เฟรชชี่ชวด!! "ครูมืออาชีพ"...อยากสมัครต้องอยู่ปี 5 เท่านั้น

 

            "ครู" เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เด็กไทยฝัน ทำให้ทั้งรับตรงและแอดมิชชั่นกลาง ของคณะครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์ มียอดคนสมัครเยอะติดท็อปทุกปี แถมคะแนนยังแข่งขันกันมันส์หยดติ๋ง


             ทั้งนี้ ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา น้องๆ ที่สนใจคณะครุฯ ก็คงได้ยินชื่อโครงการ "ครูมืออาชีพ" แล้ว(แปลงร่างมาจากครูพันธุ์ใหม่) ซึ่งจุดประสงค์หลักๆ ของโครงการนี้ก็เพื่อผลิตครูที่เก่งและมีจรรยาบรรณ จบออกมาแล้วมีงานรองรับทันที แต่ก็มีเกณฑ์คัดเลือกในการรับทุนด้วย โดยสรุปเกณฑ์ คือ ต้องเป็นนักศึกษาชั้นปี 5 ต้องมีเกรดเฉลี่ยสะสม และเกรดเฉลี่ยในวิชาเอก รวมถึงเกรดในวิชาชีพครู ไม่ต่ำกว่า 3.00

             จากข้อกำหนดนี้ เด็กครุฯ ชั้นปีอื่นๆ รวมถึงเฟรชชี่ใหม่ ก็แป้วกันเป็นระเบียบ เพราะคนที่สมัครได้ต้องเป็นปีห้าเท่านั้น จนกระทั่งล่าสุดก็มีผู้ใหญ่ใจดีได้ทักท้วงและยื่นข้อเสนอให้น้องปี 1 เข้าร่วมโครงการครูมืออาชีพได้ด้วย  
       
             
ผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ คณบดีคณะครุศาสตร์ ม.ราชภัฏ (มรภ.) มหาสารคาม ในฐานะปธ.สภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) ได้พูดถึงกรณีที่กรรมการบริหารโครงการผลิตครูมืออาชีพและคณะกรรมการคัดเลือกฯ กำหนดคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการไว้ว่าผู้ขอรับทุนจะต้องเป็นนิสิต/นศ.ครู หลักสูตรปริญญาตรี 5 ปี ที่กำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 ในปีการศึกษา 2554 ในสาขาวิชาที่โครงการกำหนด ว่าตนอยากเรียกร้องให้คณะกรรมการบริหารโครงการได้พิจารณาเกณฑ์ โดยเปิดรับ นศ.ชั้นปีที่ 1 ด้วย เพราะการไม่เปิดโอกาสให้นศ.ใหม่เข้าร่วม อาจทำให้จำนวนนักศึกษาเข้าใหม่ในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ลดลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีนักศึกษาเปลี่ยนใจย้ายไปเรียนคณะอื่นแล้วจำนวนมาก เนื่องจากความล่าช้าในการกำหนดหลักเกณฑ์ผู้เข้าร่วมโครงการ
      
             “ปีการศึกษา 2555 เด็กที่เลือกเรียนคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ในแต่ละสถาบัน ส่วนใหญ่เป็นเด็กเก่ง มีระดับคะแนนแอดมิชชันเทียบเท่าหรือมากกว่าเด็กที่สมัครเข้าเรียนสายวิทยาศาสตร์ ยกเว้นจุฬาฯ ที่ระดับคะแนนระหว่างสาขาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ กับวิศวกรรมศาสตร์นั้นเท่ากัน แสดงให้เห็นว่าผู้เรียนปัจจุบันสนใจครูมาก แต่เพราะนโยบายรัฐบาลไม่ชัดเจน ส่งผลให้ขณะนี้มีเด็กที่เปลี่ยนใจไปเรียนสาขาอื่นแล้ว ประมาณร้อยละ 30 ดังนั้น อยากให้คณะกรรมการพิจารณาเปิดโอกาสให้แก่เด็กนักศึกษาปี 1 ที่มีความตั้งใจจริงที่จะเป็นครูด้วย” ประธาน ส.ค.ศ.ท.กล่าว

                 จากที่รอรายละเอียดมานานแสนนาน สรุปแล้วก็คือ จะเข้าร่วมโครงการได้ก็ต้องรอจนเกือบจะเรียนจบ จึงเป็นเหตุผลให้คนที่รอไม่ไหวท้อ และหนีกันไปหมด แต่เมื่อมีข้อเสนอใหม่แบบนี้ ก็ต้องรอดูกันค่ะว่าจะทำให้น้องปี 1 เข้าร่วมด้วยได้หรือไม่ ถ้าปรับเปลี่ยนได้ พี่มิ้นท์ว่าก็แจ่มเลยนะ เพราะจะได้เปิดโอกาสให้กับน้องๆ ที่เก่ง และมีความตั้งใจเป็นครู ตั้งใจและมุ่งมั่นในการเรียนมากกว่าเดิม

 

เด็กดีดอทคอม :: เด็กมัธยมงานเข้า!! ศธ.เอา O-NET มาคิดเกรดโรงเรียน

แจ้งน้องๆ ที่สมัครรับข่าวแอดฯผ่าน SMS ในเดือน มิ.ย. รอพบ SMS เด็ดๆ ดังนี้
       - อัพเดทไว!! ข่าวรับตรงปี 56 ของ 3 ม.แรกของปี จุฬา มศว และ มข.
      - รู้ก่อนใคร ระเบียบการสอบ GAT PAT ทั้ง 2 รอบ (เด็ดจาก สทศ.)
     - ตามข่าววงใน ทุกเหตุการณ์สอบตรง และแอดมิชชั่นที่รุ่น 56 ต้องรู้!!
      - รวมงานติวฟรีของทุกคณะ ทุกมหาวิทยาลัย ที่เด็ก ม.6 ไม่ควรพลาด!!

        (อยากรับข่าว SMS บ้าง มาอ่านวิธีสมัคร คลิกที่นี่ เลย)
           
                     ข่าวดี !! น้องที่ใช้เครือข่าย truemove H ก็สมัคร Dek-D'S SMS ได้แล้วจ้า


                 ขอขอบคุณข่าวจาก
www.manager.co.th

 

พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

อยากเปนครุ 18 มิ.ย. 55 17:39 น. 5
จขกท ที่1 ครับ ถ้าทุกคนคิดอย่างคุณ ประเทศชาติเลยขาดครูดีๆไง คือ โครงการนี้ เขาจัดทำเพื่อ คนเก่งจะได้มาเรียนครู จะได้มาพัฒนาประเทศชาติของเรา ไม่ใช่ นำคนที่ไม่ได้มีความรักในอาชีพนี้ มาเป็นครุ หรือ คนประเภทที่เห็นเเก่เงิน ใช้งานศึกษา มาทำเป็นธุรกิจ ซึ้งไม่ได้มีความตั้งใจจริง เพียงเเค่เงิน งั้นหรอครับ?
0
กำลังโหลด

36 ความคิดเห็น

ซ่อนนาม Member 18 มิ.ย. 55 14:52 น. 1
ไม่เข้าใจว่าทำไมเงื่อนไขของการเป็นครูมันยากเอามาก ๆ
ยังไม่รวมที่เงื่อนไขไม่สนับสนุนกับพวกที่จบสายตรงในวิชาที่เรียนให้มาเป็นครูได้
(เช่นคณะวิทย์เอกคณิตจะมาสอนวิชาเลขก็ต้องเรียนครุศาสตร์ด้วยเสมอ)

แต่พอผ่านเงื่อนไขได้ทั้งหมดกับได้เงินเดือนเพียงกระจึ๋งเดียว
แบบนี้ใครจะอยากเป็นครู ?

เพราะอุดมการณ์มันกินไม่ได้ ถึงเป็นคนดีที่ไหนก็มีครอบครัวและคนที่เรารักต้องดูแลอยู่
ใครที่ไหนอยากจะเป็นครู หากเขามีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ ?
แถมการเป็นอาจารย์มหาลัยก็ง่ายกว่า เงินดีกว่า แถมมีเกียรติมีความก้าวหน้ากว่า
และนอกจากนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นครูในสังกัด แค่เป็นครูสอนพิเศษก็ง่ายและรวยกว่า
แน่นอนในเมื่อมีทางเลือกอื่นที่เหมือนกัน ทั้งรักษาอุดมการณ์ได้แถมยังอิ่มท้อง
เขาอยากจะมาเป็นครูในสังกัดรัฐบาลกันอีกทำไม ?


...ซึ่งไม่เข้าใจว่าทางรัฐบาลหรือกระทรวงต่าง ๆ มัวคิดอะไรอยู่
อนาคตของเด็กไทย การศึกษาไทย ขึ้นกับครูเป็นหลัก
แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่มากกว่าไล่ครูดี ๆ ให้ไปหางานอื่นทำ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
^88^ToMo^88^ Member 18 มิ.ย. 55 17:32 น. 4
พวกศึกษา คุรุ นี่สอบตรงก็ยากมาก คะแนนแอดก็สูงอีก แล้วคนที่อยากเรียนครูจริงๆแต่คะแนนน้อยก็หมดสิทธิ์ เราก็อยากเข้าคณะวิทย์ เพื่อจะได้เป็นครูได้ แต่ก็มายกเลิกซะงั้น แล้วอนาคตนี่ ครูพอเพียงแล้วใช่มั้ย? จริงๆครูอายุ 55+ ที่ รร.เรา ก็จะมีครูฝึกสอนมาสอน แล้วทาง รร ก็ให้ครูฝึกสอนสอนแทนครูอายุเยอะๆใกล้เกษียรทั้งน๊านน.. ทำไมแต่ก่อนเข้าง่ายนักหนา จบ มศ 3 เรียนสายตรงครูจบมาก็เป็นได้ คณะวิทย์ จบมาก็เป็นได้ ไม่น่ายกเลิกเลย เห้อ ประเทศไทยเจริญ
0
กำลังโหลด
อยากเปนครุ 18 มิ.ย. 55 17:39 น. 5
จขกท ที่1 ครับ ถ้าทุกคนคิดอย่างคุณ ประเทศชาติเลยขาดครูดีๆไง คือ โครงการนี้ เขาจัดทำเพื่อ คนเก่งจะได้มาเรียนครู จะได้มาพัฒนาประเทศชาติของเรา ไม่ใช่ นำคนที่ไม่ได้มีความรักในอาชีพนี้ มาเป็นครุ หรือ คนประเภทที่เห็นเเก่เงิน ใช้งานศึกษา มาทำเป็นธุรกิจ ซึ้งไม่ได้มีความตั้งใจจริง เพียงเเค่เงิน งั้นหรอครับ?
0
กำลังโหลด
ซ่อนนาม Member 18 มิ.ย. 55 18:52 น. 6
#5
แล้วทำไมคนเก่งถึงต้องมาเป็นครู ?
ในเมื่อเขาก็สามารถทำงานที่ได้เงินดีกว่า มีเกียรติกว่า และยังรักษาอุดมการณ์ของเขาได้ ?

เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ก็สามารถสอนนิสิตนักศึกษาได้เหมือนกัน
เป็นหมอ ก็สามารถช่วยคนได้มากกว่า แถมยังได้เงินมากกว่ามีเกียรติกว่า
แถมคุณค่าของอาชีพนี้เมื่อเทียบกับกับอาชีพอื่นก็ไม่ต่างกัน
(ถ้าท่านบอกต่างกัน แปลว่าท่านกำลังหมิ่นเกียรติของอาชีพอื่นอยู่)

ดังนั้น หนทางที่ยากกว่า ผลตอบแทนที่ได้น้อย และอาจจะเดือดร้อนไปถึงคนที่เรารัก
แล้วแบบนี้ เขาจะยังเลือกที่จะเป็นครูไปอยู่ทำไม ?

ลองดูในความเป็นจริงเสียบ้าง อย่าคาดหวังสิ่งที่อยู่ในอุดมคติอยู่เลย
ครูที่เก่งและมีความสามารถ มีอยู่เท่าไหร่เมื่อเทียบกับครูทั้งหมดในประเทศนี้ ?
ครูที่เข้ามาแล้วใส่ใจในการสอน จนเด็กรักและชอบจนไม่ต้องเรียนพิเศษเพิ่มมีแค่ไหน ?

สิ่งที่พวกเราทำ คือการอยู่เฉย และหวังว่าโลกใบนี้จะกลายเป็นดั่งอุดมคติที่ได้คิดไว้
คาดหวังว่าจะให้คนอื่นทั้งโลก "นอกจากเรา" เป็นคนดีที่ยอมเสียสละทำสิ่งนี้แทนตัวเรา

ขอถามหน่อย เมื่อคนดีได้ยอมลงไปเสียสละ แล้วเราได้ช่วยเหลือเขาบ้างไหม ?
...แค่มองและชื่นชม และให้ครูที่ดีเหล่านั้นเสียสละจนต้องท้องหิวไส้กิ่วต่อไป ?
ช่างเป็นเรื่องที่น่าตลกมาก !

แถมค่าเล่าเรียน ดีไม่ดีจะต้องจ่ายมากกว่าเงินเดือนที่จะได้หลังจบไปอีกกระมัง ?
แล้วแบบนี้จะไปเรียนครุเพื่อเป็นครูไปทำไม ?
สู้เรียนสายตรงในวิชานั้นแล้วเป็นครูสอนพิเศษหรืออาจารย์ในมหาวิทยาลัยจะดีกว่าไหม ?
(เสียครูดี ๆ ไปคนแล้วไง คห.4 นั่นแหละ เพราะทางภาครัฐดันมากำหนดกฎเพื้ยน ๆ เช่นนี้)


ถ้าอุดมคติของท่านมันเป็นจริงได้โดยไม่ต้องไปแก้ไขมัน
ป่านนี้ประเทศไทยคงเต็มไปด้วยครูดี ๆ
ที่สอนเด็กจนทำข้อสอบโอเน็ตเอเน็ตได้เต็มโดยไม่เรียนพิเศษแล้ว
แต่อุดมคติที่คาดหวังเอาไว้มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นไง พวกเราจึงต้องเข้าไปช่วยแก้ไขมัน

...และถ้าอุดมคตินี้มันดีจริง ท่านทั้งหลายทำไมไม่คิดที่จะไปเป็นครูบ้าง ?
แล้วหากใครคิดอย่างนั้นจริง ก็ขออวยพรให้เป็นได้ไปตลอดรอดฝั่งโดยไม่คิดท้อใจก่อนเสียล่ะ


...และขอเสริมสักนิด ประชาชนที่ดีในสายตาของชนชั้นปกครอง คือประชาชนที่โง่
เพราะพวกเขาจะไม่มีปากมีเสียงและหลงเชื่อคำลวงของพวกเขาได้โดยง่าย
โอเน็ต เอเน็ต แอดมิดชั่นที่แสนไร้สาระ ต้องพึ่งดวงมากกว่าความสามารถในการสอบ
คิดขึ้นมาทำไม ? ระบบสอบเอนท์แบบเดิมดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ แก้ทำไม ?
แถมนโยบายเรียนฟรี ก็โดนยุบไปแล้วไม่ใช่รึ ทำให้ต้องจ่ายค่าเรียนที่แสนแพงเอง
ทั้งที่การเรียน 12 ปีเป็นกฎหมายที่ให้เด็กทุกคนต้องเรียนแท้ ๆ แต่ทำเช่นนั้นไปทำไม ?
และไหนจะเรื่องนี้อีก ทำไมถึงได้ให้การเป็นครูในโรงเรียนรัฐทำได้ยากเช่นนั้นล่ะ ?

คำตอบง่าย ๆ ก็เพื่อจะได้กีดกันไม่ให้มีครูดี ๆ มาสอนเด็กอยู่ไง
ประชาชนจะได้โง่ ทำให้พวกเขาปกครองพวกเราได้ง่าย ไม่รู้ตัวหรอกรึ ?


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 18 มิถุนายน 2555 / 18:58
0
กำลังโหลด
Pasta C.charm Member 18 มิ.ย. 55 18:59 น. 7
 ทุกคนน่าจะเห็นค่าของครู ถ้าไม่มีครูดีๆ ก็ไม่มีหมอเก่งๆหรอก เพราะฉะนั้นน่าจะให้ความสำคัญกะครูหน่อยนะ
0
กำลังโหลด
ซ่อนนาม Member 18 มิ.ย. 55 19:09 น. 8
#7
ที่มีปัญหาคือ
ทุกคนอ้างว่าตัวเองเห็นคุณค่าของครู แต่ไม่จะคิดช่วย5อะไรครูเลย
และบอกว่าให้ความสำคัญ ก็แค่การพูดเอ่ยชมแล้วไม่ได้ทำอะไรที่มากกว่านั้น

ดังนั้นการเห็นคุณค่าและความสำคัญของครูแบบนี้ มันจะช่วยครูได้ไหม ?

...ตั้งมาตรฐานของครูไว้สูง แต่ดันตอบแทนให้เขากลับคืนไปเสียต่ำเรี่ยดิน
ครูดี ๆ ที่ไหนก็ไม่อาจจะอยู่รอดได้ และถึงได้เหลือน้อยเต็มทีแบบในปัจจุบันนี้ไง
0
กำลังโหลด
-*-^VamPires^-*- Member 18 มิ.ย. 55 19:28 น. 9
 ตอนนี้เราเรียนครู อุดมการณ์คืออยากพัฒนาประเทศไทยให้เด็กเก่งๆ และได้ความรู้มากๆจากการที่เราสอน ถึงจะไม่บรรจุให้หรือต้องไปสอบแข่ง พวกคุณก็สามารถเป็นอัตราจ้างไปก่อนก็ได้นี่เงินอาจจะน้อยกว่าแต่คุณก็ได้ประสบการณ์จากการสอนเหมือนกัน ถามว่าเงินพอมั้ยก็คงไม่พอหรอกในสมัยนี้ถ้าหากคุณตั้งใจอ่านหนังสือสอบบรรจุให้ติดเชื่อเหอะว่ายังไงคุณก็ติด เชื่อมั่นในตัวเอง โครงการที่ออกมาเพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้เราตั้งใจศึกษาหาความรู้้ จงเชื่อมั่นในตัวเองหากเรามีอุดมการณ์ที่เหมือนกันก็จำคำนี้ไว้ "จงเชื่อมั่นในตัวเอง"
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
nice_dayz Member 18 มิ.ย. 55 19:52 น. 11
งง 
คือรับตั้งแต่ปีหนึ่ง หรือรับตอนปีห้า มันต่างกันยังไงอ่ะค่ะ
เพราะสุดท้ายเกณฑ์รับก็เท่ากัน
แล้วผลที่ได้ ก็คือ มีงานรองรับเฉยๆไม่ใช่เหรอคะ
ไม่ได้ให้ทุนตอนเรียนด้วยนี่ หรือเราเข้าใจอะไรผิด
0
กำลังโหลด
ซ่อนนาม Member 18 มิ.ย. 55 19:55 น. 12
#9
ขอให้ท่านสามารถคงอุดมการณ์นี้ต่อไปได้อย่างไม่เสื่อมคลายนะ

แต่เราก็จะไม่เพียงแค่พูดอวยพร
หากเรามีความสามารถหรือมีโอกาสที่จะทำ
เราก็จะพยายามหาทางให้รัฐเข็นนโยบายที่สนับสนุนครูมากกว่าในปัจจุบันนี้ให้จงได้

และแม้ตอนนี้เราจะทำได้แค่พูด พิมพ์ เขียน แต่เราจะทำต่อไปจนกว่ามันจะเกิดขึ้นได้จริง


#11
ต่างกัน
เพราะ ปี1 ยังมีทางเลือกอีกมาก แต่ปี5 ไม่มีทางเลือกแล้ว
ดังนั้นคนที่เข้าตั้งแต่ปี1 ถ้าไม่ชอบก็เลิก ถ้าชอบก็อยู่ต่อ
ดังนั้นคนที่เลือกเพราะ"ใจ"จะมีมากกว่า
ทว่า ปี5 ไม่ใช่อย่างนั้น หลายคนไม่มีทางเลือกต่อไปแล้ว
เพราะมันสายเกินกว่าที่จะกลับตัวไปเลือกทำอย่างอื่นใหม่
(ความจริง หลายคนก็ดันทุรังมาตั้งแต่ ปี2 แล้ว)
ดังนั้นคนที่ได้จะมีคนที่"จำเป็น"ต้องเข้าร่วม มากกว่าเข้าเพราะ"ใจ"มากกว่า
แน่นอน อาจจะมีจำนวนน้อย แต่ยังไงมันก็มีมากกว่าปี1แน่ ๆ
ซึ่งอาจจะส่งผลให้ได้ครูที่ไม่มีคุณภาพออกไปได้
(แต่แค่คนเดียวที่ออกไปจากตรงนี้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรแล้ว)



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 18 มิถุนายน 2555 / 20:02
0
กำลังโหลด
อยากเป็นคร฿ 18 มิ.ย. 55 20:20 น. 13
คห 6 คนที่เชาเข้ามาอ่าน อยากเป็นครุทุกคน ถ้าคุณมาเม้นไรอย่างงี้ เท่ากับว่า คุณดูถุกครุบาอาจาร ถามหน่อยครับ ถ้าไม่มีครู เเล้วจะมีหมอเก่งๆไหม ถ้าคนเก่งๆไปเรียนหมอกันหมด เเล้วใครจะมาเป็นครุที่เก่งล่ะ เเล้วพวกหมอๆเนี่ย เรียนไปเพราะ มันเปนที่สุดของความเก่ง สุดท้ายตนก็เอาตังค์ไปให้หมอ เหมือนหากินกะคนขี้โรคไงไม่รุ้
0
กำลังโหลด
ซ่อนนาม Member 18 มิ.ย. 55 23:09 น. 14
#13
ถามกลับ... แล้วถ้ามีครูที่ดีกว่านี้ คิดว่าจะได้หมอที่ดีกว่านี้ไหม ?

แล้วที่ท่านพูดว่ากลัวคนเก่ง ๆ ไปเรียนหมอจนไม่มีเหลือมาเรียนครู
ถามว่า มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบันนี้หรอกหรือ ?

ซึ่งเราไม่เข้าใจว่าท่านกำลังสื่ออะไร
ในเมื่อสิ่งที่ท่านไม่อยากให้เกิด มันก็เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน
ดังนั้นค้านไปเพื่ออะไร ? เพื่อให้ประเทศไทยยังคงย่ำอยู่กับที่อย่างนั้นเหรอ ?


ท่านต้องเข้าใจจุดยืนเราเสียใหม่
เราไม่ได้ดูถูกอาชีพครู
แต่เราดูถูกภาครัฐ ที่คิดนโยบายที่ขับไล่คนเก่งให้คิดออกห่างจากการเป็นอาชีพครู
เพื่อหวังให้ทางภาครัฐเปลี่ยนนโยบายใหม่ให้สนับสนุนคนเก่งอยากมาเป็นครูมากขึ้นบ้าง

และเพราะท่านยังแยกประเด็นไม่ออกในตรงนี้
มันถึงทำให้ประเทศไทยยังไม่ได้ครูที่มีคุณภาพเท่าที่ควรจะเป็นอยู่ยังไงล่ะ


...สุดท้ายแล้วสำหรับพวกท่านที่รู้จักแค่เพียงแต่จำนวนจริง
คงไม่อาจเข้าใจจำนวนจินตภาพที่เรากำลังสื่อได้ สินะ ?
0
กำลังโหลด
มิลลิโกะจัง Member 19 มิ.ย. 55 01:43 น. 15
 *คห.14

ถ้าไม่มี "จิตวิญญาณ" กับ "อุดมการณ์" ความเป็นครู ก็อย่ามาเป็นเลยครับ ^^

เดี๋ยวนี้วิชาชีพครู เป็นวิชาชีพเฉพาะแล้วเหมือนกัน ต้องฝึกสอน เรียน5ปี ไม่ใช่ให้ใครจบอะไรมั่วๆซั่วๆจะมาเป็นครูได้ 

ถ้าคนทั้งประเทศคิดแบบคุณ ประเทศก็ล่มจ่มครับ จบ!
เพราะจะมีแต่ครูหวังรวย ครูเห็นแก่เงิน ฯลฯ เต็มไปหมดแหละ

เป็นครู ไม่ได้เป็นด้วยหน้าที่ แต่เค้าเป็นกันด้วย "ใจ" 

0
กำลังโหลด
เหนื่อย 19 มิ.ย. 55 02:31 น. 16
ก็ไม่ต่างกันนะครับ จะสมัครปี5หรือ1 ก็ควรต้องอาศัยเกรดที่เรียนในมหาวิทยาลัยทั้งนั้น ซึ่งถ้าคุณสมัครปี1 แล้วคุณก็ต้องมาเรียนเพื่อทำเกรด ผลสุดท้ายมันก็ใช้เกรดในระดับมหาวิทยาลัยอยู่ดี แล้วจะโวยวายกันไปทำไม เพราะทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะสมัครทั้งสิ้นถ้าเกรดคุณผ่านเกณฑ์ที่กำหนด เพราะถ้าคุณสมัครปี1 เมื่อคุณมาเรียนเกรดคุณไม่ผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คุณก็หลุดอยู่ดี มันจึงไม่ต่างกันเลยนะครับว่าสมัครปีไหน

ส่วนประเด็นวิวชาชีพครูที่มันตกต่ำ คนเก่งมาเรียนน้อยนั่นคือเรื่องจริงที่ต้องยอมรับและรับมันให้ได้ แต่ปัจจุบันมันก็เริ่มมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น คนเก่งก็เริ่มมาเรียนเยอะขึ้น ผมมองว่ามันเป็นผลมาจากนโยบายครูพันธุ์ใหม่ที่ทำให้วิวชาชีพครูเป็นที่น่าสนใจในขณะนี้
0
กำลังโหลด
ซ่อนนาม Member 19 มิ.ย. 55 02:42 น. 17
#15
ท่านต้องแยกให้ออก ว่าจุดยืนของแต่ละคนคืออะไร
แน่นอน คนที่จะเป็นครู หากคิดอย่างเราย่อมจะทำให้ประเทศชาติล่มจม
แต่เราไม่ใช่ครู ! และไม่ได้เป็นครู แต่เราเป็นคนที่จะช่วยเหลือครูต่างหาก

ท่านลองคิดดูแบบนี้ก็แล้วกัน
สมมติว่าตัวท่านเป็นครู และเราเป็นเจ้าของโรงเรียน
ถามว่า หากเรายื่นข้อเสนอไปว่า

คนที่เป็นครูอย่างท่าน จำเป็นต้องจบมัธยมด้วยเกรด 3.00 ขึ้นไป
แถมต้องเรียน 5 ปี ค่าเทอมเท่ากับหมอ แต่เงินเดือนที่เราจะให้ท่านน้อยกว่าจับกัง
และท่านก็ต้องห้ามเถียงห้ามต่อรอง
เพราะท่านเป็นคนที่มี "จิตวิญญาณ" กับ "อุดมการณ์" ของความเป็นครูอยู่

ถามว่าท่านจะยอมไหม ?
และมีคนเก่งมีความสามารถสักกี่คนที่จะยอมรับเงื่อนไขนี้ ?
...ทว่านี่แหละคือสิ่งที่ทางภาครัฐกำลังทำอยู่


กลับกัน ในความเป็นจริง คอลัมน์นี้เรากำลังเสนอว่า
เงื่อนไขข้างบนเลวทรามมาก ทำไมคนเป็นครูต้องยากลำบากขนาดนั้น ?
ในเมื่อเขามี "จิตวิญญาณ" กับ "อุดมการณ์" ของความเป็นครูอย่างเต็มเปี่ยม
ไฉนเราถึงต้องเอาเปรียบเขาขนาดนั้นล่ะ ?
ถนัดคณิตศาสตร์ เรียนจบวิทย์เอกคณิตศาสตร์ก็มาเป็นครูได้ง่าย แถมเงินดีด้วย
แบบนี้สิคนที่เก่งเขาก็มาหา เกิดการแข่งขันกันในอาชีพ
แค่ครูดียังไม่พอแต่ต้องดีที่สุดถึงจะอยู่รอด

นี่แหละคือจุดมุ่งหมายของเรา

ด้วยเหตุนี้ แยกแยะให้ดีนะ
เราพูดด้วยจุดยืนของเจ้าของโรงเรียน ไม่ใช่จุดยืนของคนที่จะเป็นครู

ลองดูให้ดี
"เรียนเยอะ เฉพาะทาง ทว่าได้เงินต่ำ" ถ้าครูพูด-ดูดี แต่ถ้าเจ้าของโรงเรียนพูด-ดูเลว
"ง่ายใครเก่งก็มาสอนได้ แถมได้เงินดี" ถ้าครูพูด-ดูเลว แต่เจ้าของโรงเรียนพูด-ดูดี
โดยเราขอยินยันมาตั้งแต่ต้นว่า เราพูดในจุดยืนของเจ้าของโรงเรียน ไม่ใช่ครู



หากท่านหรือใครจะเถียง ก็บอกด้วยว่าสิ่งที่เราพูดผิดตรงไหน
การบอกว่า "เพราะแบบนี้ถึงเป็นอย่างนี้" มันเป็นความรู้สึก หาใช่ข้อเท็จจริงไม่

ดังนั้นคุยกันด้วยเหตุผลสิ ! อย่าคุยกันด้วยความรู้สึก !
คุยกันด้วยสถิติและความเป็นจริง ไม่ใช่เอาอารมณ์และความเชื่อเป็นที่ตั้ง
ก็เพราะแบบนี้ไงล่ะ ถึงได้ปล่อยให้ จีทีสองร้อย ฆ่าทหารและคนบริสุทธิ์มาร่วมหลายปี
เพราะคุยกันด้วยความรู้สึกแทนที่จะด้วยเหตุผลยังไงล่ะ !
0
กำลังโหลด
002 19 มิ.ย. 55 10:36 น. 18
เราเห็นด้วยกับท่านซ่อนนามทุกอย่างเลยนะ ครูลำบากมากเเต่เงินเดือนน้อยมาก อุดมการณ์มันกินไม่ได้ ครูมีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงต้องดูเเล

ระบบรับครูตอนนี้มันเหมือนรับเเต่คนไม่มีทางไปให้มาเป็นครู คนที่มีอุดมการณ์จริงๆเหลือไม่กี่คนหรอก ลองมองกลับไปดูครูรอบตัวคุณในปัจจุบันดูนะ 10%คือคนที่ทำเพื่ออุดมการณ์ที่ว่า เเต่ที่เหลือไม่ใช่เลย

บางคนไม่เก่งเลย ปล่อยเด็กทิ้งๆขว้างๆ ไปรับจ๊อบสอนพิเศษเพิ่มก็มี บังคับให้เด็กเรียนพิเศษกับตัวเองเพื่อเกรดก็มี เงินมันไม่พอกิน ครูเลยไม่ใช่ครูที่เเท้จริง นอกจากรับจ๊อบเพิ่มยังไปกู้หนี้ยืมสินจนท่วมหัว ถามจริงๆเถอะ คนมีความสามารถที่จะหาเิงินได้มากกว่าเงินเดือนครู เขาจะเอาตัวเองมาอยู่ในสถานการณ์เเบบนี้ทำไม

เเค่งานครูก็เหนื่อยมากเเล้ว ยังต้องมีจ๊อบพิเศษ เเถมยังต้องกู้หนี้ยืมสินอีก คนเก่งๆที่ไม่กินอุดมการณ์เป็นอาหาร เขาไม่เอาหรอก

ถ้าเกณฑ์รับเข้าเป็นครูทั้งสูง ยาก เเละวุ่นวาย เงินเดือนที่ให้ครูควรเพิ่มขึ้นตามด้วยเพื่อให้คนอยากเป็นครูมากขึ้น เเล้วเราก็มีครูเก่งๆมากขึ้น เด็กเก่งขึ้น ชาติพัฒนาได้มากขึ้น

ไม่ใช่ความสามารถระดับเกรดA เเต่ต้องมาทำงานรับเงินเดือนระดับเกรดD ชีวิตครูบางคนเเทบจะติดF -*-

คนที่เป็นครูเพราะอุดมการณ์ ถ้ายังรักษาสิ่งนั้นไว้จนจบชีวิตความเป็นครูได้ก็ขอสรรเสริญ เเต่จะมีซักกี่คนที่รอดจากสภาพเเวดล้อมที่บังคับให้อุดมการณ์นั้นหายไป
0
กำลังโหลด
ซ่อนนาม Member 19 มิ.ย. 55 10:57 น. 19
#18
มีคนเข้าใจสิ่งที่เราสื่อสักที

เพราะหลายคนดันเข้าใจว่าเราพูดเพราะเราจะเป็นครู =*=
แต่แท้จริงเราพูดในฐานะเป็นนักเรียนของครูต่างหาก
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด