4 เจ้าหญิงในเทพนิยายที่อาจเข้าข่ายเป็นโรคจิต!

4 เจ้าหญิงในเทพนิยายที่เข้าข่ายเป็นโรคจิต 
 

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวเด็กดี “คอลัมน์สาระวรรณกรรม” ครั้งนี้พี่วิวจะพาน้องๆเข้าสู่โลกของเจ้าหญิงในเทพนิยายค่ะ พูดขึ้นมาแบบนี้ หลายคนคงนึกถึงใบหน้าสวยๆ เสียงหวานๆ โดนแม่เลี้ยงรังแก เจอแม่มดใจร้าย และที่ขาดไมได้คือเจ้าชายและการจุมพิต heart 

แต่ไม่ค่ะ วันนี้เราไม่ได้ว่ากันด้วยประเด็นนั้น ตรงกันข้าม พี่วิวจะมาชวนขุดคุ้ยนิสัยบางอย่างของเจ้าหญิงเหล่านี้ค่ะ นักวิจารณ์หนังสือบางคนนิยามว่า... พวกเธอมีนิสัยแปลกประหลาด แต่บางคนก็ถึงกับให้ความเห็นว่า... จริงๆ แล้ว นิสัยแบบนี้นี่เข้าข่ายเป็นโรคความผิดปกติทางจิตใจเลยนะ (จริงเหรอเนี่ย!!)
 
ลองไปสังเกตพร้อมๆ กับพี่วิวเลยดีกว่าค่ะ ว่าจะมีเจ้าหญิงคนไหนบ้างที่เข้าข่าย นิสัยแปลกประหลาด หรือผิดปกติทางจิตใจอย่างที่พี่ว่ามา! 

 
เครดิตภาพ :  fairytalemagazine.com
 

เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ (Snow White)

จากเรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด (Snow White and The Seven Dwarfs )
 
เจ้าหญิงสโนไวท์ ผู้มีผิวขาวดุจหิมะ ผมสีดำขลับ ริมฝีปากดุจดั่งสีแดงของกลีบกุหลาบ ความงามของเธออาจจะไม่ได้เรียกว่าโชคดีก็ได้ เพราะเธอถูกหมายปองชีวิตจากแม่เลี้ยงใจร้ายผู้หลงใหลความสวยงาม และใฝ่ฝันจะครอบครองตำแหน่ง "ผู้หญิงที่งดงามที่สุดในปฐพี" 
 
นิสัยแปลกๆอย่างหนึ่งที่มีผู้วิเคราะห์ออกมาว่า เจ้าหญิงสโนไวท์เข้าข่ายจะเป็น 'โรคกลัวเชื้อโรค (Germaphobe)' ซึ่งมีที่มาจากฉากหนึ่งในภาพยนตร์การ์ตูน เมื่อสโนว์ไวท์เข้าไปในกระท่อมของบรรดาคนแคระในครั้งแรกนั้น เธอก็ตกใจกับความรก ความเลอะเทอะ และคราบสกปรก แล้วก็ถือวิสาสะทำความสะอาดให้ซะเลย 

ตอนเด็กๆพี่วิวก็ไม่คิดอะไรหรอกค่ะ เพราะสโนว์ไวท์ร้องเพลงเพราะๆ กล่อมจนพี่วิวเคลิ้ม แต่ตอนนี้พี่วิวก็คิดว่า การที่เจ้าหญิงสโนไวท์เข้าบ้านคนแปลกหน้า แล้วเจอกับฝุ่น ความสกปรกจนเธอทนไม่ได้ ถึงขั้นไปปัดกวาดเช็ดถูให้ มันก็แปลกจริงๆนะคะ  เธอก็อาจจะทนเจ้าพวกเชื้อโรคความสกปรกไม่ได้จริงๆ ฮ่าๆๆ  ส่วนตัวพี่วิวว่าอีกโรคหนึ่งที่สโนว์ไวท์น่าจะเป็นคือ 'โรคกลัวแอปเปิ้ล' นะ เป็นพี่วิวคงไม่กล้ากินตลอดชีวิตเลย 
 
เครดิตภาพ : goodread.com
 

เจ้าหญิงเงือกน้อยแอเรียล (Ariel)

จากเรื่อง เงือกน้อยผจญภัย (The Little Mermaid)

เจ้าหญิงเงือกน้อยแอเรียลของเรา เจ้าหญิงที่เอาแต่ใจตนเอง ใจกล้า และมีความฝันที่จะต้องทำให้เป็นจริงให้ได้ นั่นก็คือ เธออยากจะอยู่บนโลกพื้นดิน เดินได้ด้วยขาทั้งสองข้างและได้อยู่เคียงข้างเจ้าชาย ที่เธอหลงรักตั้งแต่แรกพบหน้า 
 
งานอดิเรกของเจ้าหญิงเงือกรายนี้ คือเก็บสะสมของใช้ต่างๆ จากเรืออับปางใต้น้ำ เธอถึงขั้นเสี่ยงชีวิตจากฉลามตัวร้ายเพื่อไปเก็บส้อมกับไปป์เลยนะ (พี่วิวจำฉากไล่ล่าสุดมันส์นี้ได้ดีเลย) เธอเก็บของต่างๆที่หามาได้ไว้ที่ซ่อนลับของเธอ ซึ่งมีผู้วิเคราะห์บอกกันว่าสถานที่แห่งนี้นี่แหละ แสดงให้เห็นถึงอาการ 'โรคชอบสะสมสิ่งของ (Hoarding Disorder)' จะเห็นว่าแอเรียลสะสมสิ่งของจากโลกมนุษย์ไว้เยอะมากๆๆๆๆ (ใครยังนึกภาพไม่ออก พี่วิวมีคลิปวีดีโอมายืนยันด้วย) 
 

Clip


 
เนื้อเพลงท่อนหนึ่งของเพลง Part of Your World
ก็มีเนื้อร้องที่แสดงถึงความเยอะของเจ้าหญิงองค์นี้ด้วยนะ
 
You want thingamabobs? I've got twenty! อยากได้ซักอันมั้ย ฉันมีตั้ง 20 ชิ้นแน่ะ
But who cares?  No big deal. แต่ใครจะสนกันล่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตซักนิด 
I want more!” ฉันอยากได้เพิ่มอีก!! 
 
น้องๆ อาจจะคิดว่า นิสัยชอบสะสมของไม่ใช่เรื่องแปลกนี่นา (พี่วิวก็สะสมหนังสือเหมือนกันค่ะ) แต่ว่า... ขออธิบายเพิ่มเติมนิดหนึ่ง ความแตกต่างของนักสะสมกับอาการของโรคนี้ คือ นักสะสมจะเก็บเฉพาะที่สิ่งตัวเองชอบ แต่คนที่เป็นโรคนี้จะเก็บทุกอย่างค่ะ แม้ว่าของสิ่งนั้นจะไม่มีค่า แค่รู้สึกว่าจะต้องเก็บไว้ เก็บไว้ เก็บไว้เยอะๆๆ จึงจะสบายใจ เพราะตัดใจทิ้งอะไรซักอย่างไม่ได้ จนทำให้รกไปหมด แต่เจ้าตัวก็จะไม่รู้สึกว่าของมันเยอะเกินไปแล้ว เจ้าหญิงของเราก็เก็บทุกอย่างเหมือนกันนะคะ ถ้าดูจากที่ซ่อนลับของเธอ ทั้งๆ ที่บางชิ้นใช้ประโยชน์ไม่ได้เลย บางอย่างไม่รู้จักและไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่ามันใช้ทำอะไร นักวิจารณ์ก็เลยวิเคราะห์กันว่า แอเรียลน่าจะเข้าข่ายเป็นโรคชอบสะสมสิ่งของนั่นเองค่ะ

สำหรับพิ่วิวคิดว่า เพราะเธออยู่โลกใต้น้ำ เป็นเหมือนโลกอีกใบหนึ่ง พอเห็นของแปลกๆจากโลกใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็เลยอยากได้ อยากเก็บไว้ทุกอย่าง ถ้าเป็นพี่วิวได้หลุดไปในโลกอื่นล่ะก็ อาจจะทำแบบแอเรียลก็ได้นะ เก็บไว้ทุกอย่างเลย  ฮ่าๆๆ

 

เครดิตภาพ : en.wikipedia.org
 

เจ้าหญิงเบลล์ (Belle)

จากเรื่อง โฉมงามกับเจ้าชายอสูร (ฺBeauty and the Beast)
 
ภาพความประทับใจแรกที่พี่วิวมีต่อเจ้าหญิงเบลล์คือ ความสวย ฉลาด และจิตใจดี เธอชอบอ่านหนังสือมากๆ ฉากเปิดตัว จำได้ว่า... เธอเดินอ่านหนังสือไปตลอดทาง โดยไม่สนใจใครเลย ไม่คุยกับใคร และอาศัยอยู่กับพ่อเพียง 2 คนในบ้านที่ห่างไกลจากชุมชน ด้วยเหตุผลนี้ ก็เลยมีคนวิเคราะห์ว่าเธออาจจะเป็น 'โรคกลัวการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder)' ก็เป็นไปได้ 
 
เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อต้องตกเป็นตัวประกันและอาศัยอยู่ในปราสาทของอสูร เธอก็ดันตกหลุมรักเจ้าชายสัตว์ประหลาด ทั้งๆ ที่ตอนแรกเธอหวาดกลัวและส่งสายตาที่ดุดันใส่เขาตลอด เจ้าหญิงของเราก็เลยควบสองโรคเลยค่ะ สำหรับอาการแบบนี้ เขาเรียกกันว่า 'โรคตกหลุมรักผู้ลักพาตัวค่ะ (Stockholm Syndrome)' (นางเอกนิยายไทย น่าจะเป็นโรคนี้กันเยอะนะ ฮ่าๆๆ) โดยผู้ป่วยจะมีอาการผูกพันและเห็นใจผู้ที่จับตัวไป โรคนี้ได้รับการพูดถึงครั้งแรก จากเหตุการณ์ปล้นธนาคารที่เมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ที่ตัวประกันทั้ง 5 คนเกิดความเห็นใจและปกป้องโจรจากตำรวจค่ะ 
 
แต่ส่วนตัวพี่วิวคิดว่าเจ้าหญิงเบลล์ไม่น่าจะใช่ทั้งคนที่กลัวการเข้าสังคมหรือเป็นโรคตกหลุมรักผู้ลักพาตัวหรอกนะคะ เธอน่าจะแค่ไม่ได้รักคนจากภายนอก และสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนในตัวของเจ้าชายอสูร ก็เลยตกหลุมรักเขาค่ะ ส่วนนิสัยชอบอ่านหนังสือ ชอบอยู่คนเดียว อาจเพราะว่าเธอไม่รู้จะพูดเรื่องอะไรกับคนอื่น คนบางคนก็มีโลกส่วนตัวสูงค่ะ ที่สำคัญ เบลล์มีความคิดที่แตกต่างจากคนอื่น ก็อาจจะรู้สึกว่า พูดไปแล้วเขาอาจไม่เข้าใจฉัน ก็เลยไม่พูดดีกว่า จากในเรื่อง พี่วิวจำได้ว่า เบลล์จะชอบพูดคุยกับเจ้าของร้านหนังสืออย่างจริงจัง เล่าเรื่องความฝันให้เขาฟัง เพราะงั้น เบลล์น่าจะต้องการคนคุยที่ถูกคอมากกว่ากลัวการเข้าสังคมนะคะ แถมในการ์ตูน ตอนที่เธอเข้ามาในปราสาทใหม่ๆ ก็ยังเข้ากันได้ดีกับเพื่อนตัวน้อยๆ ที่เป็นเชิงเทียน ตู้นาฬิกาและถ้วยน้ำชาต่างๆ ด้วย แบบนี้คงไม่ได้กลัวการเข้าสังคมหรอกเนอะ


เครดิตภาพ : childhoodreading.com
 

เจ้าหญิงซินเดอเรลล่า (Cinderella)

จากเรื่อง ซินเดอเรลล่า (Cinderella) 
 
เจ้าหญิงซินเดอเรลล่า สาวน้อยผู้โชคร้ายที่ต้องกลายเป็นคนรับใช้ของแม่เลี้ยงใจร้ายและถูกบรรดาลูกเลี้ยงกลั่นแกล้งต่างๆ นานา จนเกือบจะไม่ได้สมหวังกับเจ้าชายเลยเชียว 

ซินเดอเรลล่าได้รับการวินิจฉัยว่าเข้าข่ายเป็น 'โรคพึ่งพาคนอื่น Dependent personality disorder (DPD)' จากแต่ละฉากในเรื่องที่เธอมีเจ้าหนูตัวน้อยคอยแก้ปัญหาให้ มีนางฟ้าใจดีเสกชุดเต้นรำและรถฟักทองให้ กว่าจะสมหวังได้เธอก้ได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ทั้งนั้นเลย นักวิเคราะห์กล่าวกันว่า ถึงแม้จะถูกกลั่นแกล้งสารพัดแต่เธอกลับไม่สามารถยืนหยัดสู้ด้วยตัวเองได้เลยสักครั้ง แถมยังทำความสะอาดบ้าน ทำอาหารอย่างดีให้เหล่าคนใจร้ายพวกนั้นเสียอีก โอ้..นางเอกตัวจริง
 
ถ้าเป็นพี่วิวล่ะก็ จะพยายามต่อสู้ด้วยตัวเองก่อนค่ะ จะต้องใช้เหตุผลต่อสู้และแสดงความสามารถให้เห็นว่าเราละจะไม่ยอมก้มหัวให้กับการรังแกคนอ่อนแอค่ะ แต่ถ้าใครเข้าข่ายโรคแบบนี้คงจะต้องไปแพทย์นะคะ เพราะว่าในชีวิตจริงเราไม่มีเหล่าเจ้าหนูและนางฟ้าคอยช่วยเหลือนะ!

เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับเจ้าหญิงทั้ง 4 คน ที่พี่วิวเลือกมาพูดคุยกันในครั้งนี้ สำหรับพี่วิวแล้วไม่ว่าจะเจ้าหญิงในเทพนิยายหรือคนทั่วๆไปอย่างพวกเรา ทุกคนก็ต่างก็ต้องเผชิญเหตุการณ์ที่ทั้งทีดีและเจ็บปวดในแต่ละช่วงชีวิต ไม่มีใครสมบูรณ์แบบและมีความสุขตลอดเวลา แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับมือและผ่านมันไปได้อย่างไรนะคะ ถ้าป่วยเป็นโรคผิดปกติทางจิตใจโรคใดล่ะก็ สามารถหาทางเยียวยารักษาได้แน่นอน พี่วิวเองก็มีเพื่อนสนิทเป็นโรคซึมเศร้าและตอนนี้เธอก็มีอาการดีขึ้นมากๆ เลยล่ะค่ะ
 
น้องๆ เพื่อนๆ ชาวเด็กดีมีความคิดเห็นกันยังไงบ้าง ตกลงเจ้าหญิงของเราแค่นิสัยแปลกๆ หรือว่าป่วยเป็นโรคผิดปกติทางจิตใจไปจริงๆ ล่ะเนี่ย มาคอมเมนต์คุยกับพี่วิวได้นะคะ 

 
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.medicalbag.com/grey-matter/the-doctor-is-in-waiting-room-diagnoses-for-disney-princesses/article/472686/
http://www.cracked.com/article_19336_6-beloved-characters-that-had-undiagnosed-mental-illnesses.html


 
พี่วิว

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

ชานมเย็น Member 9 พ.ค. 59 01:04 น. 3-1
ไม่ถือว่าเป็นโรคจิตนะ เพราะศพยังไม่เน่าเฟะ คนที่เค้ารักกัน ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งตาย ก็อาจจะจูบลาเป็นธรรมดา ถ้าข่มขืนหรือเอากับศพก็ว่าไปอีกอย่างนึง นั่นล่ะโรคจิตของจริง
0
กำลังโหลด
PimperGel Member 1 พ.ค. 59 22:11 น. 4
บนโลกนี้มีอีกโรคหนึ่งค่ะ อาการคือจะชอบรู้และวิจารณ์คนอื่นตลอดเวลา โรคสาระแนลิซึ่ม // ป้าบ ชั้นซีเรียส..
0
กำลังโหลด
ลิซึมทุกสถาน 5 พ.ค. 59 14:03 น. 5
เจ้าหญิงเงือกน้องแอเรียลนี่คลับคล้ายจะเป็นโรคเด็กเก็บกดมากกว่านะครัช ส่วนนางซินนี่จะโลกสวยริซึ่ม เอกมโนสาขาเพ้อฝัน #ขอมุดหลบในซอกแปปนะครับ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Vanezei Member 8 พ.ค. 59 16:16 น. 7

เราว่าบอกว่าเป็นโรคเนี่ยก็เกินไปหน่อยมั๊ยคะ

อย่างสโนว์ไวท์ อาจจะเป็นแค่คนชอบความสะอาดเฉยๆ(จริงๆการเข้าไปทำความสะอาดให้คนแคระอาจจะเป็นแผนขออาศัยด้วยของนางก็ได้นะ) 

เบลล์ ก็อาจจะเป็นคนเงียบๆ ที่โรงเรียนก็มีคนแบบนี้อยู่ใช่ไหม ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้เป็นโรคอย่างที่ว่า

ซินเดอเรลลา โอ้มายก้อด อันนี้คือมโนสุด ถ้าจะบอกว่านางไม่สามารถยืนหยัดต่อต้านแม่เลี้ยงได้ โนค่ะ ถามจริง ด้วยสถานภาพนั้น ต่อต้านไปแล้วจะได้อะไรคะ เผลอๆถูกแกล้งมากกว่าเดิม นางเป็นแค่เด็กสาวนะ ส่วนที่เอาแต่พึ่งพาคนอื่นจนทำอะไรเองไม่ได้นี่ก็ยิ่งพูดเกินไป เท่าที่เห็นนางก็ทำอะไรได้หลายอย่างนะ กวาด ถูนางก็ลงไปขัดด้วยตัวเอง เสื้อหนู นางก็เย็บเองนะจ๊ะ เพียงแต่ได้รับความช่วยเหลือ ซึ่ง คนเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรทุกอย่างด้วยตัวเองคนเดียวถูกมั๊ย

บางคนมีพฤติกรรมที่แปลกไปจากปกติแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นโรคทุกคน เราจะ define ว่าเขาเป็นโรค ก็ต่อเมื่อ พฤติกรรมนั้นส่งผลกระทบอย่างมาก จนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติได้ แต่เท่าที่อ่านบทความมา ก็ไม่ได้มีใครเดือดร้อนกับพฤติกรรมตัวเองมากนัก//จริงๆดูสุขภาพจิตดีเกินไปด้วยซ้ำ555โดนกดขี่ปานนั้น

0
กำลังโหลด

16 ความคิดเห็น

มัณทนา Member 29 เม.ย. 59 13:48 น. 1

ญาติทางฝั่งแม่คนหนึ่งคาดว่าคงจะป่วยเป็น "โรคกลัวเชื้อโรค"

เป็นผู้ชายนะคะ

เพราะมาที่บ้านเราทีไรจะเดินไปที่อ่างล้างมือและเปิดก๊อกน้ำเพื่อล้างมือทุกครั้ง

พี่ชายของเขาชอบเอานิสัยแปลกๆของเขามาล้อและประชดประชันประจำ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ชานมเย็น Member 9 พ.ค. 59 01:04 น. 3-1
ไม่ถือว่าเป็นโรคจิตนะ เพราะศพยังไม่เน่าเฟะ คนที่เค้ารักกัน ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งตาย ก็อาจจะจูบลาเป็นธรรมดา ถ้าข่มขืนหรือเอากับศพก็ว่าไปอีกอย่างนึง นั่นล่ะโรคจิตของจริง
0
กำลังโหลด
PimperGel Member 1 พ.ค. 59 22:11 น. 4
บนโลกนี้มีอีกโรคหนึ่งค่ะ อาการคือจะชอบรู้และวิจารณ์คนอื่นตลอดเวลา โรคสาระแนลิซึ่ม // ป้าบ ชั้นซีเรียส..
0
กำลังโหลด
ลิซึมทุกสถาน 5 พ.ค. 59 14:03 น. 5
เจ้าหญิงเงือกน้องแอเรียลนี่คลับคล้ายจะเป็นโรคเด็กเก็บกดมากกว่านะครัช ส่วนนางซินนี่จะโลกสวยริซึ่ม เอกมโนสาขาเพ้อฝัน #ขอมุดหลบในซอกแปปนะครับ
0
กำลังโหลด
ผ่านมา 7 พ.ค. 59 22:44 น. 6
ในบรรดาเจ้าหญิง ดิสนีย์ ผมชอบ ฮัวมู่หลาน มากที่สุดแล้ว เธอคนนี้กล้าหาญ ชาญฉลาด แก้ปัญหาเก่ง
0
กำลังโหลด
Vanezei Member 8 พ.ค. 59 16:16 น. 7

เราว่าบอกว่าเป็นโรคเนี่ยก็เกินไปหน่อยมั๊ยคะ

อย่างสโนว์ไวท์ อาจจะเป็นแค่คนชอบความสะอาดเฉยๆ(จริงๆการเข้าไปทำความสะอาดให้คนแคระอาจจะเป็นแผนขออาศัยด้วยของนางก็ได้นะ) 

เบลล์ ก็อาจจะเป็นคนเงียบๆ ที่โรงเรียนก็มีคนแบบนี้อยู่ใช่ไหม ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้เป็นโรคอย่างที่ว่า

ซินเดอเรลลา โอ้มายก้อด อันนี้คือมโนสุด ถ้าจะบอกว่านางไม่สามารถยืนหยัดต่อต้านแม่เลี้ยงได้ โนค่ะ ถามจริง ด้วยสถานภาพนั้น ต่อต้านไปแล้วจะได้อะไรคะ เผลอๆถูกแกล้งมากกว่าเดิม นางเป็นแค่เด็กสาวนะ ส่วนที่เอาแต่พึ่งพาคนอื่นจนทำอะไรเองไม่ได้นี่ก็ยิ่งพูดเกินไป เท่าที่เห็นนางก็ทำอะไรได้หลายอย่างนะ กวาด ถูนางก็ลงไปขัดด้วยตัวเอง เสื้อหนู นางก็เย็บเองนะจ๊ะ เพียงแต่ได้รับความช่วยเหลือ ซึ่ง คนเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรทุกอย่างด้วยตัวเองคนเดียวถูกมั๊ย

บางคนมีพฤติกรรมที่แปลกไปจากปกติแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นโรคทุกคน เราจะ define ว่าเขาเป็นโรค ก็ต่อเมื่อ พฤติกรรมนั้นส่งผลกระทบอย่างมาก จนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติได้ แต่เท่าที่อ่านบทความมา ก็ไม่ได้มีใครเดือดร้อนกับพฤติกรรมตัวเองมากนัก//จริงๆดูสุขภาพจิตดีเกินไปด้วยซ้ำ555โดนกดขี่ปานนั้น

0
กำลังโหลด
Blacklist_Devil_1676 Member 8 พ.ค. 59 19:04 น. 8
เป็นโรคเดียวกะแอเรียลแน่เลย ทุกวันนี้ชีทม.ต้นยังอยู่ในห้องเก็บของ นี่อยู่มหาลัยละนะ5555555
0
กำลังโหลด
น.ส.น.(PBW) Member 9 พ.ค. 59 11:47 น. 9

เดี๋ยวๆ...ที่ว่ามามันเวอร์ชั่นดิสนีย์ทั้งนั้นเลยไม่ใช่เหรอ? นึกว่าหมายถึงเวอร์ชั่นวรรณกรรม...

0
กำลังโหลด
ซากุระโก๊ะ Member 15 พ.ค. 59 17:50 น. 10

ที่ได้รับการวิจารณ์ว่าเป็นโรคน่าจะมาจากเว่อร์ชั่นวรรณกรรมหรือต้นแบบนะคะ จะมาเปรียบเทียบกับเว่อร์ชั่นดิสนีย์ไม่ได้หรอกค่ะเพราะเรื่องได้ถูกดัดแปลงแล้ว ของจริงดาร์กมากค่ะ

      สโนไวท์ ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกค่ะ คิดแค่ว่าปกติถ้าเราบุกรุกบ้านคนอื่นเราจะไปทำความสะอาดให้หรือไปนอนบนเตียงอย่างสบายใจเฉิบได้หรือไม่?  

       แอเรียลนี่ตอนจบคนละแบบเลยค่ะเหมือนคนละเรื่องเลย รักผู้ชายยอมเสียทุกอย่าง ต่อมาพี่น้องยอมเสียสละช่วยเหลือ สุดท้ายเห็นผู้ชายก็ทำไม่ลงยอมตาย แล้วคนข้างหลังล่ะ?

        เบลล์นี่มาเถื่อนสุดเลยแบบนอนกับอสูรทุกวัน ถ้าวันไหนไม่ได้นอนด้วยกับถึงขั้นนอนไม่หลับ คือ? แล้วนางก็ไม่ได้ลูกคนเดียวค่ะ มีแม่เลี้ยงและลูกคนอื่นอีก แต่นางคล้ายๆลูกที่ไม่ได้รับการเอาใจใส่มากกว่า นางก็ไม่ได้เก่งหรือฉลาดอะไรเลยค่ะ

        ซินเดอเรลล่า ต้องไปดูตอนจบของแม่เลี้ยงและลูกเลี้ยงแล้วจะรู้ว่านางไม่ได้เป็นคนดีอะไร เหมือนรอแก้แค้นมากกว่า คล้ายๆเก็บกดพอเหนือกว่าก็ทำตัวไม่ต่างกันแอบรุนแรงกว่าด้วย

       ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยน เนื่องจากเมื่อก่อนมีความเห็นที่ว่าเด็กก็คือผู้ใหญ่ตัวเล็กหรือก็คือไม่มีความแตกต่างของเด็กและผู้ใหญ่มากเรื่องที่เล่าให้เด็กฟังจึงมีความโหดร้ายสูงค่ะ ลองไปดูเรื่องต้นฉบับอื่นๆสิค่ะ บอกเลยดาร์กมากกกกกกกกกก  แต่ดิสนีย์เน้นเรื่องราวแบบสานฝันจบแบบแฮปปี้ค่ะ เลยบอกว่าไม่เหมือนกัน

2
ดวงดาวแห่งแสง Member 5 มิ.ย. 59 19:16 น. 10-1
ถูกอย่างที่ว่าเลย ของจริงอย่างโหดอะ คนเขียนเป็นโรคที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นแหละ
0
กำลังโหลด
มะม่วง 21 ส.ค. 59 14:21 น. 11
ขอค้านบทวิเคราะแอเรียลนะคะ. เพราะบอกว่าตามเพลง part of your world " I want more."ที่เธอพูดเธอไม่ได้หมายถึงสิ่งของนะคะ เพราะท่อนก่อนๆนี่เธอก็บอกแล้วว่า "wouldn't you think I am a girl.. A girl who has everything?" และ She got everything. เธอมีของสวยๆที่เก็บมาเยอะแยะมาก. สิ่งที่เธอต้องการคือ การไปเดินบนโลกด้านบน ลองเดินด้วยเท้าต่างหากค่ะ(I wanna be where the people are.) อ่านหนังสือ I want more จึงควรหมายถึง ฉันต้องการสิ่งที่ยิ่งไปกว่านั้นมากกว่านะคะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
_ULsafE_ Member 26 พ.ย. 60 21:51 น. 15

ทำไมชอบเอาตรรกะคนปัจจุบันไปวัดคนในอดีตทั้งๆที่สภาพสังคมมันไม่เหมือนกัน แล้วก็ตั้งเป็นกระทู้บางทีคนอ่านก็ไม่ได้ใช้วิจารณญาณให้ดีก็เชื่อเป็นตุเป็นตะ แถมไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นเวอร์ชั่นดิสนีย์นะ(ดัดแปลงจากต้นฉบับเยอะจนเป็นนิทานโลกสวย)อย่าลืมว่าทุกเรื่องเป็นนิทานพื้นบ้านมีหลายเวอร์มากกก เอามาวิเคราะห์แบบผิวเผิน ถ้าวิเคราะห์ดีๆตัวละครทุกตัวมีเหตุผลที่ทำให้มันเป็นแบบนี้นะ จะตั้งกระทู้อะไรช่วยศึกษาหาข้อมูลให้ดีดีก่อนก็ดีนะคะ ทำให้ดูน่าเชื่อถือด้วยค่ะ สู้ๆนะคะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด