Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

18 สุดยอดเรื่องอำในวันเอพริลฟูลส์ (April Fool's Day)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


                วันเอพริลฟูลส์ (April Fool's Day) หรือเรียกในชื่ออื่นว่า วันเมษาหน้าโง่, วันโกหกเดือนเมษายน, วันเทศกาลคนโง่ เป็นเทศกาลในวันที่ 1 เมษายน วันนี้เป็นวันที่จะอนุญาตให้โกหกต่อกันได้ โดยไม่ถือโกรธ

                ที่มาของวันนี้ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ใครเป็นคนทำ แต่มีข้อสันนิษฐานว่า จุดเริ่มต้นของวันนี้มาจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งก่อนหน้านั้นใช้วันที่ 1 เม.ย. เป็นวันแรกของปี ก่อนที่จะมาเปลี่ยนเป็นวันที่ 1 ม.ค. ตามอย่างสากล แต่ทั้งนี้ก็ยังมีประชาชนบางคนที่ไม่รู้เรื่องนี้ และยังคิดว่าวันที่ 1 เม.ย. เป็นวันขึ้นปีใหม่อยู่ ทำให้เกิดการแกล้งกันเองในหมู่เพื่อนบ้าน จากนั้นก็มีการเรียกวันที่ 1 เม.ย. เป็นวันเมษาหน้าโง่

                ในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับของวันนี้ อาจมีเหตุการณ์น่าตกใจ ตื่นเต้นเป็นหัวข้อข่าว      โดยเขียนเพื่อแกล้งหลอกกันด้วยการแต่งเรื่องอะไรก็ได้มาหลอกให้คนอื่นหลงเชื่อ สมัยก่อนโน้น ข่าวสารไม่ได้กระจายรวดเร็วเหมือนสมัยนี้ ดังนั้นเรื่องที่สื่อต่างๆ นำเรื่องโกหกมาเขียนในวัน  วันเอพริลฟูลส์ จึงมีคนเชื่อจำนวนมาก ทั้งๆ ที่บางเรื่องก็ไม่น่าเชื่อสักนิด

                (ปล. ที่จริงมันมีตั้ง 100 เรื่อง แต่เพื่อความสะดวกของคนเขียนขอคัดเพียง 18 เรื่องนะครับ)

                (ปล. นี้เป็นกระทู้ความรู้สุดท้ายแล้วที่ตั้งในบอร์ดนักเขียน ต่อไปจะเน้นเรื่องเกี่ยวกับนิยายไม่โกหก))

 

                อันดับ 1: ฤดูเก็บเกี่ยวสปาเก็ตตี้ที่สวิส(The Swiss Spaghetti Harvest)

               

                 คลิป http://www.youtube.com/watch?v=SyUvNnmFtgI

                1957: สำนักข่าว BBC เผยแพร่ภาพ ทัศนีย์ภาพยุโรปในฤดูหนาวและชาวไร่คนหนึ่งกำลังมีความสุขในการดึงสปาเกตตี้ลงจากต้นไม้(ประมาณว่าเหมือนถั่วฝักยาว) พร้อมประกาศว่าชาวไร่ประเทศสวิคเซอร์แลนด์ประสบความสำเร็จในการปลูกต้นสปาเกตตี้แล้วจ้า ต่อไปนี้เราไม่ต้องง้อไข่อีกต่อไป เพราะต้นสปาเกตตี้นี้ออกผลเป็นสปาเกตตี้ ยาวๆ น่ากินมากๆ พร้อมกันนี้  BBC ได้กล่าวส่งท้ายว่า เส้นสปาเก็ตตี้นี้เหมาะแก่การกินกับซอสมะเขื่อเทศเป็นที่ชู๊ด!!

                (อัตราความเชื่อ 1 เชื่อก็บ้าแล้ว แต่ผู้ชมต่างพากันโทรศัพท์ไปที่สถานีด้วยความอยากรู้วิธีปลูกต้นสปาเก็ตตี้เองบ้าง)

 

                อันดับ 2: Sidd Finch

               

                http://www.music.songtoday.com/videos/?do=view&vidid=SyUvNnmFtgI

                1985: Sports Illustrated นิตรสารกีฬาลลงภาพ นักกีฬาคนหนึ่งชื่อ Sidd Finch เขาสามารถขว้างเบสบอลไปไกลกว่า 168  mph และพุ่งแหลมไปไกลกว่า 65 mph โดยนายคนนั้นให้สัมภาษณ์ว่าตอนแรกนั้นเขาเล่นกีฬาไม่เอาไหนเลย จนกระทั้งเขาไปฝึกวิทยายุทธ์ที่วัดธิเบต จนเขามีพรสวรรค์ดังกล่าว

                (อัตราความเชื่อ 5 ถ้านายบอกว่าไปฝึกที่วัดวัดเส้าหลินจะน่าเชื่อกว่า)

 

                อันดับ 3: แปลงสี TV แบบเร่งด่วน ( Instant Color TV)

                
                1962: บางครั้งบางทีเรื่องโกหกก็กลายเป็นเรื่องจริงเหมือนกัน เมื่อห้าสิบปีที่แล้ว ทีวียังเป็นข่าวดำอยู่ และประเทศสวีเดนก็มีทีวีเพียงช่องเดียวเท่านั้น และก็ออกข่าวเรื่อง นาย Kjell Stensson ผู้วชาญแห่งสถานีดังกล่าวได้ประกาศว่า ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ของกระผมสามารถทำให้สถานีโทรทัศน์ของเราแปลงภาพเป็นสีๆ ได้แล้วนะครับท่าน โดยใช้วิธีง่ายๆ โดยการดึงถุงน่องไนลอนคลุม!! จอโทรทัศน์ ผู้ชมนับแสนทำตามโดยไม่รอช้า(เหอๆ มุกมันใช้ได้)

                (อัตราความเชื่อ 10 เนื่องจากว่ามีทางเป็นไปได้ และในอนาคตต่อมาทีวีก็มีช่องสีจริง!!)

 

                อันดับ 4: The Taco Liberty Bell

               

                1996: บริษัทกระดิ่ง The Taco Bell ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนชื้อกระดิ่งอิสรภาพและเปลี่ยนชื่อเป็นกระดิงอิสรภาพ Taco เพื่อลดหนี้สินของประเทศ และขอให้ผูกกระดิ่งไว้ที่บ้านเพื่อแสดงความโกรธแค้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์แห่งชาติในฟิลาเดลเฟีย

                (อัตราความเชื่อ 6 ผลคือประชาชนแห่มาซื้อ เจ้าของกระดิ่งรวยกันไป)

 

                อันดับ 5: San Serriffe

               

                1977: หนังสือพิมพ์อังกฤษ The Guardian ได้จัดโปรแกรทท่องเที่ยว เป็นสาธารณเล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อ ซองเซริฟฟ์ (San Serriffe ) ประกอบด้วยเกาะต่างๆรูปร่างเหมือนเครื่องหมายอัฒภาค (;) เป็นประเทศที่ตั้งในมหาสมุทรอินเดีย โดยมีสองเกาะ คือเกาะใหญ่ชื่ออัปเพอร์แคส (ตัวพิมพ์ใหญ่) และโลเวอร์แคส (ตัวพิมพ์เล็ก) ทั้งๆที่ความจริง มันไม่มีประเทศนี้บนโลกหรอกนะ

                (อัตราความเชื่อ 7 เรื่องนี้โดนหลอกอย่างกว้างขวาง)

 

                อันดับ 6: นิกสันเพื่อประชาชน (Nixon for President)

               

                1992: วิทยุสาธารณะแห่งชาติ Talk of the Nation แจ้งข่าวว่า ริชาร์ด นิกสัน(Richard Nixon)ได้ทำให้ประชาชนชาวอเมริกันต้องประหลาดใจ เมื่อเขาประกาศว่าเขาจะกลับมาเป็นประธานาธิปดีสหรัฐอีกครั้ง พร้อมเปิดคำขวัญรณรงค์ใหม่ว่า "I didn't do anything wrong, and I won't do it again.(ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดและฉันจะไม่ทำมันอีกแล้ว)" (ล้อนิกสันในเรื่องคดีวอเตอร์เกต) แถมมีคลิปเสียงของนิกสันซะด้วย ภายหลังก็มีการประกาศว่านี้เป็นการล้อเล่นวันเอพริลฟูลและเสียงของนิกสันนั้นเป็นเสียงของนักแสดงตลกคนหนึ่งปลอมเสียงไว้

                (อัตราความเชื่อ 10 เนื่องจากอเมริกาหน่ายนิกสันเต็มแก่ เจอข่าวแบบนี้ก็เชื่อแหละ!!)

 

                อันดับ 7: การเปลี่ยนแปลงค่า Pi ที่อาบาม่า (Alabama Changes the Value of Pi)

               

                1998: หนังสือพิมพ์ New Mexicans for Science and Reason(เป็นหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับข่าววิทยาศาสตร์) ได้ลงข่าวว่ารัฐ Alabama มีออกเสียงโหวตให้เปลี่ยนแปลงค่า Pi จาก 3.14157 เป็น 3.0 ตามคัมภีร์ไบเบิลในศาสนาคริสต์ บทความดังกล่าวที่ว่าเริ่มต้นจากอินเตอร์เน็ตและมันไม่ช้ามันก็แพร่อย่างรวดเร็ว จนทางการของ Alabama ต้องรับโทรศัพท์อย่างหูดับปากไหม้โดยคนที่โทรมาคัดค้านบัญญัติกฎหมายเป็นร้อยๆ ราย ก่อนที่จะรู้ว่านี้เป็นการล้อเล่นในวันเอพริลฟูลจ้า(ฮ่าๆ) โดยเจ้าของเรื่องโกหกนี้เป็นนักฟิสิกส์คนหนึ่งที่ชื่อว่า Mark Boslough

                (อัตราความเชื่อ5 เนื่องจากผมไม่รู้จักค่า Pi คืออะไร ใครไม่รู้ก็ไม่เดือดร้อนอะไร เหอๆ)

 

                อันดับ8:พิเศษสำหรับคนถนัดมือซ้าย (The Left-Handed Whopper)

               

                1998: กษัตริย์เบอร์เกอร์(เบอร์เกอร์คิง-Burger King)ได้ลงโฆษณาทั่วอเมริกาว่า ท่านทั้งหลายจงลิ้มลองเมนูใหม่ของเรา ""The Left-Handed Whopper"หรือเบอร์เกอร์สำหรับคนถนัดซ้าย เราได้ออกแบบเบอร์เกอร์เพื่อชาวอเมริที่ถนัดมือซ้ายกว่า 32 ล้านคน เบอร์เกอร์ของเรานั้นมีองค์ประกอบเหมือนเดิมทุกอย่าง(ผักกระหล่ำ, มะเขือเทศ,ชีส ,เนื้อX แต่พิเศษคือทางเราได้ใช้เครื่องปรุงที่มีประโยชน์สำหรับคนถนัดซ้ายเท่านั้น (วันต่อมากษัตริย์เบอร์เกอร์ก็ออกข่าวว่านี้เป็นการล้อเล่นในวันเอพริลฟูล แต่กระนั้นลูกค้าจำนวนมากต่างเข้ามาในร้านและสอบถามเมนูนี้อย่างจ้าระหวั่น จนข่าวหนังสือพิมพ์ออกข่าวว่า "มีลูกค้าหลายรายเรียกร้องให้กษัตริย์เบอร์เกอร์ออกเมนูสำหรับคนถนัดขวาบ้างได้ไหม น้อยใจแล้วนะตัวเอง"  
                (อัตราความเชื่อ 2 ยังอุตส่าห์มีคนเชื่อเนอะ แต่เรื่องถนัดซ้าย-ขวานั้นก็ไม่เข้าใครต่อใคร)

                อันดับ9: ตัวเจาะน้ำแข็ง(Hotheaded Naked Ice Borers)

               

                1995: นิตยสาร Discover Magazine ลงข่าวว่านักสัตวชีววิทยา Dr. Aprile Pazzo ได้ค้นพบสัตว์ชนิดใหม่ในทวีปแอนตาร์กติก(ขั้วโลกใต้) และตั้งชื่อมันว่า Hotheaded Naked Ice Borers  เป็นสัตว์ประหลาดดุร้ายที่มีกะโหลกศีรษะคล้ายแผ่นจานที่มีความร้อนสูงมาเนื่องจากมีเส้นเลือดไปไหลเวียนจำนวนมาก จนสามารถใช้ความร้อนจากศีรษะของมันขุดเจาะ หลอมหลายหิมะหรือน้ำแข็งได้อย่างสบายๆ  โดยสัตว์ตัวนี้ใช้ความสามารถนี้ในการล่านกเพนกวินเป็นอาหาร และDr. Aprile Pazzo ยังกล่าวอีกว่าสัตว์ประหลาดชนิดนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปอย่างลึกลับของนักสำรวจทวีปแอนตาร์กติก Philippe Poisson ในปี 1837 "มันเจาะรูน้ำแข็งเพื่อล่อเขาให้ตก เพราะมันคงคิดว่าเขาเป็นนกเพนกวินนะ " Dr. Aprile กล่าวส่งท้าย

                (อัตราความเชื่อ 6 เกือบเชื่อแล้ว มาเสียตรงเรื่อง Philippe Poisson นี้แหละ)

 

                อันดับ 10: แรงดึงดูดลดลงเพราะการจัดเรียงของดาวนพเคราะห์ (Planetary Alignment Decreases Gravity)

               

                1976: นักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษ Patrick  Moore ได้ประกาศผ่านวิทยุ BBC เกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่หาดูได้ยากแต่เราทุกคนสามารถสัมผัสปรากฏการณ์นี้ได้ที่บ้านของตนเอง คือในเวลา 9:47  ดาวเคราะห์พลูโตจะโคจรไปอยู่ด้านหลังชั่วระยะเวลาหนึ่ง จนเป็นสาเหตุให้แรงดึงดูดของโลกถูกหักล้างชั่วคราว ทำให้โลกของเราไร้แรงดึงดูดและแรงโน้นถ่วงของโลกลดลง ซึ่งผู้ชมทางบ้านสามารถพิสูจน์ด้วนการกระโดดสูงๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว

                หลังจากออกข่าวนี้ มีผู้ชมทางบ้านหลายคนโทรถามปรากฏการณ์นี้เพียบ บางคนอ้างว่าตัวเองรู้สึกถึงการไร้แรงดึงดูดเลยไปเลย และผู้หญิงคนหนึ่งอ้าวว่าเพื่อน 11 คนของเธอลอยแบบไร้แรงดึงดูดไปรอบๆ ห้อง(เอ็งโกหกบ้าง ตรูก็โกหกบ้างสิ)

                (อัตราความเชื่อ 8 ถ้ามีจริงๆ ก็ดีสิ)

 

                อันดับ 11: ยูเอฟโอที่ลอนดอน(UFO Lands in London)

                
                1989: วันที่ 31 มีนาคม 1989 ผู้คนที่กำลังขับรถยนต์ในทางด่วนของลอนดอน ต่างแตกตื่นเมื่อพบเห็นจานบินบนท้องฟ้าลึกลับลำหนึ่งรูปร่างเหมือนจานประหลาด และจานบินลำนั้นก็ร่อนลงพื้นๆ อย่างช้าๆ  ท่ามกลางเหล่าตำรวจที่ถูกเรียกมารักษาความปลอดภัยเต็มท้องถนน เมื่อจานบินร่อนไปกับพื้น ตำรวจผู้กล้าคนหนึ่งได้เดินนำหน้าเพื่อเผชิญกับจานบินดังกล่าว และเมื่อประตูจานบินเปิดออกมา และมีร่างในชุดสีน้ำเงินลงมา ทุกคนต่างกริ๊ดๆ เป็นแถวๆ เพราะปรากฏว่าเป็นจานบินปลอมจ้า เนื่องจากจานบินที่ว่าเป็นเพียงบอลลูนที่ตกแต่งเหมือนจานบิน และคนที่เดินออกมาในชุดสีน้ำเงินก็เป็นผู้ชายธรรมด๊าธรรมดานามว่า Richard Branson อายุ 36  ปี โดยเขาเล่าว่าตอนแรกเขาจะร่อนจานบินล้อเล่นนี้ที่เมืองใน Hyde ในวันที่ 1 เมษายน แต่คำนวณพลาดไปหน่อย เพราะแรงลมไม่ดี เลยร่องลงแบบฉุกเฉินนี้แหละ

                (อัตราความเชื่อ ไม่มี)

 

                อันดับ 12: นกเพนกวินบินได้ (Flying Penguins)

                
                คลิปครับ http://www.youtube.com/watch?v=9dfWzp7rYR4

                2008: โลกตะลึง BBC ได้นำเอาภาพวีดีโอเหลือเชื่อที่มีคนเอากล้องไปถ่ายที่ขั้วโลกใต้มาแพร่ภาพ มันเป็นภาพวิวัฒนาการมหัศจรรย์ของนกเพนกวิน นั้นคือ "นกเพนกวินบินได้!!" โอ้พระเจ้าจอร์ด ฝูงนกเพนกวินหลายตัวใช้ปีกเล็กๆ ของมันบินราวกับฝูงเครื่องบิน ผู้รู้อธิบายอย่างมีหลักการว่า เป็นเพราะโลกร้อนนะ ทำให้อากาศขั้วโลกใต้แปรปรวน จนนกเพนกวินทนไม่ไหว มันเลยเร่งวิวัฒนาการตัวเองเพื่อบินได้ โดยมันจะบินอพยพลงไปในพื้นที่เขตร้อนหรือที่อบอุ่นกว่า เช่นอเมริกาใต้เป็นต้น

                (อัตราความเชื่อ 6 โลกมันร้อนนี้)

 

          อันดับ 14: ร่างที่พบในล็อกเนส (The Body of Nessie Found)

               

                1972: 31 มีนาคม 1972 ทีมของนักสัตว์วิทยาจาก สวนสัตว์ Yorkshire's Flamingo Park กำลังตามล่าหาสัตว์ลึกลับที่ชื่อเนสซี จนกระทั้งค้นพบซากลึกลับของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ที่ลอยอยู่ในทะเลสาบล็อคเนส พวกเขาแบกซากศพดังกล่าวเอาไปใส่รถตู้เพื่อนำไปตรวจสอบที่สวนสัตว์ แต่ระหว่างทางดันไปเจอตำรวจไล่หลัง เพราะตำรวจสงสัยว่ารถตู้คันนี้ใส่สิ่งผิดกฎหมาย และสั่งให้รถหยุดและตำรวจก็พูดกฎหมายว่าด้วยห้ามขนย้านสิ่งที่ไม่สามารถระบุได้จากทะเลสาปล็อกเนสปี 1933 ตำรวจทำการยึดซากดังกล่าวเอาไว้ และนำไปตรวจสอบที่อื่นและก็พบว่ามันเป็นซากศพของช้างน้ำธรรมดาเท่านั้น

                วันต่อมาเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ John Shields ออกมารับสารภาพว่าเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือของเขาที่จะแกล้งเพื่อนร่วมงานในวันเอพริลฟูล โดยการนำซากช้างน้ำที่ตายแล้วกว่าสัปดาห์จากสวนสัตว์อื่น ตัดหนวดและขนของมันเสีย ยัดก้อนหินให้ตัวหนักขึ้นและแช่แข็งเอาไว้เป็นสัปดาห์ เมื่อถึงเวลาก็หย่อนลงไปในทะเลสาป และโทรศัพท์ลึกลับปลอมแจ้งเหตุ แต่สิ่งที่ไม่ได้อยู่ในแผนก็คือดันไปเจอตำรวจระหว่างทางซะนี้

                (อัตราความเชื่อ 0 เพราะตำรวจแท้ๆ เชียว ไม่งั้นเรื่องนี้จะฮ่ามากนะจะบอกให้)

 

                อันดับ 15: เกี่ยวกับเวลา (Metric Time)

                
                 This Day Tonight รายการข่าวออสเตรเลียประกาศให้ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงระบบมาตรเวลาใหม่ โดยเปลี่ยนแปลงจากเดิมเป็น 100 วินาทีเท่ากับ 1 นาที. 100 นาทีเท่ากับ 1 ชั่วโมง และ 20 ชั่วโมงเท่ากับ 1 วัน นอกจากนี้ชื่อก็เปลี่ยนไปด้วย จากวินาทีกลายเป็นมิลลิเดย์ (millidays).นาทีเกลายเป็นเซนตริเดย์ (centridays), และชั่วโมงเกลายเป็นเดซิเดย์ (decidays) ราบการนี้มีการสัมภาษณ์กับนายกรัฐมนตรีด้วย รวมไปถึงการโชว์นาฬิกาแบบใหม่ที่มีหน้าปัด 10 ชั่วโมง ผลที่ตามมาคือคนหลายคนเชื่อซะด้วย

                (อัตราความเชื่อ 8 ไม่มีข้อคิดเห็น.....)

 

                อันดับ 18: การบินของผู้ชายคนหนึ่งโดยใช้พลังปอด(Man Flies By Own Lung Power)

               

                1934: ในเมษายน 1934 หนังสือพิมพ์แห่งสหรัฐอเมริกาจำนวนมากมาย, รวมถึง The New York ได้ลงภาพชายคนหนึ่งที่บินขึ้นฟ้าด้วยอุปกรณ์ขับเคลิ้อรเฉพาะโดยใช้พลังลมหายใจ(เป่า)จากปอดของเขา หนังสือพิมพ์ได้สารยายสิ่งประดิษฐ์ใหม่อัศจรรย์นี้ว่า คนในภาพเป็นคนเยอรมันชื่อ Erich Kocher,  ผู้สามารถเก็บลมหายใจใส่ในกล่องที่ติดกับหน้าอกซึ่งจะกระตุ้นให้เครื่องยนต์ทำงานและยกตัวเขาลอยเหนือพื้นดินสิ่ง โดยอุปกรณ์นี้ประกอบด้วยเกียร์เร่งและครีบหาง และตั้งชื่อว่า "เครื่องยนต์พลังปอด" ภายหลังก็รู้ที่มาว่าเป็นการล่อเล่นในวันเทศกาลคนโง่ของคนเบอร์ลิน

                (อัตราความเชื่อ 3 ใช้พลังตดจะน่าเชื่อกว่า)

 

                อันดับ 19: ก้อนน้ำแข็งยักษ์ที่ซิดนีย์(The Sydney Iceberg)

               

                1978: เรือท้องแบนขนส่งลำหนึ่งปรากฏตัวในท่าเรือซิดนีย์ ที่น่าสนใจคือมันลากภูเขาน้ำแข็งยักษ์มาด้วย โดนมหาเศรษฐีเงินล้านผู้รักการผจญภัย Smith (เป็นเจ้าของร้านอาหาร ) กล่าวว่าเขาลากเจ้าก้อนน้ำแข็งนี้มาจากทวีปแอนตาร์ติก  โดยเขาจะเฉือนเจ้าก้อนน้ำแข็งนี้เป็นก้อนสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ขายให้แก่คนสนใจในราคา 10 เซ็นต์  โดยเขาอวดสรรพคุณว่าน้ำแข็งจากแอนตาร์ติกนะเป็นน้ำแข็งบริสุทธิ์, สด เวลาจะใส่ในเครื่องดื่มใดๆ จะทำให้รสชาติมันอร่อยขึ้น

                แต่แล้วเรื่องความลับของน้ำแข็งยักษ์นี้ก็แตก เมื่อฝนตกลงมา ชะล้างเอาเศษโฟมและครีมโกนหนวดออกหมด ทกให้หลายคนรู้ว่าเจ้าน้ำแข็งก้อนนั้นคือขยะพลาสติกดีๆ นี่เอง

                (อัตราความเชื่อ 8 เกือบจะซื้อแล้วสิ)

 

                อันดับ 21: Bombs Away!

               

                1915: เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริงนะครับ วันที่ 1 เมษายน 1915 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 นักขับเครื่องบินนาวาของฝรั่งเศสได้บินบนที่ตั้งค่ายทหารเยอรมันและหย่อนอะไรที่คล้ายๆ ระเบิดขนาดใหญ่ พวกทหารเยอรมันตกใจกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง แต่แล้วระเบิดก็ไม่ทำงานสักที ทหารเยอรมันเลยสงสัน ค่อยๆ มาใกล้ลูกระเบิดอย่างระมัดระวัง และทำการตรวจสอบก็พบว่ามันไม่ใช่ระเบิด แต่เป็นลูกฟุตบอลขนาดใหญ่ที่เขียนว่า "April fool!(เทศกาลคนโง่จ้า)"

                (อัตราความเชื่อ ไม่มี)

 

                อันดับ 22: แครอทพันธุ์ใหม่ (Whistling Carrots)

               

                2002: โลกตะลึง!! ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ประเทศอังกฤษนาม Tesco ได้จัดทำโฆษณาประกาศว่าพวกเขาได้ออกสินค้าใหม่ชื่อ 'Whistling Carrots' เป็นหัวผักกาดแดง(แครอทนั้นแหละ)ที่ดัดแปลงพันธุกรรมอย่างเสร็จสมบูรณ์แบบ โดยแครอทชนิดพิเศษนี้มีจุดเด่นคือภายในจะมีโพรงมากมาย เวลาเหล่าแม่บ้านนำแครอทไปทำอาหาร โพลงเหล่านั้นจะส่งเสียงหวีดๆ เหมือนเสียงผิวปาก เสมือนแครอทเหล่านี้ร้องเพลงนั้นเอง

                (อัตราความเชื่อ 9 แหม....ปี 2002 อะไรก็เป็นไปได้นี้)

 

 

ที่มา

http://info.matichon.co.th/youth/youth.php?tagsub=031101&tag950=03you30260836&show=1

http://en.wikipedia.org/wiki/Category:April_Fools%27_Day

http://www.museumofhoaxes.com/hoax/aprilfool/P20/



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 14 กันยายน 2552 / 16:43

PS.  ทำดีร้อยครั้ง ไม่เท่ากับทำชั่วครั้งเดียว(ใช่เปล่าล่ะ)

แสดงความคิดเห็น

>

18 ความคิดเห็น

Endesign 14 ก.ย. 52 เวลา 17:34 น. 3

มิลลิเดย์ ใครมันขึ้นชื่อเนี่ย


PS.  นามแฝงเก่า Boss Killer Ice นามแฝงที่เพิ่งใช้ Light IN Darkness นามแฝงใหม่ วอร์ค
0
Deta 14 ก.ย. 52 เวลา 18:18 น. 6

อืม...วันเอพริลฟูล...

ข้าน้อยเคยแต่... "ทำไงดีวะ? กุท้อง"

แค่นั้นล่ะ เฮฮากันไปเลยทีเดียว *-*


PS.  [สถานะ:: แอบเซ็ง]// ข้าน้อยไม่ชอบสบู่ก้อน เพราะงั้นข้าน้อยไม่ก้มเก็บสบู่หรอกนะ =w=~ เมี้ยว~ // โฮะ! อะไรกัน? ท่านที่ทำสบู่ตกแบบนั้น หมายความว่ายังไงกันนะ? ลัลลา~~
0
-Dutchmill- 14 ก.ย. 52 เวลา 19:14 น. 7

ฮาอันแรก...มีคนโทรไปด้วย?
ฮ่า...

ท่านคุณครูภาษาอังกฤษก็ถามต้นกำเนิด...ได้คะแนนแล้วสิเรา!


PS.  >>NyMPh<<APb_[W]itCh--->เรื่องมันเศร้า...ก๊าก!!
0
MEANINGLESS• 14 ก.ย. 52 เวลา 19:18 น. 8

กษัตริย์เบอร์เกอร์?
น่าจะเป็นเบอร์เกอร์คิงแบบทับศัพท์นะฮะ : )


อ่านได้สาระมากมาย
โดยส่วนตัวก็ชอบแกล้งชาวประชาในวันนี้อยู่แล้ว 55 5 "
ขอบคุณสำหรับบทความฮะ

เป็นกำลังใจให้ัๆ &#9829;

0
Patora 14 ก.ย. 52 เวลา 19:49 น. 9

ในขณะที่บ้านเราเล่นแต่พวก...
"เจ้าของกระทู้ล้อหล่อเนอะ"


PS.  โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านความคิดเห็น...
0
ล่องหน~ 15 ก.ย. 52 เวลา 22:00 น. 12

เหอะๆ= =;


PS.  +~ชีวิตนั้นสั้นนัก ถ้าครั้งหนึ่งในชีวิต คุณไม่หยุดมองดูมันให้กว้างๆ ทั่วๆ สักครู่ คุณจะพลาดมัน~+
0
Anemone2526 16 ก.ย. 52 เวลา 12:02 น. 13

ถ้าวันนั้นเวียนมาบรรจบครบเมื่อไหร่ อย่าเอาข่าวจริงมาลงเด็ดขาด (เพราะเดี๋ยวคนไม่เชื่อกันหมด)


PS.  เป็นแฟนพันธุ์แท้เรา...ต้องอดทน!!!
0
[FzE] 16 ก.ย. 52 เวลา 20:37 น. 15

 เพื่อนเราเคยเอาเพนกวินบินนั่นมาหลอก=w= เกือบจะเชื่อแล้วเชียวถ้าไม่ใช่ว่าฉากที่มันบินเหนือทะเลมันเห็นว่าตัดต่อชัดๆ

เฮ้อ..ยิ่งเป็นคนเชื่ออะไรง่ายๆอยู่ด้วย


PS.  ...ชีวิตที่เราเลือกเดินอาจจะไม่ใช่ชีวิตที่เราฝันไว้..แต่ไม่ว่ายังไง มันก็คือชีวิตของเรา..
0
Vandoy 17 ก.ย. 52 เวลา 17:55 น. 16

แต่ถ้าเมืองไทยมีแบบนั้นบ้าง
โดนฟ้องเละแน่ บริษัทโทรทัศน์สิ่งพิมพ์ - -


PS.  ถ้าคุณบินได้ จงบิน...
0
14-HAKASE 18 ก.ย. 52 เวลา 21:54 น. 18

ถ้าเป็นผม
ข้ากระผมเชื่อเรื่องที่10(ไร้แรงโน้มถ่วง)ไปแล้วล่ะครับ
จักรวาลนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้
ถ้าเป็นจริงก็คงไม่ต้องเสียเงินขึ้นรถประจำทางไปเรียนแล้วกระมัง


PS.  ปัญหาทุกปัญหามีทางออก เว้นเสียแต่ว่าคุณจะหาประตูที่แฝงตัวอยู่ในความมืดเจอหรือไม่
0