เรียนอะไรดี...อาชีพที่หลายคนใฝฝัน
^ ^
คือเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนที่มหาวิทยาลัยมีสอบสัมภาษณ์รอบรับตรงค่ะ
แล้มีผู้ปกครองท่านหนึ่งมาถามทางกับเพื่อนเรา
แล้วถามด้วยว่าเรียนภาควิชาอะไร
เพื่อนเราตอบว่าเรียนเทคโนโลยีธรณี
ผู้ปกครองท่านนั้นเลยถามติดตลกว่าเรียนวิจัยฝุ่นเหรอ
เพื่อนเราก็แค่ยิ้มให้ค่ะ
แล้วมันก็เล่าให้ฟัง
พอได้ฟังแล้วเราโมโหมาก
แบบ...
ลูกคุณไม่ได้เรียนภาควิชานี้แล้วจะมาพูดจาแบบนี้ได้งั้นเหรอ
ตอนนั้นโมโหมาก
คิดว่ามีสิทธิอะไรกล้าพูดแบบนั้น
ไม่ไหวจะเคลียร์ - -+
ด้วยเหตุนี้
เราเลยถือโอกาสแนะนำสายงานของนักธรณีเลย
สำหรับน้องๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรด้วยนะคะ ^ ^
ลองศึกษาดูนะ
เหตุการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว คลื่นยักษ์สึนามิ ภาวะโลกร้อน ตลอดจนปัญหาความเสื่อมโทรมของแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กระตุ้นความสนใจในสาขาอาชีพนักธรณีวิทยามากขึ้น ส่งผลให้มีผู้สนใจเข้าศึกษาในสายวิชาชีพนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เส้นทางของนักธรณีวิทยามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งยังคงเป็นที่สงสัยสำหรับหลายๆ คน และอยากจะรู้จักลักษณะหน้าตาของเส้นทางสายนี้ หนทางที่ท้าทายแห่งนี้ก็เป็นเส้นทางหนึ่งที่ออกแบบไว้สำหรับพาหนะที่เหมาะสม ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลี้ยวเข้ามายังถนนสายนี้ จงหยุดคิดและสำรวจตัวเองก่อนว่า เราเหมาะที่จะเดินบนเส้นทางสายนี้หรือไม่ ถนนของการเป็น "หมอโลก" นั้นจะเป็นอย่างไร ต้องผ่านการเรียนรู้อะไรบ้าง ลองจอดรถสักพัก แล้วอ่านข้อมูลต่อไปนี้สักนิดเถิด
ธรณีวิทยาคืออะไร
ธรณีวิทยาเป็นสาขาวิชาที่ศึกษาองค์ประกอบ โครงสร้างเเละกระบวนการตามธรรมชาติของโลก ตลอดจนผลอันสืบเนื่องมาจากกระบวนการที่เกิดขึ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก เนื่องจากกระบวนการธรรมชาติที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลาทางธรณีกาล โดยอาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ เนื่องจากการดำรงชีพของมนุษย์จำเป็นต้องพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรธรณี อันได้แก่ แร่ หิน น้ำใต้ดิน และเชื้อเพลิงธรรมชาติ ทรัพยากรเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตและการก่อสร้าง โดยเป็นทั้งวัตถุดิบและพลังงาน ความรู้ทางธรณีวิทยาจึงมีความสำคัญในการนำไปประยุกต์กับงานสำรวจ และการออกแบบ เพื่อการพัฒนาปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความมั่นคงของชาติ เช่น เส้นทางคมนาคม เขื่อน โรงไฟฟ้า แหล่งสำรองของทรัพยากรทางธรรมชาติ รวมทั้งการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ อีกด้วย การศึกษาในสาขาวิชาธรณีวิทยาจึงประกอบด้วยการศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานและวิชาทางธรณีวิทยาแขนงต่างๆ รวมทั้งการศึกษาและการฝึกภาคสนาม
บทบาทของนักธรณีวิทยา
นักธรณีวิทยา คือ ผู้ศึกษา ค้นคว้า และเสาะแสวงหา เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในทุกสรรพสิ่งลึกลงไปภายใต้พื้นผิวโลก และถ่ายทอดความรู้ให้กับบุคคลในสายงานอื่นๆ เพื่อการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้ดีขึ้นอย่างสมดุลกับธรรมชาติ โดยการศึกษาข้อมูลและหลักฐานที่ได้จากการสำรวจอย่างมีระบบ นักธรณีวิทยามีหน้าที่การทำงานในหลากหลายบทบาท อาทิเช่น
- Coal geologists สำรวจและวิเคราะห์ทรัพยากรถ่านหิน ประเมินศักยภาพการทำเหมืองถ่านหิน และการพัฒนาก๊าซธรรมชาติจากถ่านหิน (ข้อมูลเพิ่มเติม เซียนต้อย..คน(ไม่)เอาถ่าน)
- Computing geologists พัฒนาโปรแกรมที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศ เช่น ระบบฐานข้อมูล ระบบภูมิสารสนเทศ (GIS) ข้อมูลสถิติต่างๆ เป็นต้น
- Economic geologists ศึกษาวิเคราะห์และประเมินศักยภาพแหล่งแร่เศรษฐกิจ
- Engineering geologists วิเคราะห์ข้อมูลทางธรณีวิทยา เพื่อให้คำปรึกษาแก่หน่วยงานของรัฐ และเอกชน ในเรื่องของความเหมาะสมของพื้นที่ก่อสร้าง อาทิ เขื่อน ทางหลวง สนามบิน อุโมงค์ เป็นต้น และในการสำรวจและผลิตน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ แหล่งแร่ อีกด้วย ซึ่งต้องทำงานร่วมกับวิศวกร
- Environmental geologists ประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้พื้นพูพื้นที่เสื่อมโทรมให้กลับมามีค่าเหมือนเดิม
- Geochemists ศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของแร่และหิน เพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการกระจายตัว และคุณภาพของแร่ในเปลือกโลก
- Geochronologists วิเคราะห์อายุของหิน โดยการศึกษาจากการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี (ข้อมูลเพิ่มเติม ไขปริศนาอายุด้วย Carbon-14)
- Geomorphologists ศึกษาภูมิประเทศ และกระบวนการที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวโลก
- Hydrogeologists ศึกษาปริมาณและคุณภาพของน้ำใต้ดิน ตรวจสอบการปนเปื้อน และพัฒนาน้ำใต้ดินมาใช้ (ข้อมูลเพิ่มเติม น้ำบาดาล: การเกิดและการพัฒนาที่ยั่งยืน)
- Marine geologists ศึกษาสภาพแวดล้อมชายฝั่งทะเลและมหาสมุทร ให้เข้าใจถึงวิวัฒนาการของแอ่งในมหาสมุทร เป็นประโยชน์ต่อการสำรวจแหล่งแร่และปิโตรเลียม
- Mineralogists วิเคราะห์และจำแนกแร่และหิน จากองค์ประกอบทางเคมี และโครงสร้างของแร่ เพื่อนำไปพัฒนาในอุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อม (ข้อมูลเพิ่มเติม คุณสมบัติทางกายภาพของแร่)
- Mining geologists ค้นหาแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ วิเคราะห์และศึกษาแง่ของศักยภาพและความปลอดภัยในการทำเหมือง (ข้อมูลเพิ่มเติม สังกะสีมาจากไหน)
- Paleontologists ศึกษาซากดึกดำบรรพ์ ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับ การกำหนดอายุทางธรณีวิทยา การสำรวจปิโตรเลียม วิวัฒนาการของสภาพแวดล้อมในอดีต (ข้อมูลเพิ่มเติม ไดโนเสาร์ตะลุยโลกล้านปี)
- Petroleum geologists ศึกษาข้อมูลธรณีวิทยา ร่วมกับข้อมูลหลุมเจาะ ข้อมูลธรณีฟิสิกส์ ข้อมูลธรณีเคมี เพื่อหาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และช่วยวิศวกรปิโตรเลียมในกระบวนการสำรวจและผลิต (ข้อมูลเพิ่มเติม ปิโตรเลียม)
- Planetary geologists ศึกษาพฤติกรรมและวิวัฒนาการของโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ในระบบสุริยะ (ข้อมูลเพิ่มเติม นักธรณีวิทยาที่ออกภาคสนามไกลที่สุด)
- Sedimentologists ศึกษากระบวนการเกิดหินตะกอน คุณสมบัติทางการภาพและเคมีของหิน เพื่อนำไปประยุกต์กับการหาแหล่งถ่านหิน ปิโตรเลียม และทรัพยากรแร่ (ข้อมูลเพิ่มเติม หินตะกอน: ชนิดและการจำแนก)
- Stratigraphers ศึกษาการระบบของชั้นหินตะกอน วิเคราะห์ซากดึกดำบรรพ์ และส่วนประกอบหินตะกอนที่ได้จากหลุมเจาะ เปรียบเทียบกับข้อมูลกับพื้นที่อื่น ซึ่งมีประโยชน์ต่อการหาทรัพยากรธรรมชาติ
- Structural geologists ศึกษารูปร่างและการเปลี่ยนรูปของหิน เพื่ออธิบายถึงการกระบวนการเกิด ซึ่งการเปลี่ยนรูปโครงสร้างโลกนั้นมีศักยภาพต่อการสะสมตัวของแหล่งแร่ และปิโตรเลียม (ข้อมูลเพิ่มเติม ธรณีแปรสัณฐาน)
- Surficial geologists ศึกษาตะกอน และชั้นหินบริเวณผิวโลก เพื่อเป็นข้อมูลต่อการก่อสร้าง การสำรวจแหล่งแร่ แหล่งปนเปื้อน การจัดการพื้นที่และการวางระบบผังเมือง
- Volcanologists ศึกษาภูเขาไฟที่ยังปะทุและดับแล้ว ศึกษากระบวนการเกิดทั้งทางเคมี และกายภาพ เพื่อประเมินการเสี่ยงภัยในอนาคต (ข้อมูลเพิ่มเติม หินอัคนี: ชนิดและการจำแนก)
- Well site geologists ทำงานใกล้ชิดกับทีมงานขุดเจาะในพื้นที่สำรวจ เพื่อให้มั่นใจว่าหลุมเจาะนั้นอยู่ในตำแหน่งที่กำหนดไว้ และทำการเก็บตัวอย่างจากหลุมเจาะมาวิเคราะห์ (ข้อมูลเพิ่มเติม แท่นอาทิตย์ เจาะชีวิต ติดก๊าซ)
อยากรู้จักมากกว่านี้สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในภาคผนวกของรายงานเรื่อง Status of the Geoscience Workforce 2009 เผยแพร่โดย The American Geological Institute (AGI)
นักธรณีวิทยาจะต้องบูรณาการความคิดกับข้อมูลที่มีอยู่ บวกกับจินตนาการ และถ่ายทอดให้กับผู้อื่น โดยทั่วไปงานทางธรณีวิทยามักจะอยู่ในชั้นตอนแรกๆ ของโครงการต่างๆ หลังจากนั้นจะคอยควบคุม ให้คำแนะนำ และประเมินผลกับผู้ร่วมงานจนเสร็จสิ้นโครงการ นักธรณีวิทยาจะต้องถ่ายทอดผลการศึกษา เสนอแนะ และแลกเปลี่ยนความคิดกับผู้อื่นอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็น นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร นักธุรกิจ หรือแม้กระทั่งชาวบ้านธรรมดาทั่วไป ดังนั้นนักธรณีวิทยาจึงจะต้องมีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพและต่อผู้อื่นด้วย
สภาพการทำงานของนักธรณีวิทยา
สภาพการทำงานของนักธรณีวิทยาล้วนแล้วแต่แตกต่างกันออกไปตามบทบาทข้างต้น มีทั้งการทำงานในห้องทำงาน การออกพบปะผู้คนจากหลากหลายหน่วยงาน และการออกภาคสนามร่วมกับผู้อื่น ซึ่งอาจจะต้องออกสำรวจภาคสนามนานนับเดือน ในพื้นที่ห่างไกล ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งบนบกและกลางทะเล แน่นอนว่าอาจจะต้องมีความลำบากบ้าง สบายบ้าง อีกทั้งอาจจะเจออุปสรรคระหว่างทำงาน อาทิ สภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ แดดร้อน ฝนตก สกปรก เปรอะเปื้อน การปฏิสัมพันธ์กับคนในพื้นที่ เป็นต้น หากเป็นงานในเหมืองแร่อาจจะต้องทำงานใต้ดินอีกด้วย ซึ่งแต่ละสถานที่มีความเสี่ยงอันตรายสูง และอาจก่อให้เกิดความเครียดได้ ดังนั้นนักธรณีวิทยาที่ดีจะต้องมีจิตใจมั่นคงไม่ท้อถอย ชอบท่องเที่ยว ผจญภัย ขยันขันแข็ง ซื่อสัตย์ มีวินัย มีความคิดริเริ่ม มีความจำดี ช่างสังเกต สุขภาพแข็งแรง อดทน เรียบง่าย สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ดี (ข้อมูลเพิ่มเติม อุปกรณ์ทางธรณีวิทยา: อาวุธสำหรับนักธรณีภาคสนาม)
+สำรวจตนเอง+
หลังจากที่ได้เห็นภาพรวมของธรณีวิทยาและการทำงานของนักธรณีวิทยาเบื้องต้นแล้ว ทีนี้ก็ถึงขั้นตอนของการสำรวจตัวเราเอง จริงๆ แล้วทุกคนสามารถเรียนธรณีวิทยาได้ แต่การที่จะเรียนได้ดี มีความสุข และประสบผลสำเร็จในสายอาชีพนี้ ผู้นั้นจะต้องมีบุคลิกภาพที่พร้อมต่อการใช้เชาว์ปัญญาและความคิด มีสติดี ยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น ชอบคิด สังเกต มีจินตนาการ วิเคราะห์วิจารณ์อย่างมีเหตุผล ชอบแก้ปัญหา ชอบใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ เพราะความรู้ทางธรณีวิทยานั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อมีข้อมูลที่ดีขึ้น คุณสมบัติเหล่านี้อาจจะฟังดูธรรมดาทั่วไป แต่ที่พิเศษสำหรับผู้เรียนธรณีวิทยาและจำเป็นอย่างยิ่ง ก็คือ การมีใจรักธรรมชาติและการผจญภัย มีนิสัยเรียบง่าย ยอมรับความลำบาก พูดจารู้เรื่อง ตาไม่บอดสี สายตามองเห็นภาพสามมิติ ไม่เป็นโรคกลัวความสูง และมีร่างกายที่แข็งแรง
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายอาชีพทางธรณีวิทยา โดย คุณนเรศ สัตยารักษ์ - หนึ่งในสุดยอดนักธรณีวิทยาไทย
+แนวทางการเข้าศึกษาระดับปริญญาตรี+
ผู้ที่จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมีความประสงค์จะเข้าศึกษาต่อ สาขาวิชาธรณีวิทยา จะต้องมี ความรอบรู้ในสาขาวิทยาศาสตร์ โดยเน้นวิชาคณิตศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา และสมัครสอบเข้าศึกษาได้โดยการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาของทบวงมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยที่เปิดการเรียนการสอนในหลักสูตรปริญญาตรี ได้แก่
หลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิต (วท.บ.)
- ภาควิชาธรณีวิทยา (Geology) คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ภาควิชาธรณีวิทยา (Geological Sciences) คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- ภาควิชาเทคโนโลยีธรณี คณะเทคโนโลยี (Geotechnology) มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- สาขาวิชาธรณีศาสตร์ (Geosciences) ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- สาขาวิชาวิทยาศาสตร์พื้นพิภพ (Earth Sciences) ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
หลักสูตรปริญญาวิศวกรรมศาสตร์ (วศ.บ.)
แม้ว่าแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีความหลากหลายในรายวิชาแตกต่างกันไป สังเกตได้จากชื่อของสาขาหรือภาควิชา แต่ทุกสถาบันข้างต้นจะให้ความรู้ในเนื้อหาหลักที่สำคัญของธรณีวิทยาแก่ผู้ศึกษาทุกคน รวมถึงการออกภาคสนาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนการสอน
การเลือกมหาวิทยาลัยขึ้นอยู่กับความสนใจส่วนตัว ควรเริ่มจากการศึกษาปณิธานและเป้าหมายที่สถาบันนั้นๆ ตั้งไว้ และดูรายวิชาที่เปิดสอนในแต่ละชั้นปีประกอบว่าที่ไหนโดนใจเรามากที่สุด ซึ่งสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ที่ให้ไว้ หรือขอรับคำปรึกษาจากรุ่นพี่นักศึกษา ศิษย์เก่าหรือคณาจารย์จากสถาบันเหล่านั้น สอบถามถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพการเรียนการสอน หลักสูตร กิจกรรมนักศึกษา และโอกาสในการทำงานหลังจบการศึกษา หากได้รับคำแนะนำที่เป็นการยุยง โน้มน้าว เปรียบเทียบเกินจริงจากข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ ควรใช้วิจารณญาณและข้อมูลอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจ การชวนผู้ปกครองเข้าไปเยี่ยมชมสถาบัน เพื่อสัมผัสบรรยากาศจริง หรือการเยี่ยมชมสถานที่ทำงานของนักธรณีวิทยาหรือพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา ก็สามารถช่วยให้เห็นภาพของธรณีวิทยามากขึ้น
ในแต่ละปีจะมีการประกาศรับสมัครนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้าย เพื่อรับทุนรัฐบาลไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี-โท-เอก ในสาขาธรณีวิทยา ณ ต่างประเทศ สามารถติดตามข่าวสารทุนการศึกษาได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานก.พ.
อีกหนึ่งช่องทางของการขอคำปรึกษาและข้อมูลเกี่ยวกับธรณีวิทยา เว็บไซต์วิชาการธรณีีไทย (GeoThai.net)
สภาพการเรียนโดยทั่วไป
การเรียนการสอนเป็นลักษณะการบรรยายในห้องเรียน และห้องปฏิบัติการ ร่วมกับการออกภาคสนามในสถานที่ต่างๆ ทั้งในระหว่างภาคการศึกษา และช่วงปิดเทอม เนื้อหามีการท่องจำค่อนข้างมากพอสมควร โดยเฉพาะการเรียนเกี่ยวกับแร่ หิน และซากดึกดำบรรพ์ ซึ่งเป็นวิชาพื้นฐาน มีการคำนวณบ้างแล้วแต่รายวิชา ธรณีวิทยาเป็นวิชาทักษะที่ต้องได้รับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ อาจจะต้องทำงานในห้องปฏิบัติการนอกเวลาเรียนเพิ่มเติม มีการประเมินผลการทำงานเป็นกลุ่มและเดี่ยว ในรูปแบบของรายงาน การบ้าน การทำแผนที่ รายงานการสำรวจ การเขียนแบบ วาดภาพระบายสี การนำเสนอหน้าชั้นเรียน งานวิจัยค้นคว้าอิสระ การสอบที่มีทั้งการสอบข้อเขียนบรรยาย สอบปากเปล่า และการสอบแบบจับเวลา!
นอกเหนือจากการเรียนการสอนแล้ว แต่ละสถาบันข้างต้นมีกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกของกลุ่มนักศึกษาตลอดทั้งปี ซึ่งสามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ของแต่ละสถาบันเช่นกัน นอกจากนี้ทุกปีจะมีกิจกรรมที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันที่หมุนเวียนกันจัดขึ้นอีกด้วย
แนวทางการศึกษาต่อ
บัณฑิตที่จบจากสถาบันข้างต้นสามารถศึกษาต่อปริญญาโท และเอก ได้ทั้งใน และต่างประเทศ โดยสามารถศึกษาเฉพาะด้าน หรือร่วมกับสาขาอื่น เช่น วิทยาแร่ ศิลาวิทยา ธรณีเคมี ธรณีฟิสิกส์ ธรณีวิทยาเหมืองแร่ อุทกธรณีวิทยา ธรณีวิทยาปิโตรเลียม วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม วิศวกรรมเหมืองแร่ ธรณีเทคนิค วิศวกรรมธรณี มากมายได้อีก ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดการเรียนการสอนในหลายมหาวิทยาลัยในประเทศไทย
นอกจากนี้ยังมีทุนให้ศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ จากหน่วยงานราชการ และเอกชนอีกด้วย ติดตามข่าวสารทุนการศึกษาได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานก.พ. และ เว็บไซต์วิชาการธรณีีไทย (GeoThai.net)
แหล่งงานประกอบอาชีพ
ผู้สำเร็จการศึกษาสาขาวิชาธรณีวิทยาสามารถสมัครงานในหน่วยงานต่างๆ ดังนี้
- หน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมพลังงานเชื้อเพลิง มหาวิทยาลัย กรมทรัพยากรธรณี พิพิธภัณฑ์ธรณี เป็นต้น โดยเป็นอาจารย์ นักวิจัย หรือนักวิชาการ
- รัฐวิสาหกิจ เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
- หน่วยงานเอกชน เช่น บริษัทเหมืองแร่ บริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียม บริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม บริษัทที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
การสมัครงานเกิดขึ้นทุกปี แต่มีอัตราการรับไม่แน่นอน ซึ่งผู้ศึกษาต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ เนื่องด้วยภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น ผลการเรียนและภาษาอังกฤษมีความจำเป็นอย่างมาก อีกทั้งประวัติพฤติกรรมที่ดีตลอดการเดินทาง ถนนสายนี้ค่อนข้างแคบและรู้จักกันเป็นอย่างดี หลายหน่วยงานเปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้าไปฝึกงานร่วมกับนักธรณีวิทยาในสภาพการทำงานจริง ซึ่งจะเป็นเวลาที่เราค้นพบว่าเราชอบและมีความถนัดในสายงานนั้นๆ จริงหรือไม่
โดยปกติกระบวนการรับสมัครจะเริ่มตั้งแต่การรับสมัครนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายก่อนจบการศึกษา หน่วยงานต่างๆ จะแวะเวียนกันมาแนะแนว รับสมัครและสัมภาษณ์ถึงในมหาวิทยาลัย แต่ก็มีหลายหน่วยงานที่ไม่สามารถมาได้ก็จะฝากข่าวประกาศแจ้งรายละเอียดการรับสมัครและสถานที่ให้ทราบผ่านภาควิชา หรือคณาจารย์ อีกรูปแบบหนึ่งสำหรับคนที่อยู่ในช่วงระหว่างการหางานประจำ คือ การรับงานพิเศษช่วงสั้นๆ เช่น งานช่วยเดินสำรวจภาคสนาม เก็บตัวอย่างหินแร่ งานวิเคราะห์ข้อมูล เป็นต้น ซึ่งมักเป็นการร้องขอให้ช่วยเหลือจากนักธรณีวิทยารุ่นพี่ และมีค่าตอบแทนให้ด้วย การรับสมัครงานบางประเภทอาจมีการกำหนดเพศ ผลการเรียน หรือผลภาษาอังกฤษของผู้สมัครด้วย
ข้อเท็จจริง
ผู้หญิงกับธรณีวิทยา?
ปัจจุบันมีนักศึกษาหญิงและนักธรณีหญิงจำนวนมาก ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้หญิงสามารถเรียนและประสบผลสำเร็จในสายอาชีพธรณีวิทยาได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ
เรียนธรณีวิทยาแล้วได้ทำงานบริษัทน้ำมัน?
หลายคนตั้งความหวังไว้ว่า หากเป็นนักธรณีวิทยาแล้วจะได้เข้าทำงานในบริษัทสำรวจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ที่ซึ่งให้ค่าตอบแทนหรือเงินเดือนค่อนข้างสูง แต่ในความเป็นจริงแล้วตำแหน่งงานที่เปิดรับในสายนี้มีจำนวนจำกัด ซึ่งเป็นส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้เรียนจบธรณีวิทยาทั่วประเทศในแต่ละปี ดังนั้นจึงไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะได้ทำงานในสายนี้ งานของนักธรณีวิทยามีอย่างอื่นอีกมากมายดังที่ได้แนะนำไว้ในหัวข้อ แหล่งงานประกอบอาชีพ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
งานมิใช่น้อยเลยใช่มั้ยล่า
I ♥ GEOTECH ^ ^
ขอบคุณข้อมูลจาก http://geothai.net/2009/index.php?option=com_content&view=article&id=225:2009-11-22-20-19-33&catid=27
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 27 ธันวาคม 2552 / 10:46
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 28 ธันวาคม 2552 / 19:14
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 28 ธันวาคม 2552 / 19:15
PS. ความอยากรู้ไม่ถือเป็นบาป แต่เราต้องระวังเมื่อทำอะไรด้วยความอยากรู้
9 ความคิดเห็น
เอ่อ...
มีข้อสงสัยอะไรถามได้เน้อ
^ ^
PS. ความอยากรู้ไม่ถือเป็นบาป แต่เราต้องระวังเมื่อทำอะไรด้วยความอยากรู้
เราเห็นพี่ๆ ส่วนใหญ่เค้าทำงานน้ำมันอ่ะ
พวก ปตท เชฟรอน เงี้ย
เหมือง
อะไรแบบนี้
PS. ความอยากรู้ไม่ถือเป็นบาป แต่เราต้องระวังเมื่อทำอะไรด้วยความอยากรู้
แหมๆๆ
บ. พวกนั้น  เข้าได้กี่คนกันเชียว
ปกติ เขาก็รับ แต่ วิศวปิโตรเลียม  ปิโตรเคมี เคมี  โยธา สำรวจ ไฟฟ้า เครื่องกล ทั้งนั้นแหล่ะ
มองรุ่นพี่คนอื่นบ้างก็ดีนะ
เพื่อนผมคนหนึ่ง ไม่เจอกันนาน  มันบอกว่าทำงาน อยู่ปตท.
ซึ่งมันก็จริงๆ  มันเป็นเด็กปั้ม ปตท. แถวบ้านผมนี้เอง
เพราะปีๆ นึงปตท เค้ารับทั่วประเทศ 15 คน
แต่เรียน Geo น่ะนะ
ไม่ตกงานหรอก
นอกจากคุณจะเลือกงาน
ว่าฉันต้องทำแค่น้ำมัน
ธรณีน่ะเรียนคล้ายๆ วิศวะปิโตร
แต่เราได้ออกภาคสนาม
เน้นปฏิบัติและทฤษฎี
และสายงานเรากว้างกว่าด้วย
ทำได้ทั้งวิศวะธรณีและธรณีวิทยา
น้ำบาดาลยังได้
ทำกับรัฐก็ได้
รุ่นพี่ที่จบไปปีที่แล้วก็มีงานทำกันทุกคน
และสาขาวิชานี้กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด
เราอยู่กับโลกทุกวัน
สิ่งที่เราเรียนไปย่อมได้ใช้อยู่แล้ว
ทำไม้ต้องฟิกด้วยว่างานแบบนี้ต้องวิศวะเท่านั้น
นักธรณีก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใครหรอกนะ
PS. ความอยากรู้ไม่ถือเป็นบาป แต่เราต้องระวังเมื่อทำอะไรด้วยความอยากรู้
เบื่อพวกชอบดูถูกภาคคนอื่นเค้าจิงๆเลย
ไม่ได้มาเรียน ไม่ได้เข้ามาสัมผัสก็เอาแต่พูด
น่าเบื่อมาก
เราเรียนวิศวะเครื่องกล
วันนั้นนั่งรถ คนขับก็ถามว่าเรียนอะไร ก็บอกไป
เค้าดันไปเข้าไปว่าเป็นช่างกล ถามว่าเป็นผู้ หญิงเรียนช่างทำไม
เราก็อธิบายไป แกก็ไม่เข้าใจที่เราพูด
ก็เลยปล่อยไป เข้าใจ...
เฮ้อ  เห็นแล้วท้อ เรียนไรดีว้า
ตั้งใจเรียนนะครับ
อยากเรียนอยู่ค่ะแต่ยังไม่รู้ว่าต้องเรียนสาขาไหน
ชอบผจญภัยค่ะ ชอบอะไรที่ท้าทายตอนนี้ก็เรียน วิทย์-คณิตอยู่
กำลังขึ้นม.5อยากเป็นวิศวปิโตรเลียม แต่อีกใจก็อยากเรียนสายนี้
ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ เป็นพวกที่ชอบบุกป่าฝ่าดง 555
ปล.ภาษาไม่ค่อยเก่งเท่าไรค่ะไม่รู้ว่าจะเหมาะมั้ย
PS. รักพี่สาว โซนยอชิแด ฮิ๊วววว ~~ จิกึมมึน โซนยอชิแด อาพือโรโด โซนยอชิแด ยองวอนฮี โซนยอชิแด
ตอนนี้ผมกำลังจะขึ้น ม 4 ผมอยู่สายวิทย์-คณิตครับ
ไม่เก่งภาษาอังกฤษจะพอเรียนด้านนี้ได้ใหมครับ
ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?