นี่แหละ ชีวิตเด็ก ม.6 "บอส" สละสิทธิ์รับตรง วิศวะ 5 ที่ เพราะอะไร ? มาดูกัน

           สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D ทุกวันอังคารเราจะมาเจอกันในคอลัมน์ Admission Idol สุดยอดบุคคลที่เป็นไอดอลในเรื่องแอดมิชชั่น วันนี้ พี่เมษ์ ควงหนุ่มคนแรก "บอส" จักรพันธ์ วงศ์คณิต หนุ่มหล่อที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา รู้มั้ยคะว่าเขาไม่หยุดแค่การติดรับตรง ยอมเสี่ยงเพื่อเดินตามฝันตัวเองจนสำเร็จ!! เค้าคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงทำแบบนั้น แล้วชีวิตแอดมิชชั่นจะมันส์แค่ไหน มาดูกันเลย
           หลายคนน่าจะสมหวังในการสอบรับตรง แต่อีกไม่น้อยที่พลาดหวัง แต่ที่น่าห่วง คือ คนที่ติดในที่ที่ยังไม่ถึงฝันของตัวเองซึ่งก็กำลังตัดสินใจว่าจะหยุดแค่รับตรง หรือจะไปต่อในรอบแอดมิชชั่น พี่เมษ์เลยพาหนุ่มคนนึงมาพูดคุย เพราะเค้าเป็นหนึ่งคนที่จะเลือกเดินต่อในรอบแอดมิชชั่นที่มีความเสี่ยง
 
แนะนำตัวกันหน่อย
           สวัสดีครับ ผมบอส จักรพันธ์ วงศ์คณิต นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาอุตสาหการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 4 ครับ
 
เพราะอะไรถึงเลือกจะแอดมิชชั่นทั้งๆ ที่ติดรับตรงวิศวะฯ ถึง 5 ที่
           ตอนนั้นจำได้ว่าสอบ GAT - PAT รุ่นแรกๆ เลย น่าจะซักรุ่นที่สองเนี่ยแหละครับ เราก็ไปสอบตรงมาหลายที่ ผมตั้งเป้าว่าจะเข้าวิศวะฯ พอมีที่ไหนเปิดก็ไปสอบหมด สรุปคือ ได้ทุกที่ ยกเว้นที่ที่ตัวเองอยากเข้ามากที่สุด คือ จุฬาฯ จำได้ว่าขาดไปประมาณพันนึง แต่ที่อื่นเราติดหมดเลย ทั้ง วิศวะฯ ม.เกษตรศาสตร์, SIITม.ธรรมศาสตร์, วิศวะฯ ส.ลาดกระบัง, วิศวะฯ มศว แล้วก็ได้ทุนของ ส.ไทย - ญี่ปุ่น ด้วย คือ ตอนนั้นได้หมด ยกเว้นเป้าหมายตัวเองครับ ผมก็ถามตัวเองว่าจะหยุดแค่นี้มั้ย แต่สุดท้ายก็อยากจะสู้ดูซักตั้ง ลองแอดมิชชั่นดีกว่า มาถึงขนาดนี้แล้ว เดินหน้าครับ อย่างน้อยก็ได้ลองทำเพื่อเป้าหมายตัวเองสักหน ผมคิดว่ามันคุ้มครับ
 
ช่วงเวลาตัดสินใจสละสิทธิ์รับตรงทั้งหมด รอแอดมิชชั่น คิดอะไรอยู่
           ตอนนั้นเรามานั่งคิดนะครับ คิดหนักมาก มันเสี่ยงเหมือนกัน ไม่ใช่เราไม่รู้ว่าถ้าหยุดตั้งแต่รับตรง มีที่เรียนแน่ แต่เราก็ยังคิดว่าโอกาสในรอบแอดมิชชั่นเราก็พอมีนี่ รอแอดมิชชั่นดีกว่า เพราะคณะที่เราอยากเข้าจริงๆ มันคือความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว
          อีกอย่างนึง ต้องประเมินตัวเอง ผมมองว่าอย่างน้อยถ้าไม่ติดจุฬาฯ ผมเองก็ยังติดที่อื่น ไม่น่าหลุดแอดมิชชั่น คือ ผมดูจากคะแนนที่ทำมา แล้วก็ประเมินตัวเองแบบไม่เข้าข้างตัวเองนะ ผมเลยกล้าเสี่ยง ก็ในเมื่อเรามีโอกาสที่จะไปคว้าสิ่งที่เราฝัน แล้วทำไมเราไม่ลองสู้ดูหน่อยละ ในเมื่อมีโอกาสมา ถ้าเราอยากได้ เราก็ต้องลงมือทำครับ


        
ตอนพลาดฝัน คิดว่าพลาดตรงไหน
           คิดว่าพลาดตรงที่เราไม่ได้เตรียมตัวให้สุด ไม่ได้อ่านจริงจัง เพราะตัวบอสเองเตรียมมาเรื่อยๆ เรียนเรื่อยๆ ทำกิจกรรมไปด้วย ช่วงจริงจังจริงๆ ก็เลยเทมาที่ช่วงสอบรอบสุดท้าย ช่วงแอดมิชชั่นนะแหละครับ คือ เรารู้แล้วว่า เราปิดประตูรับตรงไปแล้ว โอกาสมันเหลือแค่ตอนนี้แล้ว เราก็ต้องเตรียมตัวให้ดีที่สุด
           ช่วงสอบจริงๆ ก่อน GAT - PAT ผมใช้เวลาประมาณอาทิตย์กว่าๆ ในการนั่งอ่านทุกวันเพราะเราว่างแล้ว ตื่นมาประมาณเที่ยงๆ นั่งเรื่อยๆ ทั้งวัน พอ 3-4 ทุ่มก็นอน ทำแบบนี้ทุกวัน ประมาณสัปดาห์นึง แต่ บอสอ่านมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ ม. 5 แล้วนะ อันนี้คือมาอ่านทบทวนนะครับ 
 
อยากให้น้องๆ เตรียมอะไรมากที่สุด
           อย่างแรกต้องรู้ก่อนว่าเราอยากเข้าคณะอะไร แล้วก็ดูว่าในคณะที่เราอยากเข้า มีเกณฑ์ใช้วิชาไหนมากที่สุด พอเรารู้ เราก็เตรียมวิชานั้นให้มากขึ้น เตรียมให้พร้อมที่สุด จริงๆ อีกอย่างนึงที่บอสทำคือ มีโอกาสก็ไปสอบครับ เพราะจะทำให้รู้แนวข้อสอบ แล้วก็ไม่ตื่นสนามสอบ อันนี้ช่วยได้มาก 
           สำหรับบอส อย่างที่บอกว่าเรียนมาเรื่อยๆ เราจะมาอ่านทวนๆ ก็ช่วงก่อนสอบซักสัปดาห์นึงแหละครับ อย่างตอนที่สอบ จำได้ว่าคะแนน PAT 3 คือ 200+ คือ คะแนนตรงนี้บอสว่าทำโจทย์มันสำคัญมากครับ เพราะถ้าไม่ทำโจทย์มาก่อน เราจะไม่รู้เลยว่าเจอโจทย์แบบนี้แล้วเราต้องจะทำยังไง เราจะแก้แบบไหน ขืนรอไปเจอในข้อสอบกว่าจะแก้ได้นี่เสียเวลามากเลยนะครับ อีกอย่างแต่ละข้อมีเวลาจำกัด การที่เราเชี่ยวชาญ คุ้นชินกับรูปแบบข้อสอบช่วยประหยัดเวลาในการแก้โจทย์ และก็ชัวร์ด้วยครับ
           อีกอย่างนึงที่สำคัญไม่แพ้ทำโจทย์คือ เนื้อหา เพราะเนื้อหาในการสอบกว้างมากๆ เนื้อหาเราก็ต้องแม่นมากๆ ถึงจะแก้โจทย์ออก เพราะถ้าเนื้อหาไม่แม่น โจทย์พลิกนิดเดียวเราก็จบครับ เพราะเราไม่แม่น แก้ไม่ได้ เสียคะแนนไปเลย
           สุดท้ายอยากบอกว่า มันไม่ได้ใช้เวลาแค่ 2-3 อาทิตย์ก่อนสอบ แล้วจะสอบได้ ต้องค่อยๆ เก็บไปทีละนิด เหมือนเราเรียนหนังสือแหละครับ ต้องเรียนไปเรื่อยๆ พอถึง ม. 6 คือช่วงเวลาในการทบทวนอีกที ซึ่งช่วงที่เราจริงจังก่อนสอบคือช่วงเวลาทบทวนข้อสอบให้เห็นภาพรวมก่อนเข้าสอบ
 
   
1 อาทิตย์ก่อนสอบ อยากให้ทำอะไรมากที่สุด
           อยากให้ทำโจทย์ และจำเนื้อหา กับสูตรให้ครบ คือ จำให้ได้มากที่สุด ทุกเรื่องที่จะออกสอบได้ เรากวาดให้หมดครับ มันแค่ครั้งเดียวในชีวิต ทุ่มให้สุด แล้วเราจะไม่เสียใจอะไรเลย อย่างบอสเองตอนพลาดสอบตรงที่จุฬาฯ ก็แอบเสียใจนะ คือเราพลาดไปนิดเดียวจริงๆ พลาดที่ไม่ได้เต็มที่ตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งเราก็ไม่อยากรู้สึกแบบนั้นอีกก็เลยทุ่มสุดตัวกับแอดมิชชั่น
 
เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย แต่เกรดยังเป๊ะ ทำยังไง?
           ตอนนี้อยู่ปี 4 ครับ เราก็ตั้งเป้าว่าอยากจบเกรดดีๆ ให้ตัวเองภูมิใจเลยพยายามประคองเกรดจนได้มา 3.25 ซึ่งยอมรับว่าหนักครับ ต้องทำงาน ถ่ายละคร 2 เรื่องไปพร้อมๆ กันทั้งนางชฎาและก็เลือดตัดเลือดทีจะออนแอร์ปีนี้ มันก็หนักมากนะครับ บางทีก็มีท้อบ้าง อยากปล่อยๆ ตัวบ้างแต่ผมคิดว่าเพราะเราตั้งใจเรียนมาตั้งแต่เด็ก พอโตมาเราก็เลยแข่งกับตัวเอง พยายามมองว่าทำไมตอนเด็กเราเกรดดีๆ ได้ แล้วทำไมตอนนี้เราจะทำไม่ได้ เพียงแต่พออยู่ในมหาวิทยาลัยเราจะมีข้อจำกัดเยอะขึ้นเช่น มีคนเก่งเยอะขึ้น มีเวลาน้อยลง ทุกวิชาหนักหมด แถมยังทำงานไปด้วย ก็ต้องใช้ความพยายามมากหน่อย แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แค่นั้นครับ
           อีกอย่างหนึ่งที่อยากบอกน้องๆ คือ สำหรับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย มันต้องพึ่งพาตัวเอง แต่อย่าลืมช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่มด้วย เพราะถ้าเราต่างช่วยกันจะดีมากเลยนะ เราจะไม่เหนื่อยเท่ากับเรียนเองคนเดียว อ่านเองคนเดียว อย่างน้อยมีอะไรเราปรึกษากันได้ เพื่อนดีๆ ช่วยได้ครับ ผมต้องขอบคุณที่เพื่อนในกลุ่มเป็นเพื่อนดีๆ ที่ช่วยเหลือกัน ซึ่งน้องๆ เอาไปใช้ได้นะครับ ช่วยกันเรียน ไม่ต้องเรียนจ๋า เนิร์ดทั้งกลุ่มหรอก แต่ถึงเวลาต้องช่วยกันดูหนังสือ ชวนกันไปในทางที่ดีครับ
 
สำหรับเรา อะไรยากที่สุดสำหรับคนที่คิดจะเรียน "วิศวะฯ"
           ผมว่าตอนปี 1 ครับ คือ เข้าไปผมก็ปรับตัวยังไม่ได้ มันต่างกันมากนะครับกับชีวิตมัธยมฯ ที่เคยเตรียมตัวสอบแค่ 3-4 วัน
อ่านหนังสือมาสอบ ก็ได้แล้ว 
แต่ในระดับมหาวิทยาลัยมันไม่ใช่ มันต้องเผื่อเวลามากกว่านั้น ยิ่งกว่าแอดมิชชั่นอีก ที่คิดว่าแอดมิชชั่นหนักแล้ว ผมว่าเรียนในมหาวิทยาลัยหนักกว่ามาก เพราะต้องเตรียมเยอะ อย่างผมเตรียมเป็นเดือน อย่างปีแรกที่บอกว่ายากคือ ผมเตรียมแค่สองอาทิตย์ก่อนสอบ สุดท้ายมันไม่เวิร์ค ไม่ทัน ปีแรกนี่เหลือ 2.66 จาก 3.92 ช่วงมัธยมฯ  คือเป็นเลข 2 ตัวแรกในชีวิต ก็ตกใจครับ พอเจอแบบนี้เลยต้องคิดใหม่ทั้งหมด
           อีกอย่างหนึ่งมหาวิทยาลัย เราต้องทำหน้าที่ตัวเองให้สมบูรณ์ มีหน้าที่เรียนต้องเรียน ไม่ว่าจะยุ่ง จะมีงานอะไร แต่หน้าที่หลักเราก็ต้องรับผิดชอบโดยไม่มีข้ออ้างใดๆ ครับ ต้องจัดเวลาตัวเองให้ได้
 
ฝากถึงคนที่กำลังจะแอดมิชชั่น
           อย่างแรกคือควรรู้ว่าชอบคณะไหน แล้วคณะนั้นมีสาขาวิชาอะไร ภาควิชาอะไรบ้าง จากนั้นก็ต้องดูว่าภาคไหน สาขาวิชาอะไรใช่สำหรับเราที่สุด
           ต่อมาคือเรื่องคะแนน คือในการแอดมิชชั่น ทุกคนแย่งที่นั่งกัน ก็ต้องพยายาม เหนื่อยกว่าคนอื่นหน่อยนึงแหละครับ อย่างถ้าเป็นวิศวะฯ จุฬาฯ อย่างน้อย PAT3 ควร 200+ ต้องแตะให้ได้ เพราะน้ำหนัก PAT3 เยอะ อีกอย่าง ถ้าเราได้เยอะก็เป็นผลดีกับเราด้วย 
           อีกอย่างนึง PAT1 อย่าทิ้งนะครับ หลายคนทิ้งกันเยอะ ทั้งๆ ที่หลายคณะใช้ยื่น 
          และที่สำคัญ GAT เชื่อมโยงภาษาไทย ควรเต็มครับ พยายามให้มากที่สุด มันเป็นวิชาที่อัพคะแนนเรา ไม่ควรพลาดมากที่สุด อ่อ ส่วน GAT เชื่อมโยงภาษาอังกฤษ ก็ควร 100+ จะดีมากครับ
           สุดท้าย อย่าคิดว่าเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยแล้วจะจบแค่นั้น ไม่ใช่ครับ เข้ามาแล้วนั่นคือจุดเริ่มต้นของอีกสังคมที่เราต้องสู้ต่อ เข้ามาแล้วคนที่เก่งกว่าเราก็มี เก่งเท่าๆเราก็เยอะ ถ้าเราอยากเก่งกว่าคนอื่นเราก็ต้องฟิตกว่าคนอื่น แต่หลายคนพลาดเพราะเข้ามาแล้วไม่สนใจ ไม่ขยันเรียน ปล่อยตัว เหลวไหล อันนี้ก็อาจจะโดนรีไทร์ได้นะครับ อ่อ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเรียนจนไม่ร่วมกิจกรรมเลยนะครับ ชีวิตมีอีกหลายมุม ร่วมกิจกรรมก็สำคัญครับ
           อื้อหือออ!! คุยกันครบถ้วนทุกแง่มุมขนาดนี้ หวังว่าพี่บอสน่าจะเป็นหนึ่งคนที่ตามฝันตัวเอง ยอมเสี่ยงเพื่อคว้าสิ่งที่ตัวเองต้องการมากที่สุด จนวันนี้เขาประสบความสำเร็จก้าวแรกที่เขาต้องการแล้ว แล้วอนาคตน้องๆ ละคะ น้องได้ทำอะไรเพื่ออนาคตตัวเองแล้วหรือยัง? พี่เมษ์เชื่อว่าอนาคตของน้องไม่ได้อยู่ที่ใคร แต่อยู่ในกำมือน้องๆ เองนะคะ ฝันให้ไกลไปให้ถึง ทำได้แน่!!
           อ่อ  ส่วนใครอยากติดตามก็สามารถติดตามผลงานพี่บอสได้เลยนะคะ ในละครทั้งนางชฎา และเลือดตัดเลือด แอบกระซิบว่าเร็วๆ นี้ค่ะ หรือเข้าไปพูดคุยกับพี่บอสที่ Ig: @bossjukkaphan ค่ะ แล้วกลับมาเจอกับพี่เมษ์และ Admission Idol คนต่อไปได้ในวันอังคารหน้า จะเป็นใคร มีแรงบันดาลใจอะไรมาฝากกัน ต้องรอชมค่ะ ไปละนะ บ๊ายบายยยยยยยย 
พี่เมษ์
พี่เมษ์ - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายการศึกษา

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด
Planktony 28 ม.ค. 58 18:49 น. 16
เอิ่ม.....เรื่องแค่นี้ถึงขั้นออกเว็บ Dek-d เลยหรอ - - เอิ่มเป็นผมนะเลือกที่ ๆ ตัวเองอยากจะไปที่สุดก็พอ ไม่ต้องไป 4-5 ที่หรอก มันแย่งที่คนอื่นเขา ผมสายอาชีวะนะ เลยไม่เข้าใจ GAT-PAT แอดมิดชั่นอ่ะไรนี่เลย เพราะสอบตรงเป็นตัวเลือกสำคัญของสายอาชีวะนะครับในการเรียนต่อระดับอุดมศึกษา อยากให้เพื่อน ๆ สายสามัญได้รู้ไว้ เรื่องสอบวิชาจำพวกสามัญมันเป็นอะไรที่ยากมากครับสำหรับอาชีวะอย่างพวกผม ><
1
Rungstaring Member 29 ม.ค. 58 23:07 น. 16-1
ที่ต้องออก dek-d เพราะช่วงนี้มันมีเด็กอีกมากที่ต้องการกำลังใจค่ะ พี่เขาก็เก่งคนหนึ่ง ส่วนคนที่เก่งมากๆ กว่าพี่เขาก็ให้สัมภาษณ์ปีอื่นหรือก่อนหน้านี้ไปหมดแล้ว เอ่อ..
0
กำลังโหลด
Nuttacha Wongbuth Member 28 ม.ค. 58 21:25 น. 17

ก็เข้าใจนะว่าตอนไปสอบที่อื่นก็เพราะอยากลองสนามเป็นที่สำรอง แต่ถ้าไม่คิดจะเอาจริงๆไม่น่าไปแย่งที่ บางคนไม่เข้าใจว่ามันเป็นสิทธิของเค้านะจะโวยทำไม ก็เพราะคุณไม่เคย "เกือบติด" อีกแค่คนสองคน เราก็จะติดแล้ว มารู้ทีหลังว่าสละสิทธ์อีก แล้วบางที่ไม่ได้มีตัวสำรอง ติดเท่าไหร่เอาเท่านั้นหรือสละไปไม่มีคนขึ้นแทน มันเซ็งอย่างบอกไม่ถูก

ถ้าอยากลองข้อสอบนะ โน่นเลยร้านหนังสือ ห้องสมุด ข้อสอบเก่ามีเป็นพัน

ไม่ต้องเสียเวลาตระเวนไปหลายที่ด้วย

ปล.ไม่ได้หมายถึงคนนี้นะ พูดรวมๆทั่วๆไป ใจเค้าใจเราค่ะ อย่ากันที่

1
Iris 15 มิ.ย. 58 18:39 น. 17-1
งั้นใจเค้าใจเรา เราอ่านหนังสือหนักเหมือนกัน ถ้าไปสอบติดหลายๆที่ เรามีสิทธิ์เลือก :) เราพยายาม เราก็ควรได้มากกว่าคนที่พยายามน้อยกว่าเรา ที่มหา'ลัยเปิดสอบ เขาก็อยากได้เด็กหัวดีๆ สอบไม่ติดก็ควรโทษตัวเองครับ แล้วเรื่องที่นั่งมหา'ลัยเป็นคนกำหนดด้วยครับ /เราเคยสอบเกือบติดเหมือนกัน เราโทษตัวเองที่ไม่เก่งพอ เราไม่โทษคนอื่น :)
0
กำลังโหลด
นิสิตคนหนึ่ง 29 ม.ค. 58 16:12 น. 22
เรื่องแบบนี้ผมคิดว่าไม่ผิดหรอกครับ มันเป็นสิทธิ์ของเราที่จะเลือกไปสอบที่ไหน สอบอะไร การไปสอบหลายๆที่มันก็เหมือนกับไปลองข้อสอบ ลองสนามสอบ ซึ่งแน่นอนมันเป็นผลดีต่อตัวนักเรียนเอง และส่วนใหญ่หลายๆคนก็เลือกที่จะทำในแนวทางแบบนี้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ....และผมก็ทำในแนวทางเดียวกับเค้าแหละครับ เค้าสอบได้แล้วสละสิทธิ์ ทางมหาลัยส่วนใหญ่ก็มีรายชื่อที่เป็นตัวสำรอง ถ้าเกือบติดจริงๆเค้าก็คงเรียกตัวสำรองลำดับต้นๆทีคะแนน(เกือบ)ติดไหมมาสัมพาษแทนไหมหละครับ ถ้าคุณมีลูก คุณก็จะแนะนำลูกของคุณให้ไปสอบเหมือนกันแหละครับ ทุกคนมีความฝันเป็นของตัวเอง จงพยายามทำตามสิ่งที่เราฝันไว้ครับ
0
กำลังโหลด

31 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
ปลาตะเพียนน้ำเค็ม Member 27 ม.ค. 58 13:33 น. 2

หล่อ ดี ฉลาด

พ่อของลูกกกกกกก 55

พี่ที่เคยเล่นหนังกับมาดามมดด้วยป่ะ ที่เล่นเป็นตอนวันรับน้องอ่ะ รักเลย

1
เด็กเนิร์ด 31 ก.ค. 58 19:52 น. 2-1
มีละครของพี่เค้าเยอะเลยค่ะ ปี58นี้ก็มี แต่เสียดายพี่เค้าเล่นเป็นตัวร้ายค่ะ เเล้วก็เรื่อง รด.เขาชนผีที่เขาชนไก่ค่ะหนุกเฟร่อ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Grape Dried Member 27 ม.ค. 58 17:34 น. 4

พี่บอสพี่เป็นคนที่น่ารักมากกกกกกกกกกก   เรียนก็เก่ง ตั้งเป้าหมายในชีวิตก็ดีมีระเบียบกับตัวเองเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นกับชีวิตเป็นคนที่โคตรจะแสนดีโคตรจะเพอเฟคเลยอ่ะ พี่เป็นไอดอลของหนูเลยนะหนูชอบพี่มากๆเลยนะติดตามทั้งเฟสไอจีทวิตแถมยังเก็บพี่มาฝัน พี่ฮีโร่ในดวงใจของหนูเลยนะ5555555555 สิ่งที่อยากจะบอกพี่ก็คือ ชาตินี้ขอให้เราเจอหน้ากันจังๆสักครั้งด้วยเถิดดดดสาธุ55555555 หนูจะติดตามผลงานพี่ไปตลอดดเลยนะะ    รักพี่ที่สุดเลยยยยยยยย เย้ๆ  // อย่าตกใจอีนี่บ้าพี่บอสไปแล้วววว หัวใจทั้งสี่ห้องของน้องยกให้พี่5555555     กดLIKEรักเลยขึ้นสวรรค์เย้รักเลยเขิลจุงช็อคว้ายวาดภาพชูสองนิ้วปิ้งปิ้งเย้

0
กำลังโหลด
Omyajai 27 ม.ค. 58 17:35 น. 5
กำลังตัดสินใจเหมือนกันว่าจะแอด ดีหรือป่าว ใจนึงก็กลัวหลุด อีกใจ ก็ อยากลองเพราะมันคือเป้าหมายในชีวิตเรา คิดหนัก สิ่งที่ฝันมันเหมือนไกลมากๆๆ อ่านเพจนี้แล้ว มีกำลังใจขึ้นเยอะเรย ขอบคุณค่ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
+|#นาฬิกาความทรงจำ#|+ Member 27 ม.ค. 58 20:45 น. 7

สองร้อยอัพเลยหรือคะ TT

เราสอบครั้งแรก สอบไปเล่นๆชิลๆ

ไม่เคยสอบมาก่อน ได้ 170+ กะว่าเฮ้ยดีแล้วมั้ง

เพราะเราเตรียมตัวแค่ pat2 มา

เลยพอถูไถไป ถ้าใช้จริงนี่ 200 up โฮกก ตั้งตัวใหม่ค่ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
จริงใจไม่จิงโจ้จุ๊ฟๆ 28 ม.ค. 58 10:43 น. 9
เราก็สละสิทธิ์วิศวะ 5 ที่แล้วรอแอดจุฬาเหมือนกันนะ สุดท้ายก็ได้เรียน ไม่เห็นมีใครมาสัมภาษณ์แบบนี้มั่งเลยอะ
1
กำลังโหลด
AprilT.May Member 28 ม.ค. 58 11:40 น. 10-1
สละสิทธิ์ไป ที่นั่งก็ไม่ได้หายนะคะ แต่ไปเพิ่มรับตรงรอบอื่นๆ หรือ รอบแอดมิชชั่นกลางแทนเยี่ยม
0
กำลังโหลด
เด็กชาย 28 ม.ค. 58 16:37 น. 11-1
ใช่เลย. ไม่น่าแปลกใจ. เด็กเก่งหลายคนเลือกสอบหลายๆที่เพื่อแค่มาลองสนาม. คณะผมรับตรงหนึ่งร้อย. เหลือจริงๆสิบคน ที่เหลือเด็กแอดทั้งนั้น. ปล. คณะ ภ. แถวนครนายกเยี่ยม
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
H!Me_Kun=^^= Member 28 ม.ค. 58 17:42 น. 14

ถ้ารู้ว่า สิ่งที่ตัวเองชอบคืออะไร ก็ไม่น่าไปสมัคร *แย่งที่* คนอื่นเค้านะคะ ถึงจะบอก เป็นสิทธฺของเราที่อย่กจะลองสมัคราอบหลาบๆที่ เพื่อท้าทายความสามารถตัวเองก็เถอะ มันฟังดูดีอ่ะ แต่ก็แค่ ฟังดูแล้ว...ดี

0
กำลังโหลด
H!Me_Kun=^^= Member 28 ม.ค. 58 17:43 น. 15

ถ้ารู้ว่า สิ่งที่ตัวเองชอบคืออะไร ก็ไม่น่าไปสมัคร *แย่งที่* คนอื่นเค้านะคะ ถึงจะบอก เป็นสิทธฺของเราที่อย่กจะลองสมัคราอบหลาบๆที่ เพื่อท้าทายความสามารถตัวเองก็เถอะ มันฟังดูดีอ่ะ แต่ก็แค่ ฟังดูแล้ว...ดี

1
Iris 15 มิ.ย. 58 18:42 น. 15-1
ถ้าคิดได้แค่การฟังแล้วดูดี แสดงว่าคุณไม่ได้อะไรจากการสอบเลยใช่ไหมครับ เราว่ามันได้ประสบการณ์เยอะแยะเลยครับ ได้รู้ว่าตัวเองบกพร่องในเรื่องอะไร :)
0
กำลังโหลด
Planktony 28 ม.ค. 58 18:49 น. 16
เอิ่ม.....เรื่องแค่นี้ถึงขั้นออกเว็บ Dek-d เลยหรอ - - เอิ่มเป็นผมนะเลือกที่ ๆ ตัวเองอยากจะไปที่สุดก็พอ ไม่ต้องไป 4-5 ที่หรอก มันแย่งที่คนอื่นเขา ผมสายอาชีวะนะ เลยไม่เข้าใจ GAT-PAT แอดมิดชั่นอ่ะไรนี่เลย เพราะสอบตรงเป็นตัวเลือกสำคัญของสายอาชีวะนะครับในการเรียนต่อระดับอุดมศึกษา อยากให้เพื่อน ๆ สายสามัญได้รู้ไว้ เรื่องสอบวิชาจำพวกสามัญมันเป็นอะไรที่ยากมากครับสำหรับอาชีวะอย่างพวกผม ><
1
Rungstaring Member 29 ม.ค. 58 23:07 น. 16-1
ที่ต้องออก dek-d เพราะช่วงนี้มันมีเด็กอีกมากที่ต้องการกำลังใจค่ะ พี่เขาก็เก่งคนหนึ่ง ส่วนคนที่เก่งมากๆ กว่าพี่เขาก็ให้สัมภาษณ์ปีอื่นหรือก่อนหน้านี้ไปหมดแล้ว เอ่อ..
0
กำลังโหลด
Nuttacha Wongbuth Member 28 ม.ค. 58 21:25 น. 17

ก็เข้าใจนะว่าตอนไปสอบที่อื่นก็เพราะอยากลองสนามเป็นที่สำรอง แต่ถ้าไม่คิดจะเอาจริงๆไม่น่าไปแย่งที่ บางคนไม่เข้าใจว่ามันเป็นสิทธิของเค้านะจะโวยทำไม ก็เพราะคุณไม่เคย "เกือบติด" อีกแค่คนสองคน เราก็จะติดแล้ว มารู้ทีหลังว่าสละสิทธ์อีก แล้วบางที่ไม่ได้มีตัวสำรอง ติดเท่าไหร่เอาเท่านั้นหรือสละไปไม่มีคนขึ้นแทน มันเซ็งอย่างบอกไม่ถูก

ถ้าอยากลองข้อสอบนะ โน่นเลยร้านหนังสือ ห้องสมุด ข้อสอบเก่ามีเป็นพัน

ไม่ต้องเสียเวลาตระเวนไปหลายที่ด้วย

ปล.ไม่ได้หมายถึงคนนี้นะ พูดรวมๆทั่วๆไป ใจเค้าใจเราค่ะ อย่ากันที่

1
Iris 15 มิ.ย. 58 18:39 น. 17-1
งั้นใจเค้าใจเรา เราอ่านหนังสือหนักเหมือนกัน ถ้าไปสอบติดหลายๆที่ เรามีสิทธิ์เลือก :) เราพยายาม เราก็ควรได้มากกว่าคนที่พยายามน้อยกว่าเรา ที่มหา'ลัยเปิดสอบ เขาก็อยากได้เด็กหัวดีๆ สอบไม่ติดก็ควรโทษตัวเองครับ แล้วเรื่องที่นั่งมหา'ลัยเป็นคนกำหนดด้วยครับ /เราเคยสอบเกือบติดเหมือนกัน เราโทษตัวเองที่ไม่เก่งพอ เราไม่โทษคนอื่น :)
0
กำลังโหลด
Marina 28 ม.ค. 58 22:47 น. 18
คือ ทุกคนยังโชคดีที่ได้เรียนประเทศไทยและได้อยู่ใกล้ๆพ่อแม่นะ เราเรียนอยู่อเมริกาค่ะ เราไม่ได้อยากไปเลย เพราะพ่อแม่ พี่ น้อง เพื่อนๆ ทุกคนๆอยู่ไทยหมด แต่ด้วยพ่อแม่เห็นว่า ถ้าจบนอกภาษีเราจะดีกว่า โปรไฟล์เราก็จะดี ซึ่งเราขัดใจท่านไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปตามแบบแผนที่ท่านกำหนด TT'
0
กำลังโหลด
Zinclarx 29 ม.ค. 58 06:02 น. 19
เรื่องความเก่งผมไม่คัดค้าน แต่สอบตรงไปเยอะแยะแต่-ไม่เอา เบียดเบียนโควต้าคนอื่นชิบหาย คนอย่างนี้ล่ะโคตรเกลียด
1
Iris 15 มิ.ย. 58 18:34 น. 19-1
มหา'ลัยเปิดสอบครับ เขาก็แค่ไปสอบ ไม่เอาก็ปัดที่นั่งไปรอบแอดมิชชั่นครับ แค่นั้นจบ :) เป็นผมผมทำได้ก็จะทำครับ โอกาสไม่ได้มีบ่อยๆ คว้าไว้ก่อนก็ดีครับ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด