สวัสดีค่าสาวๆ NUGIRL คอลัมน์ Girl Advice ประจำเดือนนี้พี่ผึ้งมี hot issue ของสาวๆ วัยรุ่นมาพูดคุยกันค่ะ ไม่ใช่เรื่องอื่นใดไกลตัวกันเล๊ยยยย….ครั้งนี้พี่ผึ้งจะมาคุยเรื่อง “อกหัก” ล้วนๆ ประเด็นนี้บอกเลยว่า “วาระแห่งชาติ” ชัดๆ ไม่ว่าอายุเท่าไหร่มัธยมต้น มัธยมปลาย หรือมหาวิทยาลัย ทุกช่วงวัยทุกคนต้องเคยอกหักมาแล้วทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่พี่ผึ้ง T^T คิดแล้วเศร้าแป๊บ!! แต่เราไม่ควรตกหลุมแห่งความเศร้าอยู่นานนักนะ เพราะยิ่งฟื้นตัวเร็วเท่าไหร่ยิ่งเป็นผลดีกับตัวเราเอง แต่!! เหนือสิ่งอื่นใดเวลาเราเลิกกับใครสักคนก็อยากจะรู้จังเลยว่าอีกฝ่ายนั้นจะเศร้าเหงาหรือทุกข์ทรมานเหมือนเรามั๊ย คอลัมน์ Girl Advice ประจำเดือนนี้พี่ผึ้งมีคำตอบมาฝากตามไปดูกันเลยจ้า
พี่ผึ้งเชื่อว่าหลายๆ คนคงทำตัวไม่ถูกและมีคำถามเยอะแยะมากมายอยากถามอีกฝ่ายหนึ่ง ก่อนอื่นลองไปดูความคิดจากตัวแทนฝ่ายชายและตัวแทนฝ่ายหญิงกันก่อนดีกว่า “เลิกกับแฟนวันแรก รู้สึกยังไงบ้าง??”
"Boy Think"
NUGIRL : เคยมีแฟนมาก่อนรึเปล่า?
NUGIRL : คบกันมานานเท่าไหร่กับคนเก่า?
ผลงานที่กำลังจะมีเร็วๆนี้คือ love song Love seriesครับ เป็นโปรเจคใหม่ของทาง GMM Channel
NUGIRL : เราเป็นคนขอยุติความสัมพันธ์เองรึเปล่า?
NUGIRL : อ้าวแล้วตอนนั้นเราทำยังไง?
เราก็แค่เคารพในสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจ สิ่งที่เราคุยและตกลงกันแล้ว หรืออาจจะเหมือนกันที่ทุกคนบอกว่ามันต้องใช้เวลาแต่กับบางคนเวลาก็ไม่ได้ช่วยอะไรก็ได้ จริงๆผมรู้สึกว่า มันไม่จำเป็นที่จะต้องลืมเขาก็ได้ครับ เพราะเราเคยมีความทรงจำดีๆด้วยกัน เราแค่เก็บช่วงเวลาที่ดีๆของเราทั้งสองคนไว้ก็ได้ครับ
-----------------------------------------------------------
ดีกรีความเสียใจ หลังจากเลิกกับแฟนวันแรก : 75%
ตัวช่วยระงับความเสียใจ : ใช้เวลา
เลิกกันแล้วกลับมาเป็นเพื่อนกันได้อีกมั๊ย : 50%
------------------------------------------------------------
สาวๆ หลายคนอาจคิดว่า “เวลาที่ต้องเลิกกัน” หนุ่มๆ เค้าไม่เสียใจกันหรอก!! แต่จากคำตอบด้านบนของตัวแทน Boy think ก็เห็นได้ว่า หนุ่มๆ เค้าก็มีมุมเสียใจเหมือนกันนะ แต่ทุกคนก็ต้องมีวิธีรับมือในรูปแบบของตัวเองยิ่งถ้าเป็นฝ่ายชายด้วยแล้ว ศักดิ์ศรีนี่ละสำคัญโดยเฉพาะถ้าผู้หญิงเป็นฝ่ายยุติความสัมพันธ์ด้วยแล้ว ฝ่ายชายก็จะเคารพในการตัดสินใจด้วยศักดิ์ศรีลูกผู้ชายด้วยแล้วเค้าก็ไม่สามารถร้องไห้ฟูมฟายโวยวายออกอาการได้เหมือนฝ่ายหญิง ด้วยเหตุผลนี่ละที่ทำให้สาวๆ ชอบมองว่า “เลิกกันทีไรไม่เคยเห็นผู้ชายเสียใจบ้างเลย” ความจริงแล้วพวกเค้าก็เสียใจนะคะแต่แสดงออกมากไม่ได้นั่นเองค่า
NUGIRL : คบกันมานานเท่าไหร่กับคนเก่า?
โหยย อันนี้เป็นอะไรที่รู้สึกเฟลมากๆ คบกันได้ 1 อาทิตย์ค่ะ ฮ่าๆ
NUGIRL : เราเป็นคนขอยุติความสัมพันธ์เองรึเปล่า?
NUGIRL : แล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
รู้สึกเฟลบ้างนิดหน่อยค่ะ เสียความมั่นใจไปเลยแบบว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด
------------------------------------------------------------
ตัวช่วยระงับความเสียใจ : ตัวเอง
เลิกกันแล้วกลับมาเป็นเพื่อนกันได้อีกมั๊ย : 50%
--------------------------------------------------------------
ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยเลิกกับแฟนปุ๊บ!! เสียใจและฟูมฟายเกินร้อยแน่นอนนอกจากนี้ยังคิดมากมโนไปไกลซึ่งอาการแบบนี้ยิ่งตอกย้ำและทำร้ายตัวเองให้เสียใจซ้ำๆ เข้าไปอีก เคยมีคนบอกพี่ผึ้งว่า "ไม่มีใครทำร้ายเราได้นอกจากตัวและใจของเราเอง" การที่เรายิ่งย้ำคิดย้ำทำในเรื่องที่เราเสียใจอยู่แล้วสาวๆ ทราบมั๊ยเอ่ยว่ายิ่งเป็นการให้ความสำคัญกับสิ่งนั้น ยิ่งคิดยิ่งนึกถึง ยิ่งนึกถึงยิ่งเสียใจ ยิ่งเสียใจยิ่งกังวลและทรมาน พยามทำตัวเองให้มีคุณค่าหาอะไรทำไปเรื่อยๆ งานบ้าน อยู่กับเพื่อน ดูหนังฟังเพลง ออกไปเที่ยว มีเรื่องต้องทำต้องคิดตลอดเวลาจะได้ไม่ฟูมฟายและจมอยู่กับความเสียใจนานๆ การเลิกรากันแน่นอนเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเสียใจเพราะเราเคยมีความทรงจำดีๆ ร่วมกัน แต่วัยรุ่นอย่างพวกเรา(พี่ผึ้งนี่กล้าใช้คำว่าพวกเรา >o<) เป็นช่วงวัยที่มีเรื่องต้องโฟกัสอีกหลายอย่างอย่าเสียเวลากับเรื่องใดเรื่องหนึ่งนานๆ จะรู้สึกเสียดายเวลาที่หลังนะจ๊ะ
8 ความคิดเห็น
คนที่รู้สึกมากกว่าก็ต้องเสียใจมากกว่าเป็นธรรมดาค่ะ สิ่งทำตอนเลิกกันแล้วคืออย่าทำให้ตัวเองแย่กว่าเก่า ถ้าเขาไม่รักเรา เราก็ต้องรู้จักรักตัวเอง ทำตัวให้ยุ่งจะได้ไม่ต้องมีเวลาไปคิดถึงเขา มีคนเป็นร้อยเป็นล้าน อย่าจมปลักกับแค่คนๆเดียวเลย สู้
เราก็เคยมีแฟนนะ ตอนแรกม.2 เทอม 2 (ดูแก่แดดมากอ่ะ) คบกับรุ่นพี่ที่รู้จักมาก่อน ก็เลยดูเหมือนไม่ค่อยมีปัญหา สักพักใหญ่เราก็บอกเลิกเขาด้วยเหตุผลอะไรก็จำไม่ได้ (สมองมีแต่ขี้กลากก็อย่างนี้แหละ) มาอีกครั้งก็ตอนเราอยู่ม.3 กลางเทอม 1 หลังวันเกิดเขา เราก็เปิดใจคุยกับเขาแล้วก็คบกันอีกครั้ง เขาบอกว่า 'รอคนนี้คนเดียว' หัวใจก็กลับมาพองโตอีกครั้ง แต่! นานเข้า เรื่องของม.3 ก็เริ่มมีเยอะขึ้น แถมช่วงเดือนกรกฏาคม (ถ้าจำไม่ผิด จำได้เลยว่าต้องส่งงาน ฮ่าๆ) เราก็ดันไปนัดเขาว่า 'ไปดูหนังเรื่องไททันด้วยกัน' ชิบหายค่ะ งานก็กองอยู่ตรงหน้า ยังจะไปดูหนังอีก ก่อนออกไปพบเขา เราโกหกแม่ว่า 'ไปดูหนังคนเดียว' แน่นอนว่าตอนแรกก็งั้นๆ แต่พออยู่กับเขาเหมือนเราอยู่กับโจรเลย รู้สึกกลัวและอยากกลับบ้านทันที เราเริ่มอดทนไม่ไหวเลยบอกเขาว่า 'จะไปเข้าห้องน้ำ' เราก็รีบเดินเข้าห้องน้ำให้เร็วที่สุดแล้วก็.......งึกๆ ร้องไห้เบาๆ (ร้องดังไม่ได้ เดี๋ยวคนตกใจ) แถมห้างใจดีเปิดเพลงปลอบใจ 'ถ้าเธอยังรู้สึก - แสตมป์' จากที่ไหลช้าๆ กลายเป็นท่อประปาแตก คุณเข้าใจใช่มั้ย? เราใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานเป็นครึ่งชั่วโมง ก่อนที่หนังจะฉายในอีก 10 นาที พอดูจบเราก็ไปรอรถเมล์หน้าห้าง เราก็คิดอยู่ว่าจะเอายังไงดี? เดทแรกด้วยค่ะ มาไม่สวยเลย แล้วสวรรค์ก็ทรงทราบ ส่งรถเมล์ที่คนขึ้นเยอะมากที่สุดมา เราก็บอกเขาว่า 'ไปก่อนนะ' แล้วก็วิ่งแซงขึ้นรถเมล์ทันที รู้สึกปลอดภัยทันที หลังจากนั้นเราก็เล่นไม่ตอบแชท บ้างก็อ่านแล้วไม่ตอบมาตลอด 5 เดือน และแล้วจุดจบความรักครั้งที่ 2 ก็มาถึง ก่อนวันคริสต์มาสปีที่แล้วเราก็แชทไปบอกเลิก เอาจริงๆ ไม่ว่าจะเจอหน้าหรือไม่เจอก็กลัวทั้งนั้น เราก็เริ่มโกรธนิดนึงประมาณว่า 'เล่นไม่ตอบแบบนี้ ไม่รู้ตัวหรอ?' (ดูแรงเนอะ) เขาก็ขอโทษ เราก็บอกตรงๆว่า 'ถ้าความรู้สึกมันไม่มีกันแล้ว จะอยู่ทำไม จริงมั้ย?' เขาก็โทษตัวเองไปเรื่อย เขาสาราพว่าตอนดูหนังเขาอยากจะจับมือเราแต่อาย เราก็บอกว่า 'ไม่ทำอย่างนั้นหรอก จบแล้วนะ' คำตอบสุดท้ายของแชทคือ...ถ้ามันดีกับเหมยนะ
เราไม่ร้องไห้เลย รู้สึกโล่งใจ
ปัจจุบันเราก็คิดอยู่นะว่าดูงี่เง่าไป แต่บางทีถ้าอยู่แบบนี้ แบบที่ไม่มีแฟนมันจะดีกว่า ถ้าได้กลับไปคบกันอีกครั้ง เราก็ไม่เอา เราอยากจะทำเรื่องส่วนตัวโดยที่ยังไม่มีใครเข้ามาในชีวิต เราไม่พร้อมในเรื่องนั้น ตอนนี้เราโฟกัสไปที่เรื่องเรียนก่อน ดูท่าทางพอไปไหวค่ะ
ขอบคุณที่อ่านนะคะ
เปรียบเทียบไม่ได้หรอก
ถ้าเป็นเรา เราจะไปหาคนใหม่ เอาให้ดีกว่าคนเก่า
T^T เต้มารักกับกูเถอะนะ กูไม่เข้าใจทำไม-เข้าใจกูผิดฮือๆๆๆๆๆ มารักเหมือนนะๆๆๆ