เมื่อหญิงเดี่ยวลุยเข้าเรียนเทคนิคที่มีแต่ผู้ชาย ณ ปารากวัย !!


         สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เจอกับ พี่เป้ และเล่าประสบการณ์เด็กนอกเช่นเคยทุกๆ วันพฤหัสนะคะ ^^ ก่อนอื่นขอถามก่อนเลยว่า ในโรงเรียนของน้องๆ มีนักเรียนหญิงหรือชายมากกว่ากัน ? อย่างคณะที่ พี่เป้ เรียนจบมีทั้งหมด 240 คน เป็นผู้หญิงไปเกือบ 200 แล้วอะ = =" แทบจะเรียกว่าเป็นคณะหญิงล้วนก็ว่าได้ ฮ่าๆๆ แต่ประสบการณ์เด็กนอกที่นำมาฝากในวันนี้ มาจากประเทศที่เราไม่ค่อยคุ้นชื่อเท่าไหร่ เพราะอยู่ไกลมากกก ไม่แค่นั้นนะคะ เพราะน้องผู้หญิงเจ้าของเรื่องที่มีนิสัยสุดแสนจะเรียบร้อย ต้องเข้าไปเรียนในโรงเรียนที่มีแต่เด็กผู้ชายเต็มไปหมดเลย !!!!!! เอ๊ะ อะไรยังไงเนี่ย แล้วจะไหวเหรอ ถ้าอยากรู้ ต้องอ่านด่วน ! 

          mba'éichapa ..บ่ะเอชะปะ , สวัสดีค่าเพื่อนๆ เราชื่อ "พิมพ์" นะคะ ตอนนี้เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นนักเรียนเก่าในโครงการ AFS รุ่นที่ 47 ไปแลกเปลี่ยน "ประเทศปารากวัย" กลับมาได้ซักพักใหญ่แล้ว ตอนนี้เราก็มีโอกาสที่จะเล่าเรื่องที่เราได้พบเจอในประเทศใจกลางทวีปอเมริกาใต้  ดินแดนที่แม่น้ำสองสายใหญ่มาบรรจบกัน และความมันส์ของเด็กไทยผู้เรียบร้อยที่ได้ไปอยู่ในสมรภูมิของเด็กโรงเรียนเทคนิค!!! ที่มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิงถึงสามเท่า!!! และความผูกพันที่เวลาผ่านมาแค่ไหนก็ลืมมันไปไม่ได้ซะที


          เราไปประเทศ "ปารากวัย" อยู่เมืองชื่อว่า "เฟอร์แนนโด เดอ ลา โมรา" ห่างจากเมืองอซุนซิอองซึ่งเป็นเมืองหลวง 20 นาที โฮสท์พ่อแม่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง มีน้องสาว 4 คนและในท้องอีก 1 คน ( คนปารากวัยนิยมมีลูกมาก มีลูก 5 คนยังถือว่าปกติค่ะ เพราะประชากรเค้าน้อยจริงๆ ) ลูกคนแรกเค้าเรียนที่โรงเรียนเทคนิครัฐบาล คนที่สอง-สี่เรียนเอกชน แล้วคือโรงเรียนที่เราได้ไปเรียน ตอนแรกทางโครงการบอกไว้ว่า เราจะได้เรียนกับน้องๆ คนที่สอง-สี่ เป็นโรงเรียนเอกชนอย่างดี  ยูนิฟอร์มสวย มีคนพูดภาษาอังกฤษได้ เราก็ดีใจ ฮูเล่ ยังไงเดือนแรกๆ ก็รอดตายละ แต่ที่ไหนได้ สุดท้ายเค้าพาเรามาส่งที่โรงเรียนเทคนิคต่างหากล่ะ -*-


 

         โรงเรียนที่เราเรียนชื่อ Colegio Técnico Nacional เป็นโรงเรียนเทคนิคประจำชาติ (ดูยิ่งใหญ่มาก !! ) ยูนิฟอร์มจะมีสองแบบคือชุดทางการเป็นเสื้อแขนยาว เนคไทน้ำตาล กระโปรง ถุงเท้าย้อยๆ จะใส่วันจันทร์ และอีกชุดคือชุดใส่ลงปฎิบัติ workshop โดยเสื้อจะแบ่งตามสีของสาขาที่ตัวเองเรียน เช่น เราเรียนอยู่ eletromecanica ชั้นปีที่ 3 (เทียบเท่าม.6) ได้ใส่เสื้อสีน้ำเงิน ใส่กับกางเกงยีนส์
 

          วันที่ไปเรียนวันแรก อาจารย์พาไปแนะนำตัว ในห้องตกใจมาก เพราะในห้องมี 34 คน มีผู้หญิงแค่ 4 คนรวมเราเข้าไปก็เป็น 5 คน และทั้งโรงเรียนมีนักเรียน 900 คน มีผู้หญิงอยู่แค่ 300 คนเท่านั้น สภาพบรรยากาศในห้องน่ารักมาก = = ตอนเดินเข้าไปในห้องมียกเก้าอี้มาให้ ผิวปากต้อนรับ แซวภาษากัวรานีอีก ลำพังสเปนก็ไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคาบแรกที่เรียนคือ Refriciraciones เป็นวิชาที่ว่าด้วยการซ่อมแผงวงจรต่างๆ ในเครื่องใช้ไฟฟ้า พูดง่ายๆ คือปีนี้เราได้เรียนซ่อมตู้เย็น ซ่อมแอร์ ทำยังไงให้ช่องแช่แข็งเย็น แอร์ไม่เย็นเปลี่ยนตรงไหน แล้วคือ เอิ่ม … ทำไม่เป็นอ๊า แต่ก็มีวิชาที่ได้เรียนพื้นฐานด้วยนะ เช่น ภาษาอังกฤษ เลข  นอกนั้นน่ะเหรอ ไม่ได้เกี่ยวกับที่เราเรียนจากที่ไทยมาซักอย่างเลย แต่ก็มีหลายๆ ตัวที่เราลงเรียนเช่น ภาษากัวรานี , ประวัติศาสตร์ และวรรณคดีสเปน

 

          นอกจากนี้ ช่วงแรกๆ ที่เราไปถึง พระเจ้า !! ไม่เคยโดนรุมขนาดนี้มาก่อน เค้าเข้ามาถามว่ามาจากไหน ประเทศไทยอยู่ส่วนไหนอะ ? ทำไมคนไทยต้องมีชื่อเล่นด้วย ? (เพราะคนปารากวัยชื่อเล่นของพวกเค้าคือออกเป็นแนวฉายามากกว่า) เขียนภาษาไทยให้ดูหน่อย ..แล้วทุกคนก็มีตัวหนังสือไทยพร้อมชื่อกลับบ้าน 5555
 
 
         ต่อมาเราเอาหนังสือแนะนำการท่องเที่ยวของประเทศไทยไปให้เพื่อนๆ ดู แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่เพื่อนสาขาเราเท่านั้นที่เข้ามาหาเรา มีเพื่อนมาจากสาขาอื่นด้วย พอเราเหยียบเข้าประตูโรงเรียนก็มีคนมาแบบจับมือ มาชนแก้ม แล้วแนะนำตัว พาไปห้องเรียน มีตะโกนลงมาจากชั้น 2 ของโรงเรียนว่า “Pim,te amo”  อึ้งค๊า ! ทั้งๆ ที่เราไม่รู้จักกันเลย มีทั้งผู้หญิงผู้ชาย ผู้หญิงโรงเรียนส่วนมากจะเท่ๆ นิสัยผู้ชายๆ เลยล่ะ ส่วนผู้ชายที่นี่ก็เกรียนๆ ชอบแซวผู้หญิง เวลาเค้าแซวเนี่ยเค้าแซวจริงจังมากเลยนะ แบบผิวปาก บอกรักเลยล่ะ 5555 โดยรวมแล้ว เพื่อนๆ ก็น่ารักมากๆ สอนภาษากัวรานีที่เป็นภาษาพื้นเมืองให้เราด้วย

          ปารากวัยมักจะมีเทศกาลที่เมืองไทยไม่มี เช่น วันที่ 30 กรกฎาคม เป็นวันเพื่อน (dia de la amistad) เป็นวันที่เพื่อนจะแลกของขวัญและก็พากันไปฉลองในช่วงเที่ยงก่อนจะกลับบ้าน นอกจากจะมีเทศกาลที่เมืองไทยไม่มีแล้วยังมีวัฒนธรรมต่างๆ ที่แตกต่างจากเมืองไทยด้วย เช่น อาหารเย็น ถ้าเป็นเมืองไทย ทุ่มสองทุ่มก็เริ่มกินแล้ว แต่ปารากวัยสามทุ่มครึ่งเพิ่งเริ่มเข้าครัว กว่าจะได้กินก็สี่ทุ่มกว่าละ กินเสร็จแล้วซักพักเค้าก็นอนกันเลย

          นอกจากนี้ เวลาในช่วงบ่ายจะเป็นเวลานอนกลางวันของคนในประเทศนั้น คือเราเลิกเรียนเที่ยง พอกลับมาบ้าน ก็เจอพ่อแม่กลับมาจากที่ทำงาน กินข้าวแล้วเค้าก็ไปนอนกลางวัน พอบ่ายสามกลับไปทำงานต่อถึงหนึ่งทุ่มแล้วค่อยกลับบ้าน คือปารากวัยเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าคนมาสายตลอด นัดห้าโมงเย็นจะมาสามทุ่ม แต่ถ้าเป็นเรื่องเรียนล่ะก็ เข้าเรียนเจ็ดโมง ก็จะเห็นทุกคนพร้อมกับการเรียนอยู่แล้ว เราเคยเข้าเรียนช้า 20 นาที อาจารย์ทักว่า “Buena Noches” ที่แปลว่า ราตรีสวัสดิ์ เธอมาช้าไป แฮ่ๆ อายเลย

          การไปแลกเปลี่ยนครั้งนี้ โชคดีที่เราได้เพื่อนที่ดีหลายคน และเปลี่ยนเราจากผู้หญิงเรียบร้อยคนนึงให้กล้าคิดกล้าพูด กล้าถามในสิ่งที่เราไม่เข้าใจ ทำอะไรรั่วๆ หลายๆ อย่างที่ไม่เคยทำที่เมืองไทย ทำอะไรที่ผู้หญิงหลายๆ คนคงไม่เคยทำ มันไม่ใช่การเดินช้อปปิ้ง แต่งหน้า ทาเล็บ มันคือความมันส์ในที่เกิดขึ้นในปี เช่น ซ่อมแผงวงจรตู้เย็น มีเสื้อชอปด้วยน้า > < แล้วที่ชอบมากๆ คือได้ไปทำอะไรที่ท้าทายจริงๆ เช่น เข้าค่ายทหารที่ปารากวัย , ปีนเขา , แบกแพค แต่ความประทับใจจริงๆ ที่เกิดขึ้นกับเราคือการที่เราพูดภาษาสเปนได้ ขึ้นรถเมล์กลับบ้านเป็น (เคยตกรถเมล์ด้วย เพราะไม่รู้ว่าจริงๆ เค้ามีเชือกให้ดึงเวลาจะลง ) ทำอะไรเบื้องต้นเองได้ และทำให้คนอีกฝั่งโลกเข้าใจว่าประเทศไทยคืออะไร เพื่อให้คำว่า "นักเรียนแลกเปลี่ยน"  ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ความรู้ ความคิดมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทำให้คนอื่นเข้าใจและรักประเทศไทย เหมือนที่เรารักประเทศของเราเช่นกัน 
 


 

          วะว้าววว จบปิดท้ายได้นางสาวไทยมากเลยค่ะ (ปรบมือ) อ่านแล้วก็เพลินๆ ดีนะเนี่ย ^^ อ่านแล้วนึกถึงพวกซีรีส์เกาหลีหรือไต้หวันที่ผู้หญิงต้องปลอมตัวเข้าโรงเรียนชายล้วนเลย แต่นี่เป็นโรงเรียนเทคนิคแทน อิอิ ส่วนใครมีประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ อยากแบ่งปันให้เพื่อนๆ อ่านบ้าง ก็ส่งมาได้ที่ pay@dek-d.com แล้วเจอกันจ้า
 

เด็กดีดอทคอม :: เรียนรู้จากประสบการณ์ต้องเรียนที่ U of New Haven

พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

42 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
I'm rebel Member 15 ธ.ค. 54 14:45 น. 2
เฮ้ย ชอบแบบนี้ มันเท่ และลุยดี ฮ่าๆๆๆ

อยากไปบ้างงงงง เสียใจติดซัมเมอร์ ไปไหนไม่รอดแล้ว T^T
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Pimiice Pim 16 ธ.ค. 54 13:45 น. 12
เป้นประเทศที่น่าสนใจมากๆ ถ้าเป็นไปได้ลองไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนดูซักครั้งนะคะ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ทุกที่ให้เเง่คิด การดำเนินชีวิต การปรับตัวเข้าสู่สังคมจริงๆคะ ^^
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
mecita Member 16 ธ.ค. 54 21:36 น. 14
 พิมพ์เจ๋งมาก!!!!!!!!!!!!!!! เราเคยไปแตะแต่ชายแดนปารากวัยแค่นั้นเอง แบบแตะๆเลย 555555 อยากกลับไปอีกเนอะ! :D 
0
กำลังโหลด
Fa'fah Pazzta Member 17 ธ.ค. 54 07:31 น. 15

พี่พิมเจ๋งงงง ง !!

เรื่องขึ้นรถเมล์นี่เรื่องจริง การนั่งรถเมล์ในปาากวัยเป็นเรื่องที่มันส์สุดๆละ ! 5555

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Pound.es Member 18 ธ.ค. 54 20:48 น. 17
ใช่พี่พิมพ์ปารากวัยในค่าย AFS.SH. 51 ครั้งล่าสุดป่าวคับ โว้ววววววว เจ๋งอะคับ พี่พิมพ์เจ๋งงงงงงงงง ปารากวัยนี่สนุกเหมือนกันนะเนี๊ย ^^
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Pound.es Member 19 ธ.ค. 54 12:31 น. 19
 อ๋อ ผมปอนด์อะคับ เล่นเป็นสายชลของกลุ่มบ้านป่าเมืองเถื่อน 555+ ไม่รู้จำได้ป่าว ผมเคยแกล้งเดินดักหน้าพี่พิมพ์ตอนที่พี่พิมพ์เดินไปกินข้าวอะคับ แล้วพี่พิมพ์บอกว่าแกล้งพี่ทำไมเนี๊ย จำได้ป่าว แห่ะๆๆ
0
กำลังโหลด
wahh Member 19 ธ.ค. 54 13:39 น. 20
ใช่พี่พิม ที่ค่ายจริงด้วย ย หนูเด็กบ้านสาวเอาะ ๆ ฮ่ะ ๆๆ

เพื่อนพี่หล่อมาคะ เอ้ย พี่เจ๋งมากคะ 5 55 
เพิ่งเคยเจอประสบการณ์แบบนี้ เพื่อนพี่น่ารักมาก 

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด