สวัสดีครับ บทความนี้กรุณาอ่านให้จบครับ! พี่ลาเต้ จะมาอธิบายถึงรับตรงแบบใหม่ที่จะเริ่มใช้ในปี 2559 อย่าเพิ่งปวดหัว หรือเครียดไปซะก่อนนะครับ เพราะเท่าที่กางดูรายละเอียดลึกๆ แล้ว ไม่แตกต่างจากรับตรงปีที่ผ่านมาเท่าไหร่เลยครับ มีที่ปรับแบบเห็นได้ชัดอยู่อย่างเดียว นั้นก็คือ อัพเกรดพัฒนาข้อสอบ 7 วิชาสามัญ มาเป็น 9 วิชาสามัญแทน ซึ่ง 9 วิชาสามัญนี้ก็ไม่จำเป็นต้องสอบทุกวิชา คณะที่เราจะสอบเข้า เรียกใช้วิชาไหน ก็สอบวิชานั้นครับ

            ว่าแล้วเราไปรู้จัก 9 วิชาสามัญแบบละเอียดกันเลยครับ

 

"รับตรงร่วมกัน" เกิดมาทำไม ?
          แต่เดิมการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศไทย มีอย่างเดียวคือ การแอดมิชชั่น แต่เหมือนแต่ละมหาวิทยาลัยจะไม่ค่อยพอใจกับการวางสัดส่วนคะแนนซักเท่าไหร่ รวมถึงอยากกระจายโอกาสหาเด็กที่อยากเรียนมหาวิทยาลัยนั้นจริงๆ ประกอบกับข้อสอบที่ใช้วัดในรอบแอดมิชชั่นอย่าง O-NET ก็เป็นข่าวหวือหวาขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆ หลายมหาวิทยาลัยเลยตัดสินใจ เอาละ! เปิดรับตรง รับสมัครและคัดเลือกเด็กมาเรียนเอง เพื่อให้บรรลุ 3 ข้อข้างต้นที่กล่าวมาแล้วกัน

          เมื่อหลายๆ มหาวิทยาลัยคิดและทำแบบนี้ ปรากฏว่าต่างมหาวิทยาลัยก็ต่างรับสมัครกันเอง คิดรูปแบบการรับสมัครมาตามแต่จะชอบ มีตั้งแต่ยื่นคะแนนอย่างเดียว ไปจนถึงจัดสอบเอง 100% คราวนี้ภาระจึงไปตกกับนักเรียนที่ต้องสอบ เพราะเป็นธรรมดา คงไม่มีนักเรียนคนไหนสมัครแค่สนามเดียว ลองนึกภาพ หากสมัครซัก 3 มหาวิทยาลัยก็ต้องวิ่งตามระบบการสอบถึง 3 ระบบ O_O"

           ด้วยเหตุนี้ "รับตรงร่วมกัน" จึงเกิดขึ้น! โดยทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็มาจับมือกัน พร้อมตั้งสัตยบรรณไว้ว่า "ต่อไปทุกมหาวิทยาลัยจะรับตรงให้ใกล้เคียงกัน โดยสัญญาจะใช้ข้อสอบชุดเดียวกัน สอบพร้อมกัน จากนั้นแต่ละมหาวิทยาลัยจะเรียกใช้วิชาอะไร เปอร์เซนต์เท่าไหร่ ก็ว่ากันอีกที โดยข้อสอบที่ว่านี้ก็คือ "7 วิชาสามัญ" ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อลดปัญหาการวิ่งรอกสอบ และลดภาระค่าใช้จ่ายของน้องๆ นั้นเอง


แล้วทำไมเป็น 9 วิชาสามัญละ ?
           เพราะ 7 วิชาสามัญ ยังมีช่องโหว่อยู่ไงละ ดูจากรายวิชาส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เด็กสายวิทย์ เมื่อเด็กสายศิลป์มาสอบจึงตายอย่างเขียด O_O" ดังนั้นในปี 2559 ระบบรับตรงร่วมกันจึงอัพเกรดข้อสอบใหม่จากเดิม 7 วิชาสามัญ เป็น 9 วิชาสามัญนั้นเอง โดย 2 วิชาที่เพิ่มเข้าไปก็คือ คณิตศาสตร์ 2 และวิทยาศาสตร์พื้นฐาน มาเพื่อรองรับน้องๆ เด็กสายศิลป์โดยเฉพาะ สรุป 9 วิชาสามัญ ประกอบไปด้วย 1.ภาษาไทย 2.สังคมศึกษา 3.ภาษาอังกฤษ 4.คณิตศาสตร์ 1 (สำหรับ นร.สายวิทย์) 5.คณิตศาสตร์ 2 (สำหรับนร.สายศิลป์) 6.ฟิสิกส์ 7.เคมี 8.ชีววิทยา 9.วิทยาศาสตร์พื้นฐาน (สำหรับนร.สายศิลป์)
 

มันต่างจาก 7 วิชาสามัญยังไง ?
           เหมือนเดิม แค่เพิ่มมา 2 วิชาตามที่บอกไปข้างต้น

9 วิชาสามัญ เยอะไปเปล่า ต้องสอบทุกวิชาไหม ?
           ไม่เยอะ ไม่จำเป็น คณะที่เราจะเข้ากำหนดให้สอบวิชาอะไร เราก็ลงตัวนั้นครับ แต่หากใครยังไรู้จักตัวเอง ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะเรียนคณะอะไร อาจจะเข้าข่ายต้องสอบทุกวิชา เพราะสมัครมั่วไปหมด พอมาเช็คอยู่แล้ว อ้าววว ต้องใช้ 9 วิชาครบเลย T T

มหาวิทยาลัยไหนใช้บ้าง ?
            ตอบไม่ได้ครับ เพราะบางมหาวิทยาลัยหากพอใจ GAT PAT ก็อาจไม่ต้องเรียกใช้คะแนน 7 วิชาสามัญ เอาเป็นว่ามหาวิทยาลัยที่ร่วมประชุมมี 27 แห่ง ดังนี้

            - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
            - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
            - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
            - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
            - มหาวิทยาลัยทักษิณ
            - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
            - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
            - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
            - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
            - มหาวิทยาลัยนครพนม
            - มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
            - มหาวิทยาลัยนเรศวร
            - มหาวิทยาลัยบูรพา
            - มหาวิทยาลัยพะเยา
            - มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
            - มหาวิทยาลัยมหิดล
            - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
            - มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
            - มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
            - มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
            - มหาวิทยาลัยศิลปากร
            - มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
            - มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
            - สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
            - มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
            - มหาวิทยาลัยรามคำแหง
            - สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์


รุ่นไหนต้องใช้
           รุ่นแอดมิชชั่น 59 หรือ ม.5 ปีนี้
 

รูปแบบรับตรง 59 ที่จะเกิดขึ้นมีแบบไหนบ้าง ?
           รับตรง 59 ก็ยังคงคล้ายๆ กับรับตรงปีก่อนๆ เพียงแค่ปรับข้อสอบจาก 7 เป็น 9 วิชาสามัญ ซึ่งอาจจะส่งผลให้หลายมหาวิทยาลัยหันมารับใช้ข้อสอบเหล่านี้มากขึ้นแทนการจัดสอบเอง แต่ทั้งนี้ พี่ลาเต้ ก็เชื่อว่า การจัดสอบเองของมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็จะยังมีอยู่ แต่อาจจะน้อยลง หรือมีเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น อาทิ กสพท.ต้องสอบวิชาเฉพาะแพทย์ หรือรับตรง วิศวกรรม ม.ศิลปากร ที่ต้องสอบความถนัดเฉพาะทาง ซึ่งตรงนี้ข้อสอบ 9 วิชาสามัญไม่ครอบคลุม

           ดังนั้น เพื่อเป็นเป็นแนวทาง พี่ลาเต้ ขอสรุปมาให้ดูคร่าวๆ ว่าปี 2559 จะมีรับตรงแบบไหนเกิดขึ้นบ้าง ?

           1.รับตรงที่ใช้ 9 วิชาสามัญ + GAT PAT
           2.รับตรงที่ใช้ 9 วิชาสามัญ + จัดสอบเอง
           3.รับตรงที่ใช้ 9 วิชาสามัญ + จัดสอบเอง + GAT PAT
           4.รับตรงที่ใช้ GAT PAT + จัดสอบเอง
           5.รับตรงที่จัดสอบอย่างเดียว
           6.รับตรงที่ใช้ 9 วิชาสามัญอย่างเดียว
           7.รับตรงที่ใช้ GAT PAT อย่างเดียว

           พอถึงตรงนี้แล้ว หลายคนสงสัยว่า "แล้วมันต่างกับแอดมิชชั่นยังไง ?" หากเปลี่ยน 9 วิชาสามัญเป็น O-NET มันก็คือแอดมิชชันดีๆ นี่เอง สิ่งที่ต่างนั้นก็คือ สัดส่วนครับ แอดมิชชั่นทุกมหาวิทยาลัยใช้สัดส่วนเดียวกัน แต่หากรับตรงแต่ละมหาวิทยาลัยเลือกได้ ว่าจะขอเน้นวิทย์ เน้นคณิต เลือกได้ว่าแต่ละวิชาให้สัดส่วนเท่าไหร่

           สรุปก็คือ รับตรง 59 ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมากครับ แต่ปรับข้อสอบจาก 7 เป็น 9 วิชาสามัญเพื่อรองรับเด็กสายศิลป์ และในปีนั้นหลายมหาวิทยาลัยจะรับตรงโดยจัดสอบเองน้อยลง หันมารับตรงโดยการใช้ข้อสอบร่วมกันมากขึ้น แม้ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด แต่ลึกๆ พี่ลาเต้ ก็มองว่าไม่น่าเกลียดนะ โดยเฉพาะประเด็นที่ไม่เอาเด็กสายวิทย์และสายศิลป์มาแข่งในข้อสอบฉบับเดียวกัน น้องๆ เห็นด้วยไหมครับ ?


     ใครเล่นทวิตเตอร์มา Follow ตามข่าวรับตรงแอดมิชชั่นจากพี่ได้นะ @lataedekd
พี่ลาเต้
พี่ลาเต้ - Columnist นักข่าวสายการศึกษา เกาะติดทุกข่าวแทนน้องๆ ตัวถีบ ตัวดันให้ ม.6 สอบติด

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

What`What Member 27 ต.ค. 57 13:31 น. 1

ใช่เลยค่ะ คือดีขึ้นนะ (คหสต.) เพราะนี่ก็สงสัยมานานแล้วค่ะว่า ทั้งๆที่ ศ กับ ว. เรียนไม่เหมือนกันทำไมข้อสอบถึงใช้เหมือนกัน

0
กำลังโหลด
Nampueng12 Member 27 ต.ค. 57 20:46 น. 26

เราก็อยู่ ม.5 ค่ะ เคยได้ยินเรื่องโหดๆของการรับนักศึกษา 59 มามาก

ก็ทำใจไว้ประมาณหนึ่งแล้ว สู้ๆนะคะเด็กแอด 59 ทุกคน 

ร้องไห้เย้สู้สู้

0
กำลังโหลด
Young exo-l Member 27 ต.ค. 57 19:45 น. 21

ห๊ะ ก็ดีๆๆ แต่เอิ่มมมม ดิฉันสัมผัสได้ว่ามีพลังงานบางอย่าง เขากระซิปบอกดิฉันว่าาาา "คุณ!ต้องสอบทุกวิชา 555 " 

โอ้ม่ายยยยยยหวาาเสียใจร้องไห้ช็อค

0
กำลังโหลด
nutnacrab Member 27 ต.ค. 57 21:30 น. 17-1
ก็ ข้อสอบที่ใช้มาจากวิชาพื้นฐานหนิครับ (ก็เค้าวัดกันทั้งประเทศ ไม่ได้แยกสาย) ถ้าคิดแบบว่า วิทย์-คณิต ได้เปรียบ วิชา วิทย์ คณิต ผมว่านะ สายศิลป์ได้เปรียบกว่าอีก (ในวิชาอื่น) ปล. ความเห็นส่วนตัว 5555 เย้
0
กำลังโหลด
จิ้งจกจ๋า หนีข้าทำไม(กองตรง) 27 ต.ค. 57 19:45 น. 22
เราเรียนสายวิทย์นะแต่เราไม่เก่งวิทย์ คนิด แบบนี้เราสอบวิทย์2 ได้ป่ะ สงสัย
3
กำลังโหลด

123 ความคิดเห็น

What`What Member 27 ต.ค. 57 13:31 น. 1

ใช่เลยค่ะ คือดีขึ้นนะ (คหสต.) เพราะนี่ก็สงสัยมานานแล้วค่ะว่า ทั้งๆที่ ศ กับ ว. เรียนไม่เหมือนกันทำไมข้อสอบถึงใช้เหมือนกัน

0
กำลังโหลด
ยินดีด้วย 27 ต.ค. 57 13:45 น. 2
มันก็ดีนะที่ปรับเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้ แต่ขอร้องเถอะกรุณาคิดและปรับให้ดีที่สุดไปเลย เพราะการสอบมันไม่ใช่เทคโนโลยีที่รุ่นใหม่จะต้องดีกว่ารุ่นเก่า แต่มันควรจะดีที่สุดสำหรับทุกรุ่น เพราะบางทีเด็กสายศิลป์อาจจะเสียคะแนนให้กับพวกคณิต เคมี ฟิสิกส์ ชีว ไป จนพลาดมหาลัยที่เขาอยากเข้าก็ได้ สรุปคือ ดีแล้ว ดีมาก ดีที่สุด ดีจริงๆ ปล.ทำไมไม่ทำเมื่อ2ปีก่อนนะ เสียใจ TT
3
Natthapol Suwanlikhit Member 27 ต.ค. 57 19:21 น. 2-1
สายศิลป์สอบเฉพาะวิทยาศาสตร์พื้นฐานไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องสอบ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ หรือเราเข้าใจผิด ปล.เราเด็กสายศิลป์-ภาษา ตั้งใจ
0
กำลังโหลด
Nrans Member 27 ต.ค. 57 14:32 น. 3

มันก็ดีน้ะ เเต่เเค่มันต้องสอบเพิ่ม เเต่ก็ไม่ใช่ว่าต้องอ่านเพิ่ม ? รึปล่าว คนิต 2 กับ วิทย์ นี้ออกแนวๆเดียวกับกับ คนิต 1 ป่าว ? เเล้ววิทย์ล่ะ เหมือน กับ เคมี ชีวะ ฟิสิกป่าว ? เเต่ถ้าต้องสอบทุกวิชาก็น้ะ ขก.สอบ 55555555 (คหสต.)

เอ่อ..

1
เจ้าแห่งสายทอง Member 27 ต.ค. 57 20:22 น. 3-1
วิทย์ของสายศิลป์ให้เราเดาก็แค่วิทย์พื้นๆ น่ะค่ะ ไม่ได้ลึกเหมือนสายวิทย์ พูดง่ายๆ คือ ง่ายกว่าของวิทย์แน่นอนอ่ะ (คิดว่านะคะ)
0
กำลังโหลด
ฟหกด 27 ต.ค. 57 15:09 น. 4
แบบดั้งเดิมคือ โหดกว่านี้นะเช่น eng กข กับ กขค <กขค เป็นของสายศิลป์ยากเว่อห์> ผมมองว่าดีขึ้นนะเด็กสายศิลป์ จะได้ไม่ต้องสอบเลขโหดแบบที่ผ่านมา ย้อนกลับไป ก็มีวิทย์สำหรับสายศิลป์อยู่แล้วเรียกว่าวิทย์กาย... เลขก็มีเลข2 ดังนั้นคิดไปแล้ว 2วิชาที่เพิ่มมาคงง่ายเหมือนโอเน็ตแหละครับ อย่าไปกลัว สิ่งที่ผมสงสัยตอนนี้ คือ โดยปรกติแล้ว กสพท เกือบจะเป็นกลุ่มสุดท้ายของการเข้าแพทย์ คือ หมอและทันตะโครงการต่างๆจะประกาศผลก่อนแล้วยืนยันสิทธิ์ ส่วนใครที่ยังไม่ติดก็ลุ้น กสพท แต่สำหรับปี59 ใช้ข้อสอบชุดเดียวกัน ผลออกพร้อมๆกันเลยรึเปล่าแบบนั้นคนที่ถือคะแนนสูงๆไว้เค้าคงรอ กสพท กันแน่ๆ คะแนนสูงโคตรๆเลยล่ะครับ
0
กำลังโหลด
Live and Learn Member 27 ต.ค. 57 15:12 น. 5

แล้ว O-net ล่ะคะ ?? ... อยากรู้ว่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ จะใช้รับตรงแบบไหน ได้เตรียมตัวให้ถูกทาง ทราบเมือ่ไหร่รีบๆมาแจ้งข่าวนะคะพี่ลาเต้ ขอบคุณคร้าาา

ตกใจ

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Black Queen Sefia Member 27 ต.ค. 57 18:29 น. 12

มันก็ดีนะ โอเคอยู่ แต่ทำไมต้องมาเพิ่มเอาปีเน้~~  TOT (แค่ 7 ก็อ่านไม่หมดแล้วว)

เรียนสายวิทย์แต่ยังไม่มั่นใจว่าตัวเองถนัดอะไร คงต้องสอบหมด 9 วิชาเลยซินะ ซินะ ;w;

ร้องไห้

3
sky blue Member 8 พ.ย. 57 20:04 น. 12-1
คิดเหมือนกันเลย เราก็เรียนสายวิทย์ ตอนนี้คิดว่าตัวเองไม่ถนัดอะไรสักอย่าง(โดยเฉพาะวิทย์คณิต555) สงสัยว่าต้องสอบ9วิชาเลยแหงๆร้องไห้
0
กำลังโหลด
SoundOfSiren Member 27 ต.ค. 57 18:30 น. 13

ทำไมกันเนอะ สงใสรุ่นเรายัง "แข่งขัน"กันไม่พอสินะ จากที่สู้กับแค่ทั้งภาคตัวเองตอนนี้ต้องสู้ทั้งประเทศ เหอะ คงได้จากบ้านไปต่างจังหวัดก็งานนี้แหละ -*-

ช็อคร้องไห้

1
BuEuSnT Member 27 เม.ย. 58 10:02 น. 13-1
เราว่า พวกโควตาภาคน่าจะยังมีอยู่ แต่บางที่ จากเดิมที่จัดสอบเอง ก็อาจจะหันมาใช้คะแนนจาก9วิชาแทน
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เฟวฟาว 27 ต.ค. 57 18:34 น. 15
แล้วไอที่มหาวิทยาลัยจัดสอบพร้อมกันโดยใช้ข้อสอบชุดเดียวกันจืงหรือคับ ตายๆถ้าไม่ได้ทำไงล้ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
nutnacrab Member 27 ต.ค. 57 21:30 น. 17-1
ก็ ข้อสอบที่ใช้มาจากวิชาพื้นฐานหนิครับ (ก็เค้าวัดกันทั้งประเทศ ไม่ได้แยกสาย) ถ้าคิดแบบว่า วิทย์-คณิต ได้เปรียบ วิชา วิทย์ คณิต ผมว่านะ สายศิลป์ได้เปรียบกว่าอีก (ในวิชาอื่น) ปล. ความเห็นส่วนตัว 5555 เย้
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด