มาแล้ว..มาแล้ว..คอลัมน์ “แนะกันให้ติดชัวร์ 51” ของกลุ่ม “รัฐศาสตร์ / มนุษยวิทยา / สังคมสงเคราะห์” ทุกมหาวิทยาลัย และทุกสถาบัน มาแล้ว...

 

คอลัมน์นี้...จะทำหน้าที่คอยเป็นศูนย์กลางระหว่างน้องๆที่สนใจคณะในกลุ่มนี้ได้มาพบปะ และพูดคุยกัน นอกจากนั้นยังเป็นพื้นที่ให้น้องๆได้พูดคุย และซักถามข้อสงสัยกับรุ่นพี่ในกลุ่มคณะนี้  และรุ่นพี่ของคณะนี้ก็ยังจะได้มาพบปะ พูดคุย แนะนำ พร้อมให้คำปรึกษาแก่น้องๆ ที่สนใจจะเป็น นิสิต/นักศึกษา ของคณะนี้อีกด้วยครับ...

 

          น้องๆคนไหน...ที่สนใจจะพูดคุย หรือซักถามเพื่อนๆ พี่ๆ ก็สามารถโพสกันเข้ามาได้เลยนะครับ  ส่วนพี่ๆใจดีคนไหนอยากจะพูดคุย หรือแนะนำอะไรแก่น้องๆ ก็เต็มที่ได้เลยเช่นกันครับ..แต่ขออย่างเดียว คือต้องใช้ภาษาที่สุภาพ และสร้างสรรค์ด้วยนะครับ และก็ขอความร่วมมือไม่ใส่โค๊ดต่างๆ(เกินความจำเป็น)นะครับ ก็เพื่อความสบายตา และสะดวกในการอ่านครับ...

 

          ปล.ขอความกรุณาทุกคนที่โพส... ถ้าคัดลอกข้อความมาจากที่อื่นช่วยล้างฟอร์แมทต่างๆ โดยการนำข้อความไปวางที่โปรแกรม Notepad ก่อนนะครับ...แล้วค่อยคัดลอกมาจากโปรแกรม Notepad อีกที และที่สำคัญอย่าลืมให้เครดิตเจ้าของข้อมูลด้วยนะครับ...

 
 
 
 
 
พี่ลาเต้
พี่ลาเต้ - Columnist นักข่าวสายการศึกษา เกาะติดทุกข่าวแทนน้องๆ ตัวถีบ ตัวดันให้ ม.6 สอบติด

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

285 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
จูล่ง 17 มี.ค. 51 13:40 น. 3
ได้ยินว่ารัฐศาสตร์IRเรียนจบแล้วต้องมีเส้นถึงจะไปรอด มันจิงอ่ะป่าวคะ ท่าจิงคงเศร้าเลย T๐T
0
กำลังโหลด
จูล่ง 17 มี.ค. 51 13:43 น. 4
ได้ยินว่ารัฐศาสตร์IRเรียนจบแล้วต้องมีเส้นถึงจะไปรอด มันจิงอ่ะป่าวคะ ท่าจิงคงเศร้าเลย T๐T
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ลกซุน 17 มี.ค. 51 19:15 น. 6
คนที่จะเรียน IR จะต้องเป็นเส้นใหญ่ เท่านั้นแหละ ถ้าจะเป็นทูต เขาจะสกรีน นามสกุล ประวัติเราว่าเราเป้นลูกเต้า เหล่าใคร ส่วนมากคนที่จะเป็นทูตจะเป็น ลูกท่านหลานเธอ ทั้งนั้นแหละ ลองสังเกตุดูตอนที่ได้รับการแต่งตั้ง นามสกุลแต่ล่ะคนบ่งบอกอยู่แล้ว ว่าเป็นใคร มาจากไหน ผมว่าการจะเป็นทูตนี้ยากมาก ผมว่าจบมา ไปสมัครงานที่สถานทูต ยังจะดีกว่า หรือไม่ก็ไปสมัครเป็นทหาร ก็อาจจะได้รับการบรรจุให้ไปเป็นทูตฝ่ายทหารตามแต่ล่ะประเทศ อันนี้ไม่รู้ว่าเขากําหนดหลักเกณท์ยังไง ต้องรอผู้รู้มาตอบอีกที แล้วแต่คนจะคิด แต่เราจะเข้ากระทรวงหรือหน่วยงานราชการจําเป็นต้องมีผู้ใหญ่คอยหนุนหลัง แค่นี้เราก็รอดแล้ว
0
กำลังโหลด
socant Member 18 มี.ค. 51 13:03 น. 7
สำหรับน้องๆที่อยากดูข้อมูลเกี่ยวกับสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ไปที่ link นี้นะครับ มีทุกสิ่งที่อยากรู้ http://my.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=375580 ถ้าแน่จริงก็ติดให้ได้นะครับ
0
กำลังโหลด
Dk_toM 19 มี.ค. 51 22:11 น. 9
การสอบทูตนั้นๆ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ คะแนนความรู้ กับคะแนนประวัติ สำหรับใครที่ไม่ได้เป็นลูกท่านหลานเธอ ก็ต้องพยายามทำคะแนนส่วนแรกให้ได้เยอะๆ ครับ คนที่ไม่ได้เส้นใหญ่ นามสกุลดัง ก็มีโอกาสเป็นทูตได้คับไม่ต้องกลัว แต่ต้องพยายามเข้าให้มากเท่านั้นเอง
0
กำลังโหลด
บิบิ 20 มี.ค. 51 17:18 น. 10
สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ของมธ. เรียนเกี่ยวกะอารัยอ่าคะ แล้วๆๆ มีให้เลือกวิชาเอกโม เปนพวกภาษาจีนหรือญี่ปุ่นมั้ยอ่า
0
กำลังโหลด
NEWKUB* 20 มี.ค. 51 18:39 น. 11
ขอด้วยคน เราว่ามันก็จิงอ่ะ ir ia ไม่มีเส้น จบมาก็หาทำยาก เท่าที่ฟังจากอาจานที่รร.เราเล่านะ แต่อย่าเพิ่งไปคิดเลย สู้ ๆ รัฐศาสตร์น่าเรียนออก เราอยากเข้าไจจะขาด แต่คงหมดหวัง WILL BE SINGHADANG เน๊อออ
0
กำลังโหลด
Ein_2008 Member 20 มี.ค. 51 21:06 น. 12
สังคมสงเคราะห์เรียนเกี่ยวกับอะไรอ่ะคะ ยากมั้ย ??
 แล้วที่ มธ. เค้ามีสอบตรงรึเปล่า รึว่าต้องเอ็นฯ พี่คนไหนรู้ช่วยตอบทีนะคะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ลูกชุบ Member 21 มี.ค. 51 14:15 น. 14
อยากเป็นทูตอ่าค่ะเรียนที่มหาลัยไหนดี.......แล้วถ้าเข้าสายศิลป์ ฝรั่งเศสก็ได้ใช่ไหมค่ะ
...แล้วนอกจากภาษาฝรั่งเศสแล้ว   ต้องเรียนภาษาไรเพิ่มอีกค่ะ
แล้วตอนที่เราเรียนอยู่ปริญญาโท เรสามารถไปฝึกงานที่กระทรวงการต่างระเทศได้ไหมค่ะ??
แล้วการสอบเข้าเป็นทูตเนี่น มันสอบเกี่ยวกับอะไรบ้างค่ะ .......???
แล้วทูตเค้ามีตำแหน่งอะไรบ้าง?? (ช่วยไล่ตั้งแต่ระดับล่างขึ้นบน)
ขอบคุณมากกคร้า
0
กำลังโหลด
ลูกชุบ Member 21 มี.ค. 51 14:17 น. 15
อ่อ ยังไม่หมด แหะ....ต่อจากข้างบนอันเดียวกัน
ก็นะ ถ้าโตขึ้นใคร คนไหนอยากเป็นทูตเหมือนกับเรา แอ๊ด เมลล์เราแล้วมาคุยกันก็ได้นะ

reaching_my_goal@hotmail.com
เราชื่อ กีกี้   จบแล้ว ขอบคุณมากก
0
กำลังโหลด
Dk_toM 22 มี.ค. 51 20:10 น. 16
คห 10 คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา หลักๆก็จะเรียนเรื่องเกี่ยวกับสังคมและมนุษย์ว่ามีที่มาอย่างไร มีพฤติกรรมเป็นอย่างไร ค่านิยม โครงสร้างของแต่ละสังคม รวมไปถึงศึกษาวัฒนธรรมความเป็นมาของมนุษย์ความเชื่อในแต่ละท้องถิ่นๆ นอกจากนี้ยังต้องเรียนสถิติเพื่อนำไปใช้ทำโพลเกี่ยวกับเรื่องต่างๆด้วย คณะนี้ไม่มีเอกครับ แต่จะให้เลือกเรียน 3 แบบ คือ แบบเน้นสังคมวิทยา แบบเน้นมานุษยวิทยา และแบบสมดุล นอกจากนี้ยังต้องศึกษาวิชาตามโปรแกรมซึ่งเป็นหมวดหมู่เพื่อเน้นความรู้เฉพาะด้านมากขึ้น โดยมีโปรแกรมให้เลือกดังนี้ โปรแกรมประชากรและสิ่งแวดล้อม โปรแกรมชุมชนกับการพัฒนา โปรแกรมพฤติกรรมเบี่ยงเบน อาชญวิทยาและกระบวนการยุติธรรม โปรแกรมองค์การกับการจัดการ โปรแกรมการวิจัย คณะนี้ไม่มีวิชาเอกเป็นภาษาจีนหรือญี่ปุ่นครับ มีแต่วิชาวัฒนธรรมจีนและวัฒนธรรมญี่ปุ่น แต่ถ้าน้องอยากเรียนจีนหรือญี่ปุ่น สามารถลงเป็นวิชาโทได้ครับ คห 12 คณะสังคมสงเคราะห์ หลักๆก็คือเรียนเกี่ยวกับวิธีการแก้ปัญหาสังคม ถ้าคณะสังคมวิทยาคือการศึกษาว่าปัญหาสังคมมีอะไรบ้าง สังคมสงเคราะห์ก็จะศึกษาว่าแล้วจะแก้ปัญหานั้นอย่างไร คณะสังคมสงเคราะห์มีสอบตรงครับ แต่ก็ไมรับแอดด้วย
0
กำลังโหลด
Dk_toM 22 มี.ค. 51 20:28 น. 17
ตอบ คห 14 และ 15 รัฐศาสตร์เรียนสายไหนมาก็เข้าได้หมดครับ ถ้าสายศิลป์ฝรั่งเศสก็สามารถใช้ภาษาฝรั่งเศสยื่นคะแนนได้ครับ แต่ต้องก่อนมี 2553 นะครับ เพราะตอนนี้ยังไม่แน่นอนทีว่าแอดมิสชั่นส์ระบบใหม่ที่ใช้ในปี 2553 จะมีภาษาที่ 3 ให้สอบหรือไม่ สำหรับ IR ต้องศึกษาภาษาที่ 3 เพิ่มครับ ซึ่งเป็นภาษาอะไรก็ได้ที่เปิดในมหาลัย สำหรับการฝึกงานจะมีในระดับปริญญาตรีครับ เป็นวิชาเลือก ส่วนจะได้ไปฝึกที่ กต หรือป่าวนี่ต้องมีหลายปัจจัยประกอบ เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าคนที่อยากไปฝึกที่นี่มีเยอะมาก การสอบทูตนั้นไม่จำกัดแต่คนที่จบ IR เพียงอย่างเดียว คนที่จบรัฐศาสตร์สาขาอื่น นิติศาสตร์ วารสารศาสตร์ อักษรศาสตร์ สังคมวิทยา ก็สอบได้ แต่คนที่จบ IR อาจจะได้เปรียบกว่าเพราะเนื้อหาที่ใช้สอบนั้นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเมืองระหว่างประเทศ เศรษฐกิจระหว่างประเทศ เหตุการณ์ระหว่างประเทศ กฏหมายระหว่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ ฯลฯ ข้อสอบก็จะมีทั้งส่วนที่เป็นปรนัยและอัตนัย สำหรับขั้นตอนการเป็นทูตนั้น ต้องผ่านการเป็นเจ้าหน้าที่การทูตก่อน ซึ่งถ้าจบตรี ก็จะสอบเจ้าหน้าที่การทูต 3 แต่ถ้าจบโทก็จะสอบเจ้าหน้าที่การทูต 4 หรือมีอีกวิธีนึงก็สอบชิงทุน กต จบมาก็ได้ทำงานเลย
0
กำลังโหลด
Dk_toM 22 มี.ค. 51 20:39 น. 18
ตำแหน่งทูตมีหลายตำแหน่งครับ ของสถานเอกอัครราชทูตจะแบ่งอย่างนี้ครับ เอกอัครราชทูต ข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ 10 อัครราชทูต ข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ 9 อัครราชทูตที่ปรึกษา ข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ 8 ที่ปรึกษา ข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ 7 เลขานุการเอก ข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ 6 เลขานุการโท ข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ 5 เลขานุการตรี ข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ 4 (จบโทมาสอบระดับนี้ได้เลย) ผู้ช่วยเลขานุการ ข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ 3 (ถ้าจบตรีก็เริ่มสอบที่ระดับนี้) ส่วนสถานกลสุลแบบลำดับขั้นอย่างนี้ครับ กงสุลใหญ่ ข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ 9 - 8 รองกงสุลใหญ่ ข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ 8 - 7 กงสุล ข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ 6 - 5 รองกงสุล ข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ 4 - 3 นายเวร ข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ 3 จะเห็นว่าทูตนั้นมีหลายตำแหน่ง สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองอาจจะไม่ได้ไปถึงเอกอัครราชทูตเพราะไม่มีเส้น ก็อย่าเพิ่งหมดหวังครับ เพราะยังมีตำแหน่งอื่นอีกมากมาย ในสถานทูตให้ทำ แล้วค่อยไต่เต้าไปเรื่อยๆก็ได้ สำหรับคนที่อยากเป็นเข้า กต จริงๆ แนะนำให้เรียนภาษาที่ 3 ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมไว้ให้แน่นครับ อย่างเช่น พวกอาราบิก อาหรับ เพราะประเทศเรายังขาดคนมีความรู้เกี่ยวกับภาษาพวกนี้อีกมาก
0
กำลังโหลด
Dk_toM 22 มี.ค. 51 20:58 น. 19
พอดีไปเจอกำหนดการรับสมัครสอบเจ้าหน้าที่การทูตระดับ 3 ด้านภาษาจีนมา เลยเอามาให้ดูครับว่าเขาสอบอะไรกันบ้าง การสอบแบ่งออกเป็น 3 ภาคคือ ภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป แบ่งเป็นวิชาความรู้ความสามารถทั่วไป 150 คะแนน การใช้ภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ทั้งสองส่วนเป็นปรนัย ภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งแบ่งออกเป็น ความรู้ภาษาต่างประเทศ 150 คะแนน (เรียงความจีน ย่อความจีน แปลไทยเป็นจีน แปลจีนเป็นไทย) ความรู้สำหรับเจ้าหน้าที่การทูต (ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจระหว่างประเทศ กฏหมายระหว่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ) 50 คะแนน ทั้งสองส่วนเป็นอัตนัย ทั้งสองภาคต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ถึงจะมีสิทธิเข้าสอบภาค ค ซึ่งเป็นภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง ภาคนี้ มี 100 คะแนน ประกอบด้วยประเมินความเหมาะสมจากประวัติส่วนตัว (ส่วนนี้แหละที่ทำให้ลูกท่านหลานเธอได้เปรียบ แต่ก็ไม่ต้องกลัวครับถ้าประวัติเราดีเสียอย่าง) ส่วนที่สองจะเป็นการประเมินจากการทดสอบ โดยจะดูในด้านการปรับตัว รวมไปถึงมารยาททางสังคม
0
กำลังโหลด
-+-[B] a i Y o [K]-+- Member 23 มี.ค. 51 03:11 น. 20

มศว ติดอันดับการฝึกฝนครูเป็นอันดับต้นๆของประเทศค่ะ
น้องๆคนไหนใจรักที่จะเป็นแม่พิมพ์ของชาติก็คงจะคิดถึง มศว บ้างใช้มั้ยล่ะ

แนะนำตัวก่อนนะคะ

พี่ใบหยก..นิสิตเอกสังคมศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒค่ะ

สงสัยกันบ้างมั้ย?..ทำไมเรียนครูแต่อยู่คณะสังคม ^ ^
เพราะมหาวิทยาลัยต้องการให้นิสิตได้รับการเรียนการสอนจากอาจารย์ที่ถนัดเฉพาะทางจริงๆ
จึงส่งนิสิตไปตามคณะที่ถนัดในวิชาเฉพาะทาง

ทีนี้..เข้าเรื่องดีกว่านะคะ

ใครชอบเรียนวิชาสังคม..มองเอกนี้ไว้ไม่เสียหลายเลยค่ะ

"สังคมศึกษา กศ.บ."

ชื่อฟังดูแปลกๆมั้ยคะ?..ฟังชื่อเอกแล้วนึกถึงวิชาน่าเบื่อๆ

55+

ไม่แปลกค่ะ ที่จะนึกถึงความง่วงในห้องเรียน..
วิชาเศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง กฎหมาย ฟังดูปวดหัวมั้ยล่ะ

จริงๆแล้วท้าทายดีค่ะ

เอกนี้ไม่เหมือนครูสังคมมหาลัยอื่น..
เราไม่ได้นั่งง่วงเหงาหาวนอนอยู่ในห้องเรียนนะคะ

เอกนี้ออกจะลุยๆ ได้ออกฟิวบ่อยๆ
เก็บประสบการณ์ต่างๆที่ได้พบไว้เป็นบทเรียน..สนุกมากมายเลยล่ะค่ะ
จากเหนือสุดแดนสยามจรดท้ายด้ามขวานทอง..ไม่ไกลเกินความสามารถของเอกสังคมศึกษาค่ะ
ผลพลอยได้คือความรักความผูกพันอันแน่นแฟ้นกับเพื่อนๆ

การได้กินอยู่ด้วยกัน..มันทำให้เกิดความสามัคคี..สนิทกันเร็วมาก
เอกนี้พี่ๆอบอุ่นนะคะ..

ใครสนใจเป็นครูสังคม มศว 

แอดเมลล์มาปรึกษาพี่ได้ค่ะ

พี่ๆรอคุยด้วยอยู่นะคะ

ยินดีต้อนรับสู่รั้วเทาแดงเสมอค่ะ ^^

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด