5 สาเหตุเขียนไม่ออก มันเพราะเรา “มีความ” อะไร...?

5 สาเหตุเขียนไม่ออก
มันเพราะเรา “มีความ” อะไร...?  

 

สวัสดีชาวนักเขียนเด็กดีค่ะ วันนี้แอดมินมาอัพเดทบทความเกี่ยวกับการเขียนไม่ออกค่ะ (สังเกตดูแอดมินก็วนๆ อยู่แถวนี้นี่แหละ แอบส่วนตัวเบาๆ ช่วงนี้เขียนไม่ออกเลยจริงๆ ค่ะ) เขาว่ากันว่า ไอ้การเขียนไม่ออกเนี่ย มีสาเหตุอยู่หลายข้อ ซึ่งวันนี้ แอดมินรวมมาให้ 5 ข้อ ด้วยกันลองมาดูกันค่ะว่า เราเข้าข่ายข้อไหนบ้าง
 

 

มีความขาดแพสชั่นในการเขียน

ข้อนี้สำคัญมาก หลายครั้งที่เราควรจะเขียน แต่แล้วก็เขียนไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะเขียนอะไร เขียนแล้วไม่สนุก ไม่ตื่นเต้น เขียนแล้วลบแล้วลบอีก ไม่เอาแล้ว เลิกเขียนดีกว่า คำแนะนำของข้อนี้ ลองเปลี่ยนฉาก เปลี่ยนบทที่เขียน หรือไม่ก็ลองไปคุยกับคนอื่นๆ ดู เล่าเรื่องที่จะเขียนให้พวกเขาฟัง เผื่อว่าจะได้ไอดียดีๆ กลับคืนมาบ้าง ไม่มีแพสชั่น อาจจะต้องหาแพสชั่น ฟังเพลงบ้าง หาอะไรสนุกๆ ทำบ้าง เผื่อจะได้พลังกลับคืนมา 
 

มีความไม่ได้วางแผนการเขียน

มีนักเขียนอาชีพหลายคนบอกว่า เขียนไปสดๆ เลย ไม่ต้องวางแผนอะไร อยากเขียนอะไรก็เขียนตอนนั้นเลย เพราะถ้าวางแผนหรือวางพล็อตล่วงหน้าแล้ว จะเกิดความรู้สึกเบื่อที่ต้องทำซ้ำๆ แต่เราไม่คิดว่าการกระทำนี้จะเหมาะกับนักเขียนมือใหม่ (ยกเว้นใครมีความสามารถเฉพาะตัวจริงๆ) การไม่ได้วางแผนการเขียนไว้ล่วงหน้าอาจทำให้เราตันและไปต่อไม่ถูก จึงมีทางแก้ของข้อนี้ไว้ว่า ควรจะเขียนพล็อตออกมาก่อน ร่างออกมาเป็น mind map เพื่อจัดการการเขียนได้อย่างถูกวิธี
 

มีความขาดข้อมูลและความรู้ที่จะใช้เขียน

เราเชื่อว่าข้อนี้หลายๆ คนเป็น และอาจจะเป็นหนักมากด้วย แอดมินเองก็เคยเป็นนะ ตอนนั้นจะเขียนเกี่ยวกับโรคลิ้นหัวใจรั่ว หาข้อมูลในกูเกิ้ลอยู่นานมาก แต่ก็กลัวจะเขียนผิดเขียนพลาด เรียบเรียงออกมาแล้วมีความสับสน ตอนนั้นที่ทำก็เลย... ลองไปหารือเพื่อนที่เป็นคุณหมอ (โชคดีมีเพื่อนเป็นหมอ) แล้วขอร้องให้เขาช่วยอ่านนิยายที่เขียนให้ ก็มีการปรับแก้กันอยู่หลายจุด เพราะฉะนั้น ถ้าเขียนไม่ออกเพราะขาดความรู้ แนะนำเลยให้ทำการบ้านเยอะๆ แต่ละคนมีวิธีที่แตกต่างกัน จะค้นกูเกิ้ล จะหาหนังสือมาอ่าน หรือจะสัมภาษณ์คนที่มีความเชี่ยวชาญด้านนั้นโดยตรงก็ได้เหมือนกัน
 

มีความเป็นเพอร์เฟ็คท์ชั่นนิสต์

นักเขียนหลายคนประสบปัญหานี้ นั่นคือคุณมีความ “เยอะ” ในตัว เขียนแบบไหนก็ไม่ถูกใจเสียที แล้วจะทำยังไง คำตอบก็ง่ายๆ “แก้วนไปค่ะ” และหลายครั้ง มันทำให้เราตัน เขียนไม่ออก เพราะรู้สึกว่าเขียนยังไงก็ไม่ถูกใจ ไม่โอเค แอนน์ ลาม็อตต์ หนึ่งในนักเขียนคนดังบอกไว้ว่า “ความเป็นเพอร์เฟ็คท์ชั่นนิสต์ เป็นดาบสองคม ได้ทั้งข้อดีและข้อเสียในตัว” ดังนั้น เราต้องใช้คุณสมบัตินี้ให้ถูกต้องเหมาะสม ไม่งั้นทั้งชีวิตและนิยายอาจจะพังได้ ทางแก้คือ เอาแค่ที่พอดี อย่าเยอะมาก หรือเครียดมากจนเกินไป เขียนให้ดีที่สุด แล้วสิ่งดีๆ ก็จะตามมาเอง
 

มีความสับสนในตัวเอง

ข้อนี้ แอดมินยกมือรัวๆ ค่ะ หลายครั้งเวลาเขียน แอดมินสับสนมาก ไม่รู้จะเอาอะไรมาใส่ในนิยาย ฉากนี้ไปต่อยังไง จะสอดแทรกอะไรลงไป ปมตรงนี้จะคลายยังไง ตัวละครจะรักกันเพราะเหตุการณ์อะไร สถานการณ์นี้โอเคหรือยัง ทางแก้ของแอดมินคือ จดออกมาเลยค่ะ แอดมินจะพิมพ์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทุกข้อสงสัยลงในเวิร์ด เช่น
 
พระเอกพบนางเอกฉากไหน...?
พระเอกรู้ตัวว่ารักนางเอกฉากไหน...?
นางเอกเจอแหวนตอนไหน...?
ความรู้สึกที่แม่พระเอกมีต่อนางเอก...?
น้องชายพระเอกเป็นเพื่อนนางเอกตอนเรียน...?
 
ทางแก้ไขของแอดมินก็ประมาณนี้ค่ะ แล้วพอเขียนข้อสงสัยออกมาหมดทุกข้อ แอดมินจะย้อนกลับไปแล้วหาคำตอบทีละข้อๆ แล้วเติมไว้ตอนท้ายประโยค เมื่อครบแล้ว ก็จะค่อยๆ มาปรับ มาจัดกลุ่ม หาทางคลี่คลายแต่ละฉากแต่ละฉาก เพื่อให้นิยายของเราออกมาสมบูรณ์ ใครจะจำไปทำบ้าง ไม่ว่ากันนะคะ ^ ^
 
เป็นไงกันบ้างคะ คิดว่าตัวเองอยู่ในหมวด “มีความ” อะไรบ้าง... สำหรับแอดมินผ่านมาทุกข้อแล้ว แต่เชื่อเถอะค่ะ แล้วมันจะผ่านไป เพียงแต่มันอาจจะนานหน่อยก็เท่านั้นเอง T________________T
 
ทีมงานนักเขียนเด็กดี
 
ทีมงาน writer

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

cubow Member 29 มิ.ย. 59 16:32 น. 1

ที่เห็นชัดเลยคือ เราเป็นพวกเพอร์เฟคชั่นนิสต์ เขียนอยู่นั่น แก้อยู่นั่น บางทีเยอะจนรำคาญตัวเอง แต่ทั้งหมดก็เพราะเราไม่อยากให้คนที่อ่านงานเรา แล้วเขารักในตัวอักษรของเราต้องผิดหวังกับการรอ หรือคาดหวัง แต่นั่นแหละ สุดท้ายมันคือดาบสองคมที่ทำให้เราเคี่ยวเข็ญกับตัวเองเพื่อให้ได้งานที่ดีที่สุด แต่อีกด้านคือ มันทำให้เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำ จนสุดท้ายหลายครั้งเกิดความเบื่อหน่าย และต้องใช้พลังอย่างมากที่จะลุกขึ้นมาสู้กับมันใหม่ T T 

4
กำลังโหลด
Smile in wonderland Member 4 ก.ค. 59 20:24 น. 14

เราออกจะแตกต่างจากบทความข้างบนนิดนึง ตรงที่วางแผนก่อนเขียน

เราชอบวางแผนนะ แต่ก็ไม่ค่อยได้วางอะไรมาก สุดท้ายเลยวางแค่พล็อตหลัก พล็อตย่อย ด้นสดค่ะ แล้วสุดท้ายในระหว่างด้นสดนี่แหละ อยู่ๆ ไอเดียมันก็มาเอง^^ 

0
กำลังโหลด
แป้งโกกิ Member 29 มิ.ย. 59 19:30 น. 5

มีความ "น้อย" ในตัวเองค่ะ

คือหัวโล่ง บางครั้งก็คิดพล็อตไม่ออก บางครั้งจ้องหน้าคอมนานมากแต่นิยายไม่กระดิก บางทีก็น้อยจนกลายเป็นศูนย์ ( งานไม่เดินเลยค่ะ ) 555+

0
กำลังโหลด
TEAY_Z Member 18 ธ.ค. 59 19:11 น. 16

บางครั้งก็ความคิดตันไม่รุ้จะเเต่งอะไรลงไปเลย หาอะไรที่ทำให้ความคิดผุดขึ้นมาอย่างฟังเพลงพอได้ไอเดียแล้วถ้าไม่จดไว้เราก็จะลืมเป็นอย่างนี้ประจำเลยเวลาไปไหนเลยพกโน๊ตไปทุกที่คิดอะไรได้เจ๋งๆก็จดให้หมด เยี่ยมแน่นอน

0
กำลังโหลด

20 ความคิดเห็น

cubow Member 29 มิ.ย. 59 16:32 น. 1

ที่เห็นชัดเลยคือ เราเป็นพวกเพอร์เฟคชั่นนิสต์ เขียนอยู่นั่น แก้อยู่นั่น บางทีเยอะจนรำคาญตัวเอง แต่ทั้งหมดก็เพราะเราไม่อยากให้คนที่อ่านงานเรา แล้วเขารักในตัวอักษรของเราต้องผิดหวังกับการรอ หรือคาดหวัง แต่นั่นแหละ สุดท้ายมันคือดาบสองคมที่ทำให้เราเคี่ยวเข็ญกับตัวเองเพื่อให้ได้งานที่ดีที่สุด แต่อีกด้านคือ มันทำให้เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำ จนสุดท้ายหลายครั้งเกิดความเบื่อหน่าย และต้องใช้พลังอย่างมากที่จะลุกขึ้นมาสู้กับมันใหม่ T T 

4
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Kim MoLin Member 29 มิ.ย. 59 18:42 น. 4

เป็นจำพวกที่เขียนไม่ออก สับสนในตัวเอง ซึ่งมันไม่ดีเลยทำให้ผลงานล่าช้า ติดตามทุกคำแนะนำที่พวกพี่ๆเอามาให้แล้วตอนนี้กำลังนำมาปรับใช้อยู่ค่ะ 

0
กำลังโหลด
แป้งโกกิ Member 29 มิ.ย. 59 19:30 น. 5

มีความ "น้อย" ในตัวเองค่ะ

คือหัวโล่ง บางครั้งก็คิดพล็อตไม่ออก บางครั้งจ้องหน้าคอมนานมากแต่นิยายไม่กระดิก บางทีก็น้อยจนกลายเป็นศูนย์ ( งานไม่เดินเลยค่ะ ) 555+

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Meekaw-kaw Member 1 ก.ค. 59 09:18 น. 8

เพอร์เฟ็กชั่นนิสต์เลยค่ะ... ช่วงแรกๆอ่านทวนตอนซ้ำแล้วแก้อยู่นานมาก แต่ก็ดีค่ะเพราะรู้สึกว่างานเขียนเราละเอียด บางทีเขียนไปแล้วห้าหกตอนแล้วเกิดจับจุดผิดได้ในตอนที่หนึ่งก็วกกลับมาแก้บทในตอนที่หนึ่งใหม่อีก (เป็นสาเหตุหนึ่งที่เราชอบเขียนตุนก่อนลงในเว็บ ตุนไม่ถึงห้าตอนไม่ลงเว็บเด็ดขาดเลยค่ะ TT)

พอหัดเขียนไปได้สักพักก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น แม้จะยังชอบอ่านทวนซ้ำจับจุดผิดตัวเองอยู่ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เคร่งเท่าตอนเขียนช่วงแรกๆแล้วค่ะ สบายใจขึ้นเยอะ พออารมณ์ดีขึ้น รู้สึกว่าจะเขียนไวขึ้นด้วย 5555

0
กำลังโหลด
Lraya Member 1 ก.ค. 59 11:05 น. 9
เพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ เลยค่ะ อ่านแล้วมักผิดบ่อยแก้บ่อยมาก แต่ก็ดีค่ะทำให้เรารู้ว่างานเราละเอียดขึ้นทำให้คนอ่านเห็นว่างานเขียนของเรามีข้อผิดน้อย ขอบคุณคำแนะนำดีๆ ที่พวกพี่ส่งให้
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Pak-Gad Member 1 ก.ค. 59 20:45 น. 11

แปลว่าทุกวันนี้มีความเป็นเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์สินะ

แต่ดูเหมือนจะเป็นด้านลบด้วย เพราะแก้วนอยู่นั่นแหละ 5555

แก้ยังไงก็ไม่ถูกใจสักที 

0
กำลังโหลด
โuว์ลิ่j 2 ก.ค. 59 18:11 น. 12
มีปัญหาด้านอื่นคะ ทำให้อารมณ์ไม่คงที่ พอเขียนไปมันจะติดอารมณ์นั้นไปเลยในทันที มันไม่มีความต่อเนื่องจากบทก่อนหน้านี้นะคะ เคยเป็นไหม อารมณ์ไม่เสถียรเลยไม่ยอมลงมือเขียนกลัวว่าคนอ่านจะอ่านอะไรก็ไม่รู้ ปล.ใช้อารมณ์ตัวเองเป็นหลัก ติสแตก ง่อวววว 555+ เสียใจเสียใจเสียใจ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Smile in wonderland Member 4 ก.ค. 59 20:24 น. 14

เราออกจะแตกต่างจากบทความข้างบนนิดนึง ตรงที่วางแผนก่อนเขียน

เราชอบวางแผนนะ แต่ก็ไม่ค่อยได้วางอะไรมาก สุดท้ายเลยวางแค่พล็อตหลัก พล็อตย่อย ด้นสดค่ะ แล้วสุดท้ายในระหว่างด้นสดนี่แหละ อยู่ๆ ไอเดียมันก็มาเอง^^ 

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
TEAY_Z Member 18 ธ.ค. 59 19:11 น. 16

บางครั้งก็ความคิดตันไม่รุ้จะเเต่งอะไรลงไปเลย หาอะไรที่ทำให้ความคิดผุดขึ้นมาอย่างฟังเพลงพอได้ไอเดียแล้วถ้าไม่จดไว้เราก็จะลืมเป็นอย่างนี้ประจำเลยเวลาไปไหนเลยพกโน๊ตไปทุกที่คิดอะไรได้เจ๋งๆก็จดให้หมด เยี่ยมแน่นอน

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
PABCOM Member 19 มิ.ย. 60 20:01 น. 20
ทางนี้วางแผนคร่าวๆ ก่อน จากนั้นก็แต่งแบบลวกๆ แล้วค่อยมาใส่รายละเอียดอีกที แนวเรื่องต้องมี ไม่มีไม่เขียน เพราะถ้าแต่งสดอาจมุกตัน หรือออกทะเล หาทางกลับฝั่งไม่ได้
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด