Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

(^o^) เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการผ่าตัดแปลงเพศ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการผ่าตัดแปลงเพศ

ศัลยกรรม


พ.ร.บ. แปลงเพศ 2552 (สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยแห่งประเทศไทย)

          ปัจจุบันการผ่าตัดแปลงเพศได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นการรักษาที่ เหมาะสม เป็นประโยชน์และช่วยเหลือกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า "บุคคลข้ามเพศ" (Transsexual) ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยใช้ศัลยกรรมช่วยสร้างอวัยวะเพศใหม่ให้ตรงกับ เพศที่บุคคลนั้นต้องการ ในหลาย ๆ ครั้ง บุคคลเหล่านี้อาจถูกเรียกว่าเป็นผู้ป่วยด้านจิตเวชด้วยเหตุและปัจจัย บางอย่าง

          ในประเทศตะวันตก มีการผ่าตัดแปลงเพศมาตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ. 2500 ส่วนในประเทศไทยมีการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิงเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2518 จนกระทั่งฝีมือศัลยแพทย์ไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับทั่วโลก นอกจากจะมีการผ่าตัดผู้ป่วยชาวไทยแล้ว ยังมีผู้ป่วยต่างชาติเดินทางเข้ามารับการผ่าตัดแปลงเพศในประเทศไทยตั้งแต่ ประมาณปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา 

          ในประเทศตะวันตกรวมทั้งประเทศในเอเซีย อาทิ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นต้น ผู้ที่จะขอรับการผ่าตัดได้จะต้องผ่านเกณฑ์การประเมินวินิจฉัยและการรักษาจาก จิตแพทย์ แพทย์ด้านต่อมไร้ท่อรวมทั้งใช้ชีวิตในเพศที่ต้องการเป็นระยะเวลาหนึ่งก่อน จากนั้นจิตแพทย์จึงจะออกหนังสือรับรองว่า ผู้ป่วยนั้นมีความเหมาะสมที่จะได้รับการผ่าตัดแปลงเพศ ศัลยแพทย์จึงสามารถทำผ่าตัดให้ผู้ป่วยได้ จากนั้นผู้ที่ได้รับการผ่าตัดในประเทศเหล่านั้นก็สามารถร้องขอให้รัฐเปลี่ยน สถานะทางเพศตามกฎหมายให้กับผู้ป่วยได้

          สำหรับ ในประเทศไทย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่มีกฎเกณฑ์การประเมินวินิจฉัยผู้ที่ขอรับการผ่าตัด โดยเคร่งครัด ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ได้พบจิตแพทย์หรือแพทย์ด้านต่อมไร้ท่อ ศัลยแพทย์แต่ละคนมีเกณฑ์คัดกรองประเมินผู้ป่วยที่ขอรับการผ่าตัดแปลงเพศแตก ต่างกัน ไม่ว่าเรื่องอายุขั้นต่ำของผู้ป่วย ระยะเวลาที่ต้องได้รับการดูแลด้านจิตเวชมาก่อน ระยะเวลาในการใช้ฮอร์โมนก่อนผ่าตัด ระยะเวลาที่ต้องใช้ชีวิตแบบเพศตรงข้าม อย่างไรก็ตาม ก็ไม่เคยเกิดปัญหาที่เกี่ยวกับการแปลงเพศ อีกทั้งมีผู้ป่วยชาวต่างชาติจากทั่วโลกเดินทางเข้ามารับการผ่าตัดแปลงเพศมาก ขึ้นทุกปี จนกระทั่งเกิดกรณีวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการตัดลูกอัณฑะ ให้กับวัยรุ่นจำนวนมาก ทำให้แพทยสภาเห็นว่าจะต้องมีการพิจารณาออกกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการรักษาด้วยการ แปลงเพศเหมือนในประเทศอื่น ๆ โดยมีความคาดหวังดังนี้

          ประการที่หนึ่ง บุคคลข้ามเพศรวมทั้งผู้ที่มีความผิดปกติด้านเอกลักษณ์ทางเพศอื่น ๆ (Gender Identity Disorder) จะเข้าถึงบริการด้านการแพทย์และได้รับการดูแลดีขึ้นและครอบคลุมมากขึ้นจาก บุคลากรการแพทย์ต่าง ๆ อาทิ ได้รับการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง การให้ความรู้ความเข้าใจและการบำบัดรักษา ทั้งส่วนผู้ป่วยเอง ครอบครัว สังคม จากจิตแพทย์ ได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมนและให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องผลข้างเคียง และข้อระมัดระวังในการใช้ฮอร์โมนจากแพทย์ต่อมไร้ท่อ สุดท้ายคือ ได้รับการรักษาจากศัลยแพทย์ที่มีความรู้ความวชาญในการผ่าตัดแปลงเพศ

          ประการที่สอง มีการรักษาและส่งเสริมมาตรฐานจริยธรรมวิชาชีพให้กับแพทย์ทุกฝ่ายที่เกี่ยว ข้อง โดยมีการสัมมนาและออกหนังสือแนวทางปฏิบัติสำหรับจิตแพทย์ แพทย์ต่อมไร้ท่อ และศัลยแพทย์ ในการรักษาเพื่อแปลงเพศเป็นมาตรฐาน ลดโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งและการฟ้องร้องระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย กรณีเกิดปัญหาจากการรักษาเพื่อแปลงเพศในอนาคต

          ประการที่สาม ช่วยให้สังคมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบุคคลข้ามเพศมากขึ้น ในอดีตคงเป็นที่ทราบกันว่า บุคคลข้ามเพศถูกมองในเชิงลบและถูกกันออกจากสังคมมากเพียงใด แต่จากนี้ไป หลังบุคคลข้ามเพศได้รับการดูแลด้านการแพทย์จนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ก็จะมีโอกาสใช้ความรู้ความสามารถตามศักยภาพของแต่ละคนในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง ของสังคมสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

          ประการที่สี่ จากการประสานงานและจัดการประชุมสัมมนาร่วมหลายครั้งของแพทยสภากับราช วิทยาลัยจิตแพทย์ อายุรแพทย์ ศัลยแพทย์ สูตินรีแพทย์ และกุมารแพทย์ รวมทั้งส่วนราชการอื่น ๆ อาทิ ศาลฏีกา กองทัพ กระทรวงต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมอัยการ ก.พ. สภาทนายความ ฯลฯ น่าจะเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้รัฐพิจารณาการออกหรือแก้กฎหมาย เพื่อให้บุคคลข้ามเพศมีสิทธิต่าง ๆ ดีขึ้น หรือถึงกับเปลี่ยนสถานะทางเพศตามกฎหมายเป็นเพศใหม่หลังผ่าตัดได้

          ทั้งหมดนี้น่าจะทำให้มองภาพออกว่า การบังคับใช้ข้อบังคับแพทยสภา เรื่องหลักเกณฑ์การรักษาเพื่อแปลงเพศ พ.ศ. 2552 จะมีผลกระทบต่อทุกภาคส่วนอย่างไร แน่นอนว่า นับจากปลายเดือนพฤศจิกายน 2552 เป็นต้นไป ก่อนที่บุคคลข้ามเพศแต่ละคนจะสามารถเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศได้นั้น จะต้องมีกระบวนการที่ใช้เวลามากขึ้น ขั้นตอนมากขึ้น เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จิตแพทย์ และแพทย์ด้านต่อมไร้ท่อ รวมทั้งสูตินรีแพทย์จำนวนหนึ่ง ที่ไม่เคยต้องมีส่วนในการรักษาเพื่อแปลงเพศ ก็จะต้องสละเวลาเข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้มากขึ้น

          ศัลยแพทย์จะผ่าตัดแปลงเพศให้กับผู้ป่วยได้ ก็ต่อเมื่อผู้ป่วยมีหนังสือรับรองจากจิตแพทย์ 2 ท่าน หรือในกรณีผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามารับการผ่าตัด ก็จะต้องผ่านการคัดกรองและประเมินจากจิตแพทย์ไทย 1 ท่านก่อน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะช่วยคัดกรองให้ผู้ที่เหมาะสมจริง ๆ เท่านั้นที่จะได้รับการรักษาด้วยการแปลงเพศอย่างถาวร วงการแพทย์ของประเทศไทยก็จะได้รับความเชื่อถือในสายตาของนานาชาติมากขึ้นอีก ระดับหนึ่ง


ที่มา http://women.kapook.com/view10255.html




จาก...Nut
ปล.ฝากกระทู้ด้วยน่อ
(^o^) สำรวจเรื่องแปลกรอบโลก
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1603460
(^o^) เหยือกน้ำกับชีวิต
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1603449
(^o^) The Winners VS The Losers

http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1603442


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2553 / 03:23

PS.  U1N_AgAu_DSFCB El Barca es mes que un club !!! Debsirin,It's the best school in the land !!!

แสดงความคิดเห็น

>

26 ความคิดเห็น

YOU \' RE MINE!! 22 ก.พ. 53 เวลา 10:16 น. 1

ผ่าตัดแปลงเพศมันก็ดีนะ...
เราว่ามันช่วยลดปัญหาทางด้านจิตใจได้เยอะเลย
สำหรับคนทีื่เขาอยากจะเป็นจริงๆ อ่ะ


PS.  เลิฟยูมากมายนะจีจี้ >///<~
0
wota 22 ก.พ. 53 เวลา 17:05 น. 2

ถ้าคุรทำเเล้ว มีความสุขไม่มีใครเดือดร้อน   ในการกระทำของคุณก็ทำซะเถอะ
 ก่อนนะถึงวันสิ้นโลก อานะ


PS.  ขอพรเทพเจ้าเเห่งเเสงสว่างที่สาดส่องทั่วท้องนภา ขอให้พระองค์โปรดให้พร เเด่ผู้ที่หลงเข้ามาในดินเเดนเเห่งข้า
0
มะขามน้อย 22 ก.พ. 53 เวลา 18:27 น. 3

                                                                                        คุ.

                           
นะคะเพิ่งจะรู้อ่ะค่ะ ( ^_^ )

* ว่าการแปลงเพศพวกอย่างเช่นพี่ปอย ถือว่าความสุขของเค้า

 ปล. คหสต.

                           


PS.  ยิ้ม วันละนิด ถ้ายิ้ม ทุกวัน เป็นบ้า ~
0
หมูน้ำ 22 ก.พ. 53 เวลา 21:54 น. 5

น่าจะช่ายเรา ก้อดูเหมือนกัน

เรานะงง มากเร้ย
จุดประสงค์เดียวกัน แต่คนละแนวความคิด

ผู้หญิงข้ามเพศ หรือ กระเทย หรือ บรา บราาาาาาาา

0
slc 23 ก.พ. 53 เวลา 15:16 น. 6

คณะศิลปศาสตร์&nbsp วิทยาลัยเซนต์หลุยส์&nbsp  เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ด้วยวิธีการสัมภาษณ์ระบบรับตรง&nbsp  ปีการศึกษา 2553&nbsp  ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 30 เมษายน 2553
สาขาวิชาจิตวิทยา ได้แก่ จิตวิทยาการปรึกษา, จิตวิทยาองค์การ ,จิตวิทยาคลินิก
สาขาวิชาภาษาอังกฤษเชิงวิชาชีพได้แก่ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารนานาชาติ, ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารธุรกิจสุขภาพ
สมัครวันนี้รู้ผลทันที
สอบผ่านจ่ายเพียง 5,000 บาท เพื่อสำรองที่นั่งขึ้นทะเบียนนักศึกษา
สมัครด่วนรับจำนวนจำกัด!! สนใจติดต่อ&nbsp 088-608-2548&nbsp www.slc.ac.th

0
Female 24 ก.พ. 53 เวลา 01:29 น. 7

ถ้าใครผ่าตัดแปลงเพศแล้ว ก็เปลี่ยนเพศให้เค้าทางกฎหมายด้วยเถอะ อยากให้ในไทยเป็นแบบนี้บ้างจัง

แต่ผู้หญิงแท้ๆ ก็อยากเป็นผู้ชายเยอะนะ

โลกวิบัติไปหมด

แต่ส่วนใหญ่กระเทยมีความสามารถสูงเยอะนะ

0
momoza_aoy 24 ก.พ. 53 เวลา 09:27 น. 9

555+

ใจคนอ่ะนะ

คิดไรก็อยากทำ

เราว่าดีออก


PS.  ทุกๆวันมีไว้ให้ท้าทายมิใช่ไว้ท้าทาย
0
MiNi_Mintz 24 ก.พ. 53 เวลา 11:11 น. 10

มันก็เป็นสิทธิของเค้า

คนเรามันก็มีความชอบ ความใฝ่ฝันเป็นของตัวเอง


PS.  //ลัลล๊ากันเถอะ //
0
ITim_Hunter 24 ก.พ. 53 เวลา 17:43 น. 13

ถ้าเขาทำแล้วมีความสุขก็ดีแล้ว

ถ้าไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม


PS.  รักความถูกต้อง ไม่ได้ตามกระแส
0
MinnaM 24 ก.พ. 53 เวลา 19:07 น. 14

ขอบคุณค่ะ
เพิ่งรู้ว่าแปลงเพศสมัยนี้ ล้ำยุคจนไม่น่ากัวแล้ววว 
ทำไรก่อเกิดความสุขต่อตัวเอง และไม่เดือดร้อนใคร ทำเถอะ...

แต่ ภูมิใจในสิ่งที่เรามีก็ดีอ่ะ...

0
896 24 ก.พ. 53 เวลา 23:44 น. 15

ยัยนก มันบ้า&nbsp พุดมาได้ว่า มันเปนผุหญิง 100 เปอเซน

มัม พี่จิ๋ ม ทุกคนพุดจามีเหดผล หมด&nbsp แต่ยัยคนนี้ ชีหลอกตัวเอง


เข้าใใจว่า คุณมีฮอโมนเพศหญิงต้องการจะเป็นเพศหญิง จริงๆคุณสวยกว่าเพศหญิงด้วยซ้ำ

แต่การออกมาพูดจาแบบนี้ ยิ่งทำให้ตัวเองดูแย่นัะ&nbsp เป็นโรคจิตรึป่าว เถียงข้างคูๆ

-*-

0
100%Male 25 ก.พ. 53 เวลา 10:38 น. 17

สุดท้าย คนที่ซวยที่สุด ก้คือ ชายแท้แบบเราเนี่ยแหละ

(นี่มันญแท้หรือเทียมฟร๊ะ!!!)101

0
จิ้งจกสกปรก 25 ก.พ. 53 เวลา 13:44 น. 18

เราว่าเรื่องเพศมันไม่ใช่สิ่งสำคัยอะไรนัก

ถ้าเราเป็นคนดีซะอย่าง

ทุกอย่างก้ออยู่ที่ใจของเราเองไม่ว่าใจเราจะหญิงหรือชายก้อตาม

มันไม่สำคัญ

0
Pride_7xinz 25 ก.พ. 53 เวลา 14:47 น. 19

ถ้าทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะ =w=

ไม่ได้เดือดร้อนใครเขาสักหน่อย

ดีกว่าพวกหลบๆซ่อน แล้วหลอกผู้หญิงก็แล้วกัน


PS.  คำสัญญาของคุณมันไม่มีความหมายสำหรับผมอีกต่อไป ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าพูดมันเลย เสียดายเวลาฟัง...
0