Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[สุดยอดพิชัยยุทธ] ศาสตร์แห่งการเดาข้อสอบ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

รู้ไหมว่าเราไม่เคยสอบปรนัยหรือข้อสอบอัตนัยแบบให้บรรยายตกเลย (เคยตกวิชาที่ให้สะแดงวิธีทำคำนวน) ไม่ว่าจะเป็นวิชาที่ไม่รู้เรื่อง หรือไม่ได้อ่านมาขนาดไหนก็ตาม

ไหนๆ ขึ้นมหาลัยเราก็เอามุขเดิมมาใช้ไม่ได้แล้ว ขอเอาวิธีการมาแฉสักหน่อย

รู้ไหมว่าเราไม่เคยสอบปรนัยหรือข้อสอบอัตนัยแบบให้บรรยายตกเลย (เคยตกวิชาที่ให้แสดงวิธีทำคำนวน) ไม่ว่าจะเป็นวิชาที่ไม่รู้เรื่อง หรือไม่ได้อ่านมาขนาดไหนก็ตาม

ไหนๆ ขึ้นมหาลัยเราก็เอามุขเดิมมาใช้ไม่ได้แล้ว ขอเอาวิธีการมาแฉสักหน่อย

กฎข้อที่ 1 อย่าเดาแบบโง่ๆ จงอ่านโจทย์กับตัวเลือกทุกข้อ
สิ่งที่บ้าที่สุดสำหรับการเดาคือการกาโดยไม่อ่านโจทย์และตัวเลือกโดยการคิดว่ายังไงมันก็ทำไม่ได้อ่านไม่อ่านก็ไม่ต่างกัน คนที่ทำแบบนี้มันจะเป็นตัวตลกในสายตาของอาจารย์ผู้ตรวจข้อสอบเสมอ เรามักจะเป็นพวกที่กา ค หมดทุกข้อทั้งๆ ที่บางตอนของข้อสอบให้เลือกกาถูกข้อ ก. ผิด ข้อ ข. บ่อยๆ ดังนั้นจงจำไว้ว่าไม่ว่าทำได้หรือไม่อย่ากาโดยไม่อ่านโจทย์และตัวเลือกเดขาด การเดาแบบโง่ๆ ทำให้ความน่าจะเป็นของคะแนนอยู่ที่ 25% ซึ่งคะแนนจะอยู่ประมาณ 10-35 เต็ม 100 (ส่วนใหญ่มักจะได้น้อยกว่า 25 เพราะมักจะมีตอนพิเศษแบบให้เติมตัวอักษร กาแค่ข้อ ก. ข. อะไรแบบนี้เป็นประจำ ซึ่งทำให้เราตกแน่นอน จำไว้ว่าจงอ่านให้ละเอียด

กฎข้อที่สอง รู้เขารู้เราเดายังไงก็ไม่ตก
อาจารย์แต่ละคนมีนิสัยกวนส้นแตกต่างกันไป ถ้าเราเข้าใจนิสัยของอาจารย์จะเข้าใจแนวทางการออกข้อสอบของเขา อาจารย์บางคนชอบออกแบบข้อไหนถูกทุกข้อ ข้อนั้นจะถูก แต่บางคนก็ชอบเอาถูกทุกข้อมาไว้หลอกเด็ก ปรกติแล้วถ้าทำข้อสอบสักครึ่งนึงจะพอเดานิสัยอาจารย์ได้แล้วเช่นว่าข้อที่ถูกทุกข้อจะถูกไหม หรือข้อที่ยาวๆ ถูกรึเปล่า ให้ดูจากข้อที่เราพอจะทำได้จะอนุมานข้ออื่นๆ ด้วยด้วย

อีกอย่างนึงจงเข้าใจจิตใจของคนออกข้อสอบ ลองนั่งคิดว่าถ้าเราออกข้อสอบเราจะขี้เกียจไหม เป็นเราก็คงใช้ ctel+c ctel+v เหมือนกันแล้วเปลี่ยนนิดนึงล่ะน่า

กฎข้อที่สาม จงขีดฆ่าข้อที่ไม่น่าจะใช่ออกไปให้มากที่สุด
ถ้าเราตัดไปได้ข้อนึกความน่าจะเป้นที่จะถูกในข้อนั้นจะเป็น 33% และ 50% ถ้าตัดได้สองข้อ ถ้าเราทำข้อสอบได้สัก 30 ข้อจากร้อยข้อ และตัดตัวเลือกได้ 1 ตัว สัก 30 ข้อ ตัด 2 ตัวได้สัก 20 ข้อ ที่เหลือเดาไปเลย คะแนนเฉลี่ยที่น่าจะเป็นของเราของเราคือ 1*30+0.33*30+0.50*20+20*0.25 = 30+9.9+10+5 = 54.5 ก็รอดแล้ว บวกพวกข้อที่มีตัวเลือกแค่สองตัวที่โอกาสถูกมากขึ้นเข้าไปอีก ก็ผ่านสบายๆ เอาเข้าจริง ถ้าเราใช้วิจารณญาณในการเลือกตัวเลือกดีๆ ตัวเลือกที่เลือกใน 1 จาก 3 และ 1 จาก 2 จะมีโอกาสสูง เมื่อใช้รวมกับวิธีอื่นๆ ด้วยจะได้คะแนนประมาณ 60-70 คะแนน เต็มร้อย ถ้าเราพออ่าหนังสือมาบ้าง ทำได้สัก 40 ข้อ คะแนนก็จะขึ้นไปถึง 70-80 คะแนน

วิธีการตัดตัวที่ไม่น่าใช่มีดังนี้
1. ทุกข้อมักจะมีข้อหมดมุขขออาจารย์ที่ออกข้อสอบเสมอ
เช่น ใครตั้งกรุงสุโขทัย
ก. พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
ข. พ่อขุนบานเมือง
ค. พ่อขุนรามคำแห่ง
ง. พระเจ้าตาก

จะเห็นว่า ง. อาจารย์หมดมุขแล้ว ในความเป็นจริงถ้าขี้เกียจน้อยหน่อยอาจารย์ก็จะเอาไปมั่วๆ ไว้ในตัวเลือกไหนก็ได้เราก็ตัดมันทิ้ง คิดซะว่าคนที่ออกข้อสอบ 100 ข้อก็ต้องมีเบลอๆ มีขี้เกียจๆ กันบ้าง

2. ถ้าให้มาเหมือนกันให้ตัดข้อนั้นทิ้ง เว้นแต่จะมีง. ให้เลือกว่าถูกทุกข้อ หรือ 2 ข้อนั้นถูก
เช่น จากสมการ สมบัตของค่า X เป็นอย่างไร
ก. x เป็นจำนวนคู่
ข. x หารด้วยสองลงตัว
ค. x เป็นจำนวนคี่
ง. x หาค่าไม่ได้

จากข้อนี้ ก. กับ ข. เหมือนกัน ตัดทิ้งไปเลย
Tip ข้อที่ตรงข้ามกับข้อหลอกที่ถูกตัดทิ้งมักจะถูกเสมอ ดังนั้นจากข้อนี้ ค น่าจะถูก บวกกับที่ ง. มันน่าตาเหมือนตัวหลอก น่าจะตอบ ค.

กฎข้อที่สาม ในกรณีที่ข้อสอบเป็นข้อสอบสมการที่ซับซ้อนจงเอาตัวเลือกไปแทนในโจทย์ อย่าเสียเวลาแกะเลขยกกำลัง
เช่น
xกำลังสาม-y=100
yกำลัง2  = xกำลัง4
ก. x=2 y= 10
ข. x=3 y= 15
ค. x=5 y= 25
ง. x=7 y= 50
อย่าเสียเวลาคิดเลย เอาค่าในแต่ละตัวเลือกไปแทนในโจทย์เถอะ

กฎข้อที่สี่ จงคำนวนความน่าจะเป็นที่เกิดจากข้อสอบที่มีตัวเลือกเดียวกันให้ดี
บางทีจะเจอข้อสอบที่มีตัวเลือกเดียวกัน โดยทั่วไปแล้วมักจะมีมีตัวเลือกพอดีกับข้อ และมันจะจับคู่ข้อละ 1 ตัวเลือก แต่ก็ต้องดูนิสัยอาจารย์ด้วย

ตัวอย่างเช่น
ใครเขียนนิยายเรื่องผมกับผี
ก.แจกันสีฟ้า
ข.ซาซ่า
ค.เคนนี่
ง.หย่งเล่อ

ใครเขียนนิยายเรื่องรักรสหวาน
ก.แจกันสีฟ้า
ข.ซาซ่า
ค.เคนนี่
ง.หย่งเล่อ

ใครเขียนนิยายยูริ
ก.แจกันสีฟ้า
ข.ซาซ่า
ค.เคนนี่
ง.หย่งเล่อ

ใครเขียนเรื่องทีนอส
ก.แจกันสีฟ้า
ข.ซาซ่า
ค.เคนนี่
ง.หย่งเล่อ

อย่างแรกต้องทำข้อที่ได้ก่อน ตัวเลือกนั้นก็จะตัดไปจากของข้ออื่น
จากนั้นเราต้องคำนวนคะแนนที่มีว่าควรจะเดาแบบไหน เอาแบบกาทั้งสามข้อด้วยตัวเลือกเดียวกันให้ถูก 100% 1 ข้อจะดีไหม หรือว่าจะกากระจาย

ตัวอย่างเช่น เรารู้ว่าหย่งเล่อเขียนเรื่อง ผมกับผีแต่อีกสามข้อไม่รู้ จากนั้นเราอาจจะเลือกกา ก. ทั้งสามข้อที่เหลือเอา 1 คะแนนจากสามข้อ หรือจะลองเสียง 33% สามครั้งก็ตามใจ

กฎข้อที่ห้า
ให้ทำข้อที่ทำได้ก่อน ทิ้งข้อที่ทำไม่ได้ไว้ค่อยมาเดาทีหลัง เพราะมันมักจะมีเฉลยข้อแรกๆ อยู่ในข้อต่อไปเสมอ และมีผลกับการเดาสำหรับข้อสอบของอาจารย์ที่มีนอสัยชอบเฉลี่ยให้ตำตอบแต่ล่ะตัวเลือกเท่าๆ กัน
ข้อที่ทำไม่ได้ตัดข้อที่ไม่น่าจะใช่ไว้ แล้วมาเดาที่หลัง ทำสัญลักษณ์ข้อที่เดาไว้เผื่อมาแก้ด้วย

เรามักจะเจอคำถามทำนองว่า
ใครตั้งสุโขทัย
กับ
ใครช่วยพ่อขุนศีอินทราทิตย์ตั้งสุโขทัย ก็จะได้คำตอบ

หรือคำถามว่า
ใครตั้งสุโขทัย
กับ สุโขทัยถูกตั้งขึ้นโดยใคร
ซึ่งเป็นคำถามเดียวกับ (สงสัยอาจารย์จะเริ่มง่วงแล้วตอนตั้งคำถาม) ให้เลือกเอาตัวเลือกที่มีเหมือนกันทั้งสองข้อ

หรือไม่ก็ข้อสอบภาษาอังกฤษที่ให้เลือกคำที่เขียถูก ก็อาจจะเจอคำนั้นแบบเขียนถูกอยู่ในข้อต่อไป
หรือข้อสอบวิทยาศาสตร์ก็จะมีเฉลยอยู่ในข้อต่อไป หรือแทนคำตอบในโจทย์แล้วจะได้สูตรมาตอบคำถามสูตรในข้อแรกๆ ของข้อสอบคณิตศาสตร์

สำคัญคือเราต้องเรียนรู้จากข้อสอบให้เป็น

กฎข้อที่หก
ถูกทุกข้อ ไม่มีข้อใดถูก ถูกทั้งข้อก. และ ข. คือตัวช่วยสำคัญ
โดยทั่วไป ไม่มีข้อใดถูกมักจะเป็นตัวเลือกหมดมุข ถูกทุกข้อมีโอกาศ 50 50 ถูกทั้ง ก. และ ข. หรือ ถูกทั้ง ข และ ค. อะไรทำนองนี้จะมีภาษีดีกว่าถูกทุกข้อ เว้นแต่ว่านิสัยอาจารย์จะชอบแกล้งเป็นพิเศษ

วิธีดูว่าถูกทุกข้อถูกหรือไม่มีดังนั้น
1 ตัวเลือกขัดกันเองไหม ถ้าขัดแสดงว่าไม่ใช่แน่ๆ และหนึ่งในตัวเลือกที่ขัดกันเองมักจะถูก
2 ตัวเลือกสองในสามของที่เหลือเหมือนกันรึเปล่า ถ้าเหมือนกันกาถูกทุกข้อไปเลย

ส่วนใหญ่เรื่องของถูกทุกข้อจะขึ้นอยู่กับนิสัยของอาจารย์ ในข้อสอบของอาจารย์ 80% ของอาจารย์ทั้งหมด ทุกข้อที่กาถูกทุกข้อจะได้คะแนนเกิน 80% และถูกสองข้อจะได้คะแนน 90%

กฎข้อที่เจ็ด เรื่องของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ตอบข้อที่ดีงาม สรรเสริญ ยืดยาวที่สุด
ถ้าข้อสอบแบบธรรมดาจะทำนองนี้ เว้นแต่จะถามทำนองว่า พระองค์ใดเป็นสาวกเบื้องขวา วิรยะคืออะไร ทำนองนั้น

กฎข้อที่แปด ข้อสอบบรรยายที่เป็นตอนสองจะมีเฉลยหรือตัวช่วยอยู่ในข้อกาเสมอ และเวลาทำจงทำตัวเหมือนรู้เรื่องแล้วก็แถๆ ไป เขียนให้ดูดีเข้าไว้ พูดเรื่องที่เรารู้เรื่องแล้วโยงไปหาสิ่งที่เราไม่รู้เรื่อง
สมมุติว่าถามว่า ปัญหาโลกร้อนส่งผลต่อประเทศปาปัวนิวกีนีอย่างไรบ้าง
ถ้าเราไม่รู้จักปาปัวนิวกีนีเลยก็เปิดกลับไปอ่านข้อสอบอัตนัย มันจะมีเรื่องเกี่ยวกับโลกร้อนและอาจจะมีพูดถึงปาปัวนิวกีนีอยู่ในนั้น ถ้าไม่มีจริงๆ ให้เขียนเกี่ยวกับโลกร้อน คำนำไปว่าทุกวันนี้โลกร้อนได้รับความสนใจยังไง แล้วมันสงผลต่อดลก ต่อป่า ต่อคนยังไง แล้วก็โยงไปถึงปาปัวนิวกีนี (เอาเป็นว่ามันส่งผลต่อโลกยังไง ปาปัวก็โดนล่ะฟะ) อย่าปล่อยไก่ทำนองว่า "ทำให้ป่าไม้ที่มีอยู่มากที่สุดในปาปัวพัง" เพราะเราไม่รู้ว่ามันมีป่าเยอะไหม หรือทำนองว่า "ทำให้เกิดน้ำท่วม" เพราะเราไม่รู้ว่ามันท่วมในปาปัวนิวกีนีจริงรึเปล่า ให้ตอบกลางๆ ทำนอง "มีโอกาสเกิดน้ำท่วมมากขึ้น" อะไรก็ว่าไป
สำคัญคึอย่อหน้าสวยๆ คำเขียนถูก ฟังดูดี มีความรู้ (ในเรื่องที่เรารู้) อย่างปล่อยไก่ในเรื่องที่เราไม่รู้ ให้พูดถึงข้อเท็ดจริง แล้วก็สรุปเยี่ยมๆ แค่นี้ก็รอดแล้ว

ข้อเก้า อา~ คิดไม่ออกจริงๆ มันมีเยอะกว่านี้อยู่แต่มันเป็นเรื่องของประสบการณ์ จงจำไว้ว่าไม่ว่าไม่รู้เรื่องแค่ไหนก็จงอย่าสิ้นหวัง พูดตามตรงว่าข้อสอบบางวิชาเราเข้าไปทำโดยไม่มีความรู้เรื่องนั้นอยู่ในหัวเลย ดังนั้นไม่ว่ามันจะถามยากหรือไม่ยาก มันก็ครือๆ กันสำหรับเรา แต่ก็เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง พอส่งกระดาษคำตอบอาจารย์ก็จะงงว่ามันทดเลขคำนวนอะไรหลังกระดาษฟะ มีคำนวนเลขด้วยเหรอ

**อย่างไรก็ตาม อ่านหนังสือไปก็ดีนะ



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 28 กันยายน 2551 / 12:11
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 28 กันยายน 2551 / 12:32
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 28 กันยายน 2551 / 12:20

แสดงความคิดเห็น

>

37 ความคิดเห็น

Lylice 28 ก.ย. 51 เวลา 12:58 น. 2

วิธีแบบนี้ผมใช้บ่อย... ยิ่งที่สอบวันนี้ ผมฝนเป็นบิงโก แล้วก็ ข้อ ค. รวดเลย - -"


PS.  ... งับหัว คห.ล่าง แง่ง! -_-
0
Rename 28 ก.ย. 51 เวลา 13:21 น. 3

แต่ละข้อมีโอกาสถูก 25%
แต่... แต่ละข้อมีโอกาสผิดตั้ง 75%


PS.  ~แล้วคุณจะหายไปจากสาระบบ~
0
Caje 28 ก.ย. 51 เวลา 14:24 น. 4

วิธีอย่างนี้ใข้กับข้อสอบที่โรงเรียนข้าน้อยไม่ได้ เพราะคุณครูเขาไม่ขี้เกียจออกข้อสอบ เขาแข่งกันออกข้อสอบว่า โจทย์ของใครจะทำให้เด็กตกได้เยอะกว่ากัน... (ไม่ได้ออกข้อสอบคนเดียว เลือกข้อสอบยาก ๆ ของแต่ละคนมารวมมิตร)

แล้วมีวิธีป้องกันเช็ค choice หลายวิธี

อย่างเช่น จากโจทย์ตัวอย่างข้อที่สาม ก็จะเปลี่ยนไป จงหาค่า x + y แทน ประมาณนี้...

หรือถ้าเป็นวิชาสังคม ก็ไม่บอกชื่อคนมาตรง ๆ หรอก อาจจะเปลี่ยนคน คนที่เขียนหนังสือเล่มนี้... คนที่เคยดำรงตำแหน่งนี้มา...

คะแนนสอบ 70% งานอีก 20% ที่เหลือจิตพิสัย (นี่คือเกณฑ์ของวิชาโหด)

สรุปแล้ว...

สุขสันต์วันเกิดค่ะ หยงเล่อซือเจ้...

(มันเกี่ยวกันไหมเนี่ย ?)

^_______^


PS.  เรามีชีวิตอยู่ระหว่างโลกแห่งความฝันและความเป็นจริง... แล้วก็ให้เด็กเขียนฝันของเรา
0
เดี๋ยวนะ... ขอนึกก่อน 28 ก.ย. 51 เวลา 16:25 น. 5

อ้าว เอชบีดีครับเฮีย...
มีสาระมากครับ... ต้องเอาไปใช้ซะแล้ว...


PS.  ความทุกข์จึงเป็นกลางคืนอันยาวนาน... แล้วมันจะผ่านไป... (คืนอันเป้นนิรันดร์ - August Thanx)
0
A-SAP 28 ก.ย. 51 เวลา 17:33 น. 6

วิชาคณิต มั่วยาก

ระบบสมการเงี่ย

ไม่ถามหรอก xเท่าไหร่ y เท่าไหร่

ถาม x+y&nbsp  2xy ทำนองนี้

จะแทนค่ามันก็ไม่ไหว&nbsp =&nbsp ="


PS.  ...คนอ่อนแอ จะมองว่าโลกนี้โหดร้าย แต่คนอ่อนโยน จะมองว่าโลกนี้สวยงาม
0
หยงเล่อ Starlessnight 28 ก.ย. 51 เวลา 18:05 น. 7

x+y 2 xy ก็แทนในโจทย์ได้ ดูความสัมพันธ์ของตัวเลขกับสมการที่ให้มาสิ ปรกติจะตัดออกไปได้ประมาณสองข้อ

โดยทั่วไปท้าเป็นข้อสอบสายสังคมจะใช้ได้ถึงสอบ o-net เลยล่ะ ถ้าคณิตก็ลำบากหน่อย

ปรกติมันไม่ถูก 100% หรอก บางทีมันจะมีข้อที่เราทำได้โดยอาศัยวิธีตัดตัวเลือกออกไปกับดูเฉลยจากความสัมพันธ์จากข้ออื่นๆ ฟรีๆ สัก 10 ใน 100 อยู่แล้ว เราก็น่าจะทำได้ด้วยตัวเองสัก 10 ในร้อย (อย่างเลวร้ายเลยนะ) เสร็จแล้วก็เดาให้ถูกอีก 30 ข้อจากร้อยก็รอดตายแล้ว ทีนี้ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปสอบซ่อมแล้ว สำหรับคนที่ทำได้สัก 70% ก็จะเพิ่มโอกาสถูกของข้อที่เหลือไปอีก

ส่วนเคจนี้ช่วยไม่ได้แหะ ของแบบนี้มันต้องทำใจว่าต้องตั้งใจเรียนตั้งแต่วันสอบเข้าแล้วล่ะ แล้วแต่คนอ่ะนะ

**ใครสอนให้กาเดาแบบ XO กับ ค. ทุกข้อฟะ!

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 28 กันยายน 2551 / 18:17
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 28 กันยายน 2551 / 18:25

0
KennyHass 28 ก.ย. 51 เวลา 18:31 น. 8

ปี4 อย่าหวังได้เจอสอบข้อช้อยส์เลยนะ

เพราะมีแต่ข้อเขียนล้วนๆ แถมเขาถามเอาความเข้าใจของเราได้


PS.  ชมรมสเก็ตดัน บริการสนับสนุนการใช้ชีวิตในวัยเรียน!!
0
bob overlord 28 ก.ย. 51 เวลา 18:47 น. 9

หุหุ ยืมไปใช้นะครับ


PS.  คนที่พูดอยู่แต่ว่าจะเป็นตัวของตัวเองๆ คือคนมีปมด้อย ไม่ใช่คนที่เป็นตัวของตัวเองจริงๆ
0
RAiNTREE 28 ก.ย. 51 เวลา 21:24 น. 10

เดาอย่างมีหลักการ.. แต่หลักการหายไปเมื่อเห็นข้อสอบ = ="

แล้วถ้า ข้อสอบแทนค่าไม่ได้ แต่คิดไม่ออก เดายังไงดี

0
ari_ka 28 ก.ย. 51 เวลา 21:44 น. 11

เห็นข้อสอบก็หลับแล้ว

เหอๆ ไม่ต้องรอให้เดา

ไปเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อย

0
Chesser Cat 28 ก.ย. 51 เวลา 21:54 น. 12

สุดยอด

(อ่านทั้งหมดแล้ว...หลับตาแล้วจิ้มต่อไป)


PS.  ชะตาให้ฟ้าลิขิต... แ ต่ อ ย่ า ม า ยุ่ ง กั บ ชี วิ ต กู !!
0
Deta 29 ก.ย. 51 เวลา 01:37 น. 13

ง่ายๆอีกวิธีครับท่าน
ข้อไหนยาวที่สุด เล็งข้อนั้นเลย แล้วเพ่งสักนิดว่า มันสมเหตุสมผลรึเปล่า หึหึหึ
อีกอย่างคือ เซ้นส์ครับพี่น้องงงงง
เอาปากกาไปปลุกเสกซักนิด ทำให้ผมได้ท็อปเท็นของสายชั้น(ในวิชาภาษาปะกิด) จากการสอบเมื่อกลางภาคมาแล้ว
อุวะ ฮะ ฮ่า
อ้อ HBD ด้วยคนนะฮะ ^^


PS.  ขอให้ความYจงสถิตกับท่าน อาเมน -/l\-
0
แมร์รี่เจน 29 ก.ย. 51 เวลา 08:20 น. 14

=.= ใช้วิธีนับเอาอ่ะค่ะ แหะๆ ไม่มีหลักการพอๆกับแกว่งปากกานั้นแหละ kufufu

อย่างเช่น   ไก่กับไข่ อันไหนมาก่อน   ก็จะนับทีละพยางค์ แล้วเรียงข้อมา ก. ข. ค. ง. ไก่1 กับ2 ไข่3 อัน4 ... 7ครั้งก็นับ ก ข ค ง ก ข ค... ตอบ ค.  จบข่าว ไม่มีเพิ่มเติม ชิ

ปล. ลืมบอกว่า ทำยังไงๆ มันก็เดาข้อสอบอยู่ดีละหว่า แต่ก็ให้อ่านต่อไป ใครขี้เกียจแล้วเดาหมดทุกข้อ ... ขอให้สวรรค์และพระเจ้าช่วยคุณแล้วกัน ... อาเมน



PS.  ฟังสิ ฟังเสียงสายลม สายน้ำ นภา แล้วคุณจะรักมันมากที่สุด... เสียงแห่งความเงียบ
0
วงเวทมรกต 29 ก.ย. 51 เวลา 14:17 น. 15

เวลาไม่มีทำให้ต้องเสี่ยงโชค


PS.  ความยุติธรรมมีจริงไหม...เรารู้ เราทุกคนต่างรู้...ว่ามันมีจริง แต่นั่นขึ้นอยู่กับเราว่าเราจะทำมันหรือให้ใครทำ...ความยุติธรรม
0
chockiez 29 ก.ย. 51 เวลา 14:32 น. 16

ทำไมช็อกไม่สอบหลังจากอ่านกระทู้นี้นะ TT^TT


PS.  ไ ม่ว่ าทุ กข์ ไ ม่ว่ าสุ ข ไ ม่ว่ าดี ร้า ย เ รา จ ะยื นอ ยู่ข้ าง กั น. . ..
0
kiagenwa 29 ก.ย. 51 เวลา 14:38 น. 17

หลักการมั่วข้อสอบ ยังมีอีกหลายวิธีนะ

*บางคน ทำข้อสอบได้เยอะทุกครั้ง แต่หารู้ไม่ว่า เขา "มั่ว" ทุกครั้งที่สอบ (เช่นผม - และไม่มีใครเชื่อว่าผมมั่วภาษาอังกฤษ และผมก็ติวให้ใครไม่ได้เพราะผมมั่วจริงๆ แต่ก็ไม่เคยมีใครคิดจะเชื่อ แหงหละ สอบกี่ทีๆ ก็ได้คะแนนสูงๆ)

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ศาสตร์แห่งการมั่ว มีอยู่จริง

0
จักรพรรดิ_หน่อง 30 ก.ย. 51 เวลา 09:13 น. 18

ศาสตร์พวกนี้ ค่อนข้างเข้าข่าย หลักสถิติ เมื่อก่อนตอนผมไปเอ็นทรานซ์
เพื่อผมซื้อมา "หลักพิชิตคณิตฯเอ็นฯ" เล่มละ 35 บาท

เชื่อมะ ผมไม่มีความรู้เลขห่ะเหวอะไรเลย คือเข้าไปคิดว่าทำกับไม่ทำเหมือนกัน
ผมไปซีร็อกซ์ของเพื่อนมา และใช้มันทำข้อสอบ แบบไม่คิดคำนวณเลยนะ
เอาหลักมันมาใช้เท่านั้น (ส่วนใหญ่จะพิจารณาจากช้อยซ์)

ผมได้ คณิตฯ(วิทย์) ได้ 32 คะแนน คณิตฯ(ศิลป์) ได้ 35 คะแนน

เอาซี่ คะแนนระดับนี้ไม่น่าอายนะ ถ้ามั่วทุกข้อ !

ผมเสียค่าซีร็อกซ์ ได้คะแนนระดับนี้ บางคนไปติวเอ็นฯคณิต หมดไปเฉียดหมื่น
ได้คะแนน 40-60 ถ้าเทพจริงๆ อันนั้นไม่พูดถึง ...

คารวะวิชาสถิติ และมันก็ยากสะใจจริงๆ
วิชานี้น่ะ Stat. ตอนเรียนบริหารธุรกิจ โอ้ว ... อนาจ

0
ari_ka 30 ก.ย. 51 เวลา 10:49 น. 19

เรียนสถิติอยู่งับ พึงเรียนเส็ดตะกี้

ปวดหัวอย่างแรง

พระเจ้าช่วยลูกด้วย P( E1ÈE2 ) = P( E1) + P( E2) - P( E1ÇE2) ...  มันช่วยให้ลูกมีกินหรืออย่างไร T T

0
sarinubia 30 ก.ย. 51 เวลา 13:25 น. 20

- -* อ่านแล้วกระผมออกแนวประมาณว่า งง + เข้าใจบ้าง

อาจารย์ที่โรงเรียนกะรผม บางครั้งก็มีออกแนวขี้เกียจนะ หึหึ


PS.  •๏water๏•~sageal >>> http://www.whenifallinlove.net/diary/diary.php?sarinubia
0