สทศ.เผยนักเรียนทำคะแนนโอเน็ตทุกรายวิชาเฉลี่ยไม่ถึงครึ่ง เหตุครูให้เด็กท่องจำ ระบุหลังสงกรานต์วิเคราะห์ข้อสอบ ยาก-ง่าย แล้วส่งไปข้อมูลไปยังโรงเรียนโดยตรง พร้อมให้แนวทางการปัญหา ยันเตรียมล้อมคอกทุจริตข้อสอบ แย้มออกข้อสอบ 2 ชุด ให้เด็กนั่งอยู่ในห้องสอบจนกว่าจะหมดเวลา ห้ามนำมือถือ นาฬิกามือถือเข้าห้องสอบ
       
          นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ได้รายงานสรุปผลการจัดการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2550 มาให้แล้ว และพบว่า ในภาพรวม คะแนน 0-NET ของนักเรียนค่อนข้างต่ำ โดยมีเสียงเรียกร้องจากผู้ปกครองนักเรียน ว่า ข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ค่อนข้างยาก ทั้งข้อสอบ 0-NET ระดับประถมและมัธยม ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปเตรียมความพร้อมของมหาวิทยาลัยเปิดเพื่อรองรับนักศึกษาที่พลาดจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยและยังไม่มีที่เรียน
       
          ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ เปิดเผยว่า รายละเอียดของคะแนน 0-NET แต่ระดับนั้น ระดับ ป.6 ซึ่งสอบทั้งหมด 4 วิชา และทุกวิชามีผู้เข้าสอบ 961,921 คน พบว่าทุกวิชานักเรียนทำคะแนนเฉลี่ยได้ไม่ถึงครึ่งหรือ 50 คะแนน และบางวิชามีคะแนน 0 เนื่องจากมีนักเรียนตั้งใจหรือไม่ทำข้อสอบ โดยวิชาภาษาไทยได้คะแนนต่ำที่สุดทั้งคะแนนดิบและคะแนนเฉลี่ย คะแนนสูงสุดของวิชานี้อยู่ที่ 92.5 คะแนน ต่ำสุด 2.5 คะแนน คะแนนเฉลี่ย 36.58, วิชาคณิตศาสตร์ สูงสุด 100 ต่ำสุด 0 เฉลี่ย 47.55, วิทยาศาสตร์ สูงสุด 100 ต่ำสุด 0 เฉลี่ย 49.57 และวิชาภาษาอังกฤษ สูงสุด 100 ต่ำสุด 0 เฉลี่ย 38.67

       


          ส่วนคะแนน 0-NET ระดับ ม.6 นั้น เกือบทุกวิชา ยกเว้น วิชาภาษาไทย และ สุขศึกษา-พลศึกษา ได้คะแนนเฉลี่ยไม่เกินครึ่ง หรือ 50 คะแนนเช่นกัน ดังนี้ วิชาภาษาไทย มีผู้เข้าสอบทั้งหมด 328,561 คน คะแนนสูงสุด 96.25 ต่ำสุด 1.25 คะแนนเฉลี่ย 50.70, วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เข้าสอบทั้งหมด 329,805 คน คะแนนสูงสุด 88.75 ต่ำสุด 0 เฉลี่ย 37.76, วิชาอังกฤษ เข้าสอบทั้งหมด 339,665 คน สูงสุด 99 ต่ำสุด 8 เฉลี่ย 30.93, วิชาคณิตศาสตร์ เข้าสอบทั้งหมด 329,824 คน สูงสุดเต็ม 100 ต่ำสุด 2 เฉลี่ย 32.49, วิทยาศาสตร์ เข้าสอบทั้งหมด 328,550 สูงสุด 98.75 ต่ำสุด 8.75 เฉลี่ย 34.62, สุขศึกษาและพลศึกษา เข้าสอบทั้งหมด 327,780 คน สูงสุด 84 ต่ำสุด 0 เฉลี่ย 52.71, วิชาศิลปะ เข้าสอบทั้งหมด 327,780 สูงสุด 84 ต่ำสุด 0 เฉลี่ย 41.61 และวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เข้าสอบทั้งหมด 327,780 สูงสุด 84 ต่ำสุด 0 เฉลี่ย 49.53
       
          เมื่อเปรียบเทียบคะแนน 0-NET ม.6 ของปี 2550 กับเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่คะแนนอยู่ในระดับเดิมและลดลงเล็กน้อยใน 3 วิชา ได้แก่ วิชาสังคมศึกษา คะแนนเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 37.76 แต่คะแนนเฉลี่ยปี 2549 อยู่ที่ 37.94 และคะแนนเฉลี่ยปี 2548 อยู่ที่ 42.64 วิชาภาษาอังกฤษ คะแนนเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 30.93 ขณะที่คะแนนเฉลี่ยปี 2549 อยู่ที่ 32.37 คะแนนเฉลี่ยปี 2548 อยู่ที่ 29.81 และวิชาวิทยาศาสตร์ คะแนนเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 34.62 คะแนนเฉลี่ยปี 2549 อยู่ที่ 34.88 และคะแนนเฉลี่ยปี 2548 อยู่ที่ 34.01
       
          “หลังเทศกาลสงกรานต์ สทศ.จะวิเคราะห์ข้อสอบแต่ละวิชาว่า ยากหรือง่าย แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของความรู้สึก ลองถามคนออกข้อสอบก็บอกว่า ความยาก-ง่ายของข้อสอบอยู่ในระดับเดิม แต่ถ้าถามครูอาจรู้สึกว่า ข้อสอบ O-NET ยาก อย่างไรก็ตาม คะแนน O-NET ของปีนี้ไม่สูงขึ้นจากปีที่แล้ว โดยเฉพาะ O-NET ม.6 นั้น คะแนนวิชาภาษาอังกฤษต่ำสุด ได้คะแนนเฉลี่ยแค่ 30 ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง จริงๆ แล้ว อยากเห็นทุกวิชาได้คะแนนเฉลี่ย 50 คะแนน ถ้านักเรียนได้คะแนนแค่ 30 คะแนน หมายความว่า เขามีความรู้แค่ 1 ใน 3 แล้ว ลองคิดดูเด็กมีความรู้แค่นี้แล้วจะเรียนในมหาวิทยาลัยได้อย่างไร”
       

          อย่างไรก็ดี เด็กมีความรู้เพียง 1 ใน 3 เป็นทาง สพฐ.คงต้องกลับไปดูที่การจัดการเรียนการสอนของครู ที่เน้นการท่องจำ มากกว่าจะสอนให้ทำความเข้าใจ ส่วนใหญ่ปัญหาที่เกิดจะเกิดกับโรงเรียนขนาดเล็ก เนื่องจะมีครูไม่ครบ 8 กลุ่มสาระวิชา ซึ่งจำเป็นต้องใช้ครูที่ไม่ตรงสาขามาสอน ส่วนแนวทางแก้ปัญหาควรใช้สื่อการสอนทางไกล หรือโยกเด็กมาเรียนกับครูที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขานั้นโดยตรง สำหรับผลการวิเคราะห์ สทศ.จะจัดส่งไปยังโรงเรียนโดยตรง พร้อมกับเขียนผลวิเคราะห์ในลักษณะบรรยาย และให้คำแนะนำวิธีการแก้ปัญหาในรายวิชานั้นๆ เพื่อผู้บริหารโรงเรียนจะได้นำไปปรับปรุง
       
          สำหรับกระดาษคำตอบที่เครื่องดีดออกมา เพราะไม่สามารถอ่านรหัสวิชาและเลขที่นั่งสอบได้ เนื่องจากนักเรียนระบายเลขที่นั่งสอบไม่ครบ หรือไม่ไดระบายรหัสวิชาสอบ หรือระบายผิด นั้น มีทั้งหมด 24,699 แผ่น แยกเป็น วิชาภาษาไทยมีทั้งหมด 6,285 แผ่น คณิตศาสตร์ 5,844 แผ่น วิทยาศาสตร์ 6,190 แผ่น อังกฤษ 6,380 แผ่น กระดาษคำตอบของการสอบ 0-NET ระดับ ม.6 ที่ถูกเครื่องดีดออกมามีทั้งหมด 9,454 แผ่น แยกเป็นภาษาไทย 1,284 แผ่น สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2,413 แผ่น ภาษาอังกฤษ 1,331 แผ่น คณิตศาสตร์ 1,840 แผ่น วิทยาศาสตร์ 1,326 แผ่น สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การอาชีพและเทคโนโลยี 1,260 แผ่น
       

          ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวด้วยว่า การสอบ O-NET ปีนี้ พบการทุจริต 12 ราย ล่าสุด พบทุจริตเพิ่มขึ้นอีก 5 รายในวิชา คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ซึ่งเชื่อว่า นักเรียนทั้งหมดมาจากโรงเรียนเดียวกัน และจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยการนำกระดาษคำตอบมาตรวจดูพบพิรุธ ว่า กระดาษคำตอบมีการระยาบผิดในข้อเดียวกันจึงเรียกนักเรียนมาสอบถามและนักเรียนได้รับสารภาพ สทศ.จึงให้เขียนคำสารภาพไปเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา และให้ปรับตก 2 วิชาที่ทำการทุจริต อย่างไรก็ตาม การสอบโอเน็ตในปีนี้ พบการทุจริตทั้งหมด 12 ราย แบ่ง ผิดระเบียบเพราะเปิดโทรศัพท์มือถือ 2 ราย ผลการตัดสินให้ปรับตกในวิชาที่จับได้ ส่งเอสเอ็มเอสถึงกันผ่านมือถือ 9 ราย ปรับตก 1-2 รายวิชาที่ทุจริต และส่งเอสเอ็มเอสถึงกันผ่านนาฬิกามือถือ 1 ราย ปรับตกทุกวิชา
       
          “แนวทางการแก้ไขปัญหาทุจริตในปีหน้า สอศ.ทำข้อสอบ 2 ชุด และให้นักเรียนนั่งในห้องสอบจนหมดเวลา รวมทั้งไม่ให้นำนาฬิกา เครื่องมือสื่อสารเข้าห้องสอบ นักเรียนที่ไม่มีเลขที่นั่งสอบหรือไปผิดสนาม มาสายเกิน 30 นาที จะไม่ให้เข้าสอบ และจ้าง Computer Programmer พัฒนาโปรแกรมตรวจสอบกระดาษคำตอบหาพิรุธทุกจริตการสอบ”

 

พี่ลาเต้ขอขอบคุณข้อมูลจากผู้จัดการออนไลน์

พี่ลาเต้
พี่ลาเต้ - Columnist นักข่าวสายการศึกษา เกาะติดทุกข่าวแทนน้องๆ ตัวถีบ ตัวดันให้ ม.6 สอบติด

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

17 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
ซอมบี้ 9 เม.ย. 51 12:57 น. 2
ขนาดนาฬิกาข้อมือยังเอาเข้าไม่ได้เลยหรอ ไรวะ นาฬิกาข้อมือธรรมดามันไม่ได้มีฟังชั่นซะหน่อยบ้า !!! มันมีแค่หน้าปัด ตัวเลข และก็เข็มและก็ตัวบอกเวลา ถ้าจะไม่ให้เอานาฬิกาธรรมดาๆเข้าห้องอ่ะนะ ต้องโทษคนผลิตนาฬิกามือถือโน่น!!
0
กำลังโหลด
พันธมิตร 9 เม.ย. 51 14:28 น. 3
ปีหน้าไม่ให้เอานาฬิกาเข้าไป ก็จัดหานาฬิกาให้หนุด้วยแร้วกัน เพราะโรงเรียนที่หนุจะสอบมันไม่มีนาฬิกาติดผนัง หรอกค่ะ นาฬิกาอ่ะมันค่อนข้างสำคัยกับเด็กที่สอบ เพราะเด็กมันต้องดู จะได้รู้ว่าใกล้จะหมดเวลาแล้ว น่าเบื่อจริงทำไมไม่แก้ที่ต้นเหตุอ่ะ เซงๆๆ ประเทศชาติเจริญ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
โดราจัง 9 เม.ย. 51 21:24 น. 7
จริงๆแล้วโอเนตก็ยังง่ายอยู่(แต่อาจยากว่าปีที่แล้ว) พวกเลขก็วัดความรู้พื้นฐาน ถ้าเราเรียนเข้าใจเราก็ทำได้ ส่วนวิทย์คำถามก็พื้นมากๆๆ สำหรับเด็กสายวิทย์น่าจะทำได้ ดูจากคะแนนเด็กที่ได้ 80-100 ก็มีเยอะ แต่เด็กส่วนใหญ่ไม่สนใจเรียน เลยทำข้อสอบไม่ได้ อย่าไปโทษครูเลย จริงๆข้อสอบถ้าท่องจำเข้าไปก็ทำได้(เพราะมันไม่ยากเลย) แต่ถ้าเอเนตซิ อันนี้ต้องใช้ความเข้าใจและประสบการณ์การอ่านหนังสือมากๆ อยากฝากสทศ. ว่าเรื่องห้ามนาฬิกาเข้าห้องสอบ จะตลกเกินไปมั้ย แล้วจะรู้เวลาได้ยังไง ถึงจะอ้างว่าติดนาฬิกาในห้องก็เหอะ ถ้าคนที่นั่งในมุมอับมองไม่เห็นนาฬิกาหละจะทำยังไง สงสารเด็กที่วางแผนเรื่องเวลาในการทำสอบ จะรู้เวลาจากไหนมิทราบ ควรทบทวนกฎข้อนี้อีกทีนะครับ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
00120 10 เม.ย. 51 10:37 น. 10
ไม่เกี่ยวกะท่องจำหรอก แต่เราเรารู้สึกว่าข้อสอบมันยากมากๆ เลยอ่า จะไปโทษครูก้ไม่ได้ อย่างคณิตเอเน็ตอ่ะ ยากมากมาย ใครได้เต็มร้อยก้อเทพอ่ะ ดีที่โอเนตดีก่าเอเนตไม่งั้นก้อล่มจมกันทั้งประเทศ แล้วเรื่องนาฬิกาอ่ะ เราอ่ะตลกกะครูคุมสอบมากเลย เค้าบอกให้เอานาฬิกาไขลานเข้าได้ นาฬิกาที่ว่าเค้าบอกมันเปงนาฬิการุ่นเก่าๆ ไม่หน่อย แบบว่าต้องใส่ตลอดเวลา ไม่งั้นไม่เดิน ต้องมานั่งไขลานทุกเช้า นาฬิกาบร้าไรฟร่ะไม่เคยเหง - -* แล้วปีหน้าไม่ให้เอานาฬิกาเข้าก้อสงสารน้องอ่า อย่างนี้จะคำนวณเวลาไงอ่ะ จิงม่ะๆๆ หรือว่าต้องขออนุญาติพกนาฬิกาทรายเข้าห้องสอบ ทีนี้ก้อโกงไม่ได้ ไอเดียดีม่ะ ทำอะไรก้อเห็นใจเด็กๆ หน่อยอ่า แค่นาฬิกาแบบที่ไม่ได้เปงแบบอนาลอคยังเข้าไม่ได้ก้อเกินไปหน่อยละค่ะ
0
กำลังโหลด
ดกกกกก 10 เม.ย. 51 17:20 น. 11
เห้ยตลกละ ข้อสอบ2ชุด คิดได้ไงไม่แฟร์เลยจิงๆ เด็กไม่ทุตริตก้อซวยไปด้วยอะดิคับ ถ้ามี2ชุดมาตรฐานจะอยู่ตรงไหน หรือจะสลับข้อคับ แนะนำคับถ้าจะทำ2ชุดก้อสลับข้อแต่ข้อสอบเหมือนกันคับ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
sss 10 เม.ย. 51 22:39 น. 13
น่านไงชีวิตกรูแมร่งซวยทั้งปีๆหน้าเจอของใหม่อีกแล้ว แล้วความคิดที่จะไม่ให้เอานาฬิกาเข้าไปเนี่ย เป็นการแก้ปันหาที่ มากมายครับ บรรยายถึงความไร้สมองของพวกหมานี่ไม่ออก ( ไม่ใช่พวกที่โกง ) ผมมองว่าถ้าผู้ใหญ่มันไม่ตัวเงินตัวทอง เด็กมันก็ไม่หรอก ผมพูดหยาบเพราะพวกมันสมควรโดนด่า อยากให้แมร่งลองมาสอบดู ตรวจ ip เอาผิดผมได้...
0
กำลังโหลด
Vancal 11 เม.ย. 51 01:58 น. 14
เห้อออออออออออออ ฟายยยยยยยยย กุล่ะเบี่ย พวกผูใหย่มันมาสรุปว่า เด็กมีความรุ้แค่ 1 ใน 3 จะเรียนในมหาลัยได้ยังไง กุถามเจงวะ 3ส่วน ของเมิงอ่ะ กว้างแค่ไหน กุเปรียบเทียบบ้านๆนะ เมิงบอกว่าน้ำแค่นี้น้อย เพราะเมิงใสถังใหย่ไปไหม เอาน้ำจำนวนเท่ากันใส่ถังเล็กลงมันก็ดูมาก ใช่ไหมสาด ข้อสอบเมิงอ่ะ มันกว้างล้นโลกไปไหมสาดดดดดดดด ฝรั่งมาดู ยังบอกเลย ว่าข้อส้อบเด็กไทย มันระดับของคนที่เรียนสายเอกภาษา แต่นี้ เด็ก ที่ยังไม่ได้ไปเฉพาะทาง ก็ต้องทำข้อสอบยากขนาดนี้ เรียนทิ้งเรียนขว้างอะไอควายยยย เสียเวลา เปลืองสมอง เมิงเข้าใจม้าย เมิงจะสร้างคนทุกคนให้เก่งทุกด้านทุกวิชาเลยเหรอ เพื่ออะไรวะ? โอเค อาจทำได้ ที่ให้คนเรียนเก่งทุกวิชา แต่ไม่มีทางเหลือเวลาทำอย่างอื่นนอกจากเรียน แล้ว ประเทดที่บุคลากรทำเป็นแค่เรียนหนังสือนี่ มันจะทำอะไรได้???? แค่เรียนเปนอย่างเดว ขยันอ่าน ขยันทำข้อสอบ แค่นั้น???? แล้วทำไออื่นไม่เปนเลย ไอควาย
0
กำลังโหลด
Mesmerised* Member 11 เม.ย. 51 10:02 น. 15
สายวิทย์น่าจะเลิกคิดคะแนนไทยสังคมได้แล้วนะ แล้ววิทยาศาตร์ แยกเป็นฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ได้แล้ว บางคนติดหมอด้วยสังคมภาษาไทย ระบบไม่ดีเลย
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
พี่ลาเต้ตัวปลอม 14 เม.ย. 51 17:49 น. 18
ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยละกานคร๊าบ ควรออกข้อสอบมากกว่า 3 ชุด ทุกวิชา ส่วนโอเน็ตก็ไม่ควรให้ครูคุมสอบเป็นครูของโรงเรียนนั้น อย่างนี้น่าจะตัดปัญหาไปได้มาก อยากเสนออีกว่า GPAX ที่โรงเรียนแต่ละโรงเรียนไม่เท่ากันบางโรงเรียน 4.00 คุณภาพยังไม่สมกับเกรดที่ได้ควรยกเลิกการยื่นเกรด แต่เป็นยื่นคะแนนโอเนต เอเนตอย่างเดียวไปเลย ส่วนที่บอกว่าจะทำให้เด็กไม่ตั้งใจในห้องนั้นแก้ง่ายๆ ก็คือถ้าโดดเรียน ไม่ตั้งใจเรียนผลสอบออกมาไม่ผ่านก็ให้เรียนซ้ำชั้นไปเลยไม่ต้องให้ซ่อม มันน่าจะทำให้เด็กตั้งใจเรียนขึ้น ระบบที่เราใช้ปัจจุบันมันลอกมาจากต่างประเทศ มันไม่ดี เพราะเด็กฝรั่งเขามีความรับผิดชอบมากกว่าเด็กไทย ไม่เหมาะกับบ้านเรา
0
กำลังโหลด
fghh 26 เม.ย. 51 16:36 น. 19
หา/สมัคร agent เพื่อหานักศึกษาเข้าเรียน ได้หัวละ500ติดต่อดูที่ชื่อนะคะ หาได้10คนได้5000บาทนะ หาเด็กที่เรียนรามคำแหง ก็ได้550คะ มหาลัยมีโคต้า -ฟรีอาหาร ตลอดการศึกศา -ฟรีที่อยู่ ตลอดการศึกษา -ฟรีตำลาเรียน ตลอดหลักสูต มีทุกคณะ ยกเวน วิศวะกรรมและแพทย์ มหาลัยในกรุงเทพคะ 089 416 2 3 29
0
กำลังโหลด
เสนอหน่อยคะ 30 เม.ย. 51 21:17 น. 20
ไม่เหนด้วยที่ให้เลิกใช้GPAXนะ แต่คิดว่าควรแก้ปัญหาด้วยการวัดระดับเกรดคุณภาพของแต่ละคนโดยคิดจากคะแนนo-net/A-netที่ตัวเองสอบได้ เอาไปตีเป็นเปอร์เซนเกรดที่ได้มาของ(แต่ละคน)ไปเลย ว่าไอเกรด4.00ที่ได้มาเนี้ยพอมาทำข้อสอบแล้วได้เท่าไหร่ ไม่ใช่เอาเกรดที่ได้หรือที่ตีเปนเปอร์เซนของแต่ละโรงเรียน เพราะแต่ละโรงระดับมันไม่เท่ากัน แล้วถ้าคิดคะแนนตีเปนเปอร์เซนของแต่ละโรงเรียนถ้าใครอยุ่ร.ร.ที่คะแนนออกมาต่ำก็ซวยอ่ะดิ บางโรงพอรุ้ว่าเกรดสำคัญมันก็ให้4.00กันยกห้อง อย่างงี้มันแฟร์ที่ไหน
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด