10 คดีอาชญากรรมนี้ แปลกของจริงยิ่งกว่าอ่านนิยาย!


10 คดีอาชญากรรมนี้ 
แปลกของจริงยิ่งกว่าอ่านนิยาย

 

สวัสดีชาวนักอ่านและนักเขียนทุกคนนะคะ วันนี้พี่กุ๊กกิ๊กจะมานำเสนอคดีอาชญากรรมของต่างประเทศที่มีผลสรุปแปลกประหลาดทั้ง 10 คดี ถ้าน้องๆ ได้ติดตามอ่านข่าวรูปแบบต่างๆ ของไทยมาบ้าง ก็จะเห็นว่ามีหลายคดีที่จบแบบพลิกล็อคให้งุนงงกันไปเป็นแถว มีทั้งสร้างเหตุการณ์ตบตาผู้คน หรือมีเรื่องราวเข้าใจผิดกันก็ตาม แต่นั่นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย เมื่อเทียบกับ 10 คดีที่พี่กุ๊กกิ๊กนำมาเล่าให้ฟังในคราวนี้ 
 
มาดูกันค่ะว่าเป็นคดีประเภทไหนบ้าง เผื่อน้องๆ สนใจอยากนำไปแต่งนิยายสืบสวนสอบสวน ก็จะได้นำมาประยุกต์ให้เข้ากับพล็อตของตัวเองด้วยค่ะ 
 

 
10 โจรขโมยสมอง
        
เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2016 เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปในบ้านของ โจชัวร์ ลี ลอง ที่รัฐเพนซิลวาเนีย เพื่อค้นหาหลักฐานเกี่ยวกับคดีย่องเบา ทว่า พวกเขากลับพบบางอย่างที่ประหลาดสุดๆ! 
 
ถุงช็อปปิ้งจากห้างวอลมาร์ท วางอยู่ใต้ระเบียงบ้านอย่างไม่โดดเด่น ไม่สะดุดตา ภายใน เจ้าหน้าที่พบขวดเหล้าขวดหนึ่ง ตอนแรกพวกเขาสันนิษฐานว่า มันอาจเป็นขวดเหล้าที่ถูกขโมยมา ทว่าเมื่อเปิดออก สิ่งที่พบกลับเป็น 'สมองมนุษย์' ซึ่งโจชัวร์ตั้งชื่อว่า 'เฟร็ดดี้' 
 
และแน่นอน เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคดีย่องเบาจริงๆ เสียด้วย เพราะเจ้าหน้าที่พบว่าโจชัวร์ลักขโมย 'สมอง' นี้มาจากห้องแล็บของมหาวิทยาลัย... นายพลบ๊อบ ฮิกส์ ผู้ใหญ่ประจำรัฐเพนซิลวาเนีย กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า "เป็นหนึ่งในคดีที่น่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อย" - - พี่กุ๊กกิ๊กก็เห็นด้วยตามนั้น 
 
9 นายกเทศมนตรีขโมยป้าย
 
ในปี ค.ศ. 2004 แฟรงค์ โมแร็คโก วัย 60 ปี ได้รับเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีแห่งเมืองแฟรงก์ฟอร์ต นครนิวยอร์ก ขณะเดียวกันเขาก็ควบตำแหน่งหัวหน้ากรมการขนส่งป้ายสัญลักษณ์นครนิวยอร์กไปด้วย

ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องตลกหรือเรื่องน่าเศร้า เมื่อเจ้าตัวใช้ตำแหน่งส่วนตัว มาขโมยป้ายประจำถนน 111 ไปซุกซ่อนไว้ในแผนก แม้ว่าแฟรงค์จะทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีพอใช้ และได้มีการตั้งป้ายถนนใหม่ๆ รอบเมือง ทว่าหลังจากการสืบสวนในปี ค.ศ. 2015 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบป้ายที่ถูกขโมย และจับกุมเขาเพราะผิดทางวินัย และมีโทษทางอาญา 

อย่างไรก็ตาม โมแร็คโคยังคงได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรี และได้รับความไว้วางใจจากชาวเมือง เราไม่รู้จริงๆ ว่าเขามีเสน่ห์อะไร หรืออาจจะเพราะชาวเมืองมองว่าเรื่องการขโมยป้ายไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่เป็นพฤติกรรมแปลกๆ ก็เป็นได้ 
 
8 คู่พ่อแม่สุดน้ำเน่า
 
ในปี ค.ศ. 2010 เค็นท์และจิลล์ เอสเทอร์ เปิดศึกกับ เคลลี่ ปีเตอร์ส คุณแม่สมาคม PTA (สมาคมครูและผู้ปกครอง) เนื่องจาก ปีเตอร์ส แสดงความเห็นเชิงลบต่อลูกชายวัย 7 ขวบของพวกเขา ครอบครัวเอสเทอร์โต้ตอบด้วยพฤติกรรมที่ไม่แตกต่างจากพ่อแม่ในละครน้ำเน่า พวกเขาสร้างแคมเปญข่มขู่นานเป็นปี สะกดรอยตามปีเตอร์ส และโทร. ไปร้องเรียนที่ทำงานของเธอ เหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือ เค็นท์ลักลอบปลูกกัญชา แล้วนำไปซุกไว้ในรถของปีเตอร์ส จากนั้นก็โทร. แจ้งความเท็จ เรียกตำรวจมาจับเธอ  
 
น่าเสียดายที่แผนการของพวกเอสเทอร์ไม่สำเร็จ ทั้งที่เคยทำงานในสายกฎหมายมาก่อน แต่สุดท้ายพวกเขาถูกฟ้องเสียเอง ทั้งคู่ต้องโทษจำคุกหลายเดือน และยังถูกปรับเป็นเงินสูงถึง 5.7 ล้านดอลลาร์ และจิลล์ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อเป็น “เอวา เอเวอร์ฮาร์ท” แทน - - ราวกับกลัวว่าชื่อเดิมของเธอจะไม่น้ำเน่าพอ...  
 
7 ชื่อนี้ท่านได้แต่ใดมา
 
ปี ค.ศ. 2016 (ปีนี้นี่นา) ตำรวจได้รับรายงานว่า มีชายคนหนึ่งไล่ฉีกใบปลิวทั่วห้องสมุดของมหาวิทยาลัย และเมื่อจับกุมตัวมือฉีกใบปลิวได้ พวกเขาได้พบเรื่องแปลกที่ชวนให้เง็งมากกว่าจะโกรธ!  
 
ชายคนนั้นต่อสู้ขัดขืนไม่ยอมให้จับ ดิ้นรนหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไล่ตามอยู่นานกว่าจะจับตัวเขาได้ และเมื่อต้องเขียนชื่อในรายการของตำรวจ เขาก็ดันเขียนว่า Beezow Doo-doo Zopittybop-bop-bop (แปลว่าอะไร...?)
 
ในตอนแรก เจ้าหน้าที่คิดว่าเล่นแง่หรือเปล่า ใส่ชื่ออะไรมา บ้าๆ บอๆ แต่หลังจากตรวจสอบ ก็พบประวัติว่า... ตาคนนี้เคยโดนจับกุมตัวมาแล้วในปี ค.ศ. 2012-2013 ข้อหาพกอาวุธและมียาเสพติดในครอบครอง และเขาก็ยืนกรานว่า ใช้ชื่อ Beezow Doo-doo Zopittybop-bop-bop จริงๆ ความหมายชื่อคือ “การกระจายตัวของการรับรู้และความเชื่อมโยงเพื่อไปสู่ความรักแห่งจักรวาล” (เป็นความหมายที่เหลือเชื่อมาก) - - ใช้ชื่อยาวยืดแบบนี้ นี่กะเลี่ยงไม่ให้ตำรวจจับเพราะขี้เกียจเขียนชื่อหรือเปล่าเนี่ย 
 
6 ซวยเพราะชื่อ
 
หลังประสบอุบัติเหตุขับรถชนในช่วงเย็นของปลายปี ค.ศ. 2015 วัยรุ่นชาวเซ็นต์หลุยส์ผู้นี้เกิดอาการพานิค และหนีออกจากรถ กระโจนข้ามรั้วไปเจอกับยามเข้าพอดี เพราะความแตกตื่นขัดขืนนี่แหละ บวกกับคำตอบที่ว่า เขาชื่อ บัด ไวเซอร์ นี่แหละ ทำให้ยามของโรงเบียร์บัดไวเซอร์ตัดสินใจจับเขาไว้ และโทร. เรียกตำรวจ
 
เป็นความซวยของเจ้าตัวจริงๆ เพราะเขาดันชื่อว่า บัด นามสกุล ไวเซอร์ จริงๆ เขาไม่ได้โกหกยามแต่อย่างใด แต่เพราะเขาเคยมีคดีติดตัว ข้อหาบุกรุกในปี ค.ศ. 2014 ศาลจึงตัดสินใจเขาต้องโทษจำคุก แต่รอลงอาญา (ก็ถือว่ายังโชคดี)  
 
 5 ชายผู้หลงรักหุ่นโชว์
 
ในเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2016 (ปีนี้อีกแล้ว) พนักงานร้านเสื้อผ้าในรัฐเทนเนสซี โทรศัพท์แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ามีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้น เรื่องราวที่อยู่ว่าหลังเที่ยงคืนของคืนที่ผ่านมา มีชายขี้เมาคนหนึ่ง โผล่เข้ามาในร้านและลากหุ่นโชว์สวมชุดสีชมพูติดมือไปด้วย แขนข้างหนึ่งของหุ่นหลุดลงบนพื้น แต่ชายคนนี้ไม่หยุด ยังคงลากหุ่นต่อไป เขายัดมันไว้ท้ายกระบะของตน และขับหนีไป อย่างไรก็ตาม พนักงานร้านจำป้ายทะเบียนได้ จึงตัดสินใจโทร. แจ้งตำรวจ 

เมื่อตามไปถึง เจ้าหน้าที่ได้พบผู้ต้องสงสัย คริสโตเฟอร์ เวด กำลังนอนสบายในบ้าน พร้อมหุ่นโชว์ในชุดสีชมพูสวย คริสโตเฟอร์ถูกจับทันทีเพราะมีหลักฐานชัดเจน - - ไม่รู้ว่าเกิดตาลายมองผิดว่าหุ่นเป็นผู้หญิงคนไหนหรือเปล่านะ  
 
4 หนุ่มบึ้กเมาแล้วขับกับเข็มขัดพรหมจรรย์
 
ที่เทนเนสซี่ ปี ค.ศ. 2016 ตำรวจได้พบรายละเอียดผิดปกติ เกี่ยวกับชายตัวใหญ่หัวล้านเคราแพะ จุดเด่นที่ทำให้พวกเขาอึ้งแต่แรกคือ เคราของชายคนนี้ผูกริบบิ้นหวานแหวว และเมื่อเขาก้าวลงจากรถ ตำรวจก็สังเกตว่า พ่อหนุ่มบึ้กสวมกระโปรงกับเลกกิ้งสีขาวและชมพู พร้อมรองเท้าส้นสูงปรี๊ด!  
 
ตำรวจเข้าไปสอบถามและพบว่าหนุ่มบึ้กเมาแล้วขับ ผิดกฎหมาย พ่อหนุ่มบอกว่าถ้าอยากจับเขา ให้ไปเอากุญแจมาไขเข็มขัดพรหมจรรย์ที่เขาสวมเสียก่อน กุญแจนั้นแขวนอยู่ที่คอของผู้โดยสารหญิงในรถ ใช่แล้ว ชายคนนี้เลียนแบบพฤติกรรมของคนในยุคกลาง สวมเข็มขัดพรหมจรรย์เอาไว้กับตัวและแต่งหญิงนั่นเอง ผลคือ ชายคนนี้ก็ถูกจับเข้าคุกข้อหาเมาแล้วขับ แต่ไม่มีรายงานเกี่ยวกับเข็มขัดดังกล่าวว่าเขาไปหามาจากไหนหรือยังไง และมันถูกส่งต่อไปที่ไหน 
 
3 พี่เลี้ยงเด็กมือปล้น 
 
เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2016 ตำรวจโคโลราโด้ ได้รับรายงานว่ามีการปล้นธนาคารท้องถิ่น รถไม่มีป้ายทะเบียนคนหนึ่งขับผ่านช่องเบิกเงินแบบไดรฟ์ทรู คนขับผู้หญิงแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่าชายที่นั่งข้างหลังขู่เธอกับเด็กด้วยปืน และร้องขอเงิน หลังจากได้รับเงินแล้ว คนขับก็ขับจากไป และเจ้าหน้าที่ก็แจ้งต่อตำรวจว่า... ไม่เห็น ‘ผู้ชายที่นั่งข้างหลัง’ แม้แต่คนเดียว   
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นเจอรถคันดังกล่าวภายในเวลาไม่นาน เรเชล อินสพาห์ ผู้อาศัยรับสารภาพทั้งหมด เธอบอกว่าผู้ชายคนดังกล่าวไม่มีตัวตนจริง แต่ ‘เด็ก’ นั้นมีจริง เธอรับเลี้ยงลูกให้เพื่อนและพาเด็กมาด้วย เรเชลกำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน เธอมีความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวน 15,000 ดอลลาร์ และตัดสินใจว่าการปล้นธนาคารน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด - - ... เหรอ  
 
2 ชายเปลือยที่ต้องการอะไรก็ไม่รู้
 
เดือนมีนาคม ค.ศ. 2016 วันหยุดพักผ่อนของ เกล วินสัน เต็มไปด้วยความน่าตื่นตา เมื่อจู่ๆ ชายเปลือยคนหนึ่งมาเคาะประตูทักทายเธอ ทันทีที่เกลเปิดประตู ชายเปลือยก็เดินเข้ามาและพยายามจะกอดหอม แต่เธอไม่เล่นด้วย และรีบโทร. แจ้ง 911 ชายเปลือยก็ยังไม่สนใจ เดินไปมาในสวนของเธอต่อ พอเห็นตำรวจนั่นแหละ เขาจึงค่อยรีบวิ่งหนี ผลสุดท้าย ตำรวจไปพบเขาห้อยหัวอยู่บนต้นไม้ยังกับนักกายกรรม และแทนที่จะได้จับกุม ก็กลายเป็นว่าตำรวจต้องหาทางช่วยเหลือเขาแทน และนำตัวส่งโรงพยาบาลซะงั้น - - ก็ยังดีไม่ถึงกับตายนะ 
 
1 พยานนกแก้ว
 
ในปี ค.ศ. 2015 ตำรวจมิชิเกนพบร่างของมาร์ติน และเกลนน่า ดูแร็ม คู่แต่งงานวัยกลางคนในบ้าน ทั้งคู่ถูกยิงและทิ้งไว้ให้ตาย มาร์ตินเสียชีวิต ในขณะที่เกลนน่ารอดมาได้ แต่ก็ความทรงจำเสื่อม ทว่ายังมีพยานสำคัญอีกหนึ่งปาก นั่นคือ “เจ้าบั้ด” นกแก้วของมาร์ติน นั่นเอง เพราะเมื่อมันได้มาอยู่ใกล้ๆ เกลนน่าอีกครั้ง มันก็เริ่มพูดโต้ตอบด้วยสองเสียง เป็นเสียงของผู้ชายและผู้หญิง และสุดท้ายจะจบลงด้วยเสียงของผู้ชายว่า “อย่ายิงนะแม่ง”
 
เมื่อได้ยินบ่อยเข้า ตำรวจก็เลยเริ่มสืบสวน และผลที่ปรากฎออกมาก็คือ คนยิงนั้นไม่ใช่ใคร แต่เป็นเกลนน่านี่แหละ จากการให้การของพยานนกแก้ว เธอถูกจับกุมในที่สุด 


เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย กับ 10 คดีแปลกประหลาด อ่านแล้วยังแอบทึ่งเลยเนอะ มีเรื่องราวแบบนี้ด้วยเหรอ บางเรื่องก็น่ากลัว แต่บางเรื่องก็ไม่รู้จะขำหรืออะไรดี ฮ่าๆๆ ไหนใครมีเรื่องราวแปลกๆ หรือตลกๆ ก็ได้ มาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ฟังกันหน่อยดีกว่าว่าเป็นยังไง ถือซะว่าพักสมองจากนิยายชั่วคราว เนอะ ^_________________^


ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลบทความ 
http://listverse.com/2016/07/28/10-recent-crimes-that-are-stranger-than-fiction/


พี่กุ๊กกิ๊ก 


 
พี่กุ๊กกิ๊ก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด