สวัสดีค่ะ ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับการแอดมิชชั่น ทุกเวลา ทุกนาที มันช่างมีความหมายยิ่งนัก โดยเฉพาะการจัด 4 อันดับแอดมิชชั่น บางคนนี่เปลี่ยนรายวันกันเลยทีเดียว เลือกไม่ถูกว่าจะเรียนที่ไหนดี คณะอะไรดี บางคนยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าอยากเรียนอะไร
ล่าสุด ทาง สอท. ก็ได้เปิดขายและโหลดระเบียบการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครที่ยังไม่มีรายละเอียดก็เข้าไปดูได้เลย แต่ใครที่มีแล้ว ก็ต้องวางแผนแล้วเช่นกันค่ะว่าจะเลือกอะไรดี อย่าง กัปตันธันย์ BRAND'S Admission Reality 7 ก็ได้ตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมายของตัวเอง เลือกคณะอื่น ที่ไม่ใช่คณะภารกิจ เพราะหาคำตอบให้ตัวเองได้แล้วว่าอะไรที่ใช่ที่สุด วันนี้พี่แป้งก็มี 5 คำถามที่เราต้องถามตัวเอง ก่อนที่จะเลือกคณะในรอบแอดมิชชั่น มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ
1. ตัวเราถนัดอะไร
กลับมามองที่ตัวเองก่อนเลยว่า "เราถนัดอะไร" แต่ละคนมีความถนัดไม่เหมือนกัน เช่น เราถนัดวิชาภาษาอังกฤษมาก ไม่ค่อยถนัดวิชาเลขเลย ถึงขั้นเกลียดด้วยซ้ำ แน่นอนว่าคณะที่น้องๆ ไม่ควรเลือกเรียนเลยก็คือสายคำนวณ บัญชี เศรษฐศาสตร์ วิศวฯ โบกมือลาได้เลย ยิ่งถ้ารู้ว่าถนัดภาษาอังกฤษมากนะ ไปเรียนสายภาษาเลยจ้า โบราณคดี อักษรศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ เอาให้โดดเด่นไปเลย
2. ตัวเราชอบอะไร
สิ่งที่ชอบ คือชอบ อาจจะไม่ต้องถนัดมากก็ได้ อย่างเช่น ชอบกฎหมายมาก แต่ไม่ได้ถนัดการเขียนภาษากฎหมายเลย แต่ชอบที่จะเรียนรู้ สนใจในด้านนี้ ก็ไปคณะนิติศาสตร์ได้เลยค่ะ ถ้าคำตอบในข้อ 1 และ ข้อนี้ เป็นคำตอบเดียวกัน จะเป็นอะไรที่บิงโกมาก แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ต้องเลือกแล้วล่ะ ว่าเราจะยึดตามความถนัด หรือจะสู้ไปเพื่อความชอบของตัวเอง เพราะเรียนสิ่งที่ชอบยังไงก็มีความสุข อยากไปเรียน อยากศึกษาเพิ่มไปอีก
3. สิ่งที่ฝันคืออะไร
คำตอบส่วนใหญ่ของน้องๆ เมื่อมีคนถามสิ่งที่ฝัน มักจะสวนทางกับความเป็นจริง หลายคนใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นหมอ เป็นหมอฟัน แต่ในความเป็นจริงแล้วคะแนนเราไม่ถึง เมื่อได้คพตอบแบบนี้ก็ต้องเลือกที่จะตัดความฝันทิ้ง แล้วมองดูคณะอื่นที่เราสนใจ อาจจะย้อนขึ้นไปถามตัวเองว่า เราชอบอะไร เราถนัดอะไร เพื่อเป็นตัวเลือกในการเลือกคณะต่อไปได้ค่ะ
4. ความเป็นไปได้ มีมากน้อยแค่ไหน
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ทุกสิ่งที่เราคิดแล้วมันจะเป็นไปได้หรอกค่ะ ตราบใดที่เรายังอยู่กับความฝัน แล้วดื้อดึงที่จะเลือกคณะนั้นทั้ง 4 อันดับโดยที่คะแนนติดลบสีแดงประดุจไฟจราจรแล้วล่ะก็ ยังไงก็เป็นไปได้ยากที่จะสอบติด เพราะฉะนั้นก็ต้องกลับมาถามตัวเองใหม่ว่า สิ่งนั้นที่เราคิด มันเป็นจริงได้หรือเปล่า มีความเป็นไปได้แค่ไหน ถ้าดูแล้วมันเป็นไปไม่ได้ ก็เลือกที่ตัดทิ้งบางส่วน เพื่อให้ตัวเองก้าวไปต่อดีกว่านะคะ
5. มีเงื่อนไขอะไรบ้าง?
ปัญหาระดับชาติกับเงื่อนไขของการเลือกคณะ แต่ละคนมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน เช่น ต้องเลือกคณะที่กลับมาช่วยงานที่บ้านได้, ต้องเลือกสถาบันใน กทม., ต้องเลือกคณะที่พ่อแม่อยากได้ เป็นต้น เงื่อนไขตรงนี้ถ้ามันตรงกับความชอบ ความถนัด หรือความฝันของเรา และมันเป็นไปได้ มันจะเป็นอะไรที่เพอร์เฟคมาก แต่ถ้าไม่ใช่แบบนั้น กว่าจะเลือกคณะได้ต้องนอนเอามือก่ายหน้าผากกันหลายคืนทีเดียว สุดท้ายต้องเอาเงื่อนไขมาตัดสินใจในการเลือกคณะ เอาแบบที่สบายใจที่สุด และสบายใจทุกฝ่ายนะคะ
ใครที่หาคำตอบให้ตัวเองได้ครบทั้ง 5 ข้อแล้ว พี่แป้งมั่นใจว่าจะต้องได้คำตอบแน่ๆ ว่าเราควรจะเรียนคณะอะไร ทีนี้ก็มาดูคะแนนที่เรามีว่าสามารถเรียนที่ไหนได้บ้าง ใครที่ไม่รู้ก็หาได้ง่ายๆ ที่ "โปรแกรมคำนวณคะแนน 59" เลือกฟังก์ชั่นที่ 2 ได้เลย มีครบทุกสถาบันที่เปิดสอนในคณะนั้นๆ ค่ะ
สุดท้ายนี้ ใครที่ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าอยากเรียนคณะไหน ต้องรีบแล้วนะคะ เพราะน้องๆ สามารถสมัครแอดมิชชั่นกลางได้เพียงช่วงวันที่ 10-17 พ.ค.นี้เท่านั้น หลังจากนี้ก็ไม่ได้มีรับตรงมาทุกคณะนะ เพราะฉะนั้น รีบเลยค่ะ หาตัวเองให้เจอ แล้วสู้กับมัน สู้ไปด้วยกันนะคะ :)
3 ความคิดเห็น
พี่คะถ้าชอบคณิต-วิทย์และถนัดทางคำนวณด้วยมากกก แต่ไม่ถนัดทางด้านภาษาแล้วอยู่สายศิลป์ แต่อยากเข้าคณะที่เป็นแบบที่ต้องมีคำนวณด้วยมันจะไปรอดไหมคะ