สวัสดีจ้าน้องๆ ชาว Dek-D.com แอบถามกันหน่อยว่า ตอนนี้เตรียมตัวสำหรับการสอบ O-NET กันคืบหน้าไปถึงไหนแล้วบ้าง อย่างตอนนี้แอบถาม 4 กัปตัน BRAND'S Admission Reality ปี 4 แต่ละคนบอกว่า เตรียมกันได้..ชิลล์มาก!!

     วันนี้ พี่แนนเลยมีเทคนิคดีๆ สำหรับการเตรียมตัวสอบ O-NET วิชาที่เด็กไทยแพ้ทางมาก อย่างวิชาภาษาอังกฤษมาฝากกันค่ะ โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายแบบนี้  ถ้ามีวิธีไหนเก็บคะแนนให้ได้เกินครึ่ง ก็อุ่นใจแล้ว งานนี้พี่แนนเลยไปถามมาจาก
ครูพี่แนน โรงเรียนกวดวิชา Enconcept มาฝากกันค่ะ ซึ่งพี่แนนก็จัดเต็มทุกเทคนิควิธีที่จะพิชิต O-NET วิชาภาษาอังกฤษให้ได้เกินครึ่ง ทั้งแนวข้อสอบ เทคนิคการทำพาร์ท Error รับรอง ถ้าทำได้ คะแนนไม่เน่าหนอนชัวร์!!


เทคนิคทำพาร์ท Error ให้ได้แต้ม


     สำหรับข้อสอบ O-NET ที่มี 90 ข้อ 100 คะแนน เชื่อแน่ว่าน้องๆ ทุกคนจะเป็นกังวลกับพาร์ทนี้มากที่สุด คือ Error Identification เพราะข้อสอบ 1 ข้อมีตัวเลือกให้อ่านมากถึง 16 ตัวเลือก ที่สำคัญแต่ละข้อมีค่ามากถึง 2 แต้ม ทำดีก็เป็นตัวช่วย ทำไม่ได้ก็เป็นตัวซวยได้เช่นกัน ดังนั้น ก่อนอื่นเลยในการเจอข้อสอบที่วัดใจขนาดนี้ ขอให้ตั้งสติให้มั่น อย่าลน อย่าเสียเวลาไปคิดว่าข้อนี้คะแนนเยอะจะพลาดไม่ได้ ฉันทำไม่ได้ตายแน่ นอกจากเสียเวลาแล้ว ยังทำให้เสียสติ ฉุดให้เสียเวลา เสียความมั่นใจในการทำคะแนนในพาร์ทอื่นๆ ด้วย

     วิธีการทำข้อสอบ Error Identification สำหรับน้องๆ ที่เรียนกับพี่แนนมาจะรู้ว่าง่ายมาก เราใช้ Tree Tactics เป็น แผนที่นำทางความคิด จะได้มีระบบระเบียบในการคิด อาศัยคุ้นๆ เดาๆ ก็ได้คะแนนแบบคุ้นๆ คล้ายๆ จะถูก แต่ก็อาจจะไม่ถูก ถ้าจะให้มั่นใจว่า ถูกชัวร์ ต้องจัดการลำดับความคิดเป็นขั้นตอน คือ

     1. ข้อสอบ Error แบบ 16 Choice กับ 4 Choice วิธีการทำไม่เหมือนกัน สำหรับใน O-NET เป็นแบบ 16 Choice ห้ามอ่าน Choice ก่อนเด็ดขาด เพราะนอกจากไม่ช่วยแล้ว ยังทำให้งงหนักกว่าเดิม

     ต้องเริ่มต้นอ่านโจทย์โดยดูให้ออกว่า 4 ตัวเลือกที่โจทย์คิดเส้นใต้มา เค้าวัดเรื่องอะไร โดยดูจากว่า คำที่ขีดเส้นใต้นั้น ทำหน้าที่อะไรในประโยค เช่น วัดเรื่อง Verb ขอให้มี Checklist ไว้ในใจเลยว่า เรื่อง Verb ต้องดูอะไรบ้าง เช่น Tense ถูกไหม Voice ใช่หรือเปล่า Subject เป็นเอกพจน์ Verb ผันไปด้วยกันกับ Subject หรือเปล่า เป็นต้น

     2. เมื่อได้คำตอบไว้ในใจแล้วว่าข้อไหนผิด ให้ตัด Choice ที่ไม่เกี่ยวข้องทิ้ง อย่าเสียเวลาไล่อ่านทุกตัว แล้วเลือกแก้ไขให้ถูกต้อง ขอให้เชื่อในการตัดสินใจครั้งแรกของเรา มักจะถูกต้องที่สุดเสมอ อย่าให้จำนวน Choice เยอะๆ มาทำให้เราลังเล นอกจากช้าแล้ว ยังทำให้ตัดสินใจผิดได้ง่ายๆ ด้วย

     จริงๆ แล้วถ้าน้องๆ ทำ Check List แบบที่พี่แนนเรียกว่า Tree Tactics ไว้ ให้เป็นนิสัย น้องๆ จะรู้คำตอบได้ตั้งแต่แว๊บแรกเลย พอรู้ว่าโจทย์วัดเรื่องอะไร ไล่เช็คไปทีละจุด ก็จะสามารถเลือกจุดผิด และแก้ให้ถูกได้ทันทีเป็นอัตโนมัติ สำหรับน้องๆ ที่ไม่ได้เรียนกับพี่แนน ก็สามารถฝึกทำ Check List ด้วยตัวเองได้ เวลาอ่านหนังสือ และฝึกทำโจทย์ให้หมั่นสังเกต และจัดกลุ่มความรู้เป็นหมวดหมู่ก็จะเห็น Pattern ของโจทย์ ว่าเรื่องที่วัดแต่ละเรื่องหน้าตาเดิมๆ ไม่ไปไหน




     ถ้าช่วงโค้งสุดท้ายนี้ กลับมาทวน Grammar ทั้งหมดไม่ทันแล้ว พี่แนนแนะนำ 5 เรื่องที่ต้องทวน พลาดไม่ได้เด็ดขาด คือ

     1. Verb แท้ ดูหลักๆ เรื่อง Tense โดยเฉพาะการใช้ Tense คู่, Subject & Verb Agreement, Active, Passive Voice

     2. Verb ไม่แท้ ส่วนใหญ่มักออกเรื่อง Present และ Past Participle

     3. Connector ต่างๆ เช่น Despite กับ Despite of


     4.Adj, Adv. ส่วนใหญ่วัดเรื่องตำแหน่งในประโยค รวมทั้ง Adj. หน้าตาแปลกๆ เหมือน Adv. เช่น hardly, friendly, lovely เป็นต้น

     5. Phrasal Verb หรือ วัดเรื่อง Preposition ที่มาคู่ Verb แล้วให้ความหมายที่เหมาะสมกับประโยค

     ข้อควรระวังมากๆ สำหรับการทำโจทย์ Error Identification คือการบริหารสติ และเวลา เพราะโจทย์ยาวอ่านเยอะ อย่าเสียเวลาอ่านทุกตัว ที่สำคัญคือ อย่าให้ชื่อข้อสอบหลอกเรา หลายคนเชื่อว่า Error เป็นข้อสอบวัด Grammar แต่หลายครั้งก็เป็นโจทย์ที่วัดความรู้เรื่อง Vocabulary และ Idiom ร่วมด้วย ดังนั้นอย่าลืมมองความถูกต้องในเชิงความหมายกำกับด้วย ถ้าทำได้ตามนี้ 20  คะแนนเต็มจากพาร์ท Error ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปอย่างที่น้องๆ กลัวกันเลยค่ะ




เส้นตาย!! สัปดาห์สุดท้ายก่อนสอบ ทำยังไงให้ได้คะแนนเกิน 50%


     ถ้าน้องๆ กลับไปทำโจทย์เก่า และวิเคราะห์โจทย์ดูก็จะเห็นว่า คะแนนในส่วนของ Reading และ Grammar ของ O-NET ค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่การจะฟิตทักษะทางแกรมมาร์ในเวลาอันสั้นทำได้ยากกว่า เพราะต้องใช้เวลาทบทวนเนื้อหาจำนวนมาก พี่แนนจึงแนะนำว่า ในเวลาสั้นๆ เช่นนี้ถ้าน้องๆ ทำโจทย์ย้อนหลังใน Part Reading เยอะๆ จะเห็นแนวทางการทำโจทย์ว่าสามารถใช้การเดาศัพท์ และตีความจากบริบทช่วยได้ ทำให้ทำคะแนนได้ง่ายกว่าพาร์ท Grammar ที่ต้องมีความรู้หลักไวยากรณ์มาบ้างจึงจะทำคะแนนได้ จึงควรใช้เวลาที่เหลืออยู่ในการฝึกทำโจทย์แบบจับเวลาเหมือนจริงให้ได้มากที่สุด เพื่อฝึกทักษะการอ่านให้เร็ว จับใจความให้ไว ตัด Choice ได้แม่นยำ คะแนนจาก Part Reading มีมากถึง 40% ของคะแนนทั้งหมด

     นอกจากนี้การอ่านยังช่วยให้น้องๆ สะสมศัพท์ได้มาก และจำได้แม่นกว่าการท่องศัพท์จาก Dictionary เป็นตัวๆ หากน้องๆ ที่ได้เรียนกับพี่แนน ขอย้ำว่าให้ทวน Memolody ทั้งกลอนและเพลงให้ครบ เอาให้จำให้แม่นๆ ไม่เอาแค่คุ้นๆ เพราะออกตรงๆ มากกว่า 50% ทุกปี ถ้าได้พาร์ทนี้เต็มๆ แม้ว่าจะเป็นข้อสอบที่มีอัตราส่วนคะแนนน้อย แต่ว่าเป็นทักษะที่เกื้อกูลกันได้ดีกับพาร์ท Reading ยิ่งอ่านยิ่งได้ศัพท์ ยิ่งได้ศัพท์ยิ่งอ่านเข้าใจง่าย อ่านได้เร็ว ดังนั้นควรฟิตคู่กัน เพื่อทำ O-NET ให้ถึง 50% ให้ได้

     หากเก็บคะแนนพาร์ท Reading ได้สูง ประกอบกับทบทวน Grammar ตามที่พี่แนนแนะนำไป อย่างน้อยๆ น่าจะมีโอกาสทำคะแนนได้มากถึง 50% ของพาร์ท Error เพียงเท่านี้ โอกาสได้ O-NET เกินครึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลย


อาวุธของความสำเร็จ ไม่ใช่ใบปริญญา!!

     สำหรับน้องๆ ทุกคนที่กำลังเตรียมตัวสอบกันในโค้งสุดท้ายนี้ อยากบอกว่าพี่แนนเข้าใจความรู้สึกของน้องๆ ดี ความกดดัน ความเครียดที่เกิดจากความสำคัญของคะแนน เช่น การได้ O-NET น้อยสำหรับน้องๆ อาจหมายถึงการขาดโอกาสยื่นคะแนนเข้าคณะแพทย์ คณะวิศวฯ อย่างที่ตั้งใจ ความฝันที่ทำมาอาจล่มสลายไปตรงหน้า แต่พี่แนนอยากให้น้องๆ จำไว้ ไม่มีคะแนนอะไรสำคัญ และชี้วัดคุณค่าของตัวเราได้แม่นยำเท่าการกระทำ

     หากวันนี้ทำดีที่สุดแล้ว ขอให้รู้ไว้ไม่มีคนทำงานหนักคนไหนไม่เหนื่อย แต่ตราบใดที่ Action ยังเท่ากับ Reaction แรงกายแรงใจที่น้องๆ สู้ไปย่อมไม่สูญเปล่า ขอให้ภูมิใจในตัวเองไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ขอให้น้องรู้ตัวว่า น้องได้อุปนิสัย และหัวใจของนักสู้ไว้กับตัวเองแล้ว และนั่นต่างหากที่เป็นอาวุธของความสำเร็จ ไม่ใช่ใบปริญญาแต่อย่างใด





     ได้อ่านเคล็ดลับทำคะแนน O-NET ภาษาอังกฤษให้เกินครึ่งกันจากครูพี่แนนผู้แสนจะใจดีแล้ว ช่วงเวลาต่อจากนี้ หากน้องๆ ทำได้ตามที่พี่แนนบอก รับรอบว่า ได้ชัวร์!!

     สำหรับคนที่อ่านหนังสือจนเต็มที่ แล้วหาวิธีอื่นมาเสริมความมั่นใจในการเตรียมการสอบ บางคนก็ไปดูเนื้อหาวิชาออนไลน์เพิ่มเติมกันด้วย อย่างในงาน BRAND'S Summer Camp เองก็ได้อัพโหลดไว้ให้น้องๆ ได้ดูฟรี ซึ่งติวเตอร์ก็ได้งัดเทคนิคแต่ละวิชามาให้น้องๆ ได้นำไปใช้กัน และยิ่งได้ตัวช่วยดีๆ อย่าง
Samsung Galaxy Note 10.1 ที่มี Multi function สามารถทำงานพร้อมกันได้หลายแบบ ดูวิดิโอไป ก็จดไปพร้อมๆ กัน จดเสร็จก็ save ไว้ นำกลับมาดูใหม่ได้(ไม่ต้องแอบก้มๆ เงยๆ จดให้ปวดต้นคอ)



เข้าไปที่เว็บ brandssummercamp เลือกดูติวออนไลน์ จะมีหลายวิชาให้เลือกกันเลย




ใกล้สอบ O-NET เลยขอเก็บตกไว้เก็บแต้มกันสักหน่อย
โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ยิ่งต้องดูเพิ่มความมั่นใจ




ดูคลิปไป จดไปพร้อมๆ กัน กด    เลือกกด   ไว้เตรียมจด ได้เลย





กด    แล้วเลือกรูปแบบที่อยากจด ก็จะได้หน้าเปล่าๆ มา 1 หน้า 
ให้เราบรเลงเนื้อหาลงไปได้ทันที





ทีนี้ เราก็สามารถดูคลิปการติวไปพร้อมๆ กับจดไป โดยไม่ต้องก้มๆ เงยๆ กันอีก
จดไม่ทัน ก็ pause แล้วมาจดให้ทันก็ยังได้





save เก็บได้ง่ายๆ กด    แล้วกด   




ตั้งชื่อ File แล้วกด ตกลง เท่านี้ ก็ได้สมุดจดดีๆ อีกหนึ่งวิชา
ที่เราสารถหยิบมาดูเมื่อไหร่ก็ได้




จะหยิบมาดูใหม่ ก็กดเครื่องหมาย  หน้าจอ ก็จะเห็น File ที่เรา save เก็บไว้




สามารถเปิดมาอ่านทบทวนได้อยู่เสมอ ง่ายสุดๆ


ปล. ก่อนสอบ O-NET ต้องดูคลิปนี้ "กฎการสอบ O-NET 7 ข้อ" เพิ่มความปลอดภัยก่อนสอบ รับรองไม่พลาด!!
กฎการสอบ o-net, O-NET, อัพเดตลาสุด, 2556, การสอบ กฎการสอบ o-net, O-NET, อัพเดตลาสุด, 2556, การสอบ
กฎการสอบ o-net, O-NET, อัพเดตลาสุด, 2556, การสอบ
     

พี่แนน
พี่แนน - Columnist พี่ใหญ่ฝ่ายกิจกรรมด้านการศึกษา และฝ่ายดูแลสุขภาพจิตของน้องๆ ในทีมให้เป็นปกติ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

12 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด