แบบนี้ก็มีด้วย! รวม 4 มหาวิทยาลัยสุดแปลกที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com วันนี้ พี่นิทาน นำมหาวิทยาลัยแปลกๆ ที่หลายคนน่าจะไม่เคยได้ยินมาก่อนมาให้รู้จักกัน มีทั้งชื่อแปลกและการเรียนการสอนแปลก แต่แปลกในที่นี้ไม่ได้แปลว่าไม่น่าเรียนนะคะ น่าเรียนทั้งนั้นเลย แต่ก็แล้วแต่ความชอบ ความถนัดของแต่ละคน เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
 
   
    เราพูดถึงมหาวิทยาลัยที่น่าสนใจของหลายๆ ประเทศมาเยอะแล้ว มาวันนี้ขอพูดถึงมหาวิทยาลัยที่ไม่ค่อยคุ้นหูและฟังดูแปลกใหม่กันบ้างนะคะ โดย 4 มหาวิทยาลัยที่จะเล่าให้ฟังนั้นเป็นมหาวิทยาลัยจากอเมริกาทั้งนั้น รับรองว่าไม่เสียใจหากได้รู้จักมหาวิทยาลัยเหล่านี้ค่ะ 


1. Hamburger University 
รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา 

    ใครจะไปคิดว่าจะมีมหาวิทยาลัยชื่อแฮมเบอร์เกอร์อยู่จริง แต่ก็มีจริงๆ ค่ะ โดยมหาวิทยาลัยแฮมเบอร์เกอร์นี้เป็นโรงเรียนของบริษัท McDonald's นั่นเอง ผู้ที่เข้าเรียนส่วนมากมักจะเป็นมือใหม่เปิดร้านอาหารและจะได้รับการเรียนการสอนที่ลงลึกในเรื่องกระบวนการจัดการร้านอาหาร คุณภาพและความสะอาด พูดง่ายๆ ก็คือทุกๆ อย่างเกี่ยวกับการทำร้านอาหารนั่นเองค่ะ โดยมุ่งเน้นในการส่งเสริมคุณภาพและการบริการอย่างมีคุณค่า มหาวิทยาลัยแฮมเบอร์เกอร์นี้เป็นศูนย์กลางการจัดการของบริษัท McDonald's โดยในแต่ละปีจะมีนักเรียนเข้าสมัครกว่า 5,000 คน และเมื่อเรียนจบก็ไปทำกิจการร้านอาหารของตัวเอง โดยอาจารย์แต่ละคนที่มหาวิทยาลัยนั้นไม่ได้สอนแต่การจัดการร้านอาหารเบื้องต้นและเน้นแต่เรื่องของ McDonald's อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังฝึกสอนและปลูกฝังให้นักเรียนมีความเป็นผู้นำในการบริหารงานและลูกจ้าง พูดง่ายๆ ก็คือสอนทุกอย่างให้จบไปแล้วเปิดร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเองค่ะ ใครอยากอ่านข้อมูลของมหาวิทยาลัยแฮมเบอร์เกอร์เพิ่มเติม คลิกได้เลย : http://www.aboutmcdonalds.com/


2. Ohio College of Clowning Arts
รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา 
 
    พูดถึงตัวตลก ความน่ากลัวก็มา หลายคนน่าจะเคยมีความทรงจำเกี่ยวกับตัวตลกหน้าขาวๆ จมูกแดงๆ ที่เราเจอตามสวนสนุก แต่เวลาเจอเนี่ยไม่ได้ดีใจเล้ย เสียใจและกลัวมากกกกด้วยซ้ำไป 555 (แต่ก็คงมีคนชอบบ้างแหละ) และที่แปลกสุดๆ ก็เนี่ยแหละค่ะ มหาวิทยาลัยที่สอนเกี่ยวกับการเป็น 'ตัวตลก' ของแท้แน่นอน ใครที่รักการแสดง ชอบการสร้างสีสัน สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนน่าจะอยากเรียนที่นี่นะคะ เพราะมหาวิทยาลัยนี้มีหลักสูตร 30 สัปดาห์กับการเป็นตัวตลก โดยผู้เรียนจะเป็นใครก็ได้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป และเมื่อเรียนจบมาไม่ได้เป็นแค่ตัวตลกในละครสัตว์เท่านั้น แต่จะได้เป็นตัวตลกที่ได้ออกงานเทศกาลต่างๆ หรือเวลามีงานเปิดตัวร้านค้า ในเมื่อเรียนเป็นตัวตลกแล้ว ไปเป็นตัวตลกที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ จริงมั้ย อ้อ.. หรือจะแต่งเป็นตัวตลกไปหลอนในปาร์ตี้วันเกิดเพื่อนก็ดีเหมือนกันนะ ใครที่สนใจอยากดูรายละเอียดการเรียนเป็นตัวตลกเพิ่มเติม เชิญที่เว็บไซต์เค้าเลยค่ะ : http://www.ohiocollegeofclowningarts.com/about


3. College of the Ozarks 
รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา
 
    มหาวิทยาลัยนี้มีดีตรงที่มีสโลแกนว่า 'Hard Work U' หรือถ้าแปลตรงๆ ก็มหาวิทยาลัยที่ทำงานหนัก แต่ทำงานหนักอะไรเหรอ? ก็คือนักเรียนทุกคนที่เรียนที่นี่จะต้องเรียนและทำงานไปด้วยนั่นเองค่ะ ซึ่งการทำงานนี้ก็คือเป็นการทำงานชดเชยค่าเล่าเรียนทั้งหมด นักเรียนแต่ละคนจะต้องทำงานประมาณ 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ตามสถานที่ต่างๆ รอบๆ มหาวิทยาลัย เช่น ศูนย์คอมพิวเตอร์ พิพิธภัณฑ์ คลินิก หรือร้านต่างๆ แถวนั้น แต่หากสัปดาห์ไหนไม่มีเรียนก็ต้องทำงานเพิ่มค่ะ ฟังดูไม่ได้โหดร้ายอะไรนะเพราะการทำงานในช่วงเรียนเนี่ยเป็นการหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ดีต่อตัวเราเองมากๆ ถึงจะไม่ใช่แนวของบางคนก็ตาม แต่ขอบอกว่าที่ College of the Ozarks นี้เคยได้อยู่ในอันดับของ U.S. News & World Report Best Colleges Guide 2010 สำหรับมหาวิทยาลัยที่มีหนี้น้อยที่สุด (อันดับ 1), มีอัตราการตอบรับเข้าเรียนต่ำที่สุด และ มหาวิทยาลัยดีเด่นที่อยู่ในราคาเหมาะสมค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.cofo.edu/


4. Deep Springs College
รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
 
    เมื่อพูดถึงชีวิตการเป็นนักเรียนทุกคนย่อมนึกภาพออกว่าต้องตื่นตามเสียงนาฬิกาปลุก พยายามลุกออกจากเตียง อาบน้ำแต่งตัว แล้วก็เกิดความรู้สึกเซ็งๆ ในหัวนิดๆ ว่า เบื่อจัง... ไปเรียนอีกแล้ว... แน่นอนว่าทุกคนต้องเคยเป็นกัน แต่สำหรับนักเรียนทุกคนที่นี่จะตื่นขึ้นมาด้วยหน้าที่ต่างๆ ที่ต้องทำ ซึ่งไม่จำเจกับนักเรียนที่อื่นๆ นั่นก็คือตื่นแต่เช้ามืด (ถึงจะเช้าไปหน่อยก็เถอะ) เพื่อจะไปรีดนมวัว! เตรียมอาหารเช้า ให้อาหารลูกวัว และอื่นๆ ในฟาร์มก่อนจะเข้าเรียนในห้องเรียนที่อยู่ในทุ่งกว้างในแมนฮัตตัน ที่กล่าวมาทั้งหมดคือชีวิตประจำวันของนักเรียน (ชายล้วน) ทั้งหมด 26 คนที่มหาวิทยาลัย Deep Springs College แห่งนี้ค่ะ นักเรียนทุกคนจะใช้ชีวิตและเรียนรู้ภายใต้การเตรียมตัวเพื่อการบริการสำหรับมนุษยชน.. ฟังดูจริงจังมาก

     คือนอกจากจะมีการเรียนการสอนแบบมหาวิทยาลัยทั่วๆ ไปแล้วยังฝึกฝนให้นักเรียนได้มีความพร้อมและความสามารถที่นอกเหนือจากในห้องเรียนค่ะ ทุกๆ สัปดาห์จะต้องทำงานแบบนี้ประมาณ 20 ชั่วโมง และในทุกๆ 7 สัปดาห์จะได้รับมอบหมายงานใหม่ๆ เปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ โดยงานส่วนมากก็คล้ายๆ งานฟาร์ม ต่อเติมและซ่อมแซมรั้วบ้าง เลี้ยงสัตว์บ้าง ถึงแม้ว่าจะมีแต่หลักสูตร Liberal Arts ที่เน้นสร้างคนและเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว แต่หากนักเรียนคนไหนอยากจะลงลึกและเรียนรู้ในศาสตร์อื่นจริงๆ ก็สามารถโอนหน่วยกิตไปยังมหาวิทยาลัยในฝันได้ ไม่ว่าจะเป็น Brown, Yale หรือ Harvard เป็นต้นค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.deepsprings.edu/
   
  
      ทั้งหมดเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะ ยังมีอีกหลายที่ที่น่าสนใจและมีการสอนที่แปลกใหม่มากๆ ก็น่าเรียนไปอีกแบบ เหมาะสำหรับคนที่มีความชอบไม่เหมือนใครและมีเป้าหมายชัดเจน มีใครรู้สึกถูกใจที่ไหนเป็นพิเศษมั้ยคะ ถ้าได้ไปเรียนจริงๆ ก็มาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ 555
ข้อมูลจาก
พี่นิทาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

5 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด