และแล้วก็ได้ฤกษ์ออกทัวร์ตะลุยมหา'ลัยกันอีกสะที(หลังจากที่แอบอู้เสียนาน) ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ ๒ สำหรับการไปตะลุยมหา'ลัย โดยในครั้งนี้ก็ได้รับเกียรติจาก ตั้ว < My.iD > ที่จะพาเราไปตะลุยคณะของชาวหมอยาใต้ร่มกันเกรากัน คณะนี้จะมีความน่าสนใจขนาดไหนไปตะลุยกันเลยดีกว่า
:: ( สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจอยากพาตะลุยโรงเรียนหรือมหา'ลัย ก็สามารถไปเก็บบรรยากาศสวย พร้อมกับบรรยายเรื่องราวสนุกๆ แล้วแจ้งมาที่ ~ UBYI ~ < My.iD > หรือส่งมาที่ ubyi@dek-d.com )* ::
เอาล่ะครับ พี่น้องชาวเด็กดีทุกท่าน ก่อนอื่นก็ขอแนะตัวตัวก่อนนะครับ ผมนายตั้ว หัวหน้าชั้นปีเภสัชฯปี2 ม.อุบลนะครับ ก็เป็นเพื่อนกะนายหยกครับ วันนี้ก็จะมาช่วยเพื่อนทำมาหากิน เอ๊ย!ไม่ใช่ครับ มาแนะนำคณะที่ผมเรียนอยู่นะครับ . | ||
คณะเภสัชฯ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีก็จัดตั้งขึ้นย่างเข้าปีที่13ปีแล้วนะครับ เป็นคณะเภสัชศาสตร์ของรัฐลำดับที่8ครับ เป็นคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพคณะแรกของมหาวิทยาลัย . | ||
ที่ตั้งของคณะนั้นจะค่อยข้างแยกห่างออกมาจาก ส่วนของอาคารอื่นพอสมควร เพื่อให้มีพื้นที่ที่จะสร้างอาคารเรียนเพิ่ม หรือสวนสมุนไพร(ไม่ใช่ว่าโดนไล่ออกมาอยู่โดดเดี่ยวนะครับ) จึงค่อนข้างจะไกลจากประตูใหญ่หน้าม.(เป็นคณะที่ไกลที่สุดแล้ว) แต่จะใกล้กับประตู3ที่อยู่ข้างม.ครับ หอข้างม.จึงมีนศ.เภสัชฯ อยู่เยอะ(เพราะใกล้ ส่วนใหญ่ตื่นสายกัน จะได้มาทันครับ555) . | ||
เอาล่ะครับเข้าไปดูตัวคณะจริงกันเลยนะครับ วันนี้ก็เป็นวันเสาร์ครับ จึงค่อยมีใครมาที่คณะ(และห้องก็ไม่เปิดด้วย แล้วจะถ่ายรูปได้ไง) ที่แรกที่จะต้องผ่านก็คือโต๊ะพี่ยามครับ(พี่ยามแกเฝ้าตลอด มีอยู่2คนเปลี่ยนกัน ที่รู้ว่าเฝ้าตลอดเพราะว่ามาทำงานตลอด24ชม.พักนึงครับ) ผ่านเข้าไปก็จะเจอกับบอร์ดอาจารย์และบุคลากร มีแต่รูปอาจารย์ที่ใจดีทั้งนั้นครับ ให้เกรดก็ง่าย ไม่เคยกดเกรดเลยครับ(อ่านแบบกัดฟันพูดนะครับ 555 ล้อเล่นครับใจดีจริงๆ แต่เกรดนี่ก็Dตามไปด้วย เฮ้อ) แล้วก็ผ่านเข้าไปอีกก็จะเจอกับ เดี๋ยวครับเราเจอสิ่งที่สะดุดตาแล้วครับ . | ||
มันคือลานยาหม้อนั่นเองครับ ที่เรียกว่าลานยาหม้อเพราะว่าจะมีรูปยาหม้ออยู่กลางลานครับ เป็นลานที่กินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของพื้นที่ตึกคณะ เป็นลานอเนกประสงค์จริงๆ ครับ ให้ทั้งเล่นกีฬา ฟุตซอล วอลเลย์บอล แชร์บอล ฯลฯ(วิ่งกระสอบ ชักเย่อ กินแหลกก็เล่นที่นี่มาแล้วครับ) ซ้อมเชียร์ทั้งลีดเดอร์และสแตน จัดงานเลี้ยง จัดคอนเสิร์ต และอื่นอีกสารพัด เป็นลานที่ใช้ประโยชน์คุ้มค่ามาก เป็นศูนย์รวมที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น มีเพื่อนผมคนนึงพูดว่าลานตรงนี้เป็นลานกลางอ้อมกอดของคณะครับ(เค้ามองตัวตึกสองข้างเป็นมือไงครับ) เอาล่ะไปดูที่ตัวตึกกันต่อครับ . | ||
ก็จากการออกแบบตัวตึกนะครับ ทำให้เราได้ชั้นชั้นนึงที่ไม่ใช่ชั้นใต้ดินนะครับ(มีชั้นใต้ดินไว้เก็บของแยกอีกต่างหากครับ) คงจะเรียกมันได้ว่าเป็นชั้นพื้นหรือชั้นGroundมาด้วย ที่ชั้นนี้ก็จะมีโรงอาหารของคณะ(เนื่องจากนศ.ตั้งแต่ปี2ขึ้นไปเรียนที่คณะแทบทุกวิชาจึงมีโรงอาหารเพื่อความสะดวกครับ) แล้วก็มีห้องสโมสรนักศึกษาเภสัชศาสตร์ของม.หรือที่นศ.เรียกกันติดปากว่าห้องสโมฯ ที่นี่จะเป็นที่ทำงานต่างๆและเป็นที่เก็บอุปกรณ์การทำงานครับ ซึ่งมันจะรกมากครับ เพราะจะมีการทำงานตลอดทั้งปีต่อเนื่องตลอด ทำให้อุปกรณ์การทำงานจะถูกขนออกมาใช้อยู่ตลอด ทั้งๆที่หลังการใช้งานก็จะเก็บเข้าที่ตลอด แต่ว่าจากการที่มีงานต่อเนื่องจึงจะรู้สึกเหมือนมันไม่ถูกเก็บ(ทั้งที่ผมเก็บแล้วน้า) มันจึงดูรกอยู่สม่ำเสมอ ดังนั้นจึงจะมีการจัดช่วงวันว่างมาทำการสังคยนาสโมฯอยู่เป็นระยะๆ(แต่มันก็ยังรกอยู่ดีนะผมว่า555) . | ||
และที่ชั้นหนึ่งจะมีร้านถ่ายเอกสาร ประจำอยู่ ชีทไหนยังไม่ได้ ก็มาตามได้ที่นี่ครับ นอกจากนี้ยังมีห้องประชุมใหญ่หรือที่นศ.เรียกกันว่าห้องแดง ที่นี่ก็จะใช้เป็นที่จัดกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบายศรีสู่ขวัญ เปิดสายรหัส Phar night byenior ฯลฯเรื่อยไปจนถึงการสอบครับ(มันน่ากลัวอย่างนี้เอง พี่ถึงเรียกว่าห้องแดง สงสัยมันต้องย้อมไปด้วยเลือดแน่ๆ เอ้อ!!ซึ่งความจริงที่เรียกว่าห้องแดงเพราะมันมีม่านด้านในเป็นสีแดงทั้งหมด เวลาปิดมันจึงเหมือนทั้งห้องมีสีแดงครับ) | ||
| ||
ชั้น3จะเป็นส่วนสำคัญ เพราะนศ.จะใช้พื้นที่ในชั้นนี้กันเป็นประจำ เพราะมันเป็นที่ตั้งของห้องสมุดคณะ และโต๊ะให้อ่านหนังสือเช่นเดียวกับชั้นสอง ซ้ำยังเป็นที่ตั้งของห้องเรียนแต่ละชั้นปีอีกด้วย แต่ว่าชั้นปีที่1จะยังไม่มีห้องเรียนในคณะ เพราะจะเรียนกันนอกคณะเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเข้ามาเรียนในคณะก็จะใช้ห้องของปี2 หรือห้องอื่นๆที่ว่าง ในชั้นนี้ก็จะมีห้องแลปเช่นเดียวกับชั้น2 แต่ว่าที่ชั้นนี้วันนี้ห้องแลปเปิดเพราะมีพี่บางคนมาทำงานวิจัย ดังที่เห็นชายในรูปใส่เสื้อสีเขียวแก่ คนนั้นคือนายกสโมฯ คนปัจจุบันนั่นเอง(เดินผ่านปุ๊บพี่เค้าก็เรียกผมไปคุยงานเลยครับ ขยันจริงๆ [ไม่น่ามาวันนี้เลยตู]) . | ||
ไปกันที่ชั้นสุดท้ายครับ ชั้น4 ซึ่งก็จะมีห้องแลปอยู่ชั้นนี้เช่นกัน และยังมีห้องคอมพิวเตอร์อีกหนึ่งห้อง ไว้ให้สืบค้นข้อมูลต่าง และที่สำคัญที่สุดคือมีห้องพักอาจารย์ ซึ่งหากอยากจะมาพบอาจารย์จะต้องมาที่นี่ครับ ความจริงแล้วยังมีดาดฟ้าด้วย แต่ว่าประตูขึ้นไปถูกปิดไว้ เลยขึ้นไปเก็บภาพไม่ได้ครับ . | ||
เรามาดูสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำคณะกันบ้างนะครับ ที่แรกเป็นศาลเจ้าพ่อคณะนะครับ จะตั้งอยู่ที่ทางเข้า หน้าคณะ โดยศาลเจ้าพ่อนี้จะได้รับการเคารพกราบไหว้และบนขอโชคขอพรในการสอบ การทำงาน หรือการเดินทาง จากทั้งอาจารย์และนักศึกษาชาวเภสัชฯ ม.อุบล นอกจากนี้ยังมีศาลพระภูมิเจ้าที่ โดยศาลพระภูมินี้จะตั้งอยู่ทางด้านหลังของคณะใกล้กับเรือนสมุนไพร โดยศาลพระภูมิเจ้าที่นี้ก็จะได้รับการกราบไหว้จากผู้ที่เข้ามาอยู่ในคณะเภสัชฯม.อุบล อยู่ทุกๆปีครับ ซึ่งในส่วนนี้รุ่นพี่ก็จะพาน้องใหม่มากราบไหว้ศาลเจ้าพ่อและศาลพระภูมิเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว . | ||
ส่วนของผนังด้านนอกของอาคารคณะชั้น1 ก็จะเป็นรูปภาพที่ต่อจากแผ่นกระเบื้อง เป็นภาพของเรื่องราวความเจริญก้าวหน้าของอาชีพเภสัชฯและการใช้ยา ทั้งของชาวไทยและต่างชาติ เช่นชาวจีน ชาวยุโรป เป็นต้น . | ||
มาดูกันในส่วนสำคัญนอกคณะกันบ้างนะครับ ก็จะมีเรือนสมุนไพร ที่อยู่ทางด้านหลังของคณะ ที่ดูแลโดยชมรมสมุนไพร และยังมีสนามเปตอง ที่เป็นที่เล่นกีฬาผ่อนคลายอีกชนิดหนึ่งของทั้งอาจารย์และนักศึกษาอีกด้วย . | ||
เราก็เดินดูคณะเภสัชกันจน ค่ำมืดแล้วนะครับ เอ๊ย!!ไม่ใช่ครับ ในส่วนนี้ก็จะเป็นป้ายคณะที่จะอยู่ทางด้านหลัง ซึ่งจะมีถนนใหญ่เส้นรอบภายในม.ตัดผ่าน ซึ่งในภาพก็จะเป็นภาพถ่ายยามเย็น ผมเห็นว่าแสงสวยดีก็เลยนำมาให้พี่น้องชาวเด็กดีได้ชมกันครับ . | ||
มาถึงเรื่องสวยๆงามกันบ้างนะครับ หุหุ นี่คือดาวคณะและดาวมหาลัย(ในปีที่พี่เค้าเป็นน้องใหม่นะครับ) ชื่อของพี่เค้าคือ พี่มะหมี่ครับ เป็นสาวที่เรียนเก่ง ซ้ำยังมากด้วยความสามารถจริงๆ นอกจากนี้พี่มะหมี่ยังได้รับตำแหน่งดาวประจำการแข่งขันกีฬาเภสัชสัมพันธ์ที่ม.ศิลปากร เมื่อปีที่แล้วอีกด้วย (พี่เค้าน่ารักมากครับในสายตาผม555 ซ้ำยังอยู่หอเดียวกันกับผมด้วยนะครับ555 แต่ผมก็ได้แค่มองเท่านั้นแหละครับ แง่ว!) . | ||
สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุกคนสมหวังในการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ามหาวิทยาลัยนะครับ แต่ความจริงก็คงจะไม่สมหวังกันทั้งหมดนะครับ มันก็ต้องมีคนที่ผิดหวัง ยังไงมันก็ยังไม่ใช้สิ่งสุดท้ายของชีวิตครับ ยังไงก็ยังไม่หนทางก้าวต่อครับ แต่สำหรับคนที่อยากจะเรียนเภสัชฯ ม.อุบลก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับผู้ที่ต้องการจะเรียนเภสัชฯจริงๆครับ . |
PEANUT_SANDWICH
224 ความคิดเห็น
อืม ถึงจะไม่มีพี่รับ แต่ก็คงจะมีวิธีการมาใช้ในการสร้างมาสามัคคีและช่วยให้รู้จักกันในรุ่นมากขึ้นอ่ะครับ แต่ว่าวิธีการเนี่ยพี่ก็ไม่รู้นะ หึหึ
น่าอยู่มากเลยคัฟ
อยู่เภสัช มอ.คับๆ มาเยี่ยมๆ คัฟ
เลือดสีเดียวกันๆๆ รักกันๆๆ
เน้นที่หลักสูตรใครสนใจทางด้านไหนมากกว่าค่ะ .. krataii คุ้นมากๆ เลยนะ
น่าไปเรียนจัง แต่คงไม่ได้ไป ยังไงก็คงอยู่ สร.
เหอๆ ก็ต่างความคิดเห็นกันไปนะครับ แต่ว่าปาร์ตี้มาได้ไงเนี่ย ตังเหรอ ไม่ให้ยืมอ่ะ เด๋วเอาไปกินเหล้าขาว ว่าแต่ดูแลเบนล่าดีๆหน่อยนะ คนหัวล้านใจน้อย(ดูแลเพื่อนตูดีๆนะเฟ้ย มีน้ำตาเด๋วจะขึ้นไปตีถึงถิ่น เกษตรก็เกษตรเหอะ)
รักชาวเภสัชทุกคนนะ
อ้าว หมี่เพื่อนเราเองงงงง เด็กแก่นนครก็งี้แหละนะ ขอนแก่นจงจาเริญ
แล้วน่าจะด้ายป่าวล่ะเนี้ย....-*-
คิดถึงนะ จุ๊บๆ
จาก น้องหนุน
แต่เข้ามาอยู่แล้วอบอุ่นมากๆเลยนะคะ (เราอยู่กันแบบครอบครัวน่ะค่ะ)
สิ่งที่เรานำเสนอสู่ม.อื่นก้อไม่แพ้ใครด้วย