สวัสดีน้องๆ Dek-D ที่น่ารักทุกคนค่ะ การเดินตามฝันไม่ใช่เรื่องเล่นฉันใด การซิ่วก็ไม่ใช่เรื่องเล่นฉันนั้น กว่าที่แต่ละคนจะตัดสินใจได้ว่า เอาล่ะ! ฉันจะซิ่ว ฉันจะเริ่มต้นใหม่ ต้องใช้เวลาคิดทบทวนนานพอดู แต่พอไปขอพ่อแม่เท่านั้นแหละ โดนค้านกลับมาซะหน้าเหวอ


 
        วันนี้พี่เมก้าเลยตั้งใจพามาดู "5 สเต็ป 5 เทคนิค ขอพ่อแม่ซิ่ว" เริ่มต้นแบบ Step By Step กันเลยทีเดียว หวังว่าเทคนิคต่างๆนี้จะช่วยลดความเครียดของน้องๆได้บ้าง เวลาไปเจรจากับคุณพ่อคุณแม่นะคะ ถ้าพร้อมแล้วตามไปอ่านเลย Let's Go!

5 สเต็ป "ขอพ่อแม่ซิ่ว"

สเต็ปที่ 1 : เริ่มจับทางพ่อแม่
        ก่อนที่จะขอคุณพ่อคุณแม่ ควรจับทางให้ถูกนะคะว่าท่านมีทัศนคติเกี่ยวกับการซิ่วยังไง ถ้าดูไม่ออกเนี่ยเราจะไม่มีทางรู้เลยว่าต้องงัดไม้ตายไหนมาใช้ให้ได้ผล ควรจะพูดตรงๆ หรืออ้อมโลกไปก่อนดีกว่า
        วิธีการก็ง่ายๆ แค่ลองชวนพ่อแม่คุยเกี่ยวกับเรื่องซิ่ว
คุยเหมือนเรื่องปกติทั่วๆ ไป อาจจะเล่าประสบการณ์ของรุ่นพี่ที่เคยซิ่วให้พอมองภาพออกว่า ซิ่วคืออะไร ทำไมต้องซิ่ว ซิ่วแล้วมันดียังไง ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไร แล้วเราค่อยมาดูอารมณ์พ่อแม่ค่ะว่าโอเคกับการซิ่วมั้ย ถ้าท่านออกอาการฟึดฟัดอารมณ์เสียก็เตรียมเผื่อใจไว้เลย T_T

สเต็ปที่ 2 : ค่อยๆ เผยความในใจ
        เรื่องซิ่วนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน น้องๆ จะเดินโต้งๆ ไปพูดต่อหน้าคุณพ่อคุณแม่ว่า "(หนู/ผม)จะซิ่ว" มันไม่ได้ ใจเย็นๆ ค่ะ ให้เวลาท่านได้ตั้งตัวสักพัก เดี๋ยวจะตกใจตาค้างเป็นลมล้มพับไปซะก่อน ลองแง้มๆ สิ่งที่อยู่ในใจออกมาเป็นเชิงพูดปรึกษาไปก่อนก็ได้ว่า ช่วงนี้เครียดเรื่องเรียนมาก รู้สึกไม่ค่อยดีเลย พูดบ่อยๆ เข้า เดี๋ยวท่านก็สัมผัสได้เองว่าลูกกำลังกังวล พอถึงเวลาที่เราขอซิ่วอย่างน้อยพ่อกับแม่ก็รับรู้ปัญหาแล้ว โอกาสที่จะท่านจะเห็นใจยอมให้ซิ่วมีสูงมาก!

สเต็ปที่ 3 : เผชิญหน้าสู้ความจริง
        น้องบางคนเครียดสะสมมานาน ไม่กล้าบอกคุณพ่อคุณแม่ไปสักที ถ้าเรามั่นใจจริงว่าจะซิ่ว ไม่มีความรู้สึกครึ่งๆ กลางๆ นะคะ เดินหน้าลุยเลยค่ะ สารภาพกับท่านไปตรงๆ ว่าอยากซิ่ว แต่ก่อนจะสารภาพโปรดเตรียมเหตุผลและการตอบคำถามที่ดีไว้ด้วยนะคะ ไม่ใช่พ่อแม่ถามอะไรแล้วเอาแต่นั่งอึกอักหน้าซีดนะ แบบนั้นภารกิจล้มเหลวแน่ๆ เหตุผลต้องหนักแน่น คำอธิบายต้องดี ผู้ใหญ่รับฟังเสมอ ถ้าสิ่งที่เราทำมีเหตุและผลที่ยอมรับได้ค่ะ ผ่านตั้งแต่สเต็ปที่ 3 อิอิ 


 
สเต็ปที่ 4 : โน้มน้าวใจเข้าไว้
        ปรบมือให้กำลังใจ คนที่ผ่านมาถึงด่านนี้ค่ะ ฮูเร! อย่าเพิ่งท้อแท้นะคะน้องๆ ถ้าเกลี้ยกล่อมยังไงท่านพ่อท่านแม่ก็ยังยื่นคำขาดว่าไม่ให้ซิ่ว เราต้องหาวิธีอื่่นมาสู้ค่ะ พยายามโฆษณาเชิญชวนไปเยอะๆ ว่า คณะที่เราอยากเข้านี้เลิศเลอเพอร์เฟคขนาดไหน ถ้าได้เรียนรับรองไม่มีคำว่าผิดหวัง ฝากอนาคตไว้ได้แน่นอน เชื่อว่าร้อยทั้งร้อย พ่อจ๊ะแม่จ๋าเห็นเราตั้งใจจริงแบบนี้ "ยอม" ปล.โน้มน้าวได้แต่อย่าเผลอไปคาดคั้นนะคะ เดี๋ยวเกิดรำคาญขึ้นมา งานเข้า!

สเต็ปที่ 5 : เรียกหาซูเปอร์ฮีโร่
        ผลสุดท้าย เมื่อน้องๆ รู้ว่าตัวเองนั้นไม่สามารถพึ่งพาได้แน่นอน เป่าหูยังไงพ่อกับแม่ก็ยังยืนกรานปฏิเสธท่าเดียว เราก็ต้องไปพึ่งคนอื่นค่ะ ลองหาบุคคลที่น่าเชื่อถืออย่างอาจารย์ คุณลุงคุณป้า คุณตาคุณยาย ฯลฯ มาช่วยคุยให้ เพราะท่านเหล่านี้จะรู้วิธีเจรจาอย่างเหมาะสมและเป็นเหตุเป็นผลมากกว่าเราที่บางครั้งไม่รู้จะอธิบายให้พ่อแม่เข้าใจได้ยังไง พี่เมก้าว่าประสบการณ์จากรุ่นพี่เด็กซิ่วที่ซิ่วจนประสบความสำเร็จมาแล้วก็น่าจะช่วยน้องๆ ได้นะคะ ลองแบ่งปันให้ท่านฟังดูค่ะ อย่างน้อยท่านจะได้สบายใจขึ้นว่าการซิ่วไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้าเรามีวิธีเตรียมตัวที่ดี

5 เทคนิค "ขอพ่อแม่ซิ่ว"

เทคนิคที่ 1 : วิธีพูดต้องเลิศ
        ก่อนจะขออะไรจากคนสำคัญ น้องๆ ย้ำคำพี่เมก้าให้ขึ้นใจเลยนะคะ คนฟังต้องการฟังคำพูดที่ดีค่ะ พยายามคิดหาถ้อยคำที่เหมาะสมเวลาคุยกับพ่อแม่ รู้จังหวะเวลาสักนิดหนึ่ง ถ้าท่านเหนื่อยๆ มาจากทำงานก็รอไปก่อนยังไม่เหมาะ จับตามองไว้อารมณ์ดีเมื่อไหร่ค่อยเข้าไปคุย ที่สำคัญคุมโทนน้ำเสียงที่ใช้ให้เป็น ถ้าพ่อแม่ตอบกลับมาไม่ตรงใจเรา อย่าไปเถียงฉอดๆๆ ให้รู้ไว้ค่ะว่าความคิดยังไม่ตรงกัน สู้เก็บเอามาปรับหาวิธีอธิบายตอนคุยครั้งต่อไปดีกว่า


 
เทคนิคที่ 2 : วางท่าทางเอาจริง
        บางครั้งการกระทำก็สำคัญกว่าคำพูด เพราะมีความชัดเจนและมีน้ำหนักมากกว่า จะขอพ่อแม่ให้ยอมรับการซิ่วของเรา น้องๆ ต้องแสดงให้ท่านเห็นค่ะว่าเรามีความมุ่งมั่นมากพอ ครั้งนี้เราไม่ได้มาเล่นๆ นะ เราเอาจริง! ถ้าจุดยืนของน้องๆ ชัดเจน พี่เมก้าเชื่อว่าอย่างน้อยพ่อกับแม่ก็วางใจไปได้สเต็ปหนึ่งว่า การเริ่มต้นใหม่ของเราครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องสูญเปล่า แต่ลูกของท่านกำลังสู้เพื่อความฝันและอนาคตของตัวเองที่มันจับต้องได้จริงๆ

เทคนิคที่ 3 : เหตุผลมากกว่าอารมณ์
        "อยากซิ่ว แค่ความรู้สึกไม่พอเหรอ เหนื่อย! ไม่ไหวแล้ว!" พี่เมก้าขอให้น้องๆเก็บอารมณ์ไว้เลยค่ะ รู้ว่าการซิ่วเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่เรามามัวนั่งฟูมฟายเรียกดราม่า มันไม่ช่วยอะไรจริงๆ แทนที่จะงัดอารมณ์ออกมาใส่พ่อแม่ เปลี่ยนเป็นหาเหตุผลมาคุยกันดีกว่า น้องๆ ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าทำไมเราถึงเลือกที่จะซิ่ว มีเหตุผลมาสนับสนุนความคิดที่จะซิ่วของเรามั้ย แล้วเหตุผลนั้นมีน้ำหนักเพียงพอที่พ่อแม่จะยอมรับได้รึเปล่า ถ้าเหตุผลเราดีทุกอย่างก็ผ่านฉลุย!           
เทคนิคที่ 4 : ประนีประนอมยอมความ
        สิ่งที่พี่เมก้าอยากให้น้องๆ มีเวลาคุยกับผู้ใหญ่ คือความโอนอ่อนค่ะ เราไม่ได้มาสู้กับพ่อแม่นะคะ เรามาสู้เพื่อความฝันของตัวเอง ถ้าคิดที่จะซิ่วจริงๆ น้องต้องเป็นฝ่ายยอมบ้าง พ่อแม่ของแต่ละคนใช่ว่าจะคุยง่ายเสมอไป บางทียอมให้ซิ่วแล้วแต่อาจจะสร้างเงื่อนไขกับเรา เช่น ห้ามซิ่วอยู่บ้านต้องไปเรียน หาเงินมาจ่ายค่าสอบเอง ให้ซิ่วแค่ปีเดียวเท่านั้น ฯลฯ ถ้าเจอเคสแบบนี้แม้ใจจะค้านเต็มที่ก็ยอมไปก่อนเถอะค่ะ ถือซะว่าอย่างน้อยก็โชคดีที่ได้ซิ่ว เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง     


 
เทคนิคที่ 5 : ใจหนักแน่นมั่นคง
        สุดท้ายนี้ ถ้าหัวเด็ดตีนขาดยังไงพ่อกับแม่ก็ไม่โอเค ไม่ยอมให้ซิ่วลูกเดียว พี่เมก้าขอบอกว่า "ลุยเลย!" ห้ามท้อเด็ดขาด เพียงแต่น้องๆ อาจจะต้องยอมเหนื่อยมากหน่อย เหมือนรุ่นพี่ที่อยู่ในสภาวะ "แอบซิ่ว" น่ะค่ะ รู้ว่าพ่อแม่ไม่ให้ซิ่วแต่มันอยู่ในจุดที่ไม่ซิ่วไม่ได้เลยขอสู้ต่อ หลายๆ คนถึงขั้นเรียนไปด้วยเตรียมซิ่วไปด้วย รอให้สอบเสร็จค่อยบอกทีเดียวว่าทำสำเร็จแล้ว ซึ่งพอถึงวันนั้น พี่เมก้าเชื่อว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนต่อว่าที่เราซิ่วหรอกค่ะ มีแต่ความเข้าใจและยินดี เพราะความพยายามไม่เคยทำร้ายใครเนอะ หนักแน่นเข้าไว้ค่ะน้องๆ

        นี่ก็เป็น "5 สเต็ป 5 เทคนิค ขอพ่อแม่ซิ่ว" ที่พี่เมก้านำมาฝากน้องๆ ที่กำลังคิดจะซิ่วทุกคนนะคะ อย่างที่บอกถ้าเรามีเหตุผลที่ดี ประกอบกับตั้งใจจริง ยังไงพ่อกับแม่ก็ต้องเข้าใจเราค่ะ ไม่มีใครหวังดีต่อเราได้เท่าท่านทั้งสองอีกแล้ว ขอเป็นหนึ่งในกำลังใจให้น้องๆ ไม่ต้องท้อ ไม่ต้องเครียด สู้ๆค่ะ 

 
พี่เมก้า
พี่เมก้า - Columnist นักข่าวสายการศึกษา ที่มีความสุขกับการแต่งฟิค อ่านฟิค เพ้อถึงยัมมี่ฟู้ดไปวันๆ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด