Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

วิชานินจาต้องห้าม

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
วิชานินจาต้องห้าม(Kinjutsu)


      เมื่อกล่าวถึงวิชานินจา วิชานินจานั้นมีมากมายหลายหลาก ตั้งแต่ระดับพื้นฐานทั่วไป จนถึงระดับสูงหรือระดับพิเศษ หากจะนับกันจริงๆก็มากมายยิ่งนัก ดังนั้นจึงมีการแยกเป็นสายของวิชานินจา แยกชนิด แยกประเภท ออกมาเป็นส่วนย่อยๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิชาสายกระบวนท่า วิชาสายคาถาลวงตา เป็นต้น
       ซึ่งวิชา ต้องห้ามก็ถูกแยกออกมาเป็นอีกประเภทเช่นกัน วิชาต้องห้ามนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นท่าไม้ตายก้นบหรือไม้ตายสุดท้ายของผู้ใช้ เหตุผลที่วิชาต้องห้าม เป็นไม้ตายก้นบและเป็นวิชาสุดท้ายที่ผู้ใช้เลือกที่จะใช้ เพราะ วิชาต้องห้ามถึงแม้จะให้ผลลัพธ์ทางการต่อกับศัตรูอย่างเด็ดขาด แต่สิ่งที่ต้องแลกมาหรือผลข้างเคียงนั้นค่อนข้างจะร้ายแรงมากเช่นกัน


*****************************************************************************************************************************************

วิชานินจา คาถาแยกเงาพันร่าง


ผู้ใช้ : อุซึมากิ นารุโตะ
ระดับ : -
ระยะโจมตี : -

เมื่อ ครั้งที่นารุโตะทำการสอบไล่ก่อนจบจากโรงเรียนนิ นจา เขานั้นสอบไม่ผ่าน ซึ่งหัวข้อในการสอบก็คือคาถาแยกร่าง ซึ่งมีเขาคนเดียวที่สอบไม่ผ่าน ตอนนั้นเองที่มิซึกิจูนินซึ่งเป็นครูสอนที่โรงเรียนนินจาเช่นเดียวกับอิรุกะ ฉวยโอกาสนี้หลอกให้นารุโตะไปขโมยม้วนคัมภีร์สะกดปีศา จที่เก็บอยู่ที่บ้านโฮคาเงะรุ่นที่3 คัมภีร์สะกดปีศาจเป็นคัมภีร์ที่บันทึกคาถาต้องห้ามต่างๆไว้มากมาย เป็นคัมภีร์อันตราย ที่โฮคาเงะรุ่นที่1 เป็นผู้สะกดไว้

ตอนที่นารุโตะขโมยม้วนคัมภีร์มาเขาก็ได้เปิดมันเพื่อ ทำการฝึกวิชาทันที ซึ่งวิชาแรกที่เขาเปิดเจอและฝึกมันก็คือ วิชาแยกเงาพันร่าง และเขาก็ได้ใช้วิชานี้จัดการกับมิซึกิ ต่อมาก็ยังใช้ขับไล่นินจาลูกน้องของกาโต้ แล้วยังมีตอนที่ใช้สู้กับกาอาระ ใช้สู้กับคิมิมาโร่ตอนไปตามตัวซาสึเกะ และใช้ตอนฝึกแปลงคุณสมบัติจักระ

คาถา แยกเงาพันร่าง คือ การแยกร่างเงาออกมาแล้วแบ่งจักระไปสู่ร่างเงาเท่าๆกัน แยกเงาพันร่างการแยกเงาไม่ใช่การแยกร่าง ดังนั้นร่างเงาทุกตัวจะมีจักระเท่ากับร่างต้น จึงทำให้ศัตรูไม่สามารถแยกแยะได้ว่าร่างไหนคือร่างต้น แม้แต่ผู้ที่มีเนตรสีขาวหรือเนตรวงแหวนก็ตาม และจากการแบ่งจักระไปสู่ร่างแยกเงาเท่าๆกันนั้น จึงทำให้การแยกเงาพันร่างต้องใช้ปริมาณจักระมหาศาลมาก หากเป็นคนธรรมดา การใช้วิชานี้อาจทำให้จักระเป็นศูนย์และตายได้ในที่สุด ดังนั้นคาถาแยกเงาพันร่าง จึงได้ถูกจัดไว้ว่าเป็นวิชาต้องห้าม

อย่างไรก็ตามผู้ที่สามารถใช้คาถาแยกเงาพันร่างได้ ก็จะต้องเป็นระดับโจนินขึ้นไป แต่ปริมาณร่างแยกเงาอาจจะไม่เท่าของนารุโตะ เนื่องจากนารุโตะมีพลังสถิตร่างของจิ้งจอกเก้าหางอยู่ จึงทำให้นารุโตะมีพลังจักระในการใช้วิชานินจาและพลัง ในการฟื้นฟูร่างกายมากและเร็วกว่าคนปกติหลายเท่า

       

***********************************************************************************************************************************

วิชานินจา คาถางูแฝดแลกชีวิต


ผู้ใช้ : มิตาราชิ อังโกะ
ระดับ : -
ระยะโจมตี : ประชิด

ในช่วงระหว่างการสอบจูนินรอบสอง นั้น โอโรจิมารุ ได้ใช้วิชาอะไรซักอย่างลอกหน้าของนินจาหมู่บ้านอื่นท ี่ลงแข่ง ใส่ในหน้าของตัวเองแล้วก็เข้าป่ามรณะตามหาซาสึเกะ เพื่อที่จะนำร่างซาสึเกะไปเป็นภาชนะใส่วิญญาณของตัวเองโดยได้ทำการประทับตราผนึกอักขระสาปไว้ที่คอของซาสึเกะ

หลังจาก เจ้าหน้าที่คุมสอบได้พบศพของผู้เข้าแข่งขันสา มคนที่โดนโอโรจิมารุฆ่า อังโกะก็ได้เข้าป่ามรณะตามหาตัวโอโรจิมารุทันที จนพบกับโอโรจิมารุและได้ต่อสู้กัน อังโกะนั้นเป็นศิษย์ของโอโรจิมารุและก็เป็นอดีตร่างทดลอง ซึ่งอังโกะก็รู้ดีว่าฝีมือระดับตนเองไม่สามารถที่จะเ อาชนะโอโรจิมารุได้ จึงตัดสินใจที่จะใช้วิชาต้องห้ามที่โอโรจิมารุเคยสอน ไว้หมายที่จะเผด็จศึกโอโรจิมารุให้ได้โดยเร็ว นั้นก็คือ วิชานินจางูแฝดแลกชีวิต แต่ก็ไม่สำเร็จเนื่องจากร่างที่อังโกะจับไว้ตอนนั้นเ ป็นร่างแยก ซึ่งจะว่าไปอังโกะยังไม่ทันได้ใช้คาถานั้นซะด้วยซ้ำเพียงแค่เริ่มประสานอิน เพราะรู้ตัวก่อนว่านั้นคือร่างแยก อย่างไรก็ตามจากคำพูดของโอโรจิมารุที่ว่า “คิดจะฆ่าตัวตายหรือไง” คาดว่าเมื่อใช้วิชานี้แล้ว ทั้งผู้ใช้และผู้ถูกโจมตีจะต้องถึงแก่ความตายทั้งคู่อย่างแน่นอน

***********************************************************************************************************************************


วิชานินจา เปิด 8 ประตู ด่านพลัง

ผู้ใช้ : ร็อค ลี,ไมโตะไก
ระดับ : -
ระยะโจมตี : ประชิด

บน เส้นวิถีพลังที่มีจักระไหลเวียนอยู่ เรียงตั้งแต่หัวลงมาตามลำดับของร่างกาย มีตำแหน่ง 8 ตำแหน่ง ที่ช่องของจักระไปกระจุกตัวอยู่เรียกว่า ประตู ไคมง คิวมง เซย์มง โชมง โทะมง เคย์มง เคียวมง และชิมง รวมทั้งหมดเรียกว่า “8 ประตู” 8 ประตูนี้จะจำกัดปริมาณของจักระที่ไหลเวียนในร่างกาย สภาพที่ประตูทั้ง 8 เปิดออกจะเรียกว่า “ฐานประตูด่านพลังทั้ง 8” แม้ชั่วขณะหนึ่งผู้ใช้จะมีพลังมหาศาลที่เหนือกว่าระด ับโฮคาเงะแต่สิ่งที่ผู้ใช้ต้องแลกเปลี่ยนก็ คือ ชีวิต

และท่าดอกบัวที่ลีใช้จะฝืนดึงจักระจากขอบเขตจำกัดนั้น เพื่อกระชากพลังจักระมากกว่าที่มีอยู่เดิมหลายสิบเท่ าออกมา การใช้กระบวนท่าดอกบัวภายในนั้น จะต้องเตรียมพร้อมด้วยการทำการ “ปลดขีดจำกัด” เสียก่อน โดยปลดไคมง ที่ควบคุมสมองอยู่ แล้วใช้คิวมงฝืนเพิ่มพลังกาย และก็เข้าสู่ท่าดอกบัวภายในจากประตูที่ 3 เซย์มง แต่ในกรณีของลีนั้นเปิดใช้ถึงโทะมง ประตูที่ 5 ถึงจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ทำให้ได้รับบาทเจ็บสาหัสเอาการ


************************************************************************************************************************************


วิชานินจา คาถาอันเชิญสัมภเวสีคืนชีพ


ผู้ใช้ : โอโรจิมารุ
ระดับ : -
ระยะโจมตี : -

คาถาอันเชิญสัมภเวสีคืนชีพ เป็นคาถาที่ใช้อันเชิญวิญญาณคนตาย ต่างจากคาถาอันเชิญปกติ คาถาอันเชิญปกติจะต้องใช้เลือดของผู้อันเชิญเป็นสิ่ง แลกเปลี่ยน แต่คาถาอันเชิญสัมภเวสีคืนชีพจะต้องสังเวยด้วยร่างคน เป็น โดยมีร่างสังเวยเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้วิญญาณมาสิงสู่ร่างนั้น แล้วร่างนั้นจะมีสภาพเหมือนร่างเดิมของวิญญาณนั้นทุก ประการ และยันต์ที่ฝั่งอยู่ในหัวจะทำลายบุคลิกของวิญญาณนั้นให้กลายเป็นแค่หุ่นเชิดสังหารเท่านั้น

ในการต่อสู้ระหว่างโอโรจิ มารุกับโฮคาเงะรุ่นที่3(ซารุโทบิ) โอโรจิมารุได้ใช้คาถานี้อันเชิญวิญญาณโฮคาเงะทั้ง3ที ่ได้เสียชีวิตไปแล้ว คือ โฮคาเงะรุ่นที่1,โฮคาเงะรุ่นที่2,โฮคาเงะรุ่นที่4(นา มิคาเสะ มินาโตะ) แต่โฮคาเงะรุ่นที่3(ซารุโทบิ)สามารถสกัดคนที่3(โฮคาเงะรุ่นที่4)เอาไว้ได้ แต่โอโรจิมารุก็สามารถอันเชิญโฮคาเงะรุ่นที่1และโฮคา เงะรุ่นที่2ได้สำเร็จ

ในการต่อสู้ครั้งนั้น โฮคาเงะรุ่นที่3(ซารุโทบิ)ตระหนักดีว่า ตนเองไม่สามารถจะรับมือโฮคาเงะรุ่นที่1 โฮคาเงะรุ่นที่2 และโอโรจิมารุ พร้อมกันได้ในคราเดียวกัน จึงได้ตัดสินใจใช้วิชาสะกดปิดผนึกซากอสูร โดยการแยกเงาเพิ่มมาอีกสองร่าง เพื่อใช้ร่างแยกเงาสองร่างนั้นจัดการผนึกโฮคาเงะทั้งสองและร่างต้นก็ไว้จัดการกับโอโรจิมารุ


*************************************************************************************************************************************

วิชานินจา คาถาสะกดปิดผนึกซากอสูร


ผู้ใช้ : โฮคาเงะรุ่นที่3(ซารุโทบิ),นามิคาเสะ มินาโตะ(โฮคาเงะรุ่นที่4)
ระดับ : -
ระยะโจมตี : ประชิด

คาถา สะกดปิดผนึกซากอสูร เป็นวิชาต้องห้าม เพราะการจะสะกดนั้นต้องเชิญมรณะเทพออกมาและในขณะทำการสะกด มือของมรณะเทพก็จะทะลวงผ่านร่างของผู้ใช้คาถาไปยังผู ้ที่จะถูกสะกด และเพื่อจะให้คาถานี้ได้ผล ผู้ใช้จะต้องมอบวิญญาณตัวเองให้แก่มรณะเทพเป็นเครื่องแลกเปลี่ยน เป็นคาถาสะกดที่ต้องใช้วิญญาณเป็นเครื่องสังเวย เมื่อการสะกดสำเร็จสิ้นสุดลงวิญญาณของผู้ใช้ก็จะถูกกลืนกิน และวิญญาณของผู้ใช้คาถานี้กับวิญญาณของผู้ถูกสะกดจะไ ม่มีวันได้ไปผุดไปเกิดชั่วกัลปาวสานต้องอยู่ในท้องของมรณะเทพตลอดไป

เมื่อ ครั้งที่โอโรจิมารุบุกหมู่บ้านโคโนฮะงาคุเระ และได้ต่อสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่3 เขาได้ใช้คาถาอันเชิญสัมภเวสีคืนชีพ อันเชิญโฮคาเงะรุ่นที่1กับโฮคาเงะรุ่นที่2มา จึงทำให้โฮคาเงะรุ่นที่3 จำเป็นต้องใช้คาถาสะกดปิดผนึกซากอสูร โดยใช้ร่างแยกเงาสองร่างทำการปิดผนึกโฮคาเงะทั้งสองและใช้ร่างต้นทำการปิดผนึกโอโรจิมารุ

แต่คาถานี้จะสำเร็จโดยสมบูรณ์ หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพลังหรือจักระของผู้ใช้ ในตอนนั้นที่โฮคาเงะรุ่นที่3 ใช้คาถานี้ พลังมีไม่มากพอที่จะดึงเอาวิญญาณของโอโรจิมารุมาปิดผนึก ทำได้เพียงแค่ทำลายมือทั้งสองข้างของโอโรจิมารุ จึงทำให้โอโรจิมารุไม่สามารถใช้มือเพื่อประสานอินหรือใช้คาถาได้

คาถา นี้เป็นคาถาเดียวกับคาถาที่โฮคาเงะรุ่นที่4(นามิคาเสะ มินาโตะ) เคยใช้สะกดจิ้งจอกเก้าหางไว้ในร่างของอุซึมากิ นารุโตะ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อครั้งที่มีจิ้งจอกเก้าหางบุกมาอาลวาด จิ้งจอกเก้าหางเป็นสัตว์หางที่มีพลังจักระแข็งแกร่งท ี่สุด หางของมันนั้นเพียงแค่พลิกไหวหนึ่งครั้งก็ทำให้ขุนเข าสั่นไหว ท้องน้ำคะนองคลื่น แม้เหล่านินจาทั้งหลายจะรวมพลังแค่ไหนก็มิอาจต่อกรได้ แต่ก็ยังมีนินจาผู้กล้าคนหนึงที่อาจหาญจะต่อสู้เสี่ยงชีวิตกับจิ้งจอกเก้า ด้วยวิชาสะกดปิดผนึกซากอสูร นามของนินจาผู้นั้นคือ โฮคาเงะรุ่นที่4(นามิคาเสะ มินาโตะ) เขาได้ใช้วิชานี้ปิดผนึกพลังจิ้งจอกเก้าหางไว้ในร่าง เด็กทารกแรกเกิดที่เพิ่งตัดสายสะดือใหม่ๆ เด็กคนนั้นคือ อุซึมากิ นารูโตะนั่นเอง ในการปิดผนึกนั้นโฮคาเงะรุ่นที่4ได้แยกจักระของจิ้งจ อกเก้าหางออกเป็นสองส่วน คือ ด้านมืด และด้านสว่าง โดยผนึกพลังจักระด้านมืดด้วยผนึกชิจิและผนึกพลังจักระด้านสว่างไว้ในร่างนารุโตะ

อย่างไรก็ตามถึงวิชาที่ โฮคาเงะรุ่นที่3 และ โฮคาเงะรุ่นที่4ใช้จะเป็นวิชาสะกดปิดผนึกซากอสูรเหมือนกัน แต่ก็อาจมีเงื่อนไขในการปิดผนึกหรือการใช้ที่แตกต่างกัน อาจขึ้นอยู่กับลักษณะวิธีการใช้หรือสถานะการณ์ ณ ตอนนั้นก็เป็นได้

*************************************************************************************************************************************

วิชานินจา คาถาสร้างร่างคืนชีพ


ผู้ใช้ : ซึนาเดะ(โฮคาเงะรุ่นที่5)
ระดับ : -
ระยะโจมตี : -

คาถาสร้างร่างคืนชีพ เป็นคาถาที่ผู้ใช้นั้นจะสะสมจักระไว้ที่หน้าผาก โดยจะมีผนึกเงาคอยผนึกจักระเอาไว้ เมื่อผู้ใช้ทำการปล่อยผนึกเงาออกก็จะสามารถใช้จักระมหาศาลนั้นกระตุ้นโปรตีนหลายๆชนิด เพื่อเพิ่มอัตราการแบ่งตัวและการสร้างเซลล์ใหม่ แล้วสามารถคืนชีพให้กับอวัยวะหรือระบบประสาทได้ ไม่ใช่แค่พลังในการฟื้นฟูเป็นการคืนชีพใหม่ ตราบใดที่ผู้ยังมีชีวิตอยู่ ในระหว่างต่อสู้ถึงแม้จะบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน ก็จะสามารถคืนชีพใหม่ได้ แต่วิชานี้ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่ การแบ่งตัวของเซลล์ในชีวิตคนเรามันจะมีขีดจำกัด นั่นก็คือการแบ่งตัวของเซลล์จะทำให้อายุสั้นลง นอกจากนี้แล้วคาถายังจะส่งผลข้างเคียงต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายนั้นอยู่สภาพผิวหนังแห้งหย่อนเหมือนคนชราชั่วขณะหนึ่ง

************************************************************************************************************************************

วิชานินจา คาถาย้ายชีพเปลี่ยนวิญญาณ

ผู้ใช้ : โอโรจิมารุ
ระดับ : -
ระยะโจมตี :-

โอโรจิมารุผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในสามนินจาในตำนาน โอโรจิมารุเป็นนินจาที่มีพรสวรรค์และพยายามที่จะเรีย นรู้วิชานินจาทุกชนิดที่มีอยู่บนโลกให้หมดทุกวิชา ในอดีตเขาได้ทำการทดลองวิชาต่างๆ กับร่างกายของนินจาคนอื่น รวมทั้งการผ่าตัดศพ เพื่อคิดค้นวิชาอย่างหนึ่งขึ้นมานั่นก็คือ วิชาชีพอมตะ ด้วยสาเหตุนี้เองที่ทำให้นินจาในหมู่บ้านหลายคนที่หายสาบสูญไป จนวันหนึ่งโฮคาเงะรุ่นที่3 พร้อมหน่วยลับ ก็มาพบเข้าแล้วจะทำการจับกุม แต่โอโรจิมารุต่อสู้ขัดขืน และได้หลบหนีไป ซึ่งจริงๆแล้วตอนนั้นโฮคาเงะรุ่นที่3 จะจับกุมหรือสังหารก็ทำได้ไม่อยาก

หลังจากนั้นโอโรจิมารุก็คิดค้นวิชาชีพอมตะหรือย้ายชีพเปลี่ยนวิญญาณสำเร็จจนได้ โดยวิชานี้โอโรจิมารุจะสร้างมิติของตัวเองขึ้นมา เพื่อย้ายจิตเข้าครอบงำจิตของเหยื่อ วิชานี้โอโรจิมารุได้ใช้เปลี่ยนวิญญาณมาแล้วสี่ครั้ง แต่ครั้งล่าสุดที่ใช้กับซาสึเกะนั้นกลับไม่ได้ผล เนื่องจากโดนซาสึเกะใช้เนตรวงแหวนสะท้อนคาถา และประกอบกับโอโรจิมารุอยู่ในสภาพที่อ่อนแอยังไม่พร้อมเท่าไหร่

วิชาชีพ อมตะเมื่อทำการย้ายชีพเปลี่ยนวิญญาณเสร็จแล้วต้องเว้นระยะเวลาออกไปอีก 3 ปีจึงจะสามารถย้ายร่างได้อีกครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้นเงื่อนไขระยะเวลาก็ขึ้นอยู่ว่าร่างภา ชนะที่ใช้มีคุณภาพแค่ไหนด้วย

*********************************************************************************************************************************

วิชานินจา คาถาย้ายชีวิต


ผู้ใช้ : ย่าโจ
ระดับ : -
ระยะโจมตี/หวังผล : ประชิด

ครั้งหนึ่งหน่วยเชิดหุ่นของซึนะงาคุเระ ได้ค้นคว้าเทคนิคการใส่ชีวิตเข้าไปในหุ่นเชิด โดยมีย่าโจ เป็นผู้นำในการค้นคว้า และสามารถคิดค้นทฤษฎีได้ แต่ระหว่างค้นคว้าก็เกิดความเสี่ยงขึ้นมากมาย เลยถูกสั่งห้ามก่อนที่จะมีการทดลองกับคนจริงๆ จึงได้กลายเป็นวิชาต้องห้าม ซึ่งเดิมทีวิชานี้ก็เป็นวิชาส่วนตัวของย่าโจเป็นการแบ่งพลังชีวิตสอดใส่เข้าไปสู่คนตายและจะสามารถชุบชีวิตได้แม้แต่คนตาย โดยแลกกับชีวิตของผู้ใช้วิชา ซึ่งจริงๆแล้ววิชานี้ที่ย่าโจคิดค้นขึ้นมาก็เพื่อซาโซริเพื่อที่จะใช้ชุบชีวิตพ่อแม่ของซาโซรินั่นเอง

แต่ในกรณีที่ย่าโจใช้วิชานี้ช่วยชีวิตซากุระ เนื่องจากซากุระบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ไม่ถึงกับตาย พลังชีวิตที่เสียไปจึงไม่ทำให้ย่าโจ ถึงแก่ความตาย และหลังจากนั้นย่าโจก็ได้ใช้วิชานี้อีกครั้งในการชุบ ชีวิตกาอาระจึงเป็นสาเหตุให้ย่าโจเสียชีวิตนั่นเอง


*************************************************************************************************************************************

วิชานินจา คาถาลม กระสุนวงจักรดาวกระจายวายุ


ผู้ใช้ : อุซึมากิ นารุโตะ
ระดับ : s
ระยะโจมตี : ประชิด

วิชากระสุนวงจักรดาวกระจายวายุ เป็นวิชาที่พัฒนาต่อจากวิชาเดิม คือ กระสุนวงจักร ซึ่งเน้นการแปลงรูปลักษณ์อย่างเดียว แต่กระสุนวงจักรดาวกระจายวายุนั้น เป็นการแปลงคุณสมบัติจักระธาตุลมประสานเข้ากับการแปลงรูปลักษณ์(กระสุนวงจักร) ผลจากการโจมตีของวิชานี้จักระลมจะเปลี่ยนรูปลักษณ์เป ็นดาบขนาดเล็กจู่โจมใส่เซลล์ทั่วร่างโดยตรงทำลายเส้นปราณแต่ละเส้นที่เชื่อมโยงเซลล์ เป็นการโจมตีขนาดจิ๋วที่สร้างความเสียหายในระดับเซลล์ และเป็นวิชาที่ไม่เน้นจำนวนการโจมตี แต่เป็นการเน้นความเข้มข้นของการโจมตีแทน

การใช้วิชานี้จะส่งผล กระทบต่อผู้ใช้เช่นเดียวกันกับผู้ที่โดนโจมตี ถึงจะไม่อยู่ในระดับเดียวกันก็ตาม หากยังใช้อย่างต่อเนื่องไปอีกจะทำให้เส้นปราณถูกทำลายขาดจากเซลล์ ด้วยเหตุนี้ กระสุนวงจักรดาวกระจายวายุ จึงเป็นวิชาต้องห้าม

*************************************************************************************************************************************

คาถาต้องห้าม วิชาอักระสาป

ประเภท : วิชานินจา
ผู้ใช้ : โอโรจิมารุ
ระดับ : A
ผู้ใช้อื่นๆ : อุจิวะ ซาสึเกะ ,มิตาราชิ อังโกะ,ทายูยะ,อูคอน ซาคอน,คิโดมารุ,จิโรโบ,คิมิมาโร่

************************************************************************************************************************************

คาถาคลายสะกด • Kai(ปลดปล่อย)

ผู้ใช้ : ซึนาเดะ
ระดับ : S
ระยะ : -
ประเภท : คาถาเสริม

ปลดปล่อย(Kai) เป็นหนึ่งในวิชาสะกดที่คิดค้นโดยซึนาเดะ ทำให้เธอสามารถใช้คาถาสร้างร่างคืนชีพได้
โดยปกติ ซึนาเดะจะสร้างและสะสมจักระไว้ที่สัญลักษณ์ตรงหน้าผาก เมื่อปลดปล่อย(Kai) จักระที่หน้าผากจะ
กระจายออกไปทั่วทั้งร่าง เพื่อเพิ่มจักระและสามารถสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาได้


************************************************************************************************************************************

วิชาต้องห้าม  ดอกบัวบานภายใน-ภายนอก

[
ผู้ใช้ : ร็อค ลี, ไมโตะ ไก
ระดับ : B
ระยะ : 0 ~ 5 เมตร
ประเภท : โจมตี

ท่าดอกบัวบาน เป็นวิชาหนึ่งของกระบวนท่านินจา จัดอยู่ในวิชาต้องห้ามเพราะว่ามันเป็นวิชาที่ใช้แรงมหาศาลใส่เข้าไปในร่างกายโดยขั้นแรกต้องเปิดประตู8ด่านพลัง โดยประตูแรกจะเป็นการเพิ่มควาสามารถด้านสมองและร่างกาย ในกรณีของลี เขาสามารถเพิ่มความเร็วและพลังโจมตีได้หลังจากเปิดประตู ลีจะคลายผ้าพันแผลที่มือออกและพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจะเตะคู่ต่อสู้ขึ้นไปบนอากาศและกระโดดตามขึ้นไปด้านหลัง ใช้ผ้าพันแผลที่มัดคู่ต่อสู้เพื่อไม่ให้หนี เมื่อทั้งคู่กำลังจะตกสู่พื้น ลีจะจับคู่ต่อสู้หมุนด้วยความเร็วสูง ให้หัวของคู่ต่อสู้ตกกระแทกพื้น กระบวนท่านี้สร้างความเสียหายให้คู่ต่อสู้ถึงขั้นสาหัส แต่ก็ส่งผลต่อร่างกายของลีไม่น้อยเหมือนกัน

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น