สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com วันนี้ พี่พิซซ่า กลับมาตามสัญญาที่ให้ไว้เรื่องรีวิวเว็บเรียนออนไลน์ฟรีๆ อีกเว็บหนึ่งที่เป็นพี่ใหญ่ของเว็บอื่นๆ นั่นก็คือเว็บ EdX.org นั่นเอง จะใหญ่สมคำร่ำลือมั้ย ลองมาดูกัน
อย่างที่เคยบอกไว้คราวก่อนค่ะว่าเดี๋ยวนี้เขามีเว็บเรียนฟรีออนไลน์กันแล้ว (ตามไปดูรีวิวเว็บก่อนๆ ได้ที่ รีวิว coursera และ รีวิว alison) ซึ่งใครก็สามารถเข้าไปเรียนได้ เป็นการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ได้ความรู้อะไรใหม่ๆ แถมจบคอร์สแล้วยังมีประกาศนียบัตรเป็นเครื่องยืนยันว่าเรียนมาจริงๆ พี่แนะนำให้ใครที่คิดอยากเรียนต่อต่างประเทศลองเรียนดูเลยนะคะ จะได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของเราไปด้วย แถมที่ EdX ก็มีตัวช่วยสำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักอย่างเราๆ อีกต่างหาก ส่วนตัวช่วยจะเป็นอะไรนั้นต้องติดตามอ่านต่อไปค่ะ
ส่วนเหตุผลที่พี่บอกว่า EdX ถือเป็นพี่ใหญ่ในวงการเว็บเรียนฟรีออนไลน์ก็เพราะ ดูรายชื่อผู้ก่อตั้งได้เลยค่ะ ก่อตั้งโดย MIT และ Harvard แล้วร่วมด้วยสถานศึกษาชั้นนำของโลกทั้งนั้น นี่แค่ตัวอย่างนิดเดียวนะคะ จริงๆ มีสถานศึกษาที่มาร่วมเปิดคอร์สเรียนเยอะกว่านี้อีก
1. เรามาเริ่มกันที่การลงทะเบียนเรียนค่ะ เข้าไปที่เว็บ edx.org แล้วคลิกตรง Register ค่ะ ส่วนตรง Schools & Partners นั้นคือชื่อสถานศึกษาที่ร่วมส่งคอร์สเรียนมาให้ทั้งหมด และสามารถดูคอร์สที่เปิดทั้งหมดได้ที่ Courses ค่ะ
2. จากนั้นก็จะเข้าสู่หน้ากรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อลงทะเบียนค่ะ ควรกรอกข้อมูลจริงนะคะ เวลาเรียนจบแล้วได้ประกาศจะได้มีข้อมูลที่ถูกต้องของเรา แต่ไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะเห็นชื่อจริงเรา เพราะผู้เรียนคนอื่นๆ จะเห็น Public Username ของเราค่ะ ซึ่งจะตั้งเป็นอะไรก็ได้
3. เมื่อคลิกที่ Courses ก็จะมีรายวิชาต่างๆ มาให้เลือกค่ะ ส่วนมากจะมีวันเริ่มเรียนกำหนดมาให้ เช่นวิชา Exoplanets เริ่มวันที่ 24 มิ.ย. 2014 ถ้าเราเริ่มเรียนคอร์สที่มีกำหนดแบบนี้ทันแต่แรกก็จะมีโอกาสจบแบบได้ประกาศค่ะ แต่ถ้าคอร์สเริ่มไปแล้วเราเพิ่งมาเรียน แม้เราจะเข้าถึงเนื้อหาการเรียนทั้งหมด แต่เราจะส่งงานที่อาจารย์สั่งในสัปดาห์แรกๆ ไม่ทันแล้ว ซึ่งงานพวกนั้นจะต้องทำให้ครบเพื่อที่จะได้ประกาศค่ะ ถ้าไม่ทันรอบนี้ก็ไม่เป็นไรนะคะ ส่วนมากจะวนกลับมาเปิดเรียนทุกปีค่ะ ไว้เรียนเทอมหน้าก็ได้
ส่วนวิชา Greatest Unsolved Mysteries of the Universe นั้นสามารถเริ่มเรียนเมื่อไหร่ตอนไหนที่เราว่างก็ได้ แบบนี้ก็เริ่มได้ตลอดปีค่ะ
4. สนใจคอร์สไหนก็ลองคลิกเข้าไปดูคำแนะนำซักนิดก็ได้ค่ะ ซึ่งจะบอกข้อมูลคร่าวๆ ของคอร์ส ว่าเรียนเรื่องอะไรบ้าง มีวิดีโอแนะนำ ระยะเวลาที่ใช้เรียน อย่างคอร์สนี้ใช้เวลา 9 สัปดาห์ เนื้อหาก็จะเป็นสัปดาห์ละเรื่อง การบ้านสัปดาห์นี้ส่งสัปดาห์หน้าก่อนเรียนอะไรแบบนี้ค่ะ และอย่าลืมอ่านตรง Prerequisites นะคะ จะเป็นความรู้พื้นฐานที่ควรมีก่อนลงเรียนคอร์สนี้ ซึ่งสำหรับวิชานี้พี่ไม่มีเลย 555 ขอเปลี่ยนใจไม่เลือกวิชานี้ละกัน แต่ไม่ต้องกังวลว่าแล้วจะเรียนได้หรอนะคะ เพราะมีอีกหลายวิชาค่ะที่ไม่ต้องมีความรู้ก่อนเรียนเลย
5. เมื่อได้วิชาที่ชอบแล้วก็กด Register เรียนวิชานั้นเลยค่ะ แล้วเข้ามาดูข้อมูลเกี่ยวกับคอร์สนั้นๆ แถบด้านบนก็จะมี Courseware ซึ่งก็คือตัวบทเรียน Discussion ก็เหมือนบอร์ดที่เราตั้งกระทู้ถามได้ค่ะ ส่วน Wiki ก็คล้ายๆ Wikipedia เลยคือมีช้อมูลที่จำเป็นสำหรับประกอบการเรียนซึ่งผู้เรียนสามารถเพิ่มข้อมูลเข้าไปเองได้เรื่อยๆ Progress คือดูว่าเราทำคอร์สนี้มาถึงไหนแล้ว ส่วนทางด้านขวาคือ Handouts เป็นเอกสารที่เกี่ยวกับการเรียนทั้งหมดค่ะ
6. ลองคลิกที่ Courseware กันค่ะ ทางด้านซ้ายก็จะมีแถบบอกว่าเนื้อหาแบ่งเป็นกี่สัปดาห์ แต่ละสัปดาห์เรียนเรื่องอะไรบ้าง เราก็กดเรียนตามลำดับไปเลย สมมติตอนนี้พี่อยู่ที่สัปดาห์ที่สอง สัปดาห์นี้ก็จะมีบทเรียน แล้วก็การบ้านที่ต้องทำส่งค่ะ บางงานก็มีเวลากำหนดว่าต้องส่งภายในวันเวลาเท่าไหร่ (อย่าลืมเทียบเป็นเวลาไทยด้วยล่ะ) บางงานก็ไม่มีกำหนดขอแค่ส่งก่อนสอบไฟนอลก็พอ ส่วนรูปนาฬิกาปลุกหลัง Homework คือสัญลักษณ์บอกว่าการบ้านชิ้นนี้คิดเป็นคะแนนสอบด้วย นั่นแปลว่าเราต้องทำส่งด้วยไม่งั้นจะถือว่าเรียนไม่จบ ส่วนการบ้านชิ้นที่ไม่มีสัญลักษณ์นี้แปลว่าจะไม่นำมาคิดเป็นคะแนนสอบค่ะ จะทำหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าทำเราก็ได้ประโยชน์เองนะคะ
7. กลับมาที่บทเรียนกันนะคะ ส่วนมากจะเป็นรูปแบบวิดีโอค่ะ แล้วไม่ต้องกลัวนะคะว่าจะฟังไม่รู้เรื่องเพราะเขาทำซับมาให้เรียบร้อย สามารถอ่านตามได้เลย หรือจะเลือกปิดซับก็ได้เพื่อฝึกฟัง เราก็เลือกกดปุ่ม CC ได้ตามใจชอบค่ะ จะเร่งให้เร็วขึ้นหรือช้าลงก็ได้ ถ้าอยากข้ามไปตรงประโยคไหนก็คลิกที่ซับได้ทันทีเช่นกัน แล้ววิดีโอจะข้ามไปตรงนั้นเลยค่ะ หรือถ้าจะเซฟไว้ดูแบบไม่มีอินเตอร์เน็ตภายหลังก็กด Download ได้เลยทั้งวิดีโอและซับค่ะ นี่แหละที่พี่บอกว่าเขามีเครื่องมือมาช่วยเราแล้ว
8. นอกจากวิดีโอแล้ว ยังมีเครื่องมือช่วยในการเรียนการสอนอีกมากมายนะคะ ไม่ว่าจะเรียนเลข ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ หรือออกแบบ ที่ต้องมีการวาดหรือเขียนสูตรก็สามารถทำได้ค่ะ ชาร์ตต่างๆ ก็ขยายได้สะใจ แม้แต่เข้าแล็บก็มี วิชาพวกนี้การบ้านก็จะเป็นวาดวงจรส่งหรือเขียนพันธะก็ทำได้ที่ EdX เลย ไม่ต้องวาดใส่กระดาษแล้วถ่ายรูป หรือใช้ paint วาดบิดๆ เบี้ยวๆ ส่งไป
9. เรียนมาพักนึงแล้วก็มาดูความก้าวหน้ากันค่ะ นี่คือ Progress ที่พี่ลองทำไว้นะคะ Ex01 ก็คือแบบฝึกหัดแรก ถ้ายังทำไม่ครบก็จะไม่เต็ม 100 ค่ะ ส่วน Ex03 นั้นไม่ได้แปลว่าพี่ไม่ได้ทำนะคะ แต่นั่นหมายความว่างานใน Ex03 จะไม่นำมาคิดเป็นเกรดด้วยค่ะ (การบ้านที่ไม่มีรูปนาฬิกานั่นเอง)
10. พอเราทำทุกอย่างครบ และได้คะแนนเกินผ่านแล้ว ก็แปลว่าจบคอร์สสมบูรณ์แล้วค่ะ คลิกที่ Dashboard มุมบนขวาของหน้าเพื่อมาดูผลการเรียนของเรา แล้วกดรับประกาศนียบัตรต่อไปค่ะ
11. ทีนี้มาดูเรื่องประกาศนียบัตรกันค่ะ การลงทะเบียนเรียนแต่ละวิชาที่ EdX นั้นมี 3 ประเภทค่ะ คือ Audit, Honor Code และ Verified ซึ่งสองแบบแรกจะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่แบบสุดท้ายมีค่าใช้จ่ายค่ะ
เมื่อเราลงทะเบียนเรียนวิชาใดๆ แล้ว เท่ากับเรา Audit เรียบร้อยแล้วค่ะ นั่นคือเราสามารถเข้าถึงได้ทุกอย่างในรายวิชานั้นๆ แต่เราจะไม่เรียนตามลำดับ ไม่ทำการบ้าน หรือจะข้ามบางบทก็ทำได้ค่ะ (รวมถึงลงเรียนวิชาที่จบไปเรียบร้อยแล้ว) แบบนี้ก็จะไม่มีเครื่องยืนยันอะไรเลย แต่เราจะได้ความรู้เท่าที่เราอยากได้ แต่ถ้าเราเรียนไปเรื่อยๆ ทำงานครบทุกครั้งตามเวลา สอบไฟนอลก็ผ่าน เราก็จะเปลี่ยนจาก Audit เป็น Honor Code โดยอัตโนมัติค่ะ และจะได้ประกาศนียบัตรเป็น PDF ให้ดาวน์โหลดได้เลย
ส่วน Verified นั้นเป็นการเรียนที่เข้มข้นกว่าค่ะ วิชาที่มีเครื่องหมาย Verified สีเขียวแปลว่าเราจะเลือกเรียนแบบ Audit ก็ได้ แต่ถ้าจะเอาประกาศนียบัตรจริงจากมหาวิทยาลัยนั้นๆ เราต้อง Verified ซึ่งต้องเสียเงินค่ะ การเรียนแบบ Verified นี้จะเหมือนเราได้ลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยระดับโลกจริงๆ บางวิชาจะมีแค่ Audit กับ Verified แต่บางวิชาก็มี Honor Code ให้เลือกรับประกาศดาวน์โหลดฟรีได้เช่นกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าแบบ Verified ดูเหมือนปริญญาจริงๆ มากกว่าเยอะ
12. อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจของ EdX และวิชา Verified ที่อลังการก็คือคอร์สแบบ XSeries ค่ะ โดยจะเป็นชุดการเรียนหลายๆ วิชาในสาขาเดียวกัน ซึ่งเป็นกลุ่มวิชาที่ส่งตรงมาจากหลักสูตรปริญญาปกติจริงๆ เลย เช่น สาขาวิชา Aerodynamics ของ MIT มีวิชาที่เป็น XSeries อยู่ 2 ตัวค่ะ ซึ่งจะเลือกเรียนเดี่ยวๆ ตัวเดียวก็ได้ หรือจะเรียนเป็นเซ็ตไปเลยก็ได้ ซึ่งถ้าเรียนคู่นอกจากต้องจ่ายแบบ Verified แยกวิชาละ $100 แล้ว ยังต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก $75 แต่ประกาศที่ได้มาจะสุดยอดมากค่ะ เหมือนเราได้ไปเรียนซัมเมอร์ที่ MIT มาจริงๆ โดยไม่ต้องเสียค่าเครื่องบิน ค่าหอ และค่าอาหารที่โน่น เราสามารถทำโปรเจ็คต์จบได้จากบ้านเราเลย
แนะนำคอร์สน่าเรียน
คอร์ส self-paced เริ่มเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่บังคับลำดับขั้นตอน
edX Demo สอนวิธีการใช้ EdX ค่ะ ถ้าไม่รู้จะเริ่มที่ไหนให้คลิกวิชานี้เลย
Introduction to Computer Science โดย Harvard
Greatest Unsolved Mysteries of the Universe โดย Australian National University
คอร์สที่กำลังจะเริ่ม
Ideas of the Twentieth Century โดย University of Texas at Austin เริ่ม 27 ส.ค. 2014
English for Doing Business in Asia - Speaking โดย Hong Kong University of Science and Technology เริ่มเดือนกันยายน 2014
Solar Energy โดย Delft University of Technology เริ่ม 1 ก.ย. 2014
Anthropology of Current World Issues โดย University of Queensland, Australia เริ่ม 1 ก.ย. 2014
Visualizing Japan (1850s-1930s): Westernization, Protest, Modernity โดย Harvard และ MIT เริ่ม 3 ก.ย. 2014
中级汉语语法 Intermediate Chinese Grammar โดยมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เริ่ม 15 ก.ย. 2014
Computing: Art, Magic, Science โดย ETH Zurich เริ่ม 30 ก.ย. 2014
ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษเท่านั้นนะคะ ที่ EdX มีมหาวิทยาลัยจากหลายประเทศทั่วโลกเข้าร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยโซล (เกาหลีใต้), มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (จีน), มหาวิทยาลัยเกียวโต (ญี่ปุ่น), Université catholique de Louvain (เบลเยี่ยม), Karolinska Institutet (สวีเดน), Technische Universität München (เยรมนี), IIT Bombay (อินเดีย), มหาวิทยาลัยโทรอนโต (แคนาดา) และอีกหลายสถาบันชั้นนำ ทำให้มีคอร์สที่เปิดสอนในหลายภาษา หรือหลายสำเนียง นอกจากนี้น้องๆ จะได้เจออาจารย์จากหลายๆ ชาติหลายวัฒนธรรมด้วย ฉะนั้นไม่ใช่แค่ความรู้จากวิชาเท่านั้น แต่เราจะได้เห็นอะไรแปลกใหม่ในระหว่างที่นั่งเรียนหน้าคอมด้วยค่ะ
18 ความคิดเห็น
ขอบคุณครับพี่พิซซ่า
ชอบมากเลย เดี๋ยวจะหาเวลาแว๊บมาเรียน
อยากเรียนนะคะ แต่ภาษาอังกฤษไก่กามาก จะลองดูค่ะ
อยากได้ แบบ verified เราต้องทำยังไงบ้างคะ เช่นจ่ายเงินยังไงประมาณนี้น่ะค่ะ
ลองมาทุกเว็บที่รีวิวแล้วครับ แต่เพราะตอนนี้อยู่ม.6 แต่ไม่มี certificate อะไรเลย - -
ความยากง่ายนั้น edX ยากกว่า coursera และ alison มากๆ ครับ ส่วนใหญ่ผมจะเรียนในฟิลด์ของวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์
alison ไปอ่านดูเอาก็ทำได้ครับ ไม่ยากเท่าไร
coursera ต้องมีพื้นฐานขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่ยากมากเท่าไร ตัวอย่างผมเรียนคอร์สอะไรสักอย่างของม.โตเกียว เกี่ยวกับกดาราศาสตร์นี่แหละครับ เนื้อหาจะยากขึ้นมาจากดาราศาสตร์มัธยมปลายนิดหน่อยๆ คล้ายเอาพวกนั้นมาต่อยอด แต่คอร์สยากกว่านั้นก็มีอีกบางคอร์ส บางทีก็บอกว่าก่อนจะเรียนคอร์สนี้ ควรไปเรียนคอร์สนั้นๆก่อนนะ
edX นี่ส่วนใหญ่ที่ผมไปดูจะต้องการความรู้จาก first year university level, level of an introductory undergraduate course ประมาณนี้อ่ะครับ คือจะระดับมหาลัยแล้ว ค่อนข้างยากครับ เลยไม่เรียน มันเสียตังด้วย กลัวเรียนไม่จบ แต่คอร์สง่ายก็อาจจะมีบ้าง แต่ผมไม่ได้สนใจคอร์สนั้น 5555555555
coursera ก็ขอ financial aid ได้นะครับ แต่ edX ขอไม่ได้
ต้องเสียค่าลงเรียนคอร์ส หรือว่าค่าใช้จ่ายอื่นๆมีหรือเปล่าค่ะ
คล้ายๆ คอร์สออนไลน์ของ Standford เลยค่ะ
แต่ EdX เหมือนจะยากนะนี่ เห็นส่วนใหญ่เป็นวิชาคำนวณ
น่าเรัยนมากๆๆเลยค่ะอยากเรัยนมาก
ถ้าเป็นวิชาที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ต้องจ่ายเงินก่อนเรียนหรือจ่ายตอนเรียนจบแล้วจะเอาใบประกาศคะ? ใครรู้ช่วยตอบหน่อยนะคะคือว่าตอนสมัครลืมดูว่าเป็น Verified ไหม แล้วไปสมัครคอร์สที่เป็น Verified ตอนนี้คอร์สจะเปิดสอนแล้วค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยครับบบบ