขาที่มีรายได้ดี หางานง่ายและมั่นคง ซึ่งส่วนตัวพี่มิ้นท์คิดว่าถ้าแวดวงการเกษตรบ้านเราได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ดีกว่านี้ ไม่ต้องเจอภัยธรรมชาติและภัยมนุษย์ และที่สำคัญคือ ควรให้ข้อมูลของคณะอย่างจริงจังจะได้รู้ว่าคณะนี้เรียนอะไร สำคัญยังไง จบไปทำอะไร และอาจจะสร้างค่านิยมใหม่ๆ ในด้านอาชีพของคนไทย หากทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน ในอนาคตสาขานี้อาจจะเป็นสาขาที่น้องๆ ต้องการก็ได้ :) แล้วน้องๆ ล่ะคะ อ่านข่าวนี้จบแแล้ว มีความคิดเห็นยังไง ลองมาแชร์กันนะ?? ขอขอบคุณข่าวจาก
www.manager.co.th ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.agr.ku.ac.th |
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
พ่อหลวงเราก็เก่งเกษตร แล้วเกษตรเรียนมาไม่ีมีเกียรติตรงไหนหรือคุณจะเถียง!?
กำลังโหลด
เราเรียนสาขาวิทยาศาสตร์การเกษตรนะ เชื่อมั้ยว่าสาขาเรา ชั้นปีเรามีคนเรียนแค่ 6 คน เวลาเราบอกใครว่าเราเรียนสาขานี้ มีแต่คนหัวเราะว่าเรียนจบ ป.ตรี จะไปแบกจอบ แบกเสียม ไปทำนาหรอ ? เป็นผู้หญิงจะไหวหรอ? เราไม่แคร์นะว่าจบมาเราจะได้เงินเดือนเท่าไหร่ เราแคร์ที่ว่าเรามีความสุขกับสิ่งที่เรารักมากกว่า
กำลังโหลด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
86 ความคิดเห็น
ก็เลยทำให้คนเรียนเกษตรน้อยลง ทางที่ดี ควรเปิดกว้างให้ม.ปลายทุกสาย ปวช ทุกสาขา เข้าได้
(ดูจริงจังเนอะ=___=)
คือหนูเห็นว่า คนไทยสมัยนี้ แตกต่างจากสมัยก่อนจริงๆนะ
สัมผัสได้จากที่เมื่อก่อนตอนที่ได้ดู ได้เห็นละคร เอ็มวี ภาพยนตร์น้ำดี
เล่าเกี่ยวกับคนรุ่นใหม่ที่มีพ่อแม่เป็นเกษตรกร ชาวไร่ชาวนาชาวสวน ผลิตอาหารหล่อเลี้ยงผู้คนบนโลก
แล้วคนรุ่นใหม่ที่ว่าเนี่ย ก็มักที่จะเลือกไปเรียนในสาขานี้ เลือกที่จะใช้วิชา กลับไปดูแลและพัฒนาบ้านเกิดของพวกเขาเอง
เห็นบ่อยนะ แต่ไม่รู้จริงไหม (แต่เชื่อล่ะว่าเมื่อก่อนเป็นแบบนี้จริงๆ)
ประเด็นนี้ก็คงจะเป็นเรื่องของการปลูกฝังสำนึกรักในบ้านเกิด ในรากเหง้าของตนเอง // แต่มันนอกทะเลไป ไม่ขอพูดต่อนะคะ=__=
อันนี้ก็เป็นความล้มเหลวของสังคมไทยที่สมัยนี้กลับมีค่านิยมที่แตกต่างไปจากสมัยก่อนจริงๆแหละ=__=;;
เห็นได้เลยว่าสมัยนี้ ส่วนใหญ่นะ คนไทย ผู้ปกครอง ตัวเด็กนักเรียนเองอะ
เลือกที่จะทำตามค่านิยมที่ผิดๆต่อกันลงมา
ที่ผิดในสายตาของหนูนะ คือ คนไทยให้ความสำคัญกับชื่อ ความดูดี ยึดติดกับลำดับที่ต่างๆ (คะแนนสอบ ชื่อสถาบัน ชื่อคณะ อะไรเงี้ยะ)
ไม่เคารพในความชอบ ความเป็นตัวของตัวเอง และที่สำคัญนะ ส่วนใหญ่เลย
ไม่ให้ความสำคัญกับคำว่า"วิชาชีพ" และไม่รู้สึกภาคภูมิใจในสิ่งที่ตนเองจะเรียน และชื่อของอาชีพ จริงๆ (อาจจะเป็นเพราะฟังแล้วไม่เท่ ดูแล้วได้เงินเดือนไม่เยอะ อะไรงี้ก็ได้)
รู้สึกได้จากใครหลายๆคนล่ะ
ยกตัวอย่างเช่นเวลาชาวบ้านถามว่า เอ้อ ลูกเธอเรียนไหน จบอะไรมา?
สมมุติคนนึงตอบว่า"จบเกษตรฯมา เคยอยู่มหาลัยZZZ"
กับมีอีกคนนึงตอบว่า"จบหมอมา เคยเรียนอยู่AAA"
เชื่อเหอะ ว่าหลายๆคนเลยล่ะ ได้ยินคำว่า หมอ หรืออะไรที่ดูแล้ว
ฟังแล้วใช้เงินและความยากที่จะได้วิชาชีพนั้นมา
(หมายถึงต้องใช้แรงทางวิชาการมากๆแลกมันมา=__=)
มันฟังแล้ว..คิดไปไกลได้ ถึงขนาดตัดสินคนๆนั้นไปแล้วว่า
"โตมาจะไปแบกจอบแบกเสียม ตากแดดตากลม ก้มหน้าก้มตาปลูกผักปลูกผลไม้"
กับอีกส่วน
"โตมาจะไปใส่เสื้อกาวน์ เป็นเทวดานางฟ้า เป็นผู้ช่วยชีวิตคน"
ถามอะไรหน่อยเหอะว่า มันเอาไปเทียบกันได้ไม๊???
แต่มนุษย์ปกติน่ะก็ชอบเปรียบเทียบกันเป็นสิ่งธรรมดา
แต่หนูเชื่อนะว่า ทุกอาชีพน่ะ มีความสำคัญ และมีความพิเศษในแต่ละอาชีพของตัวมันเอง
ให้เอาคนปลูกผักปลูกผลไม้ เรียนทางด้านพืชผักอาหารเลี้ยงโลก วิจัยเกี่ยวกับด้านนี้เฉพาะทาง
แล้วกลายเป็นว่าเอาวิธีที่เขาได้เรียนรู้มาไปเปรียบกับอาชีพอื่นๆ
ที่มีวิธีการเรียนรู้และจุดประสงค์แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มันก็โหดร้ายไปนะ=_=;;
//เหมือนจะคิดหาเหตุผลเถียงผู้ปกครองให้เพื่อนๆพี่น้องที่จะเรียนในสายคณะนี้เบาๆ ฮ่าๆ><
ที่ว่ามานี่มันยาวไป ขออภัยถ้าไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ..ขอสั้นๆปิดท้ายละกันนะว่า
"ค่าของคน ความสำเร็จของคน ไม่ได้อยู่ที่อาชีพ เงินเดือน รายได้ และความเป็นหน้าเป็นตาจากชื่อนั้นๆ"
ขอบคุณนะคะถ้าอ่านคอมเม้นท์นี้ของหนูจบค่ะ=/|\=
จริง ๆ หนูก็อยากเรียนนะคะ ,, ตั้งใจไว้ว่าจะเรียนใบที่ 2 : )
แล้วถ้าเรียนจะไปทำงานที่ไหนคะ
คนหลายๆคน ยึดติดกับคณะที่มีเกียรติภูมิมากเกินไปแล้วผู้ใหญ่ก็นำเอาแต่ละคณะมาเปรียบเทียบกันทำให้เด็กหลายๆเลือกเรียนที่มีเกียรติมากกว่า แต่คณะไหนๆก็มีเกียรติและศักดิ์ศรีเท่าๆกัน ไม่รู้ผู้ใหญ่บ้างคนจะนำมาเปรียบเทียบกันทำไม แต่ละสาขาวิชาย่อมมีความแตกต่างกัน ถ้าคนโลกหนึ่งมีแต่คนจบอยู่สาขาเดียว แล้วเราจะมีความหลากหลายได้ยังไง ทุกๆอย่างยังไงก็ต้องพึ่งพากัน ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้หรอก
ผมไม่เข้าใจนะว่าคนไทยเป็นอะไรทำไมโรงเรียนสมัยนี้ไม่สนับสนุนการเกษตรอาชีพพื้นฐานบ้านเราเอง น่าเสียดายนะครับ
จะมีซักกี่คนที่ถ้าเลือกได้จะเข้าคณะเกษตร เหอะๆ
อยากให้เรียนกันเยอะๆนะค่ะ อย่าให้ใครมาแย่งเราเรียนเลย
เค้าถือว่าเราเป็นเด็กจบใหม่ กับเค้าที่ทำมาตั้งแต่ก่อนเราเกิด เชื่อตัวเองดีกว่า