|
จากการประชุมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศ ไทย (ทปอ.) รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ในฐานะประธาน ทปอ. เผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้จัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมในการจัดการสอบประมวลผลแอดมิชชั่นปี 2553 โดยมี รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นประธาน เนื่องจากแอดมิชชั่นปี 2553 จะไม่มีการสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง หรือเอเน็ต แต่จะใช้คะแนน แบบทดสอบศักยภาพทั่วไป หรือ GAT และ แบบทดสอบศักยภาพวิชาการ/วิชาชีพ หรือ PAT แทน
โดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ หรือ สทศ.เป็นผู้จัดสอบ ซึ่งจะจัดสอบปีละ 3 ครั้ง คือ เดือน มี.ค./ก.ค./ต.ค. โดยจะจัดสอบเดือน มี.ค. 2552 เป็นครั้งแรก ซึ่งคุณสมบัติของผู้มีสิทธิสอบคือ ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.5 เป็นต้นไป รวมไปถึงผู้ที่จบปริญญา ดังนั้น จึงคาดว่าในการสอบครั้งแรกนี้จะมีผู้มาสมัครสอบเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจรวมถึงพ่อแม่ ผู้ปกครอง ร.ร. กวดวิชา ที่จะแห่มาสอบ ซึ่งเราก็จะเปิดกว้างให้มาสอบ และคาดว่าเด็กก็จะแห่มาลองสอบด้วยเช่นกันสำหรับการรับตรงปีการศึกษา 2553 นั้น ทปอ.เชิญชวนให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งพิจารณาใช้ GAT และ PAT ซึ่งจะช่วยเด็กประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อได้ผลสอบแล้วก็ให้ส่งไปรษณีย์ให้มหาวิทยาลัยต่างๆพิจารณารับเข้า ทั้งนี้ กำหนดให้เด็กยืนยันสิทธิรับตรงในวันที่ 31 ม.ค. 2553 หากไม่ยืนยันสิทธิจะเข้าสู่กระบวนการแอดมิชชั่นต่อไป ประธาน ทปอ.กล่าวต่อว่า จากการเดินสายประชาสัมพันธ์แอดมิชชั่นปี 2553 ซึ่งมีคำถามเข้ามามาก ทปอ.จะตอบคำถามและนำขึ้นเว็บไซต์ของ สทศ. www.niets.or.th จากนั้นในรอบสองจะทำความเข้าใจกับกลุ่มครูแนะแนว และ ผอ.ร.ร. ก่อนจะนำข้อเสนอต่างๆหารือกับคณบดีคณะต่างๆเพื่อพิจารณาว่า ต้องการเพิ่มการสอบ PAT-7 ซึ่งเป็นด้านภาษาในการคัดเลือกหรือไม่ และต้องได้ข้อสรุปเพื่อแจ้งให้นักเรียนทราบก่อนเดือน มี.ค. 2552 ซึ่งจะมีการสอบ GAT และ PAT เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ ทปอ.ยืนยันองค์ประกอบแอดมิชชั่นปี 2553 ตามเดิม และจะไม่มีการแยกสอบวิชาวิทยาศาสตร์ออกเป็น 3 วิชา แต่หากคณะวิทยาศาสตร์ต้องการสอบตรงก็สามารถทำได้ |
|
พพี่ลาเต้ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐพ |
 |
35 ความคิดเห็น
งั้นคนก็ยังคงเรียนพิเศษเยอะแยะเหมือนเดิมแหละ (คือ..เราก็เรียนพิเศษ 55+) เพราะวิชาสอบน้อยลง แต่ออกลึกขึ้น ใช่ปะ
- -*
เออๆๆ ช่างมันเถอะ
เรียนๆเข้าไป รู้เยอะแต่ไม่ได้ใช้สอบ ดีกว่าไม่มีความรู้ไปสอบ 55+
โอ้วววว แล้วจาให้ช้านอ่านอาไรไปสอบล่ะเนี่ย??
เซ็งงง ติวไม่ถูกเลยที่เดียว เฮ้ออ
อังกฤษมาซะไฮโซ จบว่า i'm confusing!!!!!
แบบนี้ไม่เบจ้ะน้อง ฮ่าๆ มั่นไป
ไอ ติ้งค ยู นั่นแหละ คอนฟิ้วซิ่ง ฮ่าๆ*
...
คนที่ไปอยู่เมืองนอกแล้วจะกลับมาเอ็นตอนม.๖ยังไงอะ
= o ="
ง ง
เส้าใจ
เด็กจะสอบยังไม่รู้เรื่องเลยได้ป้ะ ?
พูดอารัยกัน ไม่เข้าใจ
เอาสามวิชามารวมกันแบบเนี้ย แล้วเด็กจะรู้กันบ้างมั้ยว่า ตัวเองถนัดสาขาอะไร เวลาเรียนจะได้ไม่มีปัญหา
บางคนสอบได้คะแนนดี แต่พอเอาเข้าจริงก็ทนเรียนไม่ไหว ต้องออกกลางคันหยั่งเงี้ย ถ้าเอาวิทย์รวมอย่างนี้ ประเทศชาติไม่พัฒาแน่
17
พูดถูก
เราว่าถ้าไม่แยก มันไม่รู้ ว่าเด็กถนัดอะไร 55+
สมมติ ถนัดเคมี...แต่โง่ฟิสิกส์ ถ้าสอบรวม ฟิสิกส์จะฉุดให้เคมี+ชีวะไม่ดีไปด้วย เพราะมันรวมกันไง - -*
ถ้าแยก..อันไหนไม่ได้ ก็คือไม่ได้ ให้รู้ไปว่าเด็กคนนี้ถนัดเคมีกับชีวะ สมควรจะเรียนคณะไหน บลาๆๆๆ
คือ ตอนนี้ชั้นจะไปหาแนวข้อสอบจากไหนมาได้เนี่ยยยยยยยยย
อิ๊เวงงงงงง