สวัสดีค่ะ น้องๆ ม.6 ก็เข้าสู้การเป็นเด็กแอดมิชชั่น 60 เต็มตัวแล้วนะคะ เตรียมตัวกันไปถึงไหนแล้วบ้าง ใครที่ตามหาคณะที่อยากเข้าเจอแล้วก็รีบฟิตอ่านหนังสือไว้ตั้งแต่วันนี้ได้เลยค่ะ บอกเลยว่าช่วงชีวิต ม.6 มันเร็วมาก สอบเยอะมาก กิจกรรมเยอะมาก ถ้าเริ่มช้าอาจจะลำบากช่วงสอบได้นะ
ก่อนที่จะไปถึงแอดมิชชั่นตอนเดือนพฤษภาคมปีหน้า พี่แป้งอยากให้น้องๆ มารู้จักกับรับตรง 60 ที่ต้องเจอแน่ๆ กันก่อน ว่าในปีนี้จะมีรับตรงรูปแบบไหนบ้างที่ได้เจอ เพราะในปีนึงมีรับตรงเปิดเกือบ 500 โครงการเลยค่ะ พร้อมกันหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!!
1. รับตรงทั่วประเทศ
รับตรงโครงการใหญ่ที่เปิดรับน้องๆ จากทั่วทุกภาค ทุกจังหวัด สมัครได้เลยโดยไม่ต้องแคร์ว่าเราเรียนอยู่ที่ส่วนไหนของประเทศ ซึ่งรับตรงทั่วประเทศแบบนี้จะเป็นโครงการที่มีจำนวนที่นั่งในการเปิดรับเยอะมาก ส่วนใหญ่ก็เป็นหลักพันเลยค่ะ แต่การแข่งขันก็สูงอยู่เหมือนกันนะ รับตรงทั่วประเทศจะเป็นการรับรวมโดยทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้รับ ระบบจะใหญ่มาก ถ้ากรอกข้อมูลพลาดอาจจะเสียสิทธิ์ได้นะจ๊ะ
เกณฑ์คัดเลือก : รูปแบบในการคัดเลือกมีหลายแบบ เช่น GAT PAT, วิชาสามัญ, สอบสัมภาษณ์, ใช้ Portfolio, สอบข้อเขียนโดยโครงการจัดเอง
ตัวอย่างรับตรง :
รับตรงปกติ จุฬาฯ
โครงการรับตรง ม.ธรรมศาสตร์
รับตรง มศว
รับตรง KU Admission ม.เกษตรศาสตร์
2. รับตรงพื้นที่ / โควตาพื้นที่
รับตรงแบบนี้จะเป็นรับตรงที่แบ่งแยกพื้นที่ของผู้สมัครค่ะ ซึ่งจะมีทั้งแบบที่กำหนดภูมิลำเนาของผู้สมัคร คือ ในทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดที่กำหนด ถึงแม้ว่าตัวจะเรียนอยู่ในจังหวัดอื่น และแบบที่กำหนดพื้นที่ที่เรียนอยู่ ถึงแม้ว่าทะเบียนบ้านจะไม่ได้อยู่ในจังหวัดที่กำหนดก็ตาม โดยจะมีทั้งรับตรงที่เป็นเป็นภาค เช่น 17 จังหวัดภาคเหนือ, 14 จังหวัดภาคใต้ และมีแบบพื้นที่ใกล้เคียงมหาวิทยาลัย หรือเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องน่าเศร้าของรับตรงแบบนี้คือ ไม่ค่อยรับเด็กกรุงเทพฯและปริมณฑล T_T
เกณฑ์คัดเลือก : รูปแบบในการคัดเลือกมีหลายแบบ เช่น ใช้ GAT PAT, วิชาสามัญ, สอบสัมภาษณ์, สอบข้อเขียนโดยโครงการจัดเอง
ตัวอย่างรับตรง :
รับตรง 17 จังหวัดภาคเหนือ ม.เชียงใหม่
รับตรง 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ม.ขอนแก่น
รับตรง 14 จังหวัดภาคใต้ ม.สงขลานครินทร์
รับตรง 12 จังหวัดภาคตะวันออก ม.บูรพา
โควตา 30 จังหวัด ม.เกษตรศาสตร์
โควตา 28 จังหวัด ม.ศิลปากร
3. รับตรงความสามารถพิเศษ
เป็นรับตรงที่มีเกณฑ์การคัดเลือกโหดอยู่เหมือนกันค่ะ กับรับตรงความสามารถพิเศษ ซึ่งก็แยกย่อยว่าเป็นความสามารถพิเศษด้านไหน เช่น กีฬา, ดนตรี, นาฏศิลป์, ศิลปะ เป็นต้น รับตรงแบบนี้เปิดรับเพื่อหาผู้ที่มีความสามารถพิเศษและเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยในกิจกรรมด้านนั้นๆ คู่แข่งไม่เยอะเท่ารับตรงแบบอื่น แต่แต่ละคนก็งัดความสามารถเพื่อมัดใจกรรมการกันสุดฤทธิ์ ถ้าใครเล็งรับตรงแบบนี้ไว้รีบฝึกความสามารถตั้งแต่วันนี้เลยจ้า
เกณฑ์คัดเลือก : สอบปฏิบัติความสามารถ, สอบข้อเขียนเกี่ยวกับความสามารถ, GAT PAT, วิชาสามัญ, สอบสัมภาษณ์, Portfolio
ตัวอย่างรับตรง :
รับตรง นร.ที่มีความสามารถพิเศษ ม.บูรพา
โควตากีฬา ม.อุบลราชธานี
โควตานักกีฬา ม.วลัยลักษณ์
รับตรงผู้มีความสามารถทางดนตรี ม.เกษตรศาสตร์
รับตรงพิเศษผู้มีความสามารถด้านหุ่นยนต์ฯ มจพ.
4. รับตรงเรียนดี
ใครว่าเกรด ม.ปลาย ไม่สำคัญ บอกเลยว่าเกรดจากโรงเรียนช่วยให้น้องๆ หลายคนติดคณะในฝันมาเยอะแล้ว เพราะมีรับตรงเรียนดี ที่ส่วนใหญ่จะใช้เกรดทั้ง GPA แต่ละวิชา และ GPAX รวม 5 เทอม เริ่มกำหนด GPA, GPAX ที่ 2.75, 3.00, 3.25 หรือ 3.50 ก็มีนะ โอ้วววววว จะสูงอะไรเบอร์นั้น แต่ข้อดีของรับตรงแบบนี้คือไม่ค่อยใช้ GAT PAT, วิชาสามัญ ถ้าเกรดดี ทำ Portfolio สวย ก็มีชัยเกินครึ่งแล้ว ที่เหลือก็วัดกันที่สัมภาษณ์ จะเจออาจารย์โหดหรือใจดี ก็วัดกันที่ดวงล้วนๆ เลยค่ะ
เกณฑ์คัดเลือก : GPA, GPAX, สอบสัมภาษณ์
ตัวอย่างรับตรง :
โครงการนร.ผู้มีผลการเรียนดี ม.เชียงใหม่
โครงการนร.เรียนดีฯ SIIT ม.ธรรมศาสตร์
โควตาความสามารถวิชาการฯ ม.ทักษิณ
โควตาเรียนดี มจพ.(พระนครเหนือ)
5. รับตรงเฉพาะกลุ่มแพทย์
รับตรงกลุ่มแพทย์ เป็นรับตรงที่เปิดรับเฉพาะกลุ่มคณะแพทยศาสตร์, ทันตแพทยศาสตร์ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ เป็นการรวมกันของกลุ่มคณะแพทย์หลายสถาบัน มารับรวมกัน ใช้เกณฑ์คะแนนเดียวกัน โครงการนั้นก็คือรับตรงกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือ กสพท. ไม่กำหนดสายการเรียน ไม่กำหนดเกรดขั้นต่ำ วัดกันที่ข้อสอบล้วนๆ เลยจ้า
เกณฑ์คัดเลือก : 7 วิชาสามัญ + สอบความถนัดวิชาเฉพาะแพทย์ + สอบสัมภาษณ์ + O-NET (มากกว่า 60%)
ตัวอย่างรับตรง : รับตรง กสพท
6. รับตรง/โควตา เฉพาะคณะ
เมื่อมีรับตรงแบบรวมแล้ว ก็จะมีรับตรงแบบแยกของแต่ละคณะอีกค่ะ จะเป็นรับตรงที่คณะนั้นๆ เปิดรับเอง คัดเลือกเอง โดยไม่ผ่านทางมหาวิทยาลัย การคัดเลือกจึงมีรูปแบบที่หลากหลายมาก เพราะคณะนั้นๆ จะเฟ้นหาคนที่สนใจเรียนจริงๆ แอบบอกเลยค่ะว่า รับตรงแบบนี้เกณฑ์การคัดเลือกแอบโหดกว่ารับตรงรวมของมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะเรื่องคุณสมบัติผู้สมัคร ถ้าไม่ครบตัดทิ้งเลยค่ะ เพราะฉะนั้นต้องเตรียมพร้อม ลองศึกษาจากรับตรงปีก่อนๆ ก็ได้นะ
เกณฑ์คัดเลือก : รูปแบบในการคัดเลือกมีหลายแบบ เช่น GAT PAT, วิชาสามัญ, สอบสัมภาษณ์, ใช้ Portfolio, สอบข้อเขียนโดยโครงการจัดเอง
ตัวอย่างรับตรง :
โควตาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ส.ลาดกระบังฯ
รับตรงคณะเภสัชศาสตร์ ม.บูรพา
รับตรงคณะดุริยางคศาสตร์ ม.ศิลปากร
โควตาสำนักวิชาวิทยาศาสตร์ ม.แม่ฟ้าหลวง
รับตรงคณะศึกษาศาสตร์ ม.เชียงใหม่
7. รับตรงภาคพิเศษ / ภาคสมทบ
อย่างนี้หลายๆ คนทราบกันว่า บางคณะจะมีทั้งภาคปกติ และก็จะมีเปิดเพิ่มอีกในรูปแบบของภาคพิเศษ ที่จะเรียนคนละเวลากับภาคปกติ และค่าเทอมแพงกว่า การรับตรงก็จะมีบางคณะ บางสถาบัน ที่แยกรับเฉพาะภาคพิเศษหรือโครงการสมทบออกมาด้วยค่ะ ถึงแม้ว่าเกณฑ์การคัดเลือกจะไม่เยอะเหมือนภาคปกติ แต่ตอนเรียนก็เรียนด้วยหลักสูตรเดียวกัน จะบอกว่าง่ายกว่าไม่ได้นะคะ
เกณฑ์คัดเลือก : รูปแบบในการคัดเลือกมีหลายแบบ เช่น GAT PAT, วิชาสามัญ, สอบสัมภาษณ์, สอบข้อเขียนโดยโครงการจัดเอง
ตัวอย่างรับตรง :
รับตรงภาคพิเศษ ม.บูรพา
รับตรงภาคพิเศษ มจพ. (พระนครเหนือ)
รับตรงภาคพิเศษและภาคสมทบ ม.กาฬสินธุ์
รับตรงสาขาวิชานิเทศศิลป์ ม.บูรพา (ภาคพิเศษ)
8. รับตรงร่วมกับมหาวิทยาลัยอื่น
มีน้องๆ หลายคนสับสนกับการรับตรงร่วมกับมหาวิทยาลัยอื่น พี่แป้งขออธิบายง่ายๆ แบบนี้นะคะ รับตรงร่วมกับมหาวิทยาลัยอื่นเป็นรับตรงที่เราสมัครผ่าน ม. นึง แต่ไปติดและเรียนอีก ม. นึง โดยใช้คุณสมบัติของเราที่ตรงตามที่ ม.หลัก ระบุไว้ เช่น รับตรง ม.ขอนแก่น ร่วมกับ ม.สงขลาฯ จะมีการรับให้ ม.สงขลาฯ เป็น ม.หลัก คุณสมบัติที่สมัครได้คือต้องเป็น นร. ใน 14 จังวัดภาคใต้ แต่ในรับตรงโครงการร่วมนี้ สามารถเลือกคณะ ที่ ม.ขอนแก่น ได้ เราก็จะเป็นเด็กใต้ ที่สอบติด ม.ขอนแก่น ซึ่งถ้าจะสมัครรับตรงของ ม.ขอนแก่น ต้องเป็น นร. ใน20 จังหวัดภาคอีสานเท่านั้น การมีรับตรงร่วมฯ แบบนี้ เป็นการกระจายโอกาสให้เด็กภาคอื่นๆ ด้วย
เกณฑ์คัดเลือก : รูปแบบในการคัดเลือกมีหลายแบบ เช่น GAT PAT, วิชาสามัญ, สอบสัมภาษณ์,สอบข้อเขียนโดยโครงการจัดเอง
ตัวอย่างรับตรง :
รับตรงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ม.ขอนแก่น
รับตรงภาคใต้ ม.สงขลานครินทร์
9. รับตรงจริยธรรม - คุณธรรม - จิตอาสา
อีกหนึ่งโครงการรับตรงที่เป็นรับตรงเฉพาะผู้ที่มีกิจกรรม เป็นผู้ที่เคยร่วมทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับจิตอาสา, มีคุณธรรมจริยธรรม, มีความเป็นผู้นำ, บำเพ็ญตนให้มีประโยชน์ งานเหล่านี้ที่ทำไว้สามารถไปสมัครรับตรงได้ค่ะ เป็นเหมือนรับตรงที่รวมเด็กกิจกรรมที่มีผลงานดี เปิดโอกาสที่หลากหลายมากกว่าการคัดเลือกเฉพาะคนที่มีผลการเรียนดี ใครที่ทำกิจกรรมเอาไว้เยอะๆ รีบทำ Portfolio ด่วนเลยจ้าาาา
เกณฑ์คัดเลือก : Portfolio, กิจกรรมที่เคยร่วม, สอบสัมภาษณ์
ตัวอย่างรับตรง :
รับตรงคณะวิศวกรรมศาสตร์ฯ (เด็กดีมีคุณธรรมฯ) ม.ศิลปากร
โครงการเด็กดีมีคุณธรรม 59 ม.เกษตรฯ กำแพงแสน
โควตา นร.นักกิจกรรม ม.วลัยลักษณ์
10. รับตรงโอลิมปิก, ช้างเผือก, สสวท., สอวน.
รับตรงนี้เฉพาะกลุ่มมากๆ คนสามัญชนธรรมดาจะเข้าถึงยากหน่อย เป็นรับตรงที่รวมเหล่าเทพทั้งหลาย เพราะคนที่จะสมัครโครงการรับตรงเหล่านี้ได้ ต้องผ่ายการคัดเลือกและเข้าค่ายตามที่แต่ละโครงการกำหนด เช่น ต้องผ่านค่าย สอวน. เป็นต้น ในรายละเอียดแต่ละโครงการก็ตะมีแยกย่อยคุณสมบัติไปอีก คุณแข่งน้อยกว่ารับตรงแบบอื่น แต่รับประกันความเข้มข้นว่าไม่แพ้โครงการไหนเลยค่ะ
เกณฑ์คัดเลือก : เคยเข้าค่ายสสวท., สอวน. , โอลิมปิก หรือที่ทางโครงการกำหนด + สอบสัมภาษณ์
ตัวอย่างรับตรง :
โควตาโอลิมปิกวิชาการ ม.อุบลราชธานี
โครงการช้างเผือก คณะวิทยาศาสตร์ ม.ขอนแก่น
โครงการส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการฯ สอวน. (ค่าย 2) ม.ธรรมศาสตร์
โครงการคัดเลือกนักเรียนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์โอลิมปิกฯ (สสวท.) ม.ธรรมศาสตร์
โครงการโอลิมปิกวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์ ม.ศิลปากร
11. รับตรงทายาท หรือ ผู้สืบทอด
เป็นรับตรงที่จะมีความสามารถอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีดวงด้วยค่ะ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่งานนี้ถ้าเกิดมาเป็นทายาทของผู้สืบกิจการที่เกี่ยวข้องกับคณะที่เปิดรับนั้นๆ ก็เข้าเรียนได้แบบไม่ต้องมีคู่แข่งมาก เช่น ทายาทโรงงานอุตสาหกรรม, ทายาทเภสัชกร, ทายาทแพทย์แผนไทย เพราะน้องกลุ่มนี้จะเป็นผู้สืบกิจการในงานนั้นๆ ต่อไปค่ะ เห็นแบบนี้แล้วถ้าใครที่เข้าค่ายเป็นทายาทล่ะก็ เตรียมสมัครได้เลย
เกณฑ์คัดเลือก : ทายาทของผู้สืบกิจการนั้นๆ + GPAX + สอบสัมภาษณ์
ตัวอย่างรับตรง :
โครงการทายาทธุรกิจอาหารและสินค้าเกษตร ม.พะเยา
โควตาบุตรผู้ประกอบการฯ ส.ลาดกระบังฯ
โควตาบุตรหลานเกษตรกร ม.แม่โจ้
โครงการทายาทแพทย์แผนไทย ม.สงขลาฯ
12. รับตรงนานาชาติ
จะเก่งวิชาการการอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเก่งภาษาอังกฤษด้วยค่ะ รับตรงนานาชาติเป็นรับตรงที่เปิดรับให้เข้าศึกษาในหลักสูตรนานาชาติหรือหลักสูตรอินเตอร์ ซึ่งการเรียนการสอนจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ทั้งตัวอาจารย์ที่มาสอนก็พูดภาษาอังกฤษ และหนังสือที่เรียนก็ภาษาอังกฤษ แน่นอนว่าข้อสอบและคำตอบที่เราทำก็เป็นภาษาอักฤษเหมือนกัน จะมาเขียนเมตตาธรรมค้ำจุนโลกท้ายกระดาษคำตอบไม่ได้นะคะ ฮ่าๆ
เกณฑ์คัดเลือก : คะแนนภาษาอังกฤษอื่นๆ เช่น TOEFL, TU-GET, CU-TEP, IELTS, SAT, // GAT PAT, สอบข้อเขียน, สอบสัมภาษณ์
ตัวอย่างรับตรง :
รับตรงนานาชาติ จุฬาฯ
รับตรงคณะทันตแพทยศาสตร์(นานาชาติ) ม.มหิดล
รับตรง aiip เทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตรฯ ม.เกษตรศาสตร์
รับตรงคณะวิทยาศาสตร์(นานาชาติ) ส.ลาดกระบัง
13.รับตรงผู้พิการ
โครงการที่น้องน้อยคนจะรู้จัก คือ รับตรงผู้พิการ เป็นรับตรงที่รับเฉพาะผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย แต่ก็จะมีเงื่อนไขกำหนดว่าจะเป็นผู้ที่สามารถเรียนได้ เช่น ตาบอดแต่ไม่บอดสนิท, สามารถช่วยเหลือตัวเองได้, ไม่มีอุปสรรคในการมาศึกษา เป็นต้น ซึ่งข้อกำหนดตรงนี้ต้องศึกษาอย่างละเอียดในระเบียบการที่เปิดรับสมัครค่ะ
เกณฑ์คัดเลือก : ประเภทของความพิการตามที่กำหนด, GAT PAT, วิชาสามัญ, สอบข้อเขียน, สอบสัมภาษณ์
ตัวอย่างรับตรง :
รับตรง นร. ผู้พิการ(วิธีพิเศษ) ม.เทคโนโลยีสุรนารี
รับตรง นร. ผู้พิการ โดยวิธีพิเศษ ม.ขอนแก่น
โครงการรับตรงผู้พิการ มศว
โครงการนักศึกษาพิการ ม.ธรรมศาสตร์
เห็นแบบนี้แล้วก็ได้รู้ว่าเราสามารถมุ่งรับตรงแบบไหนได้บ้าง ทำให้เราได้เห็นทางเลือกและโอกาสติดเพิ่มขึ้น เลือกรับตรงที่ใช่ แล้วก็ไปต่อให้เต็มที่ ถ้าใครอยากย้อนดูรับตรงปีที่แล้ว ก็สามารถเข้าไปดูได้เลยที่ "โปรแกรมค้นหารับตรง" ดูรายละเอียดการรับสมัครและการคัดเลือกได้ก่อนเลย
4 ความคิดเห็น