Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

บทความเทิดทูนพระมหากษัตริย์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
บทความเทิดทูนพระมหากษัตริย์
1. กษัตริย์ ผู้ทรงธรรม พระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าฯ ชาวไทย
2. ทรงเป็นทุกลมหายใจ ของปวงประชาราษฎร ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
3. ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท จะขอเป็นข้าพระบาททุกชาติไป
4. ทรงยึดหลักศาสนา ทรงศึกษาสรรพวิทยา ทรงนำมาปฏิบัติ ทรงขจัดปัญหาด้วยการพัฒนาโครงการพระราชดำริ ทรงเตือนสติด้วยการปฏิบัติพระองค์เป็นตัวอย่าง ทรงสร้างค่านิยม ทรงห่วงใยประชาราษฎร์ทุกเมื่อ ทรงสละหยาดพระเสโท เพื่อประชาชนและประเทศไทยอย่างแท้จริง ทรงเป็นบุคคลที่หาได้ยากยิ่งในโลก ( ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก )
5. พระมหากษัตริย์ ที่พรั่งพร้อมด้วย ทศพิธราชธรรม
6. จากความแห้งแล้งกลับกลายมาชุ่มชื้น จากผืนทรายกลับกลายเป็นดิน ด้วยพระบารมีของทั้ง สองพระองค์
7. ในหลวงพระองค์ทรงงาน หนักและเหนื่อย เพื่อราษฎรของพระองค์ให้เป็นสุข
8. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทุ่มเทพระวรกายตรากตรำ และมุ่งมั่นเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกรชาวไทย
9. ความเสียหายของชาติจะบานปลาย ถ้าคนไทยขาดความจงรักภักดี ต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์
10. ไทยเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขปกครองประเทศมาช้านาน ทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจของคนทั้งชาติ

แสดงความคิดเห็น

85 ความคิดเห็น

khunnain 10 มิ.ย. 53 เวลา 07:55 น. 3

กษัตริย์ ผู้ทรงธรรม พระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าฯ

ชาวอยากให้ เหงื่อพ่อแห้ง พักตร์แดงเรื่อ
องค์หน่อเนื้อ สละสุข ทุกข์ยังฝืน
หกสิบปี ที่ทรงงาน ทุกวันคืน
พ่อนั้นตื่น ทุกเวลา จนชาชิน
ลูกทั้งหลาย ได้พักผ่อน ตอนหกสิบ
องค์พ่อทิพย์ แปดสิบศก ยังผกผลิน
ทำเพื่อลูก เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน
ทั่วโลกยิน ล้วนยกย่อง พ่อผองไทยไทย

0
sw2002 22 มิ.ย. 53 เวลา 09:40 น. 5

ขอให้ในหลวงมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของคนไทยทั้งประเทศตลอดไป นานเท่านาน

0
sw2002 23 มิ.ย. 53 เวลา 09:23 น. 6

ขอให้ในหลวงมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของคนไทยทั้งประเทศตลอดไป นานเท่านาน

0
sw2002 24 มิ.ย. 53 เวลา 09:40 น. 7

เราคนไทยควรน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงขอให้เกิดความสามัคคีและเห็นแก่ประเทศชาติ

0
nancy 8 ก.ค. 53 เวลา 10:11 น. 8

ทฤษฎี "แกล้งดิน" อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จ ฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรในเขตจังหวัดนราธิวาส ในปี พ.ศ. 2524 ทรงพบว่า หลังจากมีการชักน้ำออกจากพื้นที่พรุึ เพื่อจะได้มีพื้นที่ใช้ทำการเกษตรและเป็นการบรรเทาอุทกภัยนั้น
ปรากฎว่าดินในพื้นที่พรุแปรสภาพเป็นดินเปรี้ยวจัด ทำให้เพาะปลูกไม่ได้
ผล จึงมีพระราชดำริให้ส่วนราชการต่าง ๆพิจารณาหาแนวทางในการ
ปรับปรุงพื้นที่พรุที่มีน้ำแช่่ขังตลอดปีให้เกิดประโยชน์
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ในทางการเกษตรมากที่สุดและให้คำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ด้วย การแปรสภาพเป็นดินเปรี้ยวจัด
เนื่องจากดินมีลักษณะเป็นเศษอินทรีย์วัตถุหรือซากพืชเน่าเปื่อย อยู่ข้างบนและมีระดับความลึก 1-2 เมตรเป็นดินเลนสีเทาปนน้ำเงิน ซึ่งมีสารประกอบกำมะถัน ที่เรียกว่า สารประกอบไพไรท์ (Pyrite : FeS2) อยู่มาก ดังนั้น
เมื่อดินแห้ง สารไพไรท์จะทำปฏิกิริยากับอากาศปลดปล่อยกรดกำมะถันออกมา ทำให้ดินแปรสภาพเป็นดินกรดจัดหรือเปรี้ยวจัด
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่อง มาจากพระราชดำริ จึงได้ดำเนินการสนองพระราชดำริโครงการ "แกล้งดิน" เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงความเป็นกรดของดิน เริ่มจากวิธีการ "แกล้งดินให้เปรี้ยว" ด้วยการทำให้ดินแห้งและเปียกสลับกันไป เพื่อเร่งปฏิกิริยาทางเคมีของดิน ซึ่งจะไปกระตุ้นให้สารไพไรท์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ปลดปล่อยกรดกำมะถันออกมา ทำให้ดินเป็นกรดจัดจนถึงขั้น "แกล้งดินให้เปรี้ยวสุดขีด" จนกระทั่งถึงจุดที่พืชไม่สามารถเจริญงอกงามได้จากนั้นจึงหาวิธีการปรับปรุงดินดังกล่าวให้สามารถปลูกพืชได้ วิธีการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวจัดตามแนวพระราชดำริ

0
nancy 8 ก.ค. 53 เวลา 10:11 น. 9

ทฤษฎีการพัฒนาเพื่อพึ่งตนเองของเกษตรกร
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  แนวพระราชดำริเกี่ยวกับการพัฒนาชนบทที่สำคัญ คือ การที่ทรงมุ่งช่วยเหลือพัฒนา ให้เกิดการพึ่งตนเองได้ของคนใน ชนบทเป็นหลัก กิจกรรมและโครงการตามแนว พระราชดำริที่ดำเนินการอยู่หลายพื้นที่ทั่วประเทศในปัจจุบันนั้นล้วนแล้วแต่มีเป้าหมาย สุดท้ายอยู่ที่การ พึ่งตนเองได้ ของราษฎรทั้งสิ้นโดยการพัฒนาทั้งด้านอาชีพและส่งเสริม การเกษตร ให้เกษตรกรสามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างมั่นคงเป็นปึกแผ่น ทรงดำเนินการ แนะนำสาธิตให้ประชาชน ดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาทเป็นไปตามหลักการพัฒนา สังคมชุมชนอย่างแท้จริง โดยทรงมีหลักอยู่ว่า
&nbsp •&nbsp ทรงไม่ใช้วิธีการสั่งการให้เกษตรกรปฎิบัติ
&nbsp •&nbsp ทรงเน้นให้พึ่งตนเองและช่วยเหลือตนเองเป็นสำคัญ
&nbsp •&nbsp ทรงใช้หลักการมีส่วนร่วมของประชาชน
&nbsp •&nbsp ทรงใช้หลักประชาธิปไตยในการดำเนินการ หากเจ้าหน้าที่ทักท้วงสิ่งใดทางวิชาการ จะทรงรับฟังข้อสรุป&nbsp อย่างเป็น กลาง หากสิ่งใดที่เจ้าหน้าที่กราบบังคมทูลว่า ปฎิบัติได้ แต่ผลลัพธ์อาจไม่คุ้มค่ากับเงินที่ลงไป ก็ทรงให้เปลี่ยนแปลงโครงการ ได้เสมอ
&nbsp •&nbsp ทรงยึดสภาพของท้องถิ่นเป็นหลักในการดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริทั้งด้านสภาพแวดล้อม ทางภูมิศาสตร์ วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาคของประเทศ
&nbsp •&nbsp การสร้างความแข็งแรงให้ชุมชน ด้วยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานหลักที่จำเป็นต่อการผลิตอันเป็นรากฐานนำไปสู่การ พึ่งตนเองได้ในระยะยาว ซึ่งเป็นการพัฒนา ในลักษณะการเตรียมชุมชนให้พร้อมต่อการติดต่อสัมพันธ์กับโลกภายนอก ทรงเรียกว่า "การระเบิดจากข้างใน" และทรงชี้แนะว่าควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป
&nbsp •&nbsp ทรงสนับสนุนให้มีการส่งเสริมความรู้ด้านต่างๆ ด้วยทรงตระหนักว่า ชาวชนบท ควรจะมีความรู้ในเรื่องของการทำ มาหากิน การทำการเกษตรโดยใช้เทคโนโลยี ที่เหมาะสม โดยทรงเน้นถึงความจำเป็นที่จะต้องมี "ตัวอย่างแห่งความสำเร็จ" ที่ชาวบ้านสามารถรับและนำไปปฎิบัติได้ผลจริง
&nbsp •&nbsp ทรงปฏิรูประบบราชการให้เกิดเอกภาพทางการบริหาร (Single Management or Unity Administration) อันเป็นลักษณะ พิเศษของศูนย์ศึกษาการพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ คือ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีเอกภาพทางการบริหาร โดยได้ทำหน้าที่บริหารทั้งสองทางในเวลา เดียวกัน คือ บริหารงานองค์กรของระบบราชการและบริการประชาชนพร้อมกันไปด้วย

0
nancy 8 ก.ค. 53 เวลา 10:12 น. 10

ทฤษฎีการป้องกันการเสื่อมโทรมและพังทลายของดินโดยหญ้าแฝก
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ทฤษฎีการป้องกันการเสื่อมโทรมและพังทลายของดินโดยหญ้าแฝก พืชจากพระราชดำริ กำแพงที่มีชีวิตในการอนุรักษ์และคืนธรรมชาติสู่แผ่นดิน
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักถึงสภาพปัญหาการชะล้างพังทลายของดินและการสูญเสียหน้าดิน ที่อุดมสมบูรณ์ จึงทรงศึกษาถึงศักยภาพของ“ หญ้าแฝก” ซึ่งเป็นพืชพื้นบ้านของไทยที่มีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดินและอนุรักษ์ความชุ่มชื้นใต้ดิน ซึ่งมีวิธีการปลูกแบบง่าย ๆ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp เกษตรกรสามารถดำเนินการได้เองโดยไม่ต้องให้การดูแลหลังการปลูกมากนัก ทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าวิธีอื่น ๆ อีกด้วย จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้ดำเนินการศึกษาทดลองเกี่ยวกับหญ้าแฝก
ลักษณะของหญ้าแฝก หญ้าแฝกมีชื่อสามัญเป็นภาษาอังกฤษว่า Vetiver Grass มีด้วยกัน 2 สายพันธุ์ คือ หญ้าแฝกดอน (Vetiveria nemoralis A. Camus) และหญ้าแฝกหอม (Vetiveria zizanioides Nash)
เป็นพืชที่มีอายุได้หลายปี ขึ้นเป็นกอแน่น มีใบเป็นรูปขอบขนานแคบปลายสอบแหลม ยาว 35-80 ซม. มีส่วนกว้าง 5-9 มม. หญ้าแฝกจะมีการขยายพันธุ์ที่ได้ผลรวดเร็ว
โดยการแตกหน่อ จากลำต้นใต้ดิน ในบางโอกาสสามารถแตกแขนงและรากออกในส่วนของก้านช่อดอกได้ เมื่อหญ้าแฝกโน้มลงดินทำให้มีการเจริญเติบโตเป็นกอหญ้าแฝกใหม่ได้
การใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ
1. การปลูกเป็นแถวตามระดับขวางความลาดชัน เพื่อชะลอความเร็วของน้ำ และดักตะกอนดิน ส่วนน้ำจะไหลซึมลงไปสู่ดินชั้นล่างได้มากขึ้น เป็นการเพิ่ม ความชุ่มชื้นในดิน ส่วนรากหญ้าแฝกจะหยั่งลึกลงไปในดินอาจถึง 3 เมตร ซึ่งสามารถยึดดินป้องกันการพังทลายได้
2. การปลูกเพื่อแก้ปัญหาการพังทลายของดินเป็นร่องน้ำลึก
3. การปลูกในพื้นที่ที่มีความลาดชัน โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคใต้ ให้ปลูกหญ้าแฝกเป็นแนวรั้วบริเวณคันคูขอบเขา หรือริมขั้นบันไดดินด้านนอก โดยควรปลูกเป็นแถวตามแนวขวางความลาดเทในต้นฤดูฝน
4. การปลูกเพื่อการอนุรักษ์ความชุ่มชื้นในดิน โดยปลูกแถวหญ้าแฝกขนานไปกับแถวของไม้ผล ปลูกแบบวงกลมรอบไม้ผล และปลูกแบบครึ่งวงกลมหงายรับน้ำฝน
5. การปลูกเพื่อป้องกันการเสียหายของขั้นบันไดดินหรือคันคูรับน้ำรอบเขา
6. การปลูกเพื่อป้องกันตะกอนดินทับถมลงสู่คลองส่งน้ำ ระบายน้ำ อ่างเก็บน้ำในไร่นาตลอดจนปลูกรอบสระ หรือปลูกเป็นแถวขนานไปกับแม่น้ำ ลำคลองเพื่อกรองตะกอนดิน
7. การปลูกเพื่อฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรม
8. การปลูกเพื่อป้องกันการพังทลายของไหล่ถนนที่ลาดชันสูง โดยปลูกหญ้าแฝกเพื่อยึดดินและเบี่ยงเบนทางน้ำไหลบริเวณไหล่ทางและปลูกขวางแนวลาดเทเพื่อ ป้องกันการพังทลายและเลื่อนไหลของดิน
9. การปลูกในพื้นที่ดินดาน รากหญ้าแฝกสามารถหยั่งลึกลงไปในดินดาน ทำให้ดินแตกร่วนขึ้น และหน้าดินจะมีความชื้นเพิ่มขึ้น
10. การปลูกเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของสารพิษในแหล่งน้ำรากหญ้าแฝกจะเป็นกำแพงกักกั้นดินและสารพิษที่ปะปนมากับน้ำไม่ให้ไหลลงสู่แหล่งน้ำเบื้องล่างและรากยังมีประสิทธิภาพ ในการดูดซับธาตุโลหะหนักและสารเคมีบางอย่างได้ดีกว่าพืชชนิดอื่น
ประโยชน์เอนกประสงค์อื่น ๆ ของหญ้าแฝก
-ปลูกหญ้าแฝกบนคันนา เพื่อให้คันนาคงสภาพอยู่ได้นาน
-ปลูกหญ้าแฝกเพื่อใช้ประโยชน์มุงหลังคา ตับหลังคาที่ทำจากหญ้าแฝกสามารถผลิตจำหน่ายได้ ส่วนรากที่มีความหอมนั้นคนไทยรุ่นเก่าเคยนำมาแขวนในตู้เสื้อผ้า ทำให้มีกลิ่นหอมและช่วยไล่แมลงที่จะทำลายเสื้อผ้าได้
-หญ้าแฝกมีสรรพคุณช่วยขับลมในลำไส้ แก้อาการท้องอืดเฟ้อ และแก้ไข้ได้ ส่วนรากสามารถนำมาสกัดทำน้ำมันที่มีประโยชน์และคุณค่าทางการค้าได้ อาทิเช่น ฝรั่งเศสผลิตน้ำหอมจากรากหญ้าแฝก ชื่อ “Vetiver”

0
nancy 8 ก.ค. 53 เวลา 10:14 น. 11

โครงการจัดสรรที่ดิน นิคมสหกรณ์สวรรคโลก เฉลิมพระเกียรติ
&nbsp&nbsp&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp วันที่ 5 ธันวาคม 2542 มูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันที่สุดมิได้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้ทรงมีต่อสมาชิกสายใจไทยซึ่งเป็นผู้ที่เสียสละชีวิตร่างกายจนได้รับความพิการในการปกป้องสู้รบเพื่อรักษาประเทศ ชาติให้พ้นจากการบุกรุกและทำลายความสงบสุขของปวงชนชาวไทย และทั้งสองพระองค์ ได้ทรงมี
พระเมตตาทรงห่วงใยผู้ได้รับบาดเจ็บได้เสด็จเยี่ยมผู้เจ็บป่วยและพระราชทานของขวัญเพื่อเป็นกำลังใจแก่ทหารและอาสาสมัครที่บาดเจ็บด้วย พระองค์เอง ทรงมีพระราชดำริให้ก่อตั้งมูลนิธิสายใจไทยและรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์เมื่อปีพ.ศ.2518 และทรงพระราชทานให้สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นประธานกรรมการของมูลนิธิฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะดูแลให้ความช่วยเหลือ แก่ผู้ที่บาดเจ็บ พิการจากการสู้รบทั้งหลาย ที่ไม่สามารถรับราชการหรือประกอบอาชีพได้เหมือนเดิม&nbsp สิ่งสำคัญที่เป็นพื้นฐานในการดำรงชีพคือที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกิน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงมีพระราชดำริที่จะจัดหาที่ดินทำกินเพื่อจัดสรรที่ดินจำนวนหนึ่งให้แก่สมาชิกสายใจไทยที่มีฐานะยากจนและไม่มีความสามารถ ที่จะหาที่ดินเป็นของตนเองได้ มูลนิธิสายใจไทยฯ จึงได้ร่วมกับ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตร จัดทำโครงการจัดสรรที่ดินที่นิคมสหกรณ์สวรรคโลก อ.ศรีนคร จ.สุโขทัย ในพื้นที่ประมาณ 700 ไร่
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp เพื่อจัดสรรให้แก่สมาชิกสายใจไทย100รายโดยจัดแบ่งพื้นที่ให้รายละประมาณ 6 ไร่ ซึ่งทางโครงการได้ก่อสร้างบ้านให้ 1 หลัง พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเริ่มต้นชีวิตใหม่ พร้อมทั้งปรับพื้นที่ให้พอที่จะทำการเกษตรโดยจัดแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งขุดบ่อน้ำ ไว้เก็บกักน้ำเพื่อใช้ในการเพาะปลูกพืชพันธุ์ต่างๆหรือเลี้ยงสัตว์เพื่อเสริมรายได้ประจำในระยะยาวการจัดการพื้นที่ดินทำกินในแต่ละ แปลง และ "การดำเนินชีวิตของสมาชิกสายใจไทยได้น้อมนำทฤษฏีใหม่ และเศรษฐกิจแบบพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ได้ทรงมีพระราชดำรัสไว้มาใช้ในการดำเนินการของโครงการขณะนี้การดำเนินโครงการมาถึงระยะเป็นรูปเป็นร่างและมีผลก้าวหน้าเป็น อันมาก จนเห็นผลงานตามแนวพระราชดำริเป็นที่น่าพอใจ มูลนิธิสายใจไทย ฯ จึงเห็นสมควรที่จะนำ โครงการจัดสรรที่ดิน นิคมสหกรณ์สวรรคโลก เฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ในวโรกาสมหามงคล พระชนมายุ 72 พรรษาในปี พ.ศ.2542

0
เเผนกดนตรี ดย.ทบ. 19 ก.ค. 53 เวลา 09:02 น. 12

ข้าพระพุทธเจ้าข้าราชการเเผนกดนตรี ดย.ทบ.&nbsp ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเจริญ
มีพระพลานามัย&nbsp เเข็งเเรง สมบูรณ์ มีพระชนมมายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญต่อปวงประชาชาวไทยตลอดกาลนานเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

0
nancy 20 ส.ค. 53 เวลา 07:41 น. 13

แนวทางพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ตลอดหกทศวรรษที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จ(ขออภัยค่ะ! คำนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ)ทรงยึดหลักการทรงงานในลักษณะ “ทางสายกลาง” โดยทรงเน้นการพัฒนา “คน” เป็นตัวตั้ง ยึดหลัก “ภูมิสังคม” ที่คำนึงถึง
ความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคและท้องถิ่น และยึดหลัก “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เพื่อให้
สอดคล้องกับวิถีชีวิตสังคมไทยและปฏิบัติได้จริง ทรงย้ำว่าการพัฒนาต้องเริ่มจาก “การพึ่งพา
ตนเอง” ให้ได้ก่อน โดยต้องรู้จักประมาณตน มีความรอบคอบ ระมัดระวัง และ “ทำตามลำดับ
ขั้นตอน” โดยต้องสร้างพื้นฐานความเป็นอยู่ให้พอมี พอกิน พอใช้ก่อน ด้วยวิธีการประหยัดและ
ถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อพัฒนาตนเองให้เข้มแข็งแล้วจึงค่อยพัฒนาเครือข่ายสู่สังคมภายนอก
เพื่อความเจริญก้าวหน้าในลำดับต่อไปสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เล็งเห็นถึงความสำคัญของพระราชดำริดังกล่าว จึงได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาเศรษฐกิจและสาขาอื่นๆ ร่วมกัน
พิจารณากลั่นกรองพระราชดำรัสเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงที่พระราชทานในโอกาสต่างๆ สรุป
ออกมาเป็นนิยาม “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และได้อัญเชิญมาเป็นแนวทางพัฒนา
ประเทศในแผนฯ ๙ และต่อเนื่องมาถึงแผนฯ ๑๐ เนื่องจากเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า เป็นแนวทางที่
เหมาะสมกับการพัฒนาในทุกระดับ ตลอดจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกอีกด้วย

0
nancy 20 ส.ค. 53 เวลา 07:41 น. 14

พระวิริยะแก้ปัญหารถติด
พระวิริยะบารมีปกเกล้าฯ แก้ปัญหากรุงเทพฯ รถติด
การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงปี ๒๕๓๑-๒๕๓๘ ยิ่งทำให้ปัญหาจราจรยิ่งทวีความรุนแรง อาจเป็นเพราะประชาชนมีสถานะทางการเงินและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงมีการใช้เงินซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากขึ้นรวมไปถึงรถยนต์ประกอบกับกรุงเทพฯ ไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกและมีประสิทธิภาพเพียงพอเป็นทางเลือกให้ใช้ ประชาชนที่มีรายได้ในระดับดีจึงนิยมใช้รถยนต์กันต่อไป เห็นได้จากจำนวนรถยนต์จดทะเบียนในกรุงเทพฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก ๑,๖๓๕,๑๖๙ คัน ในปี ๒๕๓๑ เป็น ๓,๕๔๐,๐๘๒ ในปี ๒๕๓๘ ปัญหาจราจรได้บั่นทอนคุณภาพชีวิตของชาวกรุงเทพฯ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตมลพิษ จากท่อไอเสียส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและยังก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล สำนักงานคณะกรรมการการจัดระบบการจราจรทางบก (สจร.)ประเมินว่า ในปี ๒๕๓๘ มูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจ จากปัญหาจราจรสูงถึงประมาณ ๙๑,๐๐๐ ล้านบาท แบ่งออกเป็นความสูญเปล่าทางเชื้อเพลิง ๑๓,๐๐๐ ล้านบาท การซ่อมบำรุงและรักษาเครื่องยนต์ ๒๒,๐๐๐ ล้านบาท และความสูญเปล่าของเวลา ๕๖,๐๐๐ ล้านบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใส่พระราชหฤทัยในการแก้ไขปัญหาจราจรเพื่อผ่อนคลาย ความทุกข์ร้อนของชาวกรุงเทพฯ โดยทรงรับข้อมูลข่าวสารด้านการจราจรของกรุงเทพฯ จากหลายแห่ง เช่น หนังสือพิมพ์ ข่าวสารจากวิทยุ โทรทัศน์ หรือรูปถ่าย ทางอากาศ อีกทั้งฟังการรายงานสถานการณ์จากหน่วยงานต่างๆ และบ่อยครั้งที่พระองค์ได้ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ทอดพระเนตรการจราจรในยามดึก รวมทั้งเสด็จพระราชดำเนินโดยทางเฮลิคอปเตอร์ทอดพระเนตรเส้นทางการจราจรและการจัดระเบียบเส้นทางจากมุมสูงซึ่งจะช่วยให้พระองค์ มองปัญหาในภาพรวมได้อย่างชัดเจนจากนั้นก็จะทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยเพื่อ หาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยทรงทดลองความเป็นไปได้ของแนวทางต่าง ๆ ในทุกแง่ทุกมุมที่อาจเกี่ยวข้องพร้อมทั้งหาข้อมูลเพิ่มเติมมาประกอบ พระบรมราชวินิจฉัยหรือแม้กระทั่งการเขียนแบบร่างด้วยพระองค์เองแล้วจึงพระราชทานแนวพระราชดำริแก่กรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปดำเนินการในรูปโครงการต่าง ๆ ต่อไป
กรุงเทพมหานครได้มีโอกาสน้อมรับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมาดำเนินการหลายโครงการ
ทั้งโครงการที่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นและโครงการที่เป็นการแก้ปัญหาเป็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
โครงการที่เป็นการพัฒนาเส้นทางจราจรให้เป็นโครงข่ายต่อเนื่องและสอดคล้องกัน ทั้งถนนสายหลักสายรองในเมือง ทางด่วน ไปจนถึงถนนอ้อมเมืองหรือถนนวงแหวนรอบนอก ซึ่งเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาจราจรกรุงเทพฯ ทั้งระบบและที่สำคัญโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทุกโครงการเป็นการแก้ปัญหาตามสภาพความเป็นจริง
"โครงการพระราชดำรินี้คืออะไร ก็คือการที่จะให้รถแล่น อันนี้พูดอย่างนี้ อาจพูดเหมือนกำปั้นทุบดิน ว่าการจราจรมันก็ต้องแล่น ถ้าจราจรมันไม่แล่น มันก็ "อจร" ไม่จรแต่ว่าให้รถแล่นนั้น มีความเข้าใจผิดว่ารถต้องแล่นเร็ว ถึงจะจราจรคล่องแคล่ว บางทีเขาก็รายงานถนนดีมาก รถแล่นวิ่ง ถามเขาว่าวิ่งเท่าไร เขาบอกว่าวิ่ง ๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ๙๐ หรือ ๑๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง นั่นไม่ใช่การจราจรที่ถูกต้อง ในเมืองควรจะวิ่งอย่างมากที่สุด ๖๐ แต่ว่าที่เป็นไป ถ้าไม่ใช่ ๘๐ ก็ศูนย์ ความจริงที่จะแล่นแม้จะแล่นเพียง ๑๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็พอ ทำให้เดินทางมาได้ ใช้เวลา ๑ ชั่วโมง เขามาได้ ๑ ชั่วโมงก็พอทนคือถ้าวิ่ง ๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง อันนี้เป็นหลักที่ไม่มีใครคิด เป็นหลักที่ไม่มีใครย้ำฉะนั้นโครงการพระราชดำรินั้น ก็คือ ให้รถพอแล่นได้ไม่คั่งไม่ศูนย์กิโลเมตรต่อชั่วโมง และไม่ ๑๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้พอไป ให้พอไป"
๑๗ สิงหาคม ๒๕๓๘
"สร้างทางในที่ยังไม่มีทาง อันนี้เกิดขึ้นที่ใกล้สถานีบางกอกน้อยระหว่าง สถานีบางกอกน้อย คือ ปลายถนนอิสรภาพเชื่อมกับถนนจรัญสนิทวงศ์ ตรงนั้นเป็นที่ของการรถไฟเป็นที่ลุ่มมีทางเดินเข้าไปไม่ทะลุแล้วก็ขลุกขลัก"

0
nancy 20 ส.ค. 53 เวลา 07:42 น. 15

“หลักการทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
ที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจาก
พระราชดำริ (กปร.) รวบรวมไว้มีความหลากหลายถึง ๒๓ หลักการ
ซึ่งปวงชนชาวไทยสามารถน้อมนำไปปฏิบัติในวาระและโอกาสต่างๆ
ตามความเหมาะสม ได้แก่
๑.ศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ
๒.ระเบิดจากข้างใน
๓.แก้ปัญหาที่จุดเล็ก
๔.ทำตามลำดับขั้น
๕.ภูมิสังคม
๖.องค์รวม
๗.ไม่ติดตำรา
๘.ประหยัด เรียบง่าย ได้ประโยชน์สูงสุด
๙.ทำให้ง่าย
๑๐.การมีส่วนร่วม
๑๑.ประโยชน์ส่วนรวม
๑๒.บริการรวมที่จุดเดียว
๑๓.ทรงใช้ธรรมชาติ ช่วยธรรมชาติ
๑๔.ใช้อธรรมปราบอธรรม
๑๕.ปลูกป่าในใจคน
๑๖.ขาดทุนคือกำไร
๑๗.การพึ่งตนเอง
๑๘.พออยู่พอกิน
๑๙.เศรษฐกิจพอเพียง
๒๐.ความซื่อสัตย์ สุจริต จริงใจต่อกัน
๒๑.ทำงานอย่างมีความสุข
๒๒.ความเพียร : พระมหาชนก
๒๓.รู้ รัก สามัคคี

0
nancy 20 ส.ค. 53 เวลา 07:43 น. 16

ปรัชญาจากหลอดยาสีฟัน
ผมมีภาพๆ หนึ่งเอามาให้ดูกัน เป็นภาพหลอดยาสีฟันที่ถูกใช้แล้วครับ เห็นทีแรกไกลๆ
ก็ไม่รู้สึกอะไรมากหรอกครับ เป็นภาพที่ติดอยู่บนบอร์ดที่โรงเรียนของลูก ระหว่างที่ยืนรอลูกๆ
ลงมาจากห้องเรียน จึงได้อ่านข้อความที่ประกอบภาพนี้อย่างละเอียด
ภาพหลอดยาสีฟันที่เห็นนี้ต้องเรียกว่าเป็นหลอดยาสีพระทนต์ประวัติศาสตร์
เพราะนี่คือหลอดยาสีพระทนต์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เห็นแล้วรู้สึกเหมือนผมไหมครับ
ความฉ่ำเย็นจากที่ไหนก็ไม่รู้อาบลงมากลางกระหม่อมเลย
ภาพนี้ถูกตีพิมพ์เป็นโปสเตอร์โดยคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์ ครูที่โรงเรียนของลูกผมไปพบเข้าเลยนำ
มาถ่ายสำเนาติดบอร์ดให้เด็กนักเรียนได้ เรียนรู้และเข้าใจคำว่า "ประหยัด"
ศาสตราจารย์พิเศษทันตแพทย์หญิง ท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช
ทันตแพทย์ประจำพระองค์อดีตคณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขียนเล่าให้ฟังว่า
"ครั้งหนึ่งทันตแพทย์ประจำพระองค์
กราบถวายบังคมทูลเรื่องศิษย์ทันตแพทย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยบางคนมีค่านิยมในการใช้ของต่างประเทศและมีราคาแพง รายที่ไม่มีทรัพย์พอซื้อหาก็ยังขวนขวายเช่ามาใช้เป็นการชั่วครั้งชั่วคราว
ซึ่งเท่าที่ทราบมามีความแตกต่างจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
ที่ทรงนิยมใช้กระเป๋าที่ผลิตภายในประเทศเช่นสามัญชนทั่วไป ทรงใช้ดินสอสั้นจนต้องต่อด้าม
แม้จนยาสีพระทนต์ของพระองค์ท่านก็ทรงใช้ด้ามแปรงพระทนต์รีดหลอดยาจนแบน
จนแน่ใจว่าไม่มียาสีพระทนต์หลงเหลืออยู่ในหลอดจริงๆ
เมื่อกราบบังคมทูลเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งว่า ของพระองค์ท่านก็เหมือนกัน
และยังทรงรับสั่งต่อไปด้วยอีกว่า
เมื่อไม่นานมานี้เองมหาดเล็กห้องสรงเห็นว่ายาสีพระทนต์ของพระองค์คงใช้หมดแล้ว
จึงได้นำหลอดใหม่มาเปลี่ยนให้แทน เมื่อพระองค์ได้ทรงทราบก็ได้ขอให้เขานำยาสีพระทนต์หลอดเก่ามาคืน
และพระองค์ท่านยังทรงสามารถใช้ต่อไปได้อีกถึง 5 วัน
จะเห็นได้ว่าในส่วนของพระองค์ท่านเองนั้นทรงประหยัดอย่างยิ่ง
ซึ่งตรงกันข้ามกับพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ที่ทรงพระราชทานเพื่อราษฎรผู้ยากไร้อยู่เป็นนิจ
พระจริยาวัตรของพระองค์ได้แสดงให้เห็นอย่างแจ่มชัดถึง พระวิริยะ อุตสาหะ
ตลอดจนความประหยัดในการใช้ของอย่างคุ้มค่า หลังจากนั้น
ทันตแพทย์ประจำพระองค์ได้กราบพระบาททูลขอพระราชทาน
หลอดยาสีพระทนต์หลอดนั้นเพื่อนำไปให้ศิษย์ได้เห็นและรับใส่เกล้าเป็นตัวอย่าง
เพื่อประพฤติปฏิบัติในโอกาสต่อๆ ไป
ประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทาน
ส่งหลอดยาสีพระทนต์เปล่าหลอดนั้นมาให้ถึงบ้านทันตแพทย์ประจำพระองค์รู้สึกซาบซึ้ง
ในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้ายิ่งเมื่อได้พิจารณาถึงลักษณะของหลอดยาสีพระทนต์เปล่าหลอดนั้นแล้ว
ทำให้เกิดความสงสัยว่า เหตุใดหลอดยาสีพระทนต์หลอดนี้จึงแบนราบเรียบโดยตลอด
คล้ายแผ่นกระดาษโดยเฉพาะบริเวณคอหลอดยังปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปเกือบถึงเกลียวคอหลอด
เมื่อได้มีโอกาสเข้าเฝ้าอีกครั้งในเวลาต่อมาจึงได้รับคำอธิบายจากพระองค์ว่า
หลอดยาสีพระทนต์ที่เห็นแบนเรียบนั้นเป็นผลจากการใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ช่วยรีดและกด
จนเป็นรอยบุ๋มที่เห็นนั่นเองและเพื่อที่จะขอนำไปแสดงให้ศิษย์ทันตแพทย์ได้เห็น
เป็นอุทาหรณ์จึงได้ขอพระราชาอนุญาตซึ่งพระองค์ท่านก็ได้ทรงพระเมตตาด้วยความเต็มพระทัย"
ผมมีโอกาสได้ยืนมองดูรูปหลอดยาสีพระทนต์หลอดนี้อยู่เนืองๆ
เวลาไปรอรับลูกที่โรงเรียนและเมื่อยิ่งดูก็ยิ่งได้รับรู้ถึงปรัชญาที่พระองค์
พระราชทานผ่านมาทางหลอดยาฯนี้แล้วผมก็พบว่าแก่นแท้ของการประหยัดมันอยู่ตรงนี้นี่เอง ไม่ใช่ไม่ยอมใช้เลย
แต่ต้องรู้จักใช้ และต้องรู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ไม่ใช้แบบเหลือทิ้ง

0
infdiv3mp51@windowslive.com 15 ก.ย. 53 เวลา 10:15 น. 17

"เทิดไท้มหาราชครองราชย์ 60 ปี" ไท้ภูมี-ภูมิพลพิมลศรี

มหาบุญ-มหาเดชวิเศษดี ราชพลีพร้อมใจ-กายถวายองค์

ครองสิริราชสมบัติไม่ขัดข้อง ราชย์ ธ ครองคู่ชาติราชประสงค์

60 ปียาวนานประสานทรง ปีนี้จงสุขเกษมเปรมฤทัย......

ขอ"ไตรรัตน์"ขจัด"โรคาพยาธิ" ทรง"สติ-ปัญญา"ดุจฟ้าใส

ทรง"ฌาน-ญาณ"วิสุทธิ์ฉุดนำไทย ให้ก้าวไกลชู"พุทโธ"ทั่วโลกา

เป็น"ผู้นำทางความคิด-จิตวิญญาณ" นิรันดร์กาลคู่"ชาติ-พุทธศาสนา"

"ภูมิพลยอดกษัตริย์-นักพัฒนา" ทรงสง่างามแสน"คู่แผ่นดิน"ฯ

0
infdiv3mp51@windowslive.com 15 ก.ย. 53 เวลา 10:17 น. 18

พระปรีชาญาณของพระองค์ กลั่นกรองเป็นพระบรมราโชวาทที่ตรัสสอนให้คนไทยได้เดินทางถูก ปลูกความคิด สองพระบาทที่ก้าวไป บนทุกตารางนิ้วของแผ่นดินไทย คือภาพพิมพ์ที่ประทับไว้ เพื่อให้ลูกไทยได้ก้าวตาม

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  แม้ในความมืดมิดแห่งภัยพิบัติ ความหวาดหวั่นในวันแห่งความเปลี่ยแปลง ในความสับสนอับจนหนทาง ไม่ว่าเป็นมหันตภัยใดๆ คนไทย ก็ไม่เคยสิ้นแสงสว่างแห่งพระมหากรุณาธิคุณดุจดั่งตะวันฉายแสงทุกแหล่งหล้า ดุจดั่งจันทราส่องไทยในทุกราตรี พระองค์แรมทางกลางไพร แรมไกลเพื่อประชาชน แม้วันวานจะผ่านพ้น แต่ทุกถิ่นที่บนผืนแผ่นดินไทยมีเรื่องราวอันทรงคุณค่า แห่งพ่อหลวงของไทย ที่ต้องจารึกไว้ เป็นประวัติศาสตร์ของแผ่นดิน

0
infdiv3mp51@windowslive.com 15 ก.ย. 53 เวลา 10:19 น. 19

เสียงถวายพระพรทรงพระเจริญ ที่กึกก้องจนประจักษ์ไปทั่วโลก จะไม่มีความหมายอันใดเลย ถ้าคนไทยไม่ช่วยกันคนละไม้ละมือ นำสิ่งดีๆ ที่ได้รับพระราชทาน มาเป็นแรงบันดาลใจในการช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง ลำพังคำว่ารักล้นหัวใจเพียงอย่างเดียว คงไม่ทำให้ในหลวงของเราหายเหนื่อยได้

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เราคนไทยต้องช่วยกันแปรรูปความรักที่มีต่อในหลวงของเราไปสู่สิ่งที่ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เราจะไม่เพียงแค่รัก แต่จะบำเพ็ญตนให้บรรลุถึงความปรารถนาในพระราชหฤทัย ด้วยการเป็นพลเมืองไทยที่มุ่งดีมุ่งเจริญ นับจากนี้ไปทุกครั้งที่เปล่งเสียง ทรงพระเจริญฯ เราจะถวายคำมั่นว่า เราจะทำหน้าที่ของเรา เพื่อให้ประเทศของเราเจริญก้าวหน้าอย่างสุดความสามารถ

0
infdiv3mp51@windowslive.com 15 ก.ย. 53 เวลา 10:21 น. 20

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเป็นแนว ทาง ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

0