ภาพเพื่อประกอบบทความ ไม่ใช่ภาพจากสถานที่จริง

     สามีภรรยาคู่หนึ่งเปิดบ้านในแคนาดาให้เช่าทาง AirBnB โดยลูกค้าคราวนี้เป็นกลุ่ม 4 คนที่บอกว่ามาพักเพื่อจะไปร่วมงานแต่งงานในเมือง แต่ยังไม่ทันไร ในคืนนั้นเจ้าของบ้านก็ได้รับข้อความจากเพื่อนบ้านส่งมาบอกว่ามีรถบัสขนคนเป็นร้อยมาจอดหน้าบ้าน ทั้งคู่จึงรีบกลับไป ดีที่เพื่อนบ้านเรียกตำรวจมาให้แล้ว เมื่อทั้งคู่ถึงบ้านจึงเห็นว่าตำรวจกำลังจัดการกับคนที่มาปาร์ตี้อยู่ ข้าวของในบ้านเสียหายทั้งหมด ถุงยางใช้แล้วตกอยู่ทั่วพื้นห้องน้ำ มีการใช้ยาเสพติด และมีคราบอสุจิและอาเจียนเปรอะทั่วบ้าน

     แต่ตอนนั้นทั้งคู่กลับเข้าบ้านตัวเองไม่ได้ เพราะข้อตกลงของ AirBnB คือเจ้าของบ้านจริงๆ ไม่สามารถเข้าเขตบ้านที่มีเช่าไปแล้วได้ (เป็นกฎหมายของประเทศด้วย) เจ้าของบ้านจึงต้องขอร้องให้ผู้เช่าช่วยออกไปให้หมด เคราะห์ดีที่ทาง AirBnB ช่วยเหลือเจ้าของบ้าน และจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดให้ โดยประเมินไว้ว่าน่าจะประมาณ $75,000 (AirBnB มีประกันให้เจ้าของบ้านสูงสุด 1 ล้านเหรียญ) แต่ครอบครัวเจ้าของบ้านไม่น่าจะทนอยู่ต่อไปได้อีก แค่ให้เดินในบ้านด้วยเท้าเปล่ายังรู้สึกขยะแขยงเลย บ้านแสนสุขของพวกเขาเป็นนรกไปแล้ว

ภาพเพื่อประกอบบทความ ไม่ใช่ภาพจากสถานที่จริง

     สองสาวกำลังจะไปเที่ยวกันเป็นเวลา 4 สัปดาห์ จึงเปิดบ้านตัวเองในกรุงสต๊อคโฮล์ม ประเทศสวีเดน ให้คนอื่นมาเช่า แต่เมื่อกลับมาถึงบ้าน ทั้งคู่ก็เจอเอกสารจากสถานีตำรวจท้องถิ่นส่งมาว่าตำรวจบุกเข้าจับกุมผู้ค้าประเวณีในบ้านของพวกเธอในช่วงที่พวกเธอหายไป โดยจับผู้หญิงขายบริการได้ 2 คนแบบคาหนังคาเขา และที่ช็อคยิ่งว่าคือทั้งคู่เจอขนเพชรทั่วห้องนอน พร้อมถุงใส่ถุงยางใช้แล้วอีกกองใหญ่

     ทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ว่าผู้เช่าเป็นกลุ่มผู้ชายใส่สูทดูน่าเชื่อถือเหมือนนักธุรกิจทั่วไป จึงไม่คิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ หลัง AirBnB ทราบเรื่องก็ให้ความช่วยเหลือเจ้าของบ้านทันที ทั้งให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ร่วมมือกับตำรวจในการสืบสวน และยังจ้างบริษัททำความสะอาดมืออาชีพมาทำความสะอาดใหญ่ให้ทั้งบ้าน แต่สองสาวก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดีเมื่อคิดว่าบ้านตัวเองกลายเป็นซ่องไปแล้ว

ภาพเพื่อประกอบบทความ ไม่ใช่ภาพจากสถานที่จริง

     เจสสิก้าปล่อยอพาร์ทเมนต์ในแมนฮัตตันของตัวเองให้ผู้หญิงวัย 20 ต้นๆ คนหนึ่งเช่า ผู้เช่าบอกว่าตัวเองเป็นทหารและขอพักช่วงที่ต้องมาประชุมสัมมนาที่เมืองนี้ แต่ไม่กี่วันต่อมาตำรวจก็โทรหาเจสสิก้าเพื่อบอกว่าเกิดเหตุแทงกันตายที่ห้องของเธอ ผู้ตายเป็นผู้หญิงขายบริการที่ถูกลูกค้าแทงหลังตกลงกันไม่ได้เรื่องราคาค่าบริการ AirBnB ให้เธอไปพักที่โรงแรมหรูใกล้ๆ โดยออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด รวมถึงจ้างบริษัทมาทำความสะอาดทั้งห้องให้ (แต่นั่นคือมีคนฆ่ากันตายในบ้านตัวเองเลยนะ)

     จากการสำรวจของ NYPost พบว่าผู้ขายบริการหลายรายคิดว่าการเช่าอพาร์ทเมนต์ผ่าน AirBnB เป็นเรื่องดีต่อธุรกิจของพวกเธอ เพราะห้องมักจะสวยมีสไตล์ดูดีกว่าโรงแรมจิ้งหรีด และมาในราคาที่ถูกกว่าโรงแรม แถมไม่มีพนักงานโรงแรมคอยสังเกตด้วย จึงทำให้มีผู้ขายบริการหลายรายเลือกเช่าห้องผ่าน AirBnB ค่ะ พวกเขาจะสร้างโปรไฟล์ที่ดูน่าเชื่อถือเพื่อขอเช่า และจ่ายด้วยบัตรเดบิตชนิดที่หาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อและโยนทิ้งได้ทันที

ภาพเพื่อประกอบบทความ ไม่ใช่ภาพจากสถานที่จริง

     ทรอย เดย์ตัน เปิดบ้านให้เช่าผ่านทาง AirBnB เขาเคยทำมาแล้วหลายครั้ง และยังเคยไปเช่าห้องพักที่อื่นผ่านทางเว็บไซต์นี้ด้วยเช่นกัน แต่ครั้งนี้คือสุดๆ แล้ว เขาบอกว่าตอนแรกก็รู้สึกแปลกๆ ว่าไม่ควรให้ผู้หญิงคนนี้เช่า แต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรชี้ชัดนอกจากเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้เฉยๆ จึงปล่อยเช่าไปตามนั้น แต่แล้วทรอยกลับมาบ้านก็เจออุปกรณ์ที่ใช้ในการเสพยามากมาย ข้าวของถูกรื้อค้นและทำลาย ประตูตู้เสื้อผ้าถูกขวานจาม สูติบัตรเขาโดนขโมยไปทำ ID ปลอม ของใช้อีกมากโดนขโมยรวมถึงคอมพิวเตอร์ ภายในตู้เย็นถูกขันน้อตต่างๆ ออกจนหมด และยังแช่เสื้อหนาวของเขาไว้ในช่องฟรีซ นอกจากนี้ยังทิ้งแมวเป็นๆ ไว้ให้ดูต่างหน้าอีกตัว คนที่มาพักเขียนชื่อไว้บนมีดด้ามหนึ่ง ในภายหนังตำรวจบอกว่าคนชื่อนี้ไม่ใช่โจรธรรมดา แต่ยังเป็นคนอันตรายมากคนหนึ่งที่ตำรวจติดตามอยู่

     หลังจากนั้น AirBnB ก็เข้ามาช่วยจัดการความเสียหายในเรื่องนี้ โดยให้ทรอยพักฟรีถึง 21 คืนที่ไหนก็ได้โดยจองผ่านทางเว็บไซต์ และมีมูลค่าที่พักคืนละไม่เกิน $125 ส่วนเรื่องอื่นทรอยไม่ติดใจและไม่ขอให้ทางเว็บไซต์ชดใช้ให้ เพราะเขาโทษตัวเองว่าน่าจะไม่ให้คนนั้นจองตั้งแต่แรก สิ่งเดียวที่อยากได้มีแค่สูติบัตรที่หายไปเท่านั้นแหละ

ภาพเพื่อประกอบบทความ ไม่ใช่ภาพจากสถานที่จริง

     เรื่องนี้ทั้งผู้เช่าและเจ้าของบ้านเป็นผู้เสียหายค่ะ ขณะกำลังนอนหลับสบายในห้องที่เพิ่งเช่าผ่านทาง AirBnB ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี อยู่ๆ ก็มีคนมาเคาะประตูกลางดึก แล้วผู้เช่าก็เจอชายรัสเซียตัวใหญ่ถามเสียงเข้มๆ ว่าแกเป็นใคร มาทำอะไรในบ้านฉัน ผู้เช่าคนนั้นบอกว่ารู้สึกกลัวขึ้นมาเลย

     สรุปว่าชายรัสเซียคนนั้นเป็นเจ้าของบ้านตัวจริง และเขาไม่ได้ลงประกาศให้เช่าทาง AirBnB ด้วย ดีที่เขาฟังเรื่องราวและเข้าใจ และอนุญาตให้ผู้เช่ารายนั้นพักต่อได้จนครบกำหนดเพราะรู้ว่าคงไม่มีที่ไปแน่ๆ จากนั้นทั้งเจ้าของบ้านและผู้เช่าก็ไปแจ้งตำรวจพร้อมกัน เพื่อหาตัวเจ้าของปลอมที่ไปลงประกาศ

ภาพเพื่อประกอบบทความ ไม่ใช่ภาพจากสถานที่จริง

     คู่รักคู่หนึ่งเจอบ้านพักสวยๆ ในราคากำลังดีจึงอยากไปสวีทด้วยกัน ก่อนไปฝ่ายหญิงก็ส่งข้อความถามเจ้าของบ้านว่าที่นั่นมีไดร์เป่าผมมั้ย มีน้ำแข็งมั้ย คำถามทั่วไปของคนที่จะเข้าพัก แต่ตอนเกือบตีสาม เจ้าของบ้านก็ส่งข้อความมาเข้าเครื่องฝ่ายหญิงว่า "อยากจะลองมั้ย" ตอนนั้นเธอคิดว่าเขาคงส่งผิดเบอร์จึงไม่สนใจอะไร แต่ไม่นานก็มีเสียงครูดคราดจากชั้นล่าง ปรากฏว่าเจ้าของบ้านเมาและเข้ามาในบ้านตัวเอง พร้อมทั้งส่งเสียงเรียกให้ทั้งคู่ลงไป ฝ่ายชายลงไปคุยด้วย เขาก็ถามถึงฝ่ายหญิงเหมือนจะคุกคามทางเพศ

     ฝ่ายชายคุยด้วยกว่า 20 นาทีเพื่อหาทางกล่อมให้เจ้าของบ้านยอมออกจากบ้าน ในที่สุดเจ้าของบ้านก็ยอมออกไปแต่เขาคว้ากระเป๋าสตางค์และกุญแจของฝ่ายชายไปด้วย ฝ่ายชายจึงต้องกล่อมเพิ่มอีกนิดจนเจ้าของบ้านยอมวางคืน และยังทิ้งกุญแจรถตัวเองไว้ให้อีกด้วยก่อนจะออกไป จากนั้นทั้งคู่ก็รีบเก็บของออกจากบ้านนั้นทันทีตอนตี 4 และพยายามหาที่พักอื่นให้เร็วที่สุด

ภาพเพื่อประกอบบทความ ไม่ใช่ภาพจากสถานที่จริง

     เจค็อบเป็นเด็กหนุ่มวัย 19 ปีที่เดินทางไปท่องเที่ยวในสเปน เขาเจอที่พักน่าสนใจแห่งหนึ่งในกรุงมาดริดผ่านทาง AirBnB แต่คืนนั้นเจ้าของบ้านที่เป็นสาวประเภทสองไม่ยอมออกจากบ้าน และยังล็อกประตูขังเจค็อบไม่ให้หนีไปได้ด้วย เจค็อบโดนสั่งให้ถอดเสื้อผ้าและโดนจับกด เมื่อเขาหนีไปอีกห้องหนึ่งและล็อกประตูได้ เขาก็รีบโทรหาแม่เพื่อขอความช่วยเหลือ เขาบอกว่าได้ยินเสียงมีดครูดไปทั่วห้องครัว

     แม่ของเขาจึงโทรติดต่อ AirBnB เพื่อขอที่อยู่ที่พักนั้น แต่ทางนั้นแจ้งว่าต้องให้ตำรวจเป็นคนโทรมาขอ และให้เบอร์ตำรวจท้องที่ไปแทน ซึ่งโทรไปแล้วมีแต่ภาษาสเปนและสายก็หลุดตลอด ดีที่เจค็อบเกลี้ยกล่อมให้เจ้าของบ้านยอมปล่อยเขาออกไปได้ในที่สุด ต่อมาเขาก็กลับถึงบ้านในสหรัฐอเมริกาและเข้ารับการบำบัดหลังผ่านเหตุการณ์เลวร้าย

     หลายเรื่องอาจจะดูน่ากลัว แต่นี่ก็เป็นเพียงเรื่องแย่ๆ ไม่กี่เรื่องที่เจอผ่าน AirBnB โดยปกติในคืนหนึ่งๆ มีผู้ไปพักตามบริการของ AirBnB หลายล้านคนทั่วโลก และส่วนมากก็ไม่เจอเหตุการณ์ร้ายๆ แบบนี้ ทาง AirBnB เองก็มีมาตรการคอยช่วยเหลือและชดเชยค่าเสียหายอย่างดีเช่นเดียวกัน ยิ่งมีเหตุการณ์เหล่านั้นแล้วทาง AirBnB เองก็ปรับปรุงกฎระเบียบให้รัดกุมมากขึ้น

     บทความนี้ทำขึ้นเพื่อให้น้องๆ ระมัดระวังตัวมากขึ้นเวลาจองที่พักออนไลน์ ควรตรวจสอบข้อมูลเจ้าของที่พักก่อนทำการจองเสมอ ลองเข้าไปดูจากโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ ของเจ้าของที่พักก็ได้ค่ะ ส่วนใครที่กำลังคิดจะให้คนอื่นเช่าทาง AirBnB ก็ควรตรวจสอบข้อมูลผู้จะเข้าพักก่อนเสมอ ตรวจสอบบัตรประชาชนว่าข้อมูลตรงกันมั้ย และเก็บสำเนาหลักฐานต่างๆ ไว้ให้ครบทั้งสองฝ่าย ส่วนมากผู้ใช้บริการของ AirBnB ต่างได้รับความพอใจกันทั้ง 2 ฝ่ายและได้ประสบการณ์ดีๆ ทั้งคู่ค่ะ