Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เด็กในบอร์ดเด็กดี ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้แหละ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
พวก..."ติ่งหู" ห่าๆทั้งหลายแหล่

บทความนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ถ้าไม่พอใจแสดงว่าคุณร้อนตัว



เราเตือนคุณแล้วนะ...

.
.
.
.
.
.
.

เริ่มเลย >>>

ติ่งหู (Ting-hu)

หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า กะลา (Ka-la) เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ที่มักจะเป็นพวกวัยรุ่นหญิงบางกลุ่ม ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างแรง ซึ่งกำลังแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วในสังคมอินเทอร์เน็ต และสังคมโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศไทยในปัจจุบัน พอๆกับ เกรียน และ โอตาคุ ซึ่งติ่งหูมักพบได้ทั่วไปตาม เวปแฟนคลับต่างๆ




ลักษณะโดยทั่วไปของติ่งหู

ติ่งหู หรือ กะลา คือ ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต (+คนในโลกความจริง)ประเภทหนึ่ง ที่มีนิสัยแย่ๆดังนี้

บ้าดารา เป็นเนืองนิจ ทั้งดารานักร้องในประเทศ ต่างประเทศ และเลียนแบบต่างประเทศ โดยมักเรียกซูเปอร์สตาร์ในดวงใจของตนว่า ผัว ราวกับว่าตนเองได้ระลึกชาติว่าเคยเป็น ชะนี ในชาติที่แล้ว บางครั้งอาจรวมกลุ่มกันเป็นแฟนคลับสร้างเสริมความบ้าเข้าไปใหญ่

ทำตัวเป็น คุณหนู ไฮโซ พวกชั้นสูง ตัวเองต้องเหนือกว่าชาวบ้าน ชอบอวด ปากดี ขี้โอ่ ชอบฟุ้งเฟ้อ ชอบพูดแต่เรื่องแฟชั่น (ในกรณีที่ไม่พูดเรื่องดารา) ถ้าใครมาทำตัวเด่นกว่า เก่งกว่า สูงศักดิ์กว่า ก็มักอิจฉาริษยา ไปถล่มเว็บไซต์ บล็อก หรือMy IDเขา บ้างก็ไปป่วนในบอร์ดของนิยายคนอื่น โดยเฉพาะที่ติดอันดับ Top Ten หรือจวนเจียนจะได้ตีพิมพ์นิยายแล้ว ด้วยภาษาที่ดูเหมือนสุภาพ หากแต่ทำร้ายจิตใจคนอ่านได้ดียิ่งกว่าภาษาเกรียนซะอีก

ไร้สาระ ไม่มีแก่นสารของชีวิต วันๆจะวนเวียนไปกับกระทู้ที่โพสรูปดารานักร้อง หรือ คนหน้าตาดีไว้ แล้วก็คอมเมนต์พล่ามยกย่องเชิดชูราวกับว่าเขาเป็นพระเจ้าอย่างงั้นแหละ ภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวันคือ ภาษาวิบัติ สังเกตได้ตั้งแต่ Username ยัน Signature อักขระวิธีจะวิบัติและเสื่อมทั้งดุ้น (แถมยังพ่นภาษา Emotion ออกมาเป็นชุดอีกต่างหาก

เป็น นักวิชากวน ทำตัวเป็นเด็กเรียน รอบรู้ทุกเรื่อง ทั้งๆที่ไม่รู้จริง มักจะใช้ภาษาสุภาพ ที่ดูสมเหตุสมผล ในการด่าและบั่นทอนจิตใจชาวบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีใครก็ตาม มากล่าวบริภาษว่าร้ายแก่ตนเองหรือดารานักร้องคนโปรด คุณเธอก็จะเถียง+ด่าเป้าหมายด้วยภาษาสุภาพและคำศัพท์วิชาการล้วนๆ ซึ่งคำด่าอาจยาวเกินสิบบรรทัดด้วยซ้ำไป หากแต่เมื่อลองตั้งใจอ่านดู กลับพบว่าเนื้อหาสาระนั้น ไม่มี! แถมยังพูดจาเข้าข้างตัวเองทั้งนั้น

น้ำเน่า ชอบอ่าน/แต่งนิยาย(+การ์ตูน)รักหวานแหววน้ำเน่า ประเภทแค่อ่านย่อหน้าแรกก็รู้ตอนจบได้ ก็แค่พระเอกกับนางเอกงอนกันไปงอนกันมาล่ะว้า แถมนางเอกก็มักบื้อจนโง่ พระเอกก็บ้ากามอีกต่างหาก (เช่นเรื่อง มาเรียที่ฟัก เป็นต้น) หรือไม่ก็อ่าน/แต่งนิยายแนวเวทมนตร์ มนตรา โรงเรียนเวทมนตร์ เทพนิยาย ยุคกลาง หรือมหากาพย์ ซึ่งมีโครงเรื่องออกไปทาง ก๊อปชาวบ้านทั้งนั้น อนึ่ง ปัจจุบันเราไม่นับญาติแนวเวทมนตร์ว่าเป็นแนวเดียวกับแนวแฟนตาซีอีกแล้ว อันเนื่องมาจากเวทมนตร์เป็นศัพท์ที่พบกันจนเกร่อและชวนเอียน นิยายเรื่องไหนที่มีคำว่า เวทมนตร์ จึงมักไม่ใช่ แฟนตาซี ซึ่งหมายถึงจินตนาการอันเปี่ยมล้น (แถมบางคนชอบใช้ เวท กับ เวทย์ สลับกันมั่วอีกต่างหาก เวท - มาจาก เวท แปลว่า คำ,การพูด เวทย์ - มาจาก วิทฺย เป็นคำสันสกฤต ซึ่งแผลงจากบาลี วิชฺช แปลว่า วิชาความรู้)

ชอบ อยู่เป็นฝูง หากอยู่ตัวเดียวโดดๆ ติ่งหูจะไร้ซึ่งอำนาจในการคุกคามผู้อื่น เปลี่ยนการพูดจากลายเป็นแบบสาวน้อยไร้เดียงสา ใช้ภาษาวิบัติดัดเสียงให้ดูน่ารักๆ แต่หากอยู่กันครบหน้าแล้วล่ะก็... ใครขวางแม่ด่ายับแน่ โดยใช้เทคนิคเล่นพรรคเล่นพวก เหมือนนักการเมืองบางคน สนับสนุนพวกพ้อง รุมถองศัตรู (ถอง=แดก) และหากใครเคยฟังบทสนทนาของกลุ่มพวกติ่งหูในโลกความจริงแล้ว จะพบว่าพวกนี้จะลืมศัพท์วิชากวนที่ใช้ในโลกอินเทอร์เน็ตไปจนหมดสิ้น ใช้แต่คำหยาบคายในการพูดจากับเพื่อนล้วนๆ และมีศัพท์ทางเพศปลอมปนอีกมาก แถมบางครั้งยังทะเลาะวิวาทกันเองเพื่อแย่งชิงกันว่าดารานักร้องคนนั้นควรจะ เป็นผัวของใครอีก เป็นต้น เรียกพวกติ่งหูพวกนี้ได้อีกอย่างหนึ่งว่า แรด

ดูคนที่ภายนอก คือ หน้าตา ส่วน และแฟชั่นเครื่องแต่งกายล้วนๆ ไม่สนใจเรื่องอุปนิสัย หรือระดับสติปัญญาของคนอื่น (ยกเว้นคนที่กำลังหมั่นไส้ เรดาห์จับผิดจะทำงานดีนักแล) แถมยังหัวอ่อน เชื่อคนง่ายอีกด้วย ใครพูดอะไรก็เชื่อหมด ไม่มีสมองในการกลั่นกรองพิจารณาแยกแยะระหว่างข้อเท็จจริงกับโม้คำโต อันเนื่องมาจากติ่งหูมี EQ สูงมากจนหน้าด้าน แต่ดันมี IQ ติดลบ แถมยังชอบเอาแต่ใจ บางคนก็เรียนเก่งในโลกความจริง แต่สติปัญญาก็มิได้มีการกระเตื้องขึ้นเลยแม้แต่น้อย




ที่มาของติ่งหู >>>

ที่ มาของคำว่า ติ่งหู หรือ กะลานั้น ต้นกำเนิดจะคล้ายๆกับเกรียน นั่นก็คือ มักจะเป็นกลุ่มเยาวชนตั้งแต่ ป.4 ไปจนถึง ม.ปลาย ซึ่งโรงเรียนที่ปกครองระบอบเผด็จการนั้น จะบังคับให้เด็กนักเรียนหญิง ตัดผมทรงกะลา และสั้นไม่เกินติ่งหู (แถมตัวมักจะดำอีกต่างหาก) ซึ่งถ้าหากเกรียนกำลังคลั่งเกมออนไลน์อยู่ ติ่งหูก็กำลังคลั่งดาราบนทีวีหรือไม่ก็คลั่งนิยายน้ำเน่าบนบางเว็บไซต์อยู่ แน่นอน แต่สมัยก่อนยังไม่มีคำว่า ติ่งหู หรือ กะลา เพราะพวกนี้เดิมทีมีอยู่เป็นจำนวนน้อยมาก (ประมาณ 1 ใน 10 ของเกรียน) แถมพวกนี้ยังชอบไปป่วนในโลกความจริงมากกว่า จึงไม่ค่อยมีใครรู้ว่ามีตัวตนอยู่

แต่คำว่าติ่งหู หรือ กะลานั้น เริ่มแพร่หลายเมื่อ เด็กนักเรียนหญิงบางกลุ่มรวมหัวกันไปแรด ที่ห้างสรรพสินค้าหรือสถานเริงรมย์บางแห่ง โดยที่ถึงจะไปเปลี่ยนชุดจากชุดนักเรียนมาแล้ว แต่ผมทรงกะลากับติ่งหูโผล่ก็ยังคงเป็นหลักฐานบ่งบอกระดับวัยวุฒิและคุณวุฒิ อยู่ดี ผู้ใหญ่บางท่านผ่านมาเห็นก็เอือมระอา พร้อมๆกับกล่าวว่า "โถๆยัยหนูกะลา อายุแค่นี้ทำซ่าจริงๆ" "ผมยังไม่ทันพ้นติ่งหูเล้ย เสียเด็กซะแล้ว" หรือ "น้องๆจ๊ะ มากับเสี่ยมั้ยจ๊ะ เดี๋ยวเสี่ยเลี้ยงฮอทดอกอุ่นๆให้นะจ๊ะ" อะไรทำนองนี้ เมื่อมีมากรายเข้า คำว่า ติ่งหู หรือ กะลา จึงแพร่หลายในที่สุด

ติ่งหู หรือ กะลา เริ่มเป็นที่รู้จักในอินเทอร์เน็ต โดย ชาวประมูล (หรือเรียกสั้นๆว่าเกรียน)บางคน ได้มาตั้งกระทู้ก่นด่ากลุ่มคนพวกนี้ เนื่องจากไม่พอใจในพฤติกรรมของพวกไฮโซจากบางเว็บไซต์ที่มักจะบ้าดาราจนเกิน เหตุ แต่พอลองไปถามเรื่องพวกนี้ดู (ว่ามันมีดีตรงไหนเนี่ย นักร้องเกาหลีหน้าตุ๊ดคนเนี้ย)ปรากฏว่า ถูกหลอกด่าด้วยศัพท์วิชากวนซะจนเละ จึงเอามาระบายอารมณ์ที่เว็บไซต์ของตน ซึ่งต่อมาจึงได้เกิดสงครามขึ้นระหว่าง เว็บประมูล กับ บางเว็บไซต์ อย่างรุนแรง

อีกกรณีหนึ่ง ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือ ผู้มีวุฒิภาวะบางท่าน (เช่น เทหร้าสเฟียร์ เป็นต้น) ซึ่งไม่พึงพอใจในการกระทำหลายๆอย่างของเด็กนักเรียนหญิงในสมัยปัจจุบันเป็น อย่างมาก (เรียกได้ว่าเป็น เกรียนผู้หญิง นั่นเอง) จึงได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เด็กพวกนี้ตามบอร์ดต่างๆ ทำให้เกิดเรื่องฮือฮา และตื่นตัวในไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้มากขึ้น นอกเหนือจากไวรัสเกรียนและโอตาคุ โดย เทหร้าสเฟียร์ เป็นท่านแรกที่เสนอให้ใช้คำว่า กะลา แต่บักมารินอส ผู้ปลุกระดมกระแสต่อต้านบางเว็บไซต์จากประมูลคนแรก รวมถึงพวกที่อยู่พันธุ์ทิพย์ด้วย ได้ใช้คำว่า ติ่งหู แทน ซึ่ง โดยจะเห็นได้ว่า มันมีที่มาจากที่ๆเดียวกันทั้งคู่ นั่นก็คือ ผมทรงนักเรียนหญิงนั่นเอง





เกร็ดเล็กๆน้อยๆ


-ที่เขียนข้างบนนี่เป็นการด่าซะส่วนมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนเขียนจะสูงส่งเลิศเลออะไรหรอกนะ ถ้าอยากรู้ด้านมืดของคนเขียน ก็...
-ติ่ง หูหรือกะลาในปัจจุบัน ไม่สามารถตรวจได้ด้วยทรงผมอีกต่อไปแล้ว เพราะโรงเรียนที่ไม่เป็นเผด็จการทั้งหลาย เช่น พวกโรงเรียนคุณหนู โรงเรียนผู้ดี โรงเรียนคริสต์ โรงเรียนประจำ หรือโรงเรียนรัฐบาล (บางแห่ง โดยเฉพาะในเมืองกรุงนั้นมีการปลดแอกเรื่องนี้ไปเกือบทั้ง กทม. แล้ว) มันก็เป็นกันได้ทั้งนั้น พวกผมกะลาสั้นไม่เกินติ่งหูที่ยังเป็นผ้าขาวบริสุทธิ์มันก็ยังมีอยู่อีกมาก (แต่เราจะใช้คำว่าติ่งหูกับกะลาเหมือนเดิมอยู่ดี)
-จริงๆแล้ว พวกติ่งหูนั้นเป็นกันได้ทุกเพศทุกวัย เหมือนเกรียนและโอตาคุ พวกผู้ชายกับผู้ฉิงก็มีกันมากพอสมควร โดยเฉพาะ นักวิชากวน



เหอๆๆๆๆ


อ้อ อย่าร้อนตัวล่ะ อิๆ

แสดงความคิดเห็น

>

69 ความคิดเห็น

<_[Z]ea[L]oT!_> 28 ก.ย. 51 เวลา 10:40 น. 2
เอ่อ....

แต่เราว่าก็โอเคนะ  เห็นด้วยกับ จขกท บางประการ เช่น พวกภาษาวิบัติ พวกการแต่งตัวของผู้หญิงบางคนอะไรแบบนี้ ( เวลามองแล้วเสียวายตา คิดว่าตัวเองสวยหรือไง ) และ 

ยิ่งพวกบ้าดารามากๆ เน้น มากๆ ( ไม่นับบางคนที่ยังพอมีสติอยู่บ้าง ) จะชอบก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ เพียงแต่ บางทีเวลาแสดงอาการออกมาหยาบคายอ่ะ แล้วแบบบางที แค่เราชมว่าคนนี้หล่อดีนะ  ถูกด่ากลับเป็นชุด  นี่ผัวเค้านะ อะไรแบบนี้ เซ็งมาก

แต่เรื่องนิยายก็ความชอบส่วนบุคคลอ่ะนะ  ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ก็ไม่เป็นไร ( เพราะตัวเราก็อ่าน^^)

-*-*- ความเห็นส่วนตัวนะคะ  ไม่ได้ระบุจะว่าใคร -*-*-

0
ReSiN 28 ก.ย. 51 เวลา 15:00 น. 4
เอ่อ...ก็เห็นด้วยบางประการนะครับ แต่ก็ขัดหูขัดตาบางประการ

คนที่เขาชอบดารานักร้อง...ไม่ว่าจะเป็นไทยหรือว่าเกาหลี ญี่ปุ่นฯลฯ

มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องไปบ้าบอคอแตก ใช้วิบัติหรืออะไรก็ตามที่คุณบอกมานะครับ

เพื่อนผมหลายคนชอบนักร้องเกาหลีถึงขั้น"บ้า"

ก็ยังคงปรกติเป็นผู้เป็นคนอยู่ในทุกวันนี้

ผมเข้าใจนะครับว่าคุณไม่ชอบพวกเด็กวัยรุ่นหญิงในสมัยโลกาวิบัติแบบนี้และยังไม่ชอบพวกนักร้องดาราเกาหลี

แต่คุณเองก็ไม่ควรจะไปว่าเขาว่าเป็น "นักร้องหน้าตุ๊ด"นะครับ

มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ชอบอะไรสวยๆงามๆ ผมเองเห็นผู้หญิงหน้าตาน่ารักๆหรือผู้ชายที่หน้าตาดีๆยังรู้สึกว่าเขาทำให้โลกนี้สดใส เป็นสีสันให้กับโลก

มันเป็นความผิดหรอครับที่คนๆนึง จะชอบคนหน้าตาดี ชอบมาก....

คำที่เรียกคนที่ชอบว่า"ผัว"นั้น 

ทำไมไม่ลองมองโลกในมุมกว้างๆคิดว่ามันเป็นความชอบหรือจินตนาการหรือเป็นเรื่องที่พูดกันเล่นๆของเขาล่ะครับ

แต่ว่าคุณก็ไม่ควรเหมารวมเลยครับ เด็กผู้หญิงก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณยกตัวอย่างไว้เสมอไป

ถึงแม้ว่าผมจะไม่ชอบนิยายที่พล็อตเดิมซ้ำซากที่มีอยู่เยอะแยะภายในเด็กดี

แต่ว่การที่คนๆหนึ่งมีความฝันว่าตนเองอยากจะมีความรักอย่างในนิยาย จะงอนกันไปงอนกันมารึว่าอะไรก็ตาม

จินตนาการที่อยากในตัวเองเป็นนางเอกหรือเป็นตัวเอกของนิยาย มันมีอยู่ในจิตใจของเกือบทุกคนนั่นแหละครับ

บางทีก็ลบอคติอะไรนิดหน่อยออกเพื่อเปิดใจให้กว้างมันก็ไม่ได้เลวร้ายหรอกนะครับ


ความคิดเห็นนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของบุคคลนึงเท่านั้น

คุณน่าจะขึ้นแบบนี้ไว้ก็ดีนะครับจะได้ไม่ดูน่าเกลียดไปหน่อย


สำหรับความคิดเห็นนี้ก็เป็นแค่ความคิดเห็นของคนทั่วไปไม่ได้วิเศษมาจากไหนครับ


ปล.อย่าเพิ่งด่วยลบความคิดเห็นผมออกนะครับ เพราะแบบนั้นมันจะทำให้รู้ว่าคุณเองก็"เกรียน" เหมือนกัน

0
พอสศรีมณีเด้งดึ๋ง 28 ก.ย. 51 เวลา 17:26 น. 5

คนเราจะทำอะไรก็ควรอยู่ในกรอบของความพอดีล่ะนะ


PS.  "ถ้ามือคุณเจ็บ ผมจะเป็นมือให้คุณ ถ้าเท้าคุณเจ็บ ผมจะเป็นเท้าให้คุณ ผมสัญญา" ...!!! ทิ้งความกลัวซะ มองไปข้างหน้า รุดหน้าไป อย่าหยุดเด็ดขาด "หากถอยก็จะชราลง หากกลัวก็จะสิ้นชีพ" .
0
nunninpababow 28 ก.ย. 51 เวลา 18:26 น. 6
จขกท.ไปลอกอันไซโคลพีเดียมาทั้งดุ้นสมควรให้เครดิตเค้าด้วย แถมๆพวกบ้าดาราบางคนมองอันไซโคลพีเดียเป็นเว็บงี่เง่าหยาบคาย แต่ถ้ามองกันให้ดีจริงๆจะเห็นว่าให้แง่คิดมากมายบลาๆๆๆ
PS.  ขายหนังสือและการ์ตูนมือ2ค่ะมีทุกแนวนะค่ะสนใจลอกคลิกเข้ามาดู http://my.dek-d.com/mimzy/story/view.php?id=434064
0
dino panda 28 ก.ย. 51 เวลา 19:15 น. 7

เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ บางอย่างคนในบอร์ดก็ควรปรับปรุงบ้าง
แต่เจ้าของกระทู้ช่วยแก้บางส่วนหน่อยนะครับ เพราะว่ามันไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นอย่างนั้น เดี๋ยวคนดีๆ ในบอร์ดจะน้อยใจเนอะ
จะว่าไปผมว่าเป็นส่วนใหญ่เลย ณ ที่เป็นแบบเจ้าของกระทู้ว่า


PS.  เลือดสาด!!!!!!!!!!!!!!!อ๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!!เลือด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!หลอนตัวเองโว้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
0
bob overlord 28 ก.ย. 51 เวลา 19:56 น. 8

ขอก้มกราบจริงๆครับ... อยากจะบอกว่า ผมเป็นคนเขียนบทความนั้นเอง.... = =; (ตอนนี้เป็นตัวยุ่ง เอ๊ย สต๊าฟอยู่ไร้สาระนุกรม)

พอดีแค่เขียนเอามันส์เฉยๆน่ะครับ ไม่ได้คิดจริงจังอะไรมากมาย (ปกติมันก็เขียนอยู่หน้านโยบายอยู่แล้วว่าอย่ายึดถือว่าเป็นเรื่องจริง) แถมใส่ไฟซะตั้ง 180%

ส่วนตัวผมก็ไม่ได้แคร์อะไรมากมาย เพื่อนผมเองก็บ้าดาราเยอะ แต่พวกเค้าก็ตั้งใจเรียนนะ ผมก็แค่เขียนเอามันส์เฉยๆ

ปล. นั่นเวอร์ชั่นเก่ารึเปล่าครับ? บางส่วนผมลบทิ้งไปนานแล้วนะ?

ปล2. ขอบคุณ คห.6 จริงๆครับที่ช่วยแก้ต่างให้ T T


PS.  ความงดงามทางศิลปะ ไม่ได้มาจากความประณีตบรรจง องค์ประกอบทางศิลป์ที่ถูกต้อง หรือจินตนาการอันเต็มเปี่ยม แต่มันมาจากการสะกดจิตล้วนๆ ของศิลปิน
0
lLucifer... 28 ก.ย. 51 เวลา 22:18 น. 10

เราก็เป็นนะ ที่อ่านนิยาย หุวๆ&nbsp ก็มันให้ความรู้สึกว่า โอ้ววว หลุดไปอีกโลก ชื่นใจกับ พระเอก -.,-

0
อีแอบ 29 ก.ย. 51 เวลา 11:22 น. 11

งืมๆ เซงเช่นกันแหละ แต่ช่างไปเหอะ ไทยก็เป็นอย่างงี้แหละ


PS.  Thirteen point Six - A Member of Intaraphong 's Brothels Alliance (TPS@AMIBA)
0
-#-[P]rOcyON-#- 29 ก.ย. 51 เวลา 12:53 น. 12
งืม ๆๆ สำหรับบางคนก็จริงอะนะ =___="
PS.  I Love Dek-D !!::;+NANO,,=*ii| ร่วมรณรงค์ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง !!! ^O^
0
FoOon 29 ก.ย. 51 เวลา 13:06 น. 13

เราดีใจที่เราเป็น...ส่วนน้อย ฮ่าๆ จิงๆนะ
เรารำคาญพวกที่ทำตัวบ้านู่นบ้านี่ ไม่มีจุดยืนเป็นของตัวเองเลย
ไม่เข้าใจจริงๆ ชอบได้ แต่อย่าบ้า มันคงจะเหมาะสมกว่า จริงมั้ย ?

0
piano_forte 29 ก.ย. 51 เวลา 14:41 น. 14

อ๊าก
เราไม่ร้อนตัวเฟ้ย!!!!555
ก็มีส่วนอ่ะ แต่เรื่องที่ว่า บอกว่าดาราเป็น ผัว น่ะ มันก็แค่การพูดเล่นๆเฉยๆ เราเชื่อนะ ว่ายังไงพวกนั้นก็มีปัญญาพอจะไม่คิดจริงๆหรอก
แต่บางคนเราก็รู้สึกว่ามันเพ้อจริงๆ

0
ปามม 30 ก.ย. 51 เวลา 09:32 น. 16

บางส่วนก็เห็นด้วยกับ จขกท&nbsp นะ เช่นเรื่องกรี๊ดกร๊าดดารา นักร้อง จนเกินสมควร

แต่คนเล่นบอร์ดเด็กดี ที่ไม่เป็นแบบนั้นก็มีเยอะเเยะเน้อ

0
~_ นู๋แอนนี่ _~ 30 ก.ย. 51 เวลา 16:57 น. 18

อ่านแล้ว ฮา อ่ะ


เหอะ ๆ


PS.  แ ฟ น พั น ธ์ แ ท้ ห นั ง สื อ * นู๋ผักบุ้ง * ห รื อ พี่ บุ้ ง เ ร า มี ห นั ง สื อ ข อ ง พี่ บุ้ ง ทุ ก เ ล่ ม เ ล ย น ะ
0
||-HeDw!g & P!gw!Dgeon-|| 30 ก.ย. 51 เวลา 18:29 น. 19

บางข้อเราเเห็นด้วยนะ 55+
แต่ว่าอย่าไปเหมาๆกันเลย..เพราะบางคนเขาไม่ขำด้วยน่ะ

เราว่าคนแบบนี้อยู่ในบอร์ดเด็กดีเยอะนะ  ถ้าเข้ามาบอร์ดเด็กดีสมัยก่อนๆ (เออ..เราเล่นบอร์ดเด็กดีมานานพอสมควร .. นานจนเห็นความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของบอร์ด..หรือทั้งเว็บนี้เลยล่ะ)  พวกนี้มีน้อยมากกกก  แต่ตอนนี้เยอะขึ้น กระทู้ที่เป็นแบบฉบับของ "บอร์ดเด็กดี" เหลือน้อยมากแล้ว  มีแต่เรื่องไม่เป้นเรื่อง(หรือเรพาะเราแก่เกินไปสำหรับที่นี่แล้วก็ไม่รู้)

ถึงจะบ้าเกินกรอบ..แต่ก่อนก็ไม่ค่อยได้เห็นกัน เพราะไม่ค่อยแสดงออกอย่างชัดเจนบนเน็ต  มาเดี๋ยวนี้เยอะมากๆ  และเราว่าเราอาจจะเป็นหนึ่งในนั้น (ไม่ได้บ้าเกาหลี แต่บ้าอย่างอื่น..พูดไปคงไม่มีใครสนใจ)  แอบรำคาญเหมือนกัน..กรี๊ดเว่อร์เกินควร แบบว่า...รู้แล้วน่ะว่าชอบ แต่ไม่ต้องประกาศให้คนทั้งโลกรู้ก็ได้  ภาษาวิบัตินี่วัยรุ่นเป็นกันหมดแหละ เรื่องภาษาอีโมติค่อนก็เริ่มจากการแชทและMSN ก่อนจะแพร่กระจายไปตามนิยายหวานแหวว(บางคนชอบ..แต่เราไม่ชอบนะ) แล้วก็ฮิตในหมู่ผู้เล่นเว็บทุกประเภท  ซึ่งเราคิดว่ามันก็ใช่ว่าจะมีผลเสียไปหมดนะ  เช่น ถ้าเราจำเป็นต้องโต้ตอบกันในบางประเด็น ที่ต่างฝ่ายต่างมีความเห็นต่างกัน...ภาษาอีโมติค่อนจะช่วยให้การโต้ตอบนั้นไม่กระด้างเท่าไรห่นะ  เรียกว่าเป็นศิลปะการคุยผ่านText อย่างนึง...ซึ่งงัดเอามาใช้ได้ยามจำเป็น  แต่ถ้าใช้จนติดมันก็ทุเรศเหมือนกัน (นิยายบางเรื่อง...อยากรู้นักว่าขายเนื้อเรื่องหรือขายอีโมติค่อน?)

ส่วนโอตาคุ..ขอไม่แสดงความเห็น  เพราะเราว่ามันไม่ใช่เรื่อง และไม่เกี่ยวกัน (พอดีเรารู้จักกับพวกโอตาคุด้วยล่ะมั้ง - พวกนี้ก็มีอะไรแปลกๆดีๆเหมือนกันนะ)

สรุป : เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย
บางประเด็นที่เขียนมามันจี๊ดโดนใจมากๆ เรพาะมันเป็นความจริง  แต่บางเรื่องก็ไม่ได้เป็นกันทุกคนนะ

เรื่องบ้าดาราามันเป็นสิทธิ์ของเค้า..แต่ก็อย่างที่บอกไป คือ การบ้าอย่างออกนอกหน้าและการบ้าไปตามกระแสมันดูแย่และน่ารำคาญ แถมยังรกบอร์ดอีกต่างหาก (เราไม่แน่ใจว่าเราเข้าข่ายมั้ย...เพราะเราก็บ้า(ไม่ใช่ดาราเกาหลี)มากๆจนคิดว่าจะเอาความบ้านี้ไปใช้ออกทีวีถ้าไม่ติดสอบ 55+)


PS.  _____POTTERMANIA* .. Harry Potter devotee : )_____
0
(-_-)v~DARK DevIL~\(-_-)z 30 ก.ย. 51 เวลา 18:35 น. 20

เราก้อชอบน่ะพวกนิยาย บ้าดาราไรเงี้ยก้อเปนแต่อันอื่นอ่านไปก้อเฉยๆไม่โดนเพราะไม่เปนซักข้อ

ก้อน่ะถ้าอ่านหนังสือเรียนแล้วไม่หลับก้อจะอ่าน(หรือถ้าหนังสือเรียนเปนแบบการ์ตูนหรือนิยายจะตั้งใจอ่านอย่างยิ่งยวด)

ส่วนที่บ้าดาราอ่ะเปนจิงๆ ยอมรับไม่เถียงด้วย แต่เราไม่เลีบนแบบน่ะไม่ชอบเลียนแบบเปนตัวของตัเองพอใจ ส่วนคำว่า"ผัว"เนี่ยที่จิงมัน

ประมาณว่า เฮ้ยเราชอบคนนี้มากกกกกกกกก&nbsp ปลื้มสุด เหนแล้วต้องตาถูกใจทันทีเหมือนรักแรกพบอะไรประมาณนี้

แล้วก้อเรียกกับเพื่อนขำๆเวลาแกล้งเฉยๆแต่ถ้ารู้จักจิงๆคงเปนพี่ชายแหละไม่คิดไปไกลขนาดนั้นหรอก(ถ้าคิดแกคงเปนโรคจิตแล้วแหละ)

แล้วบางทีอาการเพ้อๆเนี่ยเปนแต่กับเพื่อนในเวลาเพื่อนมันเริ่มเพ้อเราก้อจะเพ้อตาม(เหมือนโรคติดต่อ)แล้วก้อจะทำเสียงน่าหมั่นไส้ๆ แต่เล่น

ไปสักพักก้อหลุดขำกันพรืด

แต่นิยายนี่แค่ความสุขใส่ตัวมันมีมุขอ่านแล้วฮาดีแต่นิยายก็สร้างรายได้ให้น่ะ อายุนิดเดียวอย่าง12-13ถ้าแต่งแล้วมันสนุกเอาไปส่งสำนัก

พิมพ์เงี้ยแล้วเกิดได้ตีพิมพ์ขึ้นมา เราก็ภูมิใจน่ะ เรพาะมันเป็นสิ่งที่เราชอบแล้วเราก็สามารถทำมันให้ได้ดีได้ด้วย ถ้าเราเป็นพ่อ-แม่คงภูมิใจที่

ลูกเราเก่งขนาดนี้(จขกท.อันนี้ไม่ค่อยถูกน่ะค่าที่ว่าอย่างนั้นมันก็มีประโยชน์น่ะ อย่างที่บางอย่างที่เราไม่รู้แล้วอ่านจากนิยายมันมีบอกไว้เราก็

จะรู้แล้วก็จำได้ แม่นกว่าอ่านจากหนังสือเรียนซะอีกอ่ะ)

0