10 คณะที่ญาติมักถาม "เรียนเกี่ยวกับอะไรจ๊ะลูก ?" พร้อมคำอธิบาย


          สวัสดีค่ะ ช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นฤดูรับตรงของน้องๆ ม.6 เลย นอกจากการรู้ตัวเองว่าเราอยากเข้าคณะอะไร และพยายามตั้งใจไปให้ถึงความฝันนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการพูดคุยกับผู้ปกครอง ถึงคณะที่เราอยากเข้า หรือพูดคุยกับผู้ปกครองถึงความฝันของเรา เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจและยอมรับ เพราะหลายครั้งที่การตัดสินใจของเรามักมีผู้ปกครองเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ

          แต่มีหลายครั้งที่บอกไปแล้ว ผู้ปกครองหรือญาติผู้ใหญ่ ก็ยังไม่รู้สักทีว่าเราเรียนอะไร วันนี้พี่อีฟเลยขอพาน้องๆ ไปรู้จักกับตัวอย่าง 10 คณะที่ญาติผู้ใหญ่มักเข้าใจผิดว่าเรียนอะไร จะใช่คณะของเรารึเปล่า ตามพี่อีฟไปดูกันเลยค่ะ

 

           1. คณะสหเวชศาสตร์ เป็น อีกคณะที่ญาติผู้ใหญ่อาจจะไม่รู้จักนะคะ สำหรับคณะนี้ เพราะถ้าบอกชื่อไป แล้วแปลตามตัว ท่านคงคิดว่าเราเรียนศาสตร์หลายๆ ด้านเข้าด้วยกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าด้านวิทย์หรือศิลป์ ซึ่งเราก็ต้องอธิบายให้พวกท่านฟังกันหน่อย

           วิธีอธิบายกับผู้ใหญ่ คณะนี้เรียนคล้ายกันกับคณะเทคนิคการแพทย์ แต่ก็ไม่เสมอไปค่ะ ขึ้นอยู่กับสาขาวิชาที่เราเรียนด้วย เช่น กายภาพบำบัด โภชนาการและการกำหนดอาหาร รังสีเทคนิค เป็นต้น เป็นอีกคณะที่ ถ้าอธิบายว่าจบมาทำอาชีพอะไร อาจทำให้ญาติผู้ใหญ่เข้าใจมากกว่าค่ะ ซึ่งจบมาแล้วทำอาชีพอะไร ก็ขึ้นอยู่กับสาขาที่เรียนนะคะ
         
          2. คณะทัศนมาตรศาสตร์ เป็นคณะที่เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว มีหลายมหาวิทยาลัยเปิดรับมากขึ้น แต่ถ้าไปเล่าให้ญาติผู้ใหญ่ฟังว่าอยากเรียนคณะนี้ คงมีสงสัยกันบ้างค่ะ ว่าเรียนเกี่ยวกับอะไร เรียนเกี่ยวกับการถ่ายรูปรึเปล่า หรือเกี่ยวกับการมองเห็นไหม

          
วิธีอธิบายกับผู้ใหญ่ พี่อีฟคิดว่าต้องรีบอธิบายให้พวกท่านเข้าใจเลยนะคะ อาจจะนำเสนอวิชาเรียนเพื่อให้พวกท่านเข้าใจ ว่าทัศนมาตรศาสตร์ เป็น การเรียนระบบสายตา โดยจะเรียนเกี่ยวกับโรคตาเบื้องต้นไม่ว่าจะเป็น ต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อหิน เบาหวานขึ้นจอประสาทตา ฯลฯ รวมไปถึงการตรวจวัดสายตา การทำแว่น การทำคอนแทคเลนส์ ให้เข้ากับสายตาด้วยค่ะ โดยปกติแล้วนักทัศนมาตรและจักษุแพทย์จะต้องทำงานร่วมกัน แต่จะแตกต่างกัน โดยนักทัศนมาตรจะเน้นการดูแลทางด้านระบบสายตา ไม่เน้นการแก้ไขความผิดปกติทางกายภาพโดยการผ่าตัด  เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคณะที่มีความสำคัญมากเลยค่ะ

          3. คณะศิลปศาสตร์ น้องๆ ลองมาทายกันดูค่ะ ว่าญาติผู้ใหญ่จะคิดว่าเราเรียนอะไร ใช่แล้วค่ะ เรียนศิลปะ ! พี่อีฟเคยได้ยินจากพี่คนหนึ่งที่เรียนคณะนี้นะคะ ว่าเคยบอกคุณยายว่าเรียนศิลปศาสตร์ กว่าจะอธิบายว่าไม่ได้เรียนวาดรูป ก็ต้องอธิบายยาวทุกที

          
วิธีอธิบายกับผู้ใหญ่ ถ้าเริ่มรู้ว่าเรากับญาติผู้ใหญ่ เข้าใจไม่ตรงกัน ก็อธิบายไปเลยนะคะ ว่าคณะศิลปศาสตร์นั้น เป็นคณะที่มีการบูรณาการเรียนภาษาร่วมกับศาสตร์อื่นๆ เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ความสามารถทางภาษาในการทำงานอื่นได้ค่ะ

          4. คณะโลจิสติกส์ บอกชื่อไปแล้ว เรียกได้ว่าญาติผู้ใหญ่ต้องหยุดคิดไป 5 วินาที พร้อมถามเรากลับมาอยู่ดีค่ะ ว่าเรียนเกี่ยวกับอะไร ถามน้องๆ ที่เรียนอยู่ บางคนยังอธิบายให้ญาติๆ ฟังยังไม่เข้าใจเลยนะคะ

         
วิธีอธิบายกับผู้ใหญ่ พี่อีฟแนะนำว่า ลองอธิบายไปคร่าวๆ ว่า คณะโลจิสติกส์นั้น เกี่ยวข้องกับการจัดการการส่งสินค้า ข้อมูล และทรัพยากรอย่างอื่นจากจุดต้นทางไปยังจุดบริโภคตามความต้องการของลูกค้า การเรียนก็จะเกี่ยวข้องกับการผสมผสานของข้อมูล การขนส่ง การบริหารวัสดุคงคลัง การจัดการวัตถุดิบ การบรรจุหีบห่อ ฯลฯ เป็นอีกหนึ่งคณะที่ในช่วงหลังมานี้ได้รับความนิยมอยู่มากเลยนะคะ

          5. คณะการจัดการและการท่องเที่ยว วินาทีแรกที่บอกญาติผู้ใหญ่ ท่านคงนึกภาพการเรียนไม่ออก และคิดว่าเราจะต้องไปเที่ยว ไม่ได้ไปเรียนแน่นอนค่ะ ซึ่งพี่อีฟก็เชื่อว่า ยังมีน้องๆ หลายคนที่คิดว่าถ้าชอบเที่ยว อยากเที่ยว ก็จะมาเข้าเรียน

           วิธีอธิบายกับผู้ใหญ่ แต่พี่อีฟขอบอกเลยนะคะ ว่าจากที่ได้สัมภาษณ์น้องๆ หลายคนที่เรียนคณะนี้ ว่าพูดคุยกับญาติผู้ใหญ่ยังไง ให้ท่านเห็นภาพของการเรียน พี่ๆ ก็แนะนำมาว่า ให้เราบอกไปเลยว่า คณะนี้ไม่ใช่แค่ได้เที่ยวเท่านั้น แต่เป็นการเน้นให้เราได้ฝึกวางแผนการท่องเที่ยว การเป็นไกด์ หรือแม้แต่วางแผนการจัดทัวร์ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มจนจบโครงการเลยค่ะ เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งคณะที่น่าสนใจสำหรับน้องๆ เลยนะคะ

          6. คณะมนุษยศาสตร์ จากชื่อที่ตรงตัว อาจจะทำให้ญาติผู้ใหญ่คิดว่า การเรียนของเราต้องศึกษาเรื่องราวของคนอื่นแน่ๆ เคยมีน้องๆ มาเล่าให้ฟังว่า เล่าให้คุณป้าฟังว่าเรียนคณะมนุษยศาสตร์ ท่านก็สงสัย ว่าทำไมเราเรียนแผนการเรียนศิลป์-ภาษามา ทำไมต้องไปเรียนเรื่องของคนด้วย เรียนเกี่ยวกับร่างกายคนหรอ เผลอคิดไปว่าต้องเรียนคล้ายหมออีก อธิบายกันยาวเลยค่ะ แต่ความจริงแล้ว ก็มีส่วนถูกบ้างนะคะ เพราะคณะมนุษยศาสตร์ก็เรียนเกี่ยวกับผู้คนจริงๆ ค่ะ


           วิธีอธิบายกับผู้ใหญ่ ต้องอธิบายให้ญาติผู้ใหญ่ฟังด้วยว่า เป็นการเรียนด้านสังคมมากกว่าด้านวิทย์ จะเรียนเกี่ยวกับศักยภาพด้านต่างๆ ของมนุษย์ ตั้งแต่ภาษา การสื่อสาร การเข้าใจจิตใจ และการกระทำของมนุษย์ รวมถึงศิลปวัฒนธรรม เป็นต้นค่ะ

          7. คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม จริงๆ แล้วถ้าไม่ได้บอกญาติผู้ใหญ่ด้วยศัพท์ง่ายๆ ว่าเราเรียนครู เชื่อได้เลยค่ะว่า ถ้าบอกว่าเรียน ครุศาสตร์ บางทีท่านยังแอบงงแน่นอน และยิ่งเป็นครุศาสตร์อุตสาหกรรมด้วยแล้ว คงเจอคำถามว่าสอนชั้นไหน วิชาอะไรกันเป็นปกติแน่


            วิธีอธิบายกับผู้ใหญ่ แต่ต้องบอกญาติผู้ใหญ่เราเลยว่า ไม่ใช่ค่ะ เพราะครุศาสตร์อุตสาหกรรมเน้นให้เราได้สอนในระดับปวช. และปวส. และอย่าลืมบอกข้อดีไปด้วยว่า การเรียนคณะนี้จะเน้นการสอนให้มีทักษะเฉพาะด้านในการปฏิบัติมากกว่าทฤษฎีค่ะ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับน้องๆ ที่อยากเรียนครู อยากเน้นการปฏิบัติ ไม่อยากสอนวิชาที่เป็นวิชาการมากค่ะ
 

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก log.buu.ac.th

          8. คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ด้วยความที่ชื่อขึ้นต้นมีคำว่าวิทยาศาสตร์ ญาติผู้ใหญ่หลายท่านก็แอบคิดนะคะ ว่าเรียนเหมือนคณะวิทยาศาสตร์แน่นอน คงมีภาพเราสวมชุดขาว เข้าห้องแลป ถือหลอดทดลองอยู่ทั้งวัน หรือญาติผู้ใหญ่บางคน เห็นคำว่ากีฬา ก็คิดว่าเรียนกีฬาทั้งวันแน่นอน แต่พี่อีฟขอบอกนะคะว่าไม่ใช่แบบที่พวกท่านคิดค่ะ

           วิธีอธิบายกับผู้ใหญ่ การเรียนคณะนี้เป็นการผสมผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน มีทั้งเรียนวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา สรีรวิทยา ก็ยังต้องมีทักษะด้านกีฬาต่างๆ การเคลื่อนไหว โภชนาการด้านกีฬา จิตวิทยาการกีฬา การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ฯลฯ ค่ะ เราอาจจะเพิ่มเติมพวกท่านไปด้วยว่า ช่วงนี้กระแสรักสุขภาพกำลังมาแรง และประเทศไทยกำลังมีการพัฒนาทางด้านของกีฬาขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น บุคคลากรทางวิทยาศาสตร์การกีฬาจึงมีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งคณะที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมเลยนะคะ

          9. คณะวิทยาการสารสนเทศ , สารสนเทศศาสตร์ ฟังชื่อแล้วน่าจะเกี่ยวกับข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ต่างๆ ญาติผู้ใหญ่คงมั่นใจว่า เราจบมาแล้วน่าจะทำงานนักข่าว นักประชาสัมพันธ์ที่ให้ข้อมูลแน่นอน แต่ผิดค่ะ ! ถึงแม้จะถูกต้องบ้างที่คณะนี้ จะเรียนเกี่ยวข้องกับการศึกษาทฤษฎีสารสนเทศ วิเคราะห์, สังเคราะห์, สื่อสาร สารสนเทศต่างๆ อย่างเป็นระบบ

            วิธีอธิบายกับผู้ใหญ่ เราต้องสามารถอธิบายให้ญาติผู้ใหญ่ฟังได้ว่า กำลังเรียนในสาขาไหนของคณะนี้ มีวิชาเรียนอะไรบ้าง จบมาแล้วตั้งใจจะทำอาชีพอะไร เพราะถ้าเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ สารสนเทศที่ต้องเกี่ยวข้องด้วย คงไม่ใช่แค่ข้อมูลข่าวสารประจำวัน แต่เป็นสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับด้านซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ เครือข่าย และคอมพิวเตอร์ค่ะ 

         10. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย ปิดท้ายด้วยที่นี่เลยค่ะ น้องๆ หลายคนบอกมาว่า เล่าให้ญาติผู้ใหญ่ฟังทีไร หลายท่านคิดว่าเราเรียนเกี่ยวกับพุทธศาสนาทุกที และพี่อีฟเชื่อแน่ว่า น้องๆ หลายคนที่สนใจ ก็อาจจะยังไม่รู้ว่าที่นี่เรียนเกี่ยวข้องกับอะไร พี่อีฟคิดว่า ทางที่ดีที่สุด คือเปิดหลักสูตรไปพร้อมๆ กัน กับญาติผู้ใหญ่เลยค่ะ

            วิธีอธิบายกับผู้ใหญ่ วิทยาลัยโพธิวิชชาลัยจะเรียนเกี่ยวข้องกับการบูรณาการความรู้ ให้สามารถสร้างเครือข่ายแห่งการเรียนรู้ในชุมชน เป็นการพัฒนาโดยอาศัยหลักการเศรษฐกิจพอเพียงนั่นเองค่ะ และอย่าลืมอธิบายข้อดีปิดท้ายไปว่า การเรียนคณะนี้เป็นการประยุกต์ความรู้ที่หลากหลายเข้าด้วยกัน ดังนั้นไม่ว่าเราจะประกอบอาชีพอะไร ก็สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ได้ค่ะ
 

          เป็นยังไงกันบ้างคะ กับตัวอย่าง 10 คณะที่ญาติผู้ใหญ่เข้าใจผิดว่าเรียนเกี่ยวกับอะไร พี่อีฟเชื่อแน่ว่า ยังมีอีกหลายคณะที่กว่าจะอธิบายให้พ่อแม่ หรือญาติๆ เราฟังได้ว่า เราเรียนอะไร ก็เหนื่อยเหมือนกันค่ะ ลองมาแชร์ให้พี่อีฟ แล้วก็เพื่อนฟังด้วยนะคะ ว่ามีคณะไหนบ้าง แล้วญาติผู้ใหญ่ท่านคิดว่าเราเรียนอะไรกัน แต่ไม่ว่าเราจะเรียนอะไร สิ่งสำคัญคือต้องพูดคุยกับพ่อแม่ให้เข้าใจ จะได้มีความสุขในการเรียนนะคะ สวัสดีค่ะ
พี่อีฟ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Red Carnation. Member 21 พ.ย. 58 22:55 น. 13
6.คณะมนุษศาสตร์ ถ้าเรียนเรื่องราวของคนอื่นจริง มนุษย์ป้าข้างบ้านกูก็ทำด๊ายยยยยยยยยยยยยย
0
กำลังโหลด
สตรองยิ่งกว่าทีมลูกเกด 21 พ.ย. 58 20:04 น. 9
สถาปัตย์ก็เป็นอีกคณะที่ป้าข้างบ้านมักคิดว่าเรียนวาดรูป ยิ่งพอบอกเรียน 5 ปีนี่งงใหญ่ นึกว่าเราสอบตกอีก พอบอกจบแล้วเป็นสถาปนิก ก็จะเจอคำถามว่า-สถาปนิกนี่เค้าทำอะไรกัน อธิบายกันเหนื่อยทุกทีไป วิธีตอบแบบขี้เกียจ ของเราตอนนี้ คือ ตอบว่า เรียนออกแบบบ้าน ออกแบบตึก ออกแบบอย่างเดียวนะ ไม่สร้างเอง เรียนหลักสูตร 5 ปี จบแล้วเป็นคนสวยและรวยมาก ยิ้มแบบสตรองมากกกก
0
กำลังโหลด
Gam u Member 21 พ.ย. 58 16:27 น. 7

จิตวิทยาเลยค่ะ บอกแม่แม่ชอบว่าเรียนไปเดี๋ยวก็บ้าตามคนไข้หรอกกกกก

มันไม่ใช่อย่างนั้นแม่  ช็อค

0
กำลังโหลด
asdfghjkl123456 Member 30 ธ.ค. 58 20:00 น. 22

ผมว่า เทคโนโลยีสารสนเทศน่าจะติดน่ะ ผมเรียน ปวส อยู่ เพราะญาติๆถามเขาก็นึกว่าจบไปทำงานนักข่าว แต่จริงๆ แล้วผมเรียนภาษา html php java เฟ้ย 5555+

0
กำลังโหลด
MTนะจ๊ะ 20 พ.ย. 58 16:03 น. 2
คณะสหเวชศาสตร์นี่ประจำแบบบอกไปละแบลงค์เลยอ่ะ คนรู้จักน้อยมากกกสารภาพว่าจริงๆทีแรกเราก้ไม่รู้จักเรามารู้จักตอนประมาณม.6เทอมต้นมั้งตอนนั้นเพื่อนถามว่าอยากเข้าคณะอะไร ตอนนั้นเราก้เครียดๆอยู่เพราะไม่รู้จะเรียนอะไรดี เราชอบชีวะมากกกละก้เรียนได้ดีประมาณนึงเลยยละเราก้ชอบแนวเคมีอินทรีย์ชีวโมเลกุลด้วยไรงี้ในวิชาเคมีเลยคิดว่าอยากจะเข้าคณะวิทย์เอกจุลชีวะแต่พอเราไปดูหลักสตรละคือมันต้องเรียนแคลกับฟิและวิชาวิทย์อื่นๆที่เราไม่ชอบบบจัดเต็มมากกเราเลยคิดว่าอาจจะไม่เข้าทางเท่าไหร่พอเละแบบวิทย์สุขภาพตัวอื่นๆ(ที่เรารู้จักตอนนั้น)แบบญาติๆก้เชียหมองี้แต่ตอนนั้นเราคิดแล้วแหละว่าคงไม่ได้แน่เพราะการแข่งขันค่อนข้างสูงบวกกับเราคิดว่างานมันหนักหนเกินกว่าที่เราจะทำไหวเรานึกภาพเลยอ่ะว่าแบบให้มานั่งรักษาคนไข้หรือรองรับอารมผู้ป่วยหรือต้องถูกตั้งความหวังสูงมากกกกจากคนอื่นตลอดเวลาโดยเฉพาะฉากที่เราต้องมาบอกความจริงกับผู้ป่วยว่าเปนโรคร้ายแรงหรือบอกญาติผู้ป่วยว่าผู้ป่วยเสียชีวิตงี้เราทำไม่ได้แน่ๆ(อันนี้เรารู้ตัวตอนเรียนค.ถนัดแพทย์กับพี่วิเวียน)กับเภสัชงี้เราก้ไม่ชอบอ่ะเพราะรู้สึกมันเน้นเคมีมากไปหน่อยละเราไม่ค่อยชอบลักษณะงานแบบที่เท่าไหร่พอเพื่อนรู้เพื่อนก้แนะนำว่าลองดูเทคนิคการแพทย์มั้ยเพื่อนเค้ามีญาติทำงานอยู่เงินเดือนดีมาก เราก้ถามเพื่อนว่าทำงานอะไรเพื่อนก้บอกก้ทำแลปให้หมอไรงี้ เราเลยสนใจเพราะตอนเราได้มีโอกาสไปค่ายสอวน.ชีวะ เราได้ลองทำแลปเกี่ยวกับชีวะไรงี้เราก้รู้สึกว่าเออชอบนะไรงี้ ดูเปนงานที่เราจะสามารถทำได้ดี เราเลยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคการแพทย์และคณะกับสถาบันที่เปิดสอนก้พบว่าอยากเรียนสาขานี้แหละดูเข้ากับเราสุดละ พอไปบอกที่บ้านว่าจะเรียนอันนี้รวมถึงอธิบายว่าจบแล้วทำไงเสดสรรพที่บ้านก้พูดทันทีว่า เปนหมอดีกว่ามั้ย เปนเภสัชก้โอนะ งานเหมือนหมอเลยเปนหมอเหอะและอื่นๆ กว่าจะจูนกันรู้เรื่องก้ลำบากทีเดียว แต่สุดท้ายท่านก้เข้าใจละยอมรับให้เราเรียนตามที่เราเลือกแหละทุกวันนี้ได้เข้ามาเรียนก้รู้สึกว่าเรา(อาจจะ)เลือกไม่ผิดนะ สุดท้ายนี้อยากฝากน้องๆว่าเรียนอะไรที่ชอบและถนัดเถอะ(ส่วนตัวคิดว่าถนัดดีกว่าชอบนะ)ถึงจะเปนคณะที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักแต่ถ้าเราคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนประกอบกับศึกษาข้อมูลมาอย่างดีแล้วมั่นใจว่าใช่เราแน่นอนก้เลือกเถอะแล้วเราจะไม่เสียใจแน่นอนแล้วอย่าลืมอ่านหนังสือเยอะๆเพื่อไปให้ถึงสิ่งที่ชอยด้วยนะ แล้วเจอกัน MTCU
0
กำลังโหลด

25 ความคิดเห็น

Entamoeba Member 20 พ.ย. 58 14:47 น. 1

แก้ไขคณะทัศนมาตรศาสตร์ อ้างอิงจากประกาศในใบประกอบโรคศิลปะ สามารถตรวจและวินิจฉัยโรคได้นะครับ รบกวนแก้ไขด้วย ^^

1
กำลังโหลด
MTนะจ๊ะ 20 พ.ย. 58 16:03 น. 2
คณะสหเวชศาสตร์นี่ประจำแบบบอกไปละแบลงค์เลยอ่ะ คนรู้จักน้อยมากกกสารภาพว่าจริงๆทีแรกเราก้ไม่รู้จักเรามารู้จักตอนประมาณม.6เทอมต้นมั้งตอนนั้นเพื่อนถามว่าอยากเข้าคณะอะไร ตอนนั้นเราก้เครียดๆอยู่เพราะไม่รู้จะเรียนอะไรดี เราชอบชีวะมากกกละก้เรียนได้ดีประมาณนึงเลยยละเราก้ชอบแนวเคมีอินทรีย์ชีวโมเลกุลด้วยไรงี้ในวิชาเคมีเลยคิดว่าอยากจะเข้าคณะวิทย์เอกจุลชีวะแต่พอเราไปดูหลักสตรละคือมันต้องเรียนแคลกับฟิและวิชาวิทย์อื่นๆที่เราไม่ชอบบบจัดเต็มมากกเราเลยคิดว่าอาจจะไม่เข้าทางเท่าไหร่พอเละแบบวิทย์สุขภาพตัวอื่นๆ(ที่เรารู้จักตอนนั้น)แบบญาติๆก้เชียหมองี้แต่ตอนนั้นเราคิดแล้วแหละว่าคงไม่ได้แน่เพราะการแข่งขันค่อนข้างสูงบวกกับเราคิดว่างานมันหนักหนเกินกว่าที่เราจะทำไหวเรานึกภาพเลยอ่ะว่าแบบให้มานั่งรักษาคนไข้หรือรองรับอารมผู้ป่วยหรือต้องถูกตั้งความหวังสูงมากกกกจากคนอื่นตลอดเวลาโดยเฉพาะฉากที่เราต้องมาบอกความจริงกับผู้ป่วยว่าเปนโรคร้ายแรงหรือบอกญาติผู้ป่วยว่าผู้ป่วยเสียชีวิตงี้เราทำไม่ได้แน่ๆ(อันนี้เรารู้ตัวตอนเรียนค.ถนัดแพทย์กับพี่วิเวียน)กับเภสัชงี้เราก้ไม่ชอบอ่ะเพราะรู้สึกมันเน้นเคมีมากไปหน่อยละเราไม่ค่อยชอบลักษณะงานแบบที่เท่าไหร่พอเพื่อนรู้เพื่อนก้แนะนำว่าลองดูเทคนิคการแพทย์มั้ยเพื่อนเค้ามีญาติทำงานอยู่เงินเดือนดีมาก เราก้ถามเพื่อนว่าทำงานอะไรเพื่อนก้บอกก้ทำแลปให้หมอไรงี้ เราเลยสนใจเพราะตอนเราได้มีโอกาสไปค่ายสอวน.ชีวะ เราได้ลองทำแลปเกี่ยวกับชีวะไรงี้เราก้รู้สึกว่าเออชอบนะไรงี้ ดูเปนงานที่เราจะสามารถทำได้ดี เราเลยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคการแพทย์และคณะกับสถาบันที่เปิดสอนก้พบว่าอยากเรียนสาขานี้แหละดูเข้ากับเราสุดละ พอไปบอกที่บ้านว่าจะเรียนอันนี้รวมถึงอธิบายว่าจบแล้วทำไงเสดสรรพที่บ้านก้พูดทันทีว่า เปนหมอดีกว่ามั้ย เปนเภสัชก้โอนะ งานเหมือนหมอเลยเปนหมอเหอะและอื่นๆ กว่าจะจูนกันรู้เรื่องก้ลำบากทีเดียว แต่สุดท้ายท่านก้เข้าใจละยอมรับให้เราเรียนตามที่เราเลือกแหละทุกวันนี้ได้เข้ามาเรียนก้รู้สึกว่าเรา(อาจจะ)เลือกไม่ผิดนะ สุดท้ายนี้อยากฝากน้องๆว่าเรียนอะไรที่ชอบและถนัดเถอะ(ส่วนตัวคิดว่าถนัดดีกว่าชอบนะ)ถึงจะเปนคณะที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักแต่ถ้าเราคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนประกอบกับศึกษาข้อมูลมาอย่างดีแล้วมั่นใจว่าใช่เราแน่นอนก้เลือกเถอะแล้วเราจะไม่เสียใจแน่นอนแล้วอย่าลืมอ่านหนังสือเยอะๆเพื่อไปให้ถึงสิ่งที่ชอยด้วยนะ แล้วเจอกัน MTCU
0
กำลังโหลด
bbbbbbph 20 พ.ย. 58 21:00 น. 3
เรียนฟู๊ดไซน์ก็อธิบายลำบ๊ากลำบากกกกก บอกทำเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหาร ตรวจสอบอาหาร ผู้ใหญ่ก็ไม่เข้าใจ เห้อม5555555555555 เบื่อพวกป้าข้างบ้านสุดๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Gam u Member 21 พ.ย. 58 16:27 น. 7

จิตวิทยาเลยค่ะ บอกแม่แม่ชอบว่าเรียนไปเดี๋ยวก็บ้าตามคนไข้หรอกกกกก

มันไม่ใช่อย่างนั้นแม่  ช็อค

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
สตรองยิ่งกว่าทีมลูกเกด 21 พ.ย. 58 20:04 น. 9
สถาปัตย์ก็เป็นอีกคณะที่ป้าข้างบ้านมักคิดว่าเรียนวาดรูป ยิ่งพอบอกเรียน 5 ปีนี่งงใหญ่ นึกว่าเราสอบตกอีก พอบอกจบแล้วเป็นสถาปนิก ก็จะเจอคำถามว่า-สถาปนิกนี่เค้าทำอะไรกัน อธิบายกันเหนื่อยทุกทีไป วิธีตอบแบบขี้เกียจ ของเราตอนนี้ คือ ตอบว่า เรียนออกแบบบ้าน ออกแบบตึก ออกแบบอย่างเดียวนะ ไม่สร้างเอง เรียนหลักสูตร 5 ปี จบแล้วเป็นคนสวยและรวยมาก ยิ้มแบบสตรองมากกกก
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Red Carnation. Member 21 พ.ย. 58 22:55 น. 13
6.คณะมนุษศาสตร์ ถ้าเรียนเรื่องราวของคนอื่นจริง มนุษย์ป้าข้างบ้านกูก็ทำด๊ายยยยยยยยยยยยยย
0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
แค่คิดเห็นส่วนตัว 22 พ.ย. 58 10:17 น. 15
ทัศนมาตรศาสตร์จบมาเงินเดือนในไทยก็ไม่ได้มากค่าเทอมก็แพงอีก เรียนตั้ง 6 ปี คนส่วนมากก็ไปต่อนอกเพราะเงินเดือนกับสวัสดิการดีกว่า มิหน่าล่ะถึงบอกว่าขาดแคลน เสียใจ
0
กำลังโหลด
Phetchthana Member 22 พ.ย. 58 13:35 น. 16

นิเทศศษสตร์อะค่ะ ขอคำอธิบายหน่อยสิค่ะ ผู้ใหญ่เข้าเข้าใจว่าเราจะไปเป็นนักแสดง ขอคำอธิบายทีค่ะเศร้าจัง

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Hirasawa Yui-Chan Member 23 พ.ย. 58 04:32 น. 18

สารสนเทศศึกษา ไม่ใช่แค่การศึกษาเกี่ยวข้อมูลข่าวสารจากคอมพิวเตอร์ค่ะ มีทั้งหนังสือ วิทยานิพนธ์ วารสาร หนังสือพิมพ์ ฯลฯ แม้กระทั่งสถานที่และบุคคลค่ะ ทุกอย่างที่ให้ข้อมูลเลยค่ะ เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด