เรื่องดีๆที่ควรรู้!!! ก่อนคิดจะ "ดัดฟัน"

     เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็จะเห็นแต่เด็กวัยรุ่น ( หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ ) ใส่ลวดดัดฟันซึ่งสีสันนั้นก็มีหลากหลาย  เอ...หรือว่าเป็นแฟชั่นของเด็กวัยรุ่นกันละเนี่ย! >>> (*o*)

     โดยปกติแล้วการจัดหรือดัดฟันมีเหตุผลอยู่หลายประการ  เช่น เพื่อแก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติที่อาจทำให้เกิดผลเสียต่อการบดเคี้ยวหรือสุขภาพของช่องปาก  ซึ่งหากปล่อยไว้จะมีผลกระทบต่อการพัฒนาของฟันแท้  และโครงสร้างของใบหน้า  กรณีที่ฟันล่างครอบฟันบนไม่ว่าจะเป็นฟันน้ำนมหรือฟันแท้หากปล่อยไปเรื่อยๆคางจะยื่นยาวและเกิดผลกระทบต่อโครงสร้างใบหน้า  เด็กที่ฟันซ้อนเกมากๆก็อาจเป็นสาเหตุของฟันผุรวมทั้งโรคเหงือกอักเสบเพราะฟันที่ซ้อนเกมากๆหากทำความสะอาดไม่ดีพอและไม่ทั่วถึง  อาจทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับเหงือกและฟัน

     ดังนั้นการดัดฟันนอกจากจะทำให้ฟันเรียงกันเป็นระเบียบสวยงามแล้ว  ยังช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายและทั่วถึงอีกทั้งยังช่วยลดอัตราการเกิดฟันผุและอาการเหงือกอักเสบอีกด้วย

     โดยปกติการดัดฟันจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี เป็นอย่างน้อย  และต้องไปพบทันตแพทย์อย่างต่อเนื่องทุก 4-6 อาทิตย์ หรือตามที่ทันตแพทย์นัด และการที่จะดูว่าฟันแบบไหนควรดัดหรือไม่  หรือจะดัดแบบใดนั้นคงขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของทันตแพทย์เป็นสำคัญค่ะ

     คนที่จัดฟันหากได้รับการดูแลตั้งแต่เด็ก เริ่มจากฟันกรามแท้ขึ้นมาจะดี ถ้ามีปัญหาการสบฟันผิดปกติจะได้แก้ไขทัน และง่ายต่อการรักษาต่อไป คุณหมออาจขยายขากรรไกรช่วยได้ ซึ่งโดยปกติจะเริ่มในเด็กที่มีช่วงอายุประมาณ 10 - 11 ปี ใช้เวลาใส่เครื่องมือติดแน่นประมาณ 2 - 3ปี เครื่องมือมีทั้งติดแน่น ใช้ยางและลวดดึงฟัน และเครื่องมือถอดได้ กรณีคนไข้อายุมากขึ้น ตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปอาจต้องใส่เครื่องมือนานกว่าปกติ และใส่ retainer (พลาสติกยึดฟันหลังการรักษา) นานกว่าปกติ

     >>> การดูแลรักษาฟันเพื่อการจัดฟัน

     ก่อนจัดฟันต้องตรวจสุขภาพฟันทั้งช่องปาก ถ้ามีฟันผุ ก็ต้องอุดฟันก่อน และขูดหินปูนเคลือบฟลูออไรด์ และเคลือบร่องฟันที่มีหลุมลึกเพื่อป้องกันฟันผุ

     ขณะจัดฟัน ช่วง 2-3 ปี คนไข้ต้องได้รับการขูดหินปูน เคลือบร่องฟัน พร้อมเคลือบฟลูออไรด์ทุก 3 - 6 เดือน และทันตแพทย์จะตรวจฟันให้คนไข้ตลอดว่ามีฟันผุเพิ่มขึ้นหรือไม่ ถ้ามีจะได้ทำการรักษาได้ทันที

     หลังจัดฟันเสร็จเรียบร้อย คนไข้จะต้องมาพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพฟัน และใส่ retainer (พลาสติกยึดฟันหลังการรักษา) อย่างเคร่งครัด ตามเวลาที่ทันตแพทย์กำหนด

     >>> สิ่งที่ควรระวังหลังการดัดฟัน

     ฟันที่ได้รับการดัดควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษทั้งในเรื่องของความสะอาดและการรับประทานอาหาร  หลังดัดฟันควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทแข็ง  เหนียว  ห้ามใช้ฟันกัดฉีกหรือแทะอาหารที่ควรเว้นในช่วงดัดฟัน เช่น การเคี้ยวน้ำแข็งก้อน  หมากฝรั่ง  ปลาหมึก  ลูกอม  ทอฟฟี่ เพราะอาจทำให้เครื่องมือฉีก ขาด หลุด หรือหักบิดงอได้ หากจะรับประทานผัก  ผลไม้  ควรแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ และเคี้ยวด้วยฟันกราม  หลีกเลี่ยงอาหารหวานจัดหรืออาหารที่มีน้ำตาลสูงเพราะจะทำให้ฟันผุได้ง่าย  ทำความสะอาดฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหารเพื่อลดการเกิดฟันผุในระหว่างการจัดฟัน

     ที่สำคัญควรปรึกษาทันตแพทย์เมื่อฟันมีปัญหา หรือแม้แต่ผู้ที่มีฟันปกติก็ควรปรึกษาทันตแพทย์เป็นประจำ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในรอยยิ้มที่สวยงามตลอดไปค่ะ

     เห็นไหมคะว่า กว่าจะหล่อสวยด้วยเหล็กดัดฟันได้ต้องทรมานกันแค่ไหน ยังไงพี่เหมี่ยวก็ไม่ขอสนับสนุนให้น้องๆมองเรื่องของการ “ดัดฟัน” เป็นเรื่องของแฟชั่นนะคะ เพราะนอกจากจะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุแล้ว บางครั้งการที่เรามีฟันที่เรียงกันสวยงาม แต่อยากไปดัดฟันเพื่อให้เข้ากับแฟชั่น นั่นอาจจะทำให้รูปหน้าของเราเสียทรงไปก็ได้นะคะ ... เสียสตางค์แล้วยังเสียโฉมด้วย ไม่คุ้มกันหรอกค่ะ ...

พี่เหมี่ยวขอขอบคุณ : ข้อมูลประกอบจาก บางกอกเฮลธ์

เอซีทีเดนทัลคลินิค และฟอร์มัมแอนด์มี ค่ะ