สวัสดีครับวันนี้ขอถามอะไรกันหน่อยนิดนึง มีน้องคนไหนเคยถามคำถามแบบนี้กับรุ่นพี่หรือคุณครูแนะแนวบ้างรึเปล่า
"หนูไม่มีผลงานอะไรเลย แข่งขันอะไรก็ไม่ได้แข่ง แล้วจะทำพอร์ทยังไงดีคะ"
นี่เป็นคำถามที่รุ่นน้องถามพี่แทรกเตอร์บ่อยมากเลย ไหนๆ ก็ถามกันบ่อยแล้ว งั้นพี่มาเล่าให้ฟัง (เอ๊ะ! ต้องอ่านสิ) ดีกว่าว่ากรณีนี้จะเตรียมพอร์ทยังไงได้บ้าง
"เตรียมพอร์ทอย่างไรไม่ให้ดูโหรงเหรง"
เมื่อเราไม่ต้องการให้มันโหรงเหรงดูบางๆ 3-4 หน้าแบบไม่มีอะไร เราก็ต้องหาวิธีถมมันให้หนาเนาะ จริงมั้ย? งั้นเรามาถมทีละข้อไปพร้อมๆ กันดีกว่า เริ่ม!
1. ถม 2 หน้าด้วยประวัติและการศึกษา
ก็ตามหัวข้อนั่นแหละครับ ถ้าไม่นับหน้าปกหน้าแรกที่จะเปิดมาเจอก็เห็นจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากประวัติส่วนตัวของเรา อาจจะเป็นประวัติย่อๆ เริ่มตั้งแต่ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น วันเกิด ข้อมูลติดต่อ เบอร์โทร ที่อยู่ ความสนใจ งานอดิเรก คติประจำใจ เขียนดีๆ จัดหน้าดีๆ ก็ได้มาแล้ว 1 หน้างามๆ
ตามด้วยหน้าต่อมาประวัติการศึกษา พี่แนะนำให้เขียนแบบไล่ย้อนลงไปครับ คือเริ่มจากระดับมัธยมปลาย มัธยมต้น และประถมตามลำดับจากบนสุดลงล่างสุด ใส่ปีที่เข้าศึกษา โรงเรียนที่เข้าศึกษา พร้อมด้วยเกรดเฉลี่ยสะสมของช่วงชั้นนั้นที่จบมา สำหรับน้อง ม.ปลาย ที่ยังไม่จบการศึกษาก็ใส่เกรดเฉลี่ยสะสมของชั้น ม.ปลาย เท่าที่มี อาจจะ 4 เทอมหรือ 5 เทอมครับ
และถ้าหากน้องคนไหนยังคิดว่า 2 หน้าแค่นี้เองน้อยจัง ก็อาจจะเพิ่มหน้านึงไว้ก่อนหน้าประวัติย่อของเราโดยหน้าที่เพิ่มมานี้อาจจะเป็นรูปเราในอิริยาบถที่ดูดีที่สุด หรือเก๊กท่าได้ดูภูมิฐาน ดูเป็นคนเก่งมากที่สุด เอาให้รูปใหญ่เต็ม A4 ไปเลยครับ แต่ถ้าน้องไม่ได้มั่นหน้าตัวเองขนาดนั้นก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ เดี๋ยวไปนั่งเขินอาย ตอนยื่นพอร์ทเข้าสัมภาษณ์แล้วจะตอบคำถามไม่รู้เรื่อง 555
2. เกียรติบัตร/ประกาศนียบัตร มีแค่ไหนก็ใส่มา
ใส่เถอะครับ (ถ้าพอจะมีให้หา หรือยังหาเจอ) แม้จะไม่เกี่ยวกับสาขาที่เราจะสมัครหรือใช้ยื่นก็ใส่มาครับเพราะเราต้องถม 555 แต่ที่จริงแล้วพี่ไม่ได้ให้น้องใส่มาเพราะแค่จะถมให้หนาหรอกนะครับไม่งั้นก็ไม่ต่างอะไรจากจับฉ่าย พี่จะบอกให้ครับว่าเกียรติบัตรสัพเพเหระต่างๆ พี่ให้ถมมาทำไม และถมยังไงให้ดูดี
เริ่มแรกแยกประเภทก่อนครับว่าที่ใส่ๆ ยำๆ มาเนี่ยมันมีอะไรบ้าง
-เกียรติบัตรบำเพ็ญประโยชน์
-เกียรติบัตรจากค่ายของมหา'ลัย
-เกียรติบัตรค่ายคุณธรรมของโรงเรียน
-เกียรติบัตรเรียนดี
-เกียรติบัตรนักทำกิจกรรม
-เกียรติบัตรการตอบปัญหาวันสุนทรภู่
-เกียรติบัตรประกวดคำขวัญวันสิ่งแวดล้อม
ฯลฯ
จากตัวอย่างข้างบนก็จะพอจะแบ่งประเภทได้หลักๆ 2 อย่าง คือเกียรติบัตรด้านการเรียนและด้านกิจกรรม
ด้านการเรียน
-เกียรติบัตรเรียนดี
-เกียรติบัตรการตอบปัญหาวันสุนทรภู่
-เกียรติบัตรประกวดคำขวัญวันสิ่งแวดล้อม
ด้านกิจกรรม
-เกียรติบัตรบำเพ็ญประโยชน์
-เกียรติบัตรจากค่ายของมหา'ลัย
-เกียรติบัตรค่ายคุณธรรมของโรงเรียน
-เกียรติบัตรนักทำกิจกรรม
หรือน้องๆ อาจจะแยกเพิ่มเป็นประเภทที่ 3 คือด้านคุณธรรมจริยธรรม ก็ไปดึงออกมาจากด้านกิจกรรมครับ
ด้านคุณธรรมจริยธรรม
-เกียรติบัตรบำเพ็ญประโยชน์
-เกียรติบัตรค่ายคุณธรรมของโรงเรียน
ซึ่งการแยกประเภทเกียรติบัตรทั้งหมด (เท่าที่น้องจะรื้อบ้านหามาได้) เป็นการจำแนกถึงด้านต่างๆ ของเราในชีวิตการเรียน ทั้งด้านวิชาการ การพัฒนาตัวเอง การสร้างชื่อเสียง การใช้ความรู้จากการศึกษาเล่าเรียนในทางที่ถูกต้องและเกิดประโยชน์ การเข้าสังคม และการบ่มเพาะคุณธรรมจริยธรรม ต่อมาทำใบปะหน้าแต่ละด้าน เป็นข้อความตัวโตๆ อยู่กลางหน้า A4 ระบุประเภทของกลุ่มเกียรติบัตรที่แยกไว้ ประโยชน์ของมันนอกจากช่วยเพิ่มจำนวนหน้าแล้ว ยังทำให้คนที่เปิดดูรู้ด้วยว่าถัดจากหน้านี้ไปจะได้สัมผัสกับแง่มุมไหนของเจ้าของพอร์ท
3. ประมวลภาพ ทำอะไรมาต้องอวด
หัวข้อก่อนหน้าคือการใส่เกียรติบัตรหรือใบประกาศนียบัตรต่างๆ ซึ่งเป็นหลักฐานในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เท่าที่ชีวิตนี้เราจะทำได้ หัวข้อนี้จะพูดกันถึงเรื่องการถมด้วยภาพ เพราะบางอย่างเราไม่ได้รับเกียรติบัตร ไม่ได้ใบประกาศนียบัตร อาจจะด้วยเพราะงานนั้นๆ กิจกรรมนั้นๆ ไม่มีให้ หรือเพราะเราไม่ผ่านเกณฑ์ที่จะได้รับก็ตาม แต่หากมีภาพถ่ายในระหว่างการเข้าร่วมหรือทำกิจกรรมต่างๆ ก็สามารถรวบรวมมาใส่ได้เช่นกัน บางอย่างน้องๆ อาจจะอายที่จะเอามาโชว์ หรือคิดว่าไม่สำคัญ ไม่มีอะไรน่าสนใจก็เลยไม่ใส่ แต่ลองนึกภาพตามพี่เล่นๆ ดูนะครับ อันไหนที่น้องไม่มีหรือไม่เคยทำมาให้นึกก็ข้ามๆ มันไป
-งานกีฬาสี (สิ่งที่น้องทำในงาน แข่งกีฬา เป็นหลีด ทำสแตนด์เชียร์ ถ่ายภาพในงาน ฯลฯ)
-ค่ายวิทยาศาสตร์/คณิตศาสตร์/ภาษาต่างประเทศ ของโรงเรียน
-ค่ายอาสา/บำเพ็ญประโยชน์
-ค่ายอบรมผู้นำ
-ค่ายอนุรักษ์พลังาน/ค่ายอนุรักษ์ป่าไม้
-การเข้าค่ายแนะแนว/ค่ายติว ของคณะหรือมหา'ลัยต่างๆ
-การร่วมกิจกรรมในงานโอเพ่นเฮ้าส์ของคณะ/สาขา/มหา'ลัยต่างๆ (ยิ่งเป็นของสาขาที่น้องจะทำพอร์ทไปยื่นหรือสัมภาษณ์ยิ่งดี)
-ประกวดดนตรี/เต้น/ร้องเพลง
-ประกวดวาดภาพ/งานศิลปะ
-โชว์ในงานโรงเรียน
-จัดบู้ธกิจกรรมหรือให้ความรู้ในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์/สัปดาห์ภาษาไทย
-กิจกรรมในชุมชน
ทีนี้ก็จะเหมือนเดิมครับ คือพอนึกได้ว่าทำอะไรมาบ้างแล้วมีภาพเก็บไว้บันทึกไว้ก็เอาออกมาจัดประเภทกัน จากตัวอย่างข้างต้นพี่จะจัดออกเป็น 5 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
กิจกรรมด้านความรู้-ทักษะ-ประสบการณ์
-ค่ายอบรมผู้นำ
-การร่วมกิจกรรมในงานโอเพ่นเฮ้าส์ฯ
-การเข้าค่ายแนะแนว/ค่ายติว ของคณะหรือมหา'ลัยต่างๆ
กิจกรรมด้านความสามารถพิเศษ
-ประกวดดนตรี/เต้น/ร้องเพลง
-ประกวดวาดภาพ/งานศิลปะ
กิจกรรมภายในโรงเรียน
-งานกีฬาสี
-ค่ายวิทยาศาสตร์/คณิตศาสตร์/ภาษาต่างประเทศ ของโรงเรียน
-จัดบู้ธกิจกรรมหรือให้ความรู้ในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์/สัปดาห์ภาษาไทย
-โชว์ในงานโรงเรียน
กิจกรรมด้านสังคม
-ค่ายอาสา/บำเพ็ญประโยชน์
-ค่ายอนุรักษ์พลังาน/ค่ายอนุรักษ์ป่าไม้
-กิจกรรมในชุมชน
อื่นๆ
-ตามชื่อครับ อะไรอื่นๆ ที่น้องมี ที่น้องนึกออก แต่จัดไม่ถูกว่าควรอยู่ในประเภทไหนดี
และอีกเช่นเคยครับ มาตรการถมด้วยการทำใบปะหน้าแต่ละประเภทเป็นข้อความตัวโตๆ อยู่กลางหน้า A4 ระบุประเภทของกลุ่มกิจกรรมที่แยกไว้
ซึ่งการแยกประเภทของภาพกิจกรรมก็ช่วยได้ทั้งการถมและการบ่งบอกตัวตนของเราครับ ว่าเรามีความสนใจด้านไหน ชอบทำอะไร บุคลิกเป็นอย่างไร มีประสบการณ์อะไรมาบ้าง และมีทักษะ ความสามารถพิเศษอะไร น้องอาจจะไม่มีผลงานหรือรางวัลจากด้านที่ชอบที่สนใจ แต่การมีภาพกิจกรรมประกอบก็บ่งบอกได้ว่าเรามีความขวนขวาย ให้ความสำคัญ และพยายามเพิ่มพูนประสบการณ์หรือทักษะในด้านที่เราสนใจมากน้อยแค่ไหน
ถ้าหากกิจกรรมไหนยังไม่เกิดขึ้น ให้ระลึกไว้เสมอว่าครั้งต่อไปที่เข้าร่วมกิจกรรมให้ถ่ายรูปไว้เผื่อติดพอร์ทด้วย อย่ามัวแต่ถ่ายรูปกับรุ่นพี่หล่อๆ รุ่นน้องน่ารักๆ ไปลง Facebook Instagram อย่างเดียวล่ะ ถ่ายตัวงานตัวกิจกรรมที่เราทำด้วยจ้า
4. ไม่ได้ด้วยผลงานก็เอาความสวยงามเข้าสู้
ในทีนี้ไม่ได้หมายถึงให้น้องจัดเต็มกับการแต่งหน้าแต่งตัวนะครับ แต่หมายถึงการออกแบบพอร์ทของเราแต่ละหน้าให้สวยงาม ดูโดดเด่น มีเสน่ห์ เห็นแล้วประทับใจกรรมการ เป็นการแสดงถึงความตั้งใจทำพอร์ทเพื่อจะมายื่น มาสัมภาษณ์โดยเฉพาะ อย่างที่บิล เกตส์เคยพูดไว้ว่า
"If you can't make it good, at least make it look good."
ถ้าทำให้มันดีไม่ได้ อย่างน้อยก็ทำให้มันดูดีไว้ก่อน
เช่นกันครับ ถ้าทำให้มันมีแต่ผลงานเด่นๆ ไม่ได้ ก็ทำให้รูปลักษณ์ของพอร์ทดูเด่นไว้ก่อน
ซึ่งเทคนิคการทำพอร์ทให้สวย การออกแบบที่ดูดี ก็มีตัวอย่างให้ศึกษามากมายบนอินเทอร์เน็ต ลองค้น ลองดู ลองทำตาม ลองปรับแต่งให้เป็นสไตล์ของเรากันดูครับ พี่เชื่อว่าน้องๆ จะทำให้พอร์ทของตัวเองสวย ดูเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะในแบบของน้องเองได้ไม่ยากแน่นอน
แม้ว่าน้องๆ บางคนจะทำตาม 4 ข้อที่พี่บอกมาทั้งหมดนี้แล้ว แต่พอร์ทก็ยังบางอยู่ เพราะร่วมกิจกรรมต่างๆ น้อย ไม่ค่อยได้แข่งขันหรือได้รับรางวัลอะไร ประเด็นสำคัญจริงๆ ของวิธีที่พี่เสนอมาไม่ได้อยู่ที่การทำให้พอร์ทหนาครับ แต่เป็นการทำให้พอร์ทดูเป็นสัดเป็นส่วนง่ายต่อการใช้บอกเล่าตัวตนของเรา เพราะจุดประสงค์ของพอร์ทคือการนำเสนอตัวตน นำเสนอทักษะประสบการณ์ และนำเสนอความเป็นตัวเรา ดีไซน์ของพอร์ทบอกตัวตนเราได้ การจัดพอร์ทอย่างมีระบบบ่งบอกความใส่ใจ ตั้งใจ และการให้ความสำคัญในการเตรียมตัวสัมภาษณ์ ซึ่งอาจารย์ผู้สัมภาษณ์ก็จะเห็นได้ สัมผัสได้ จากพอร์ทของเรานี่แหละครับ
แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นอย่าลืมนำเสนอพอร์ทด้วยความภาคภูมิใจครับ เราทำมาเองกับมือก็ต้องมั่นใจที่จะนำเสนอ อย่าวางหลบๆ อย่าพยายามปิดหน้าพอร์ท บางทีอาจารย์เห็นเราวางไว้เฉยๆ ท่านก็ไม่ได้สนใจเพราะไม่มีอะไรดึงดูดให้อยากดู ดังนั้นเราต้องกล้าที่จะเปิดเล่มพอร์ท เล่าเรื่องราวของเราเมื่อมีคำถามที่เปิดช่องให้เล่า และใช้พอร์ทประกอบการตอบคำถามของเราครับ แล้วความตั้งใจในการจัดพอร์ท การออกแบบพอร์ทให้ดูดีของเราก็จะประทับใจกรรมการแน่นอน
24 ความคิดเห็น
ติดที่ไม่มีรูปกิจกรรมเลยสักอย่างนี่ละ
คงต้องไปทุ่มกับการตกแต่ง port ให้ดูน่าอ่านแทนแล้วสินะ
พี่คะ แล้วถ้าหนูจะยื่นของวิศวะ หนูควรเน้นไปที่เกียรติบัตรวิชาไหนมั้ยคะ รึว่าไม่เกี่ยว
แล้วก็มันควรจะเป็นเกียรติบัตรตั้งแต่ช่วงไหนอ่ะคะ แบบตั้งแต่ประถม รึว่ามัธยมต้น มัธยมปลาย
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
ขอบคุณมากค่ะ ตรงกับสถานการณ์เราพอดีเลยยย
ตอนที่ครูให้ลองทำ port folio ครั้งแรก พอมาดูเทียบกับเพื่อน โอโห้ ของเรานี่ยิ่งกว่าว่างเปล่าอีก 55555
เกียรติบัตรของมัธยมมีค่ะ แต่ของประถามเยอะกว่า อุตส่าห์เก็บไว้ก็ว่าจะลองใส่เข้าไปดู แต่ถ้าใส่เข้าไปทั้งหมดมันจะน่าเกลียดมั้ยคะ คือมันเยอะมากๆเลยจริงๆ
แล้วเห็นว่าต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วยค่ะ ยังไม่ค่อยเข้าใจขั้นตอนการแปลเอกสารต่างๆเท่าไหร่เลยค่ะ T^T
เกียรติบัตรของประถมจะเป็นพวกแข่งภาษาอังกฤษน่ะค่ะ คือที่ตั้งใจจะไปเรียนไม่ใช่สายภาษาโดยตรง แต่การที่จะไปต่างประเทศถ้าเราเอาเกียรติบัตรมายืนยันว่าเราพอได้ภาษาอังกฤษมันจะดีกว่ามั้ยคะ หรือถ้าไม่เกี่ยวกับสายที่อยากเรียนไม่ควรใส่เข้าไป?
ขอบคุณนะคะ บมความดีมากเลยค่ะ :)
มาส่องไว้ก่อน555 ล่วงหน้าๆ ประวัติโหรงเหรง รูปก็แทบไม่มี(ไม่ชอบถ่าย ไม่ก็ชอบลืม ถถ) แต่งก็ทำไม่เป็น (กากคอม) 5555 จึงมีคำภามว่าถ้าเป็นภาพที่ไม่ติดหน้าเรา หรือไม่ใช่ภาพตอนทำกิจกรรมแค่เป็นภาพที่ถ่ายกับเพื่อนหรือสภานที่หลังจากนั้นใช้ได้ไหมคะ =.= แล้วถ้ามันย้ายรร.แบบ ย้ายตอนป.5 ให้แบ่งยังไงดีเหรอคะ จำเป็นต้องแบ่งตามช่วงชั้นเสมอไปไหมคะ == หรือให้แบ่งตามที่ย้ายเลย
มีกิจกรรมส่วนใหญ่ไปทางนาฏศิลป์ค่ะ แต่จะเข้าบัญชี มีปัญหาไหมคะ
ของผมยื่นถาปัตย. นี่ต้องทำไงอะ ต้องวาดรูปใส่ จัดเรียงไงอะ
ของผมยื่นถาปัตย. นี่ต้องทำไงอะ ต้องวาดรูปใส่ จัดเรียงไงอะ
กิจกรรมเกียรติบัตรควรเอาแต่ของม.ปลายหรือเอาของม.ต้นมาด้วยคะ
เพราะว่าช่วงม.ปลายเราไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมอะไร เพราะช่วงม.ต้นจะเต็มที่กับกิจกรรมมากกว่าอ่ะค่ะ
จริงๆ ก็ใส่ได้นะครับ อะไรที่โชว์ความสามารถ ประสบการณ์ด้านต่างๆ ได้ก็ใส่ได้นะ
พี่คะ ถ้าเรียนมหาลัยแล้วจะซิ่วไปสอบใหม่ จะสามารถใส่เกียรติบัตรของมหาลัยที่เราซิ่วออกมาในการทำพอร์ตได้ไหมคะ
เป็นหลีดนี่เป็นความสามารถพิเศษป่าวคะ แหะ ๆ ถ้าเป็นจะเช้คในช่องไหนคะตอนที่สมัครในเว้ปมหาลัย 1.กีฬา 2.ดนตรี
3.นาฎศิลป์ 4.ศิลปะ ตอบหน่อยนะค่าา
หลีดนี่น่าจะเป็นจำพวกกิจกรรมที่เข้าร่วมนะ