P
คณะนิเทศศาสตร์
                             สาขาวิชาประชาสัมพันธ์
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย 

            วัสดีค่ะน้อง ๆ ทุกคน หลังจากที่พี่แป้งให้ข้อมูลพื้นฐานสำหรับน้อง ๆ ที่อยากเรียน คณะนิเทศศาสตร์ สาขาประชาสัมพันธ์ กันไปแล้ว ทีนี้พี่แป้งจะพาไปบุกรั้วนิเทศศาสตร์กันค่ะว่าพี่ ๆ เค้าเรียนอะไรบ้าง แล้วเอกประชาสัมพันธ์ที่ว่านี้ให้อะไรกับเราบ้าง พร้อมแล้วตามมาดูได้เลยค่ะ
.

พี่โฟร์
ชิติพัทธ์ พันเพียง

คณะนิเทศศาสตร์ โทประชาสัมพันธ์
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ


พี่แป้ง : สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองก่อนเลยค่ะ
พี่โฟร์ : สวัสดีคร้าบ ชื่อ นายชิติพัทธ์ พันเพียง ชื่อเล่น โฟร์ ครับผม ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ชั้นปีที่ 3 คณะนิเทศศาสตร์ เอกวารสารศาสตร์ โทประชาสัมพันธ์ครับ

พี่แป้ง : ทำไมถึงเลือกเรียนนิเทศศาสตร์ โทประชาสัมพันธ์คะ?
พี่โฟร์ : ด้วยความที่เราเรียนทางด้านวารสารฯมาก่อนการที่เลือกวิชาโทเป็นประชาสัมพันธ์ ถือว่าดีครับ เพราะลักษณะการเรียนจะคล้าย ๆ กัน แล้วอีกอย่างคิดว่าการเลือกโทประชาสัมพันธ์เป็นสาขาที่น่าสนใจดีครับ มีงานรองรับที่หลายหลายโดยที่ไม่กำหนดว่าต้องทำงานนี้เท่านั้น เราสามารถไปได้หลายด้านเลยครับไม่ว่าจะเป็น นักวางแผนให้กับองค์กร, นักข่าว, พิธีกร และ ยังฝึกให้เรากล้าพูดต่อหน้าคนเยอะ ๆ ได้แบบไม่อายด้วยครับ

พี่แป้ง : โทประชาสัมพันธ์ เรียนอะไรบ้าง และเน้นไปทางด้านไหนคะ?
พี่โฟร์ : อย่างแรกเลยจะเน้นหนักที่ทฤษฎี หลักการ และการปฏิบัติ เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการวางแผนการประชาสัมพันธ์แล้วก็ต้องเรียนวิชาที่ปรับบุคลิกภาพของเราครับ เพื่อให้เรานั้นดูดี มีบุคลิกที่น่าเชื่อถือ  เรียนการวางแผนว่าเราจะทำให้ภาพลักษณ์องค์กรนั้นออกมาดีอย่างไร และที่เน้น ๆ เลยจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ การสร้างภาพลักษณ์ให้องค์กร การวางแผนให้กับองค์กรครับ

พี่แป้ง : ตั้งแต่เรียนมาคิดว่าวิชาไหนที่เรียนแล้วสนุกที่สุดคะ?
พี่โฟร์ : CA103 Arts of Speaking and Presentation เป็นวิชาที่ทุกอาทิตย์อาจารย์จะมีคำถามและกิจกรรมต่าง ๆ มาให้นักศึกษาทุกคนออกมาแสดงความคิดเห็นกันหน้าห้องเรียน ทำให้เรากล้าแสดงออก แล้วโฟร์รู้สึกว่าการได้ออกมาแสดงความคิดเห็นหน้าห้องเป็นอะไรที่สนุกมากครับ ฝึกให้เราได้กล้าแสดงออกอีกด้วย

พี่แป้ง : ตั้งแต่เรียนมาคิดว่า ผลงานที่เราทำแล้วประทับใจมาก ๆ เลยคืออะไรคะ?
พี่โฟร์ : ผลงานที่โฟร์ประทับใจน่าจะเป็นกิจกรรมของวิชาการพูดครับ ได้ออกไปพูดเกี่ยวกับภาพลักษณ์องค์กรของสายการบินแห่งหนึ่งในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมอุปกรณ์มาพรีเซนต์งาน หรือแม้กระทั่งการแต่งกายของตัวโฟร์เอง ลงทุนซื้อใหม่หมดเลย(หัวเราะ) สนุกมากครับแล้วเป็นงานชิ้นแรกที่คิดว่าทำออกมาได้ดี ภูมิใจมากครับ
.


พี่แป้ง : ม.กรุงเทพมี 2 วิทยาเขต ที่กล้วยน้ำไท กับที่ รังสิต ไม่ทราบว่า ทั้ง 2 ที่มีการเรียนการสอนต่างกันอย่างไรคะ?
พี่โฟร์ : สำหรับวิทยาเขตรังสิตนะครับจะเป็นการเรียนของนักศึกษาภาคปกติครับ ก็จะมีทุกคณะเลยครับทั้งคณะนิเทศฯ, บริหาร, มนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว, บัญชี, เศรษฐศาสตร์, วิทยาศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์, ศิลปกรรมศาสตร์, สถาปัตยกรรมศาสตร์, นิติศาสตร์ แล้วก็คณะน้องใหม่ คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการครับ
       ส่วนวิทยาเขตกล้วยน้ำไท จะเป็นนักศึกษาวิทยาลัยนานาชาติทุกชั้นปี นักศึกษาปริญญาโทและเอก นักศึกษาภาคพิเศษ สถานที่ทำการของสำนักงานอธิการบดี วิทยาลัยนานาชาติ บัณฑิตวิทยาลัย ประกอบไปด้วยสาขา Graphics and Multimedia , Entrepreneurship, Business English, Communication Arts,Maketing,International Tourism management, Hotel and Restaurant


พี่แป้ง : ก่อนที่เรามาเรียนนิเทศฯ ที่นี่ สิ่งที่คาดหวังไว้กับเข้ามาเรียนจริง ต่างกันมากมั้ยคะ?
พี่โฟร์ : เกินคาดนะครับ ตอนแรกคิดว่าสังคมเอกชนคงอยู่ยาก แต่ที่นี้ไม่เลยครับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคนน่ารักมากครับ ทุกคนพร้อมให้คำปรึกษาตลอดทำให้เราสนิทกัน แล้วก็ที่สอนเรามากกว่าในตำรา อาจารย์จะสอนให้เราคิดนอกกรอบอยู่เสมอ สอนให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ตลอดเวลา แล้วอีกอย่างไม่ว่าจะเป็นตึกเรียนอาคารต่างๆมันเหมือนเป็นแรงบันดานใจให้เราคิดอะไรใหม่ๆได้เสมอแล้วก็ไม่ซ้ำกับใครด้วยครับ

พี่แป้ง : เรียนนิเทศฯได้ข่าวว่าต้องทำกิจกรรมเยอะ อยากให้ลองยกกิจกรรมที่ประทับใจมาเล่าให้น้อง ๆ ฟังหน่อยค่ะ
พี่โฟร์ : กิจกรรมที่ประทับใจมากเลยคือการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ครับ ยอมรับนะครับว่าเหนื่อยมากแล้วก็มีท้อบ้าง แต่มันเป็นการฝึกความแข็งแรงฝึกวินัยแล้วก็ฝึกกานทำงานเป็นกลุ่ม คือถ้าใครเต้นผิดคนหนึ่งคนที่เหลือก็จะโดนลงโทษ แล้วที่สำคัญยังได้มิตรภาพดี ๆ และเพื่อนที่น่ารักเพิ่มมาอีกครับ

พี่แป้ง : มุมโปรดที่สุดเวลามาเรียนคือที่ไหนคะ?
พี่โฟร์ : ต้องที่นี้เลยครับ Imagine lounge เป็นสวนสนุกติดแอร์ ตั้งอยู่บนตึกเพชรชั้น 2 ไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน หลังจากช่วงพักเบรกรอเรียนตอนบ่ายผมกับเพื่อน ๆ ก็ชอบที่จะมานั่งพักผ่อนกันที่นี้ครับเพราะมีหลายโซนให้เลือกนั่งได้ตามสบาย มีเครื่องเล่นเยอะแยะ และถ้าใครหิวก็มีคาเฟ่ให้นั่งอีกด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยคือเจ้าหมีแพนด้าตัวใหญ่  ที่ใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปครับ

พี่แป้ง : อยากให้ฝากอะไรดี ๆ ถึงน้อง ๆ ที่อยากเรียน นิเทศศาสตร์ หน่อยค่ะ
พี่โฟร์ : ก็อยากฝากให้น้องๆที่สนใจอยากเรียนทางด้านนิเทศศาสตร์นะครับ ทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพของเรามีสาขาให้เลือกเยอะแยะเลย ไม่ว่าจะเป็น ภาควิชาโฆษณา , ภาควิชาประชาสัมพันธ์, ภาควิชาศิลปะการแสดง, ภาควิชาวารสารศาสตร์, ภาควิชาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์, ภาควิชาภาพยนตร์ และ ภาควิชาสื่อสารตรา อีกทั้งมหาวิทยาลัยกรุงเทพของเรายังมีความพร้อมของเครื่องมือในการเรียนการสอนที่ทันสมัยอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Center for Cinematic and Digital Arts - CCDA ศูนย์ปฏิบัติการทางภาพยนตร์และดิจิทัลอาร์ต ยังไงก็ฝากมหาวิทยาลัยกรุงเทพไว้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งด้วยนะครับ ขอบคุณคร้าบ



.

พี่ยะหยา
กัญญาวีร์ ฤทธิไชย

คณะนิเทศศาสตร์ โทประชาสัมพันธ์
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ


พี่แป้ง : สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองก่อนเลยค่ะ
พี่ยะหยา : ชื่อ กัญญาวีร์ ฤทธิไชย  ชื่อเล่น ยะหยา ค่ะ เรียนที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ เอกวารสารศาสตร์(วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์) โท ประชาสัมพันธ์ ค่ะ

พี่แป้ง : ทำไมถึงเลือกเรียนนิเทศศาสตร์ โทประชาสัมพันธ์คะ?
พี่ยะหยา : หางานทำง่ายเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นค่ะ แต่จริง ๆ ชอบประชาสัมพันธ์เพราะทำงานสนุก เป็นวิชาที่เรียนเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้องค์กร งานประชาสัมพันธ์คนมักจะคิดว่าสบายแต่จริง ๆ แล้วเป็นงานที่เหนื่อยมาก เพราะต้องรับผิดชอบหน้าตาขององค์กร ประชาสัมพันธ์เป็นสายงานคล้องจองกับวิชาเอกที่เลือกเพราะนักประชาสัมพันธ์ควรต้องมีประสบการณ์ด้านสื่อสารมวลชน เพื่อติดต่อและประสานงานกับสื่อมวลชนได้

พี่แป้ง : โทประชาสัมพันธ์ เรียนอะไรบ้าง และเน้นไปทางด้านไหนคะ?
พี่ยะหยา : เรียนพื้นฐานหลักการประชาสัมพันธ์ การประชาสัมพันธ์เพื่อประกอบธุรกิจ การวางแผนการประชาสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ การเขียนงานประชาสัมพันธ์ขั้นพื้นฐานค่ะ ส่วนมากจะเน้นที่การประชาสัมพันธ์องค์กรและการเขียนงานประชาสัมพันธ์ขั้นพื้นฐานเพื่อฝึกทักษะด้านงานเขียน ศึกษาบทบาทและความสำคัญของการประชาสัมพันธ์ต่อการสร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงแก่องค์กรค่ะ

พี่แป้ง : ตั้งแต่เรียนมาคิดว่า ผลงานที่เราทำแล้วประทับใจมาก ๆ เลยคืออะไรคะ?
พี่ยะหยา : คงเป็นตอนรายการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เรียนวิชาการพูดแล้วอาจารย์ให้ทำรายการเกี่ยวกับท่องเที่ยวพาไปชิมอาหารต่างๆ สนุกมากทำกัน 2 คน ทำรายการพาไปชิมอาหารที่สยามสแควร์ ถ่ายตั้งแต่เช้าถึงเย็นแต่ไม่เหนื่อยเลยค่ะ สนุกมาก ๆ เป็นงานที่เราทำแล้วสนุกและมันออกมาดี เราได้ฝึกการพูดและการเขียนสคริปต์รายการด้วย

พี่แป้ง : ที่ ม.กรุงเทพ มีการเก็บเพชร อยากทราบว่า การเก็บเพชรคืออะไรคะ?
พี่ยะหยา : การเก็บเพชรคือการทำกิจกรรมค่ะ ทางมหาวิทยาลัยอยากให้นักศึกษาเรียนด้วยและทำกิจกรรมด้วยจึงมีโครงการเก็บเพชรขึ้นมา นักศึกษาต้องเก็บเพชรให้ได้ 16 ดวงขึ้นไปไม่อย่างนั้นจะไม่จบการศึกษาต่อให้ผลการเรียนผ่านเกณฑ์ก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยจะแจ้งกิจกรรมตลอดว่าเดือนนี้มีกิจกรรมอะไรที่นักศึกษาไปร่วมและจะได้เพชรกลับมาค่ะ

พี่แป้ง : ภาคปกติ และ ภาคพิเศษ มีความแตกต่างกันอย่างไรคะ?
พี่ยะหยา : หยาเรียนภาคปกติค่ะ มหาวิทยาลัยกรุงเทพภาคปกติปริญญาตรี 4 ปี เปิดสอนทั้งหมด 11 คณะ ภาคพิเศษเปิดทั้งหมด 3 คณะคือ คณะนิเทศศาสตร์ คณะบัญชี คณะบริหารธุรกิจ และยังมีอีก 3 หลักสูตรคือหลักสูตรเทียบโอนหน่อยกิตภาคพิเศษสำหรับผู้จบ ปวส. หลักสูตรปริญญาตรีที่สองภาคพิเศษ และหลักสูตรปริญญาตรี 3 ปีครึ่งภาคบ่ายค่ะ

พี่แป้ง : ตั้งแต่เรียนมาคิดว่าวิชาไหนที่เรียนแล้วสนุกที่สุดคะ?
พี่ยะหยา : วิชาการพูดค่ะ เพราะเมื่อก่อนจะเป็นคนที่กลัวการออกไปพูดหน้าชั้นมาก ไม่มีความมั่นใจเลย ตั้งแต่เรียนวิชานี้ก็ดีขึ้นกล้าออกไปพูดหน้าห้องมากขึ้น โชคดีที่เจออาจารย์สอนวิชานี้ใจดีแล้วก็น่ารักมากเลยทำให้ไม่เกร็ง ผลงานที่ประทับใจมากที่สุดสำหรับวิชานี้คือ การทำวิดีโอรายการท่องเที่ยวชวนชิมที่สยามสแควร์ค่ะสนุกตั้งแต่ตอนถ่ายทำจนถึงตอนพรีเซนต์งานเลยค่ะ
.


พี่แป้ง :
เรียนนิเทศฯได้ข่าวว่าต้องทำกิจกรรมเยอะ อยากให้ลองยกกิจกรรมที่ประทับใจมาเล่าให้น้อง ๆ ฟังหน่อยค่ะ
พี่ยะหยา : ประทับใจที่สุดคงเป็นงานรับน้องที่ผ่านมา ประทับใจมากสนุกมาก ๆ ทั้งน้อง ๆ และเพื่อนๆให้ความร่วมมือกันดีมาก งานรับน้องเราต้องมีทำกิจกรรมและมีการแสดงเพื่อพรีเซนต์ภาค เหนื่อยมากเพราะต้องซ้อมกันหลายวันกว่าจะถึงวันจริงมีเรื่องมีปัญหามากมายแต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พอถึงวันจริงเห็นความสำเร็จของงานที่เพื่อน ๆ ช่วยกันทำทุกคนก็หายเหนื่อยเลยค่ะ


พี่แป้ง : มุมโปรดที่สุดเวลามาเรียนคือที่ไหนคะ?
พี่ยะหยา : หอสมุดค่ะ ชอบไปที่นั่นจะมีห้องดูหนังวันไหนมีคาบว่านาน ๆ ก็จะชวนเพื่อน ๆ มาดูหนังกัน หอสมุดทำได้หลายอย่างค่ะ ชาร์จแบต อ่านหนังสือ เล่นคอม บางครั้งก็ไปหลับค่ะ 555+



พี่แป้ง : อยากให้ฝากอะไรดี ๆ ถึงน้อง ๆ ที่อยากเรียน นิเทศศาสตร์ หน่อยค่ะ
พี่ยะหยา : นิเทศศาสตร์มีหลายสาขาวิชานะคะ เลือกเรียนที่น้องๆอยากเรียนจริงๆ เรียนเพราะใจรัก สนใจเราก็จะมีความสุขกับมัน นิเทศศาสตร์จริง ๆ แล้วเป็นคณะที่เข้าง่ายแต่จบยากนะคะ นิเทศศาสตร์ทำให้เรามีความกล้ามากขึ้น  ทำให้น้องได้รู้ในสิ่งที่น้องๆไม่เคยได้สัมผัส อยากเรียนนิเทศให้ดีต้องคิดแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ค่ะ


           ใครบอกว่าเรียนสาขาประชาสัมพันธ์ทำหน้าที่แค่พูด ๆ ๆ อย่างเดียวก็จบ ไม่ใช่เลยนะคะ ต้องดูภาพลักษณ์องค์กรด้วย เป็นงานที่ท้าทายในระดับนึงเลย อย่างเช่นเวลาเราไปเดินตามห้างเห็นการประชาสัมพันธ์สินค้า

            บอกเลยว่าถ้าพีอาร์ดีเราก็อยากซื้อ รู้สึกมีความสุขที่ได้ซื้อ แต่ถ้าพีอาร์ไม่ดีละก็ ไม่อยากแม้แต่จะเข้าใกล้บูธนั้น ๆ เลยค่ะ ส่วนคราวหน้าจะพาไปดูว่าจบแล้วจะมีชีวิตแบบไหน ทำงานอะไรได้บ้างกับประสบการณ์ตรงของพี่ที่จบแล้ว แล้วเจอกันนะคะ

  
   


.

การประชาสัมพันธ์

สถาบันที่เปิดสอน

จบแล้วทำงานอะไร

สาขานี้เรียนอะไร



.

คณะในฝัน 4 สาขาล่าสุด!!!!
 
อักษรศาสตร์ เอกภาษาจีน

วิทยาการคอมฯประยุกต์-มัลติมีเดีย

เศรษฐศาสตร์การเงิน

วิทยาการคอมพิวเตอร์








พี่แป้ง
พี่แป้ง - Columnist นักข่าวสายรับตรง พร้อมเสิร์ฟข่าวสอบเข้าทุกมหา'ลัย เติมพลังได้จากชาเย็นหวานน้อย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
นั่นล้า 15 ส.ค. 58 21:27 น. 3
อยากเป็นนักข่าวมากเลยค่ะแต่ว่าหนูกำลังสับสนระหว่างคณะนิเทศน์กับวิทยาศาสตร์กีฬาเลือกไม่ถูกเสียใจ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด