ระบบอุปถัมภ์
ระบบอุปถัมภ์
ประเทศโลกที่สาม มักถูกชาติตะวันตกจัดอยู่ในประเทศยังไม่พัฒนา แต่มีการใช้ภาษาให้ดูดีหน่อยจึงเรียกว่า ประเทศกำลังพัฒนา (Developing Country) ทั้งๆ ที่ระบบต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์ มีช่องว่างเต็มไปหมด กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กับประชาชนไม่เท่าเทียมกัน ทำให้ผู้ที่ไม่ถูกลงโทษเหิมเกริม ไม่เคยคิดว่าบาปบุญคุณโทษมีจริง เวรกรรมเป็นเรื่องนิยายแต่งเติมให้คนหวาดกลัว
ความไม่พัฒนามักมากับความไม่มีระเบียบวินัย การปล่อยปละละเลย ขาดความรับผิดชอบ และสิ่งที่สำคัญคือขาดจิตสาธารณะ คิดว่าธุระไม่ใช่ ไม่ปกป้องคนดี อยู่แบบตัวใครตัวมัน ความเห็นแก่ตัวค่อยๆ สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคม จึงเกิดการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เล่นพรรคเล่นพวกตามมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนตน เกิดสังคมระบบอุปถัมภ์ตามมา ใครอยากได้ตำแหน่งหรือมีงานทำต้องอาศัยเส้นสาย และวิ่งเต้นผู้ใหญ่ บางคนยินยอมจ่ายเงินทองหรือแลกผลประโยชน์เป็นสิ่งตอบแทน ปริมาณเงินทองมากน้อยเท่าใดย่อมขึ้นอยู่กับตำแหน่งหน้าที่หรืองานที่ได้รับว่ามีค่ามากน้อยเท่าใด ถ้าตำแหน่งใหญ่โตและหน้าที่การงานสูง สิ่งตอบแทนให้กับผู้มีอำนาจนั้นก็สูงไปด้วย
ระบบอุปถัมภ์ทำให้เกิดสังคมบูชาเงินทอง ขาดความเมตตาธรรม การเลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงานไม่ได้ยึดหลักคุณธรรม (Merit System) คนดีตั้งใจทำงาน ขยันขันแข็ง ต้องการเห็นบ้านเมืองเจริญก้าวหน้าไม่ได้รับความยุติธรรม ไม่มีการเลื่อนตำแหน่ง วันดีคืนดีอาจถูกกลั่นแกล้ง ลดตำแหน่งเพราะทำหน้าที่ตรงไปตรงมาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไปขัดแข้งขัดขาหรือผลประโยชน์คนมีอำนาจมากกว่าแต่ขาดคุณธรรม คดโกงบ้านเมือง คนดีเหล่านั้นจึงต้องออกจากองค์กรนั้นไป ถ้าเป็นข้าราชการ บ้านเมืองก็ไม่เจริญรุ่งเรือง เกิดขั้วอำนาจ กลุ่มพรรคพวก คนของใคร การทำงานย่อมไม่ต่อเนื่อง เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับรุ่นน้องหรือข้าราชการที่เข้ามาใหม่ให้เลียนแบบว่า ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร ความรู้ความสามารถเอาไว้ทีหลัง ใครมาเป็นหัวหน้าหรือผู้บริหารก็ได้ ขอเพียงแต่ช่วยรักษาผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจเท่านั้น บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ใครจะเดือนร้อน เศรษฐกิจจะล่มจม ผู้มีอำนาจที่แสวงหาอำนาจโดยใช้ระบบอุปถัมภ์ย่อมไม่มีทางสนใจ
การอุปถัมภ์ค้ำจุนย่อมติดตามมาด้วยการคอรัปชั่น เมื่อได้รับตำแหน่งหน้าที่การงานมาด้วยการใช้เงินทอง การถอนทุนคืนย่อมตามมา เกิดการติดสินบน เรียกเงินใต้โต๊ะเพื่อใช้อำนาจที่ได้มาในการเอื้อประโยชน์คนอื่นที่ให้ผลตอบแทน ไม่เพียงแต่วงการข้าราชการและนักการเมืองเท่านั้น แต่ได้ลุกลามไปถึงวงการธนาคาร การอนุมัติสินเชื่อ หรือการซื้อขายสถานที่ในการตั้งเป็นสาขาก็มีการเรียกเงินทองจากผู้ขายเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน ถ้าไม่ยินยอม การอนุมัติเพื่อซื้อขายสถานที่จะไม่เกิดขึ้น นอกจากนั้นยังมีการเจรจาขอให้ลดราคาขายลงเพื่อเอาผลงานอีก ผู้ขายเห็นว่าราคายังดีอยู่ก็จำใจต้องขายให้ ถ้าเก็บสถานที่หรือตึกแห่งนั้นไว้นานเกินไปก็จะกลายเป็นราคาซากได้ เพราะยิ่งนานวันก็มีแต่ชำรุดทรุดโทรมลง ตึกร้าวและพื้นเริ่มทรุด แม้ว่าทำเลค้าขายย่านนั้นจะดีก็ตาม
องค์กรใดแฝงด้วยระบบอุปถัมภ์ ทำให้ขาดแรงจูงใจ พนักงานจะอู้งาน ขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน อยู่ไปเรื่อยๆ ตามแต่ผู้บังคับบัญชาจะสั่งงาน ไม่มีความคิดสร้างสรรค์หรือจะทำให้องค์กรก้าวหน้า ทำไปก็ไม่มีใครเห็นคุณค่า ในไม่ช้าคนดีมีความรู้ความสามารถก็ต้องลาออกจากองค์กรนั้นไป เป็นการทำลายระบบทรัพยากรมนุษย์อย่างรุนแรง ถ้าเป็นข้าราชการผลกระทบยิ่งรุนแรง ส่งผลให้ระบบกลไกภาครัฐไม่ทำงาน ขาดผลสัมฤทธิ์ของงาน งบประมาณแผ่นดินถูกใช้จ่ายไปโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ ทุกเรื่องกลายเป็นการเมืองและผลประโยชน์ไปหมด ในที่สุดสังคมเกิดการแบ่งเป็นกลุ่มก๊วนต่างๆ พรรคการเมืองแตกแยกเป็นขั้วอำนาจ ต้องการผลประโยชน์ ใช้ระบบอุปถัมภ์เพื่อคอรัปชั่นนำเงินทองมาซื้อคะแนนเสียง เมื่อได้เป็นผู้แทนราษฎรก็พยายามแย่งกันจัดตั้งรัฐบาล โกงกินกันต่อไป เป็นที่อาเหน็ดอนาถของประเทศชาติ ไม่มีใครออกมาแก้ไขเพราะบัดนี้มันกลายเป็นมะเร็งร้ายที่กัดกร่อนสุภาพจิตของคนในชาติไปเรียบร้อยแล้ว คนไทยไม่มีความสุข ขาดน้ำจิตน้ำใจที่คอยเอื้ออารีต่อกัน กลายเป็นสังคมตัวใครตัวมัน และประเทศชาติล้าหลังลงไปเรื่อยๆ ไม่มีกำลังจะเยียวยาพิษเศรษฐกิจ ไม่สามารถมีกำลังเตรียมพร้อมรับมือวิกฤติใดๆ ทั้งสิ้นที่อาจอุบัติขึ้นอย่างกะทันหัน นี่คือหายนะของระบบอุปถัมภ์ที่คนมีอำนาจสูงสุดได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาจนกลายเป็นค่านิยม ประเพณีและวัฒนธรรมของประเทศชาติ
3 ความคิดเห็น
ถูก....
PS. หึหึหึ
โหย ออกสอบรัฐศาสตร์ มธ วันนี้ด้วย
Very good, but how to download this article?
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?