[เจาะตื้น] ข้อสอบ CU-TEP/AAT/ATS
ตั้งกระทู้ใหม่
***กระทู้นี้ตั้งไว้ตั้งแต่กลางปี 2554.. ข้อมูลบางอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม นะจ๊ะ~***
CU TEP
แนะนำให้น้องลองไปสอบดูก่อนนะคะว่าทำได้ไหม (550+ แบบสบายๆไหม)
ถ้าได้ไม่ถึงหรือผ่านมานิดหน่อยแล้วอยากอัพคะแนนก็อ่านหนังสือชื่อ "CU-TEP"
เล่มสีชมพูๆของ TGRE ฯลฯ (ลองเลือกหนังสือได้ที่ศูนย์หนังสือจุฬา คลิกๆ)
แต่ถ้าสอบ CU-TEP ไปเรื่อยๆแล้วไม่มีวี่แววว่าจะผ่านแนะนำให้สอบ
IELTS ค่ะ ค่าสอบแพงหน่อย (~6000บาท) แต่ได้คะแนนผ่าน (6.0) ง่ายกว่า CU-TEP 550 ค่ะ
(แต่ก็ไม่ได้ 'ง่าย' กว่าขนาดนั้นนะคะ...แนะนำผู้ที่สอบได้ 500 ขึ้น)
ในส่วนของ writing (หา 'error') ถ้าอยากชัวร์ๆก็ให้อ่านของ TOEFL ค่ะ ค่อนข้างจะคล้ายกัน
แต่ TOEFL อาจยากกว่าหน่อย (เผื่อไว้ก่อน)
ส่วน Listening จะไม่ได้มีเพียงสำเนียงฝรั่งเท่านั้นนะคะ ยังมีคนพูดสำเนียงเอเซียด้วย ให้ระวังเอาไว้เพราะเอเซียจะฟังยากกว่ามากกก
CU AAT
จะมีข้อสอบสองส่วน คือ อังกฤษ กับ เลข
ข้อสอบเลขจะคล้ายกับส่วนของเลขใน SAT1 ค่ะแต่จะยากกว่า
ถ้าเทียบเป็นหลักสูตรไทยแล้วก็เป็น ม.3 + ม.4 ซะส่วนใหญ่
(algebra)
แต่ก็มีของ ม.1,2,5,6 ปนมาบ้างเล็กน้อย
ข้อสอบนี้สำหรับเด็กไทยแล้วถือว่าง่ายในระดับหนึ่ง แต่ก็
อย่าประมาท อย่าดูถูก เพราะเวลาค่อนข้างน้อยและมีโจทย์หลอก
(อย่าลืมว่า ง่ายสำหรับเรา ก็ง่ายสำหรับคนอื่นด้วยเช่นกัน)
**ระวัง.. ถ้ากาข้อไหนผิดจะโดนหักคะแนนด้วย 1/4 แต้ม ถ้าตัด Choice ได้ 1 หรือ 2 ข้อแนะนำให้มั่วไปค่ะ ยังไงก็คุ้ม**
CU ATS
จะมี Physics กับ Chemistry
แต่ถ้าเป็น CU-ATS Nano แล้วจะมี Biology เพิ่มเข้ามาด้วย (ใช้ข้อสอบเดียวกับ CU-ATS ธรรมดา เพียงแต่มี Bio เพิ่มมา)
Physics: เน้น basic concept ของทุกๆเรื่อง ไม่ได้ลงลึกมาก แค่รู้ทฤษฎีบ้าง แทนสูตรเป็น ประยุกต์เป็นหน่อยๆ(จริงๆ) ก็โอเคแล้ว ส่วนนี้จะคล้าย SAT Subject Test (Physics) มาก จะอ่านจากหนังสือ SAT ก็ได้ หรือพวก Applied Physics ก็ได้ (แต่ไม่ต้องอ่านลึกมาก)
Chemistry: อันนี้มาแปลกค่ะ มันจะไม่ค่อยเหมือน SAT และไม่ค่อยเหมือน PAT - -'' และแต่ละรอบก็มีเปลี่ยนแนวด้วย แนะนำคือให้อ่านทั้ง SAT (แบบละเอียด) PAT (อ่านจากหนังสืออาจารย์อุ๊ก็ได้ แต่ไม่ต้องท่องทุกรายละเอียดก็ได้)
ความคิดเห็นส่วนตัวคือยากกว่า PAT (มันยากกว่าตรงที่ไม่ได้ออกเหมือน PAT = =)
ข้อคำนวณก็ไม่ยากนัก แต่หลายข้อกินเวลานานมากกก ต้องพลิกไปพลิกมา ระวังจะทำไม่ทัน
อย่างคำนวณพลังงานจาก Combustion reaction ดุลย์สมการ
Biology: (ไม่เคยสอบนะคะตัวนี้ แต่ทราบมาว่ามีความยากมากว่า SAT Biology พอควร แต่ไม่ยากเท่า PAT)
--ทั้ง SAT และ ATS กาผิดโดนลบ 1/4 แต้มเหมือนกันนะคะ--
คำแนะนำ
- ให้สอบเป็น SAT Subject Test (Physics, Biology, Chemistry) ดีกว่าค่ะ เพราะง่ายกว่ามาก ส่วนหนังสือแนะนำ Barron's (Physics, Chemistry), Princeton Review (Biology) แต่อย่าลืมว่า SAT แต่ละตัวต้องไม่ต่ำกว่า 600/800 คะแนน
- ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบในการเข้าสอบอย่างเคร่งครัดนะคะ เพราะอาจไม่มีคะแนนให้หลังสอบเสร็จ (จริงๆนะ)
- อย่าไปสายเกินกว่าเวลาที่กำหนดโดยเด็ดขาด! เพราะถึงไปง้อเขายังไงก็ไม่มีทางเข้าได้ ไม่ว่าในกรณีใดใด
หมายเหตุ
- ลบ 1/4 แต้มไม่ได้หมายความว่า ลบ 0.25 จาก 800 นะคะ..
ตัวอย่าง: ข้อสอบมี 50 ข้อเต็ม 800 คะแนน.. เฉลี่ยข้อละ 16 คะแนน
ถ้าหากทำผิด 1 ข้อ.. นอกจากจะไม่ได้คะแนนในข้อนั้นแล้ว ยังโดนหักไปอีก 4 คะแนน (คือโดนหักไป 1/4 ของ 16 คะแนน)
ISE
CU-AAT
- ไม่ไช้คะแนนของส่วนอังกฤษค่ะ ใช้เฉพาะเลข
CU-ATS/CU-ATS Nano
- สามารถเลือกคะแนนที่ดีที่สุดในการสอบแต่ละครั้งมายื่นได้
ตัวอย่าง:
สอบ ATS รอบแรกได้ Physics 400 Chemistry 320
จะเห็นได้ว่าคะแนนรวมยังไม่ถึง 800 (ไม่สามารถยื่นได้)
แต่รอบสองได้ Physics 300 Chemistry 480 (ไม่ถึง 800เช่นกัน)
เราสามารถดึงคะแนน Physics จากรอบแรก (400) มารวมกับ
Chemistry ของรอบหลัง (480) = 880 สามารถยื่นได้แล้ว
(สำหรับ NANO ต้องอย่างต่ำ 1200/2400 คะแนน คละคะแนนได้เช่นกัน)
ข่าวดีสำหรับน้อง ๆ ปี 55
ปีนี้น้อง ๆ สามารถคละคะแนนได้ทั้ง ATS และ SAT ค่ะ
BBA
CU-TEP
- แค่ผ่านเกณฑ์ก็พอค่ะ เพราะไม่ได้นำมาคิด %
CU-AAT
- ใช้ทั้งเลข และ อังกฤษ (และต้องเป็นคะแนนจากการสอบครั้งเดียวกัน)
BSAC
- ถึงทางคณะจะบอกว่าคะแนนผ่านเพียง 3 ใน 4 ข้อได้ (ดูในประกาศ) แต่ก็ควรผ่านให้หมดทั้ง 4 ตัว โดยเฉพาะ CU-TEP
--เกณฑ์การรับเข้า หรือ แนวข้อสอบอาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกปี ถ้ามีอะไรเพิ่มเดี๋ยว edit ให้ค่ะ--
เป็นกำลังใจให้นะคะ
สู้ สู้
ค่าน้ำหนักสำหรับ ISE
GPAX 10%
CU TEP 20 %
CU AAT(Math) 30 %
CU ATS / CU ATS(NAN0) 40 %
สำหรับ BBA คะแนนขั้นต่ำสำหรับรอบ Early 1250 รอบปกติของปี 2012 ต่ำสุดอยู่ที่ 1170 จ้า
CU TEP
แนะนำให้น้องลองไปสอบดูก่อนนะคะว่าทำได้ไหม (550+ แบบสบายๆไหม)
ถ้าได้ไม่ถึงหรือผ่านมานิดหน่อยแล้วอยากอัพคะแนนก็อ่านหนังสือชื่อ "CU-TEP"
เล่มสีชมพูๆของ TGRE ฯลฯ (ลองเลือกหนังสือได้ที่ศูนย์หนังสือจุฬา คลิกๆ)
แต่ถ้าสอบ CU-TEP ไปเรื่อยๆแล้วไม่มีวี่แววว่าจะผ่านแนะนำให้สอบ
IELTS ค่ะ ค่าสอบแพงหน่อย (~6000บาท) แต่ได้คะแนนผ่าน (6.0) ง่ายกว่า CU-TEP 550 ค่ะ
(แต่ก็ไม่ได้ 'ง่าย' กว่าขนาดนั้นนะคะ...แนะนำผู้ที่สอบได้ 500 ขึ้น)
ในส่วนของ writing (หา 'error') ถ้าอยากชัวร์ๆก็ให้อ่านของ TOEFL ค่ะ ค่อนข้างจะคล้ายกัน
แต่ TOEFL อาจยากกว่าหน่อย (เผื่อไว้ก่อน)
ส่วน Listening จะไม่ได้มีเพียงสำเนียงฝรั่งเท่านั้นนะคะ ยังมีคนพูดสำเนียงเอเซียด้วย ให้ระวังเอาไว้เพราะเอเซียจะฟังยากกว่ามากกก
**กาผิดไม่โดนหักคะแนน ข้อไหนทำไม่ได้มั่วเต็มที่!**
CU AAT
จะมีข้อสอบสองส่วน คือ อังกฤษ กับ เลข
ข้อสอบเลขจะคล้ายกับส่วนของเลขใน SAT1 ค่ะแต่จะยากกว่า
ถ้าเทียบเป็นหลักสูตรไทยแล้วก็เป็น ม.3 + ม.4 ซะส่วนใหญ่
(algebra)
แต่ก็มีของ ม.1,2,5,6 ปนมาบ้างเล็กน้อย
ข้อสอบนี้สำหรับเด็กไทยแล้วถือว่าง่ายในระดับหนึ่ง แต่ก็
อย่าประมาท อย่าดูถูก เพราะเวลาค่อนข้างน้อยและมีโจทย์หลอก
(อย่าลืมว่า ง่ายสำหรับเรา ก็ง่ายสำหรับคนอื่นด้วยเช่นกัน)
**ระวัง.. ถ้ากาข้อไหนผิดจะโดนหักคะแนนด้วย 1/4 แต้ม ถ้าตัด Choice ได้ 1 หรือ 2 ข้อแนะนำให้มั่วไปค่ะ ยังไงก็คุ้ม**
CU ATS
จะมี Physics กับ Chemistry
แต่ถ้าเป็น CU-ATS Nano แล้วจะมี Biology เพิ่มเข้ามาด้วย (ใช้ข้อสอบเดียวกับ CU-ATS ธรรมดา เพียงแต่มี Bio เพิ่มมา)
Physics: เน้น basic concept ของทุกๆเรื่อง ไม่ได้ลงลึกมาก แค่รู้ทฤษฎีบ้าง แทนสูตรเป็น ประยุกต์เป็นหน่อยๆ(จริงๆ) ก็โอเคแล้ว ส่วนนี้จะคล้าย SAT Subject Test (Physics) มาก จะอ่านจากหนังสือ SAT ก็ได้ หรือพวก Applied Physics ก็ได้ (แต่ไม่ต้องอ่านลึกมาก)
Chemistry: อันนี้มาแปลกค่ะ มันจะไม่ค่อยเหมือน SAT และไม่ค่อยเหมือน PAT - -'' และแต่ละรอบก็มีเปลี่ยนแนวด้วย แนะนำคือให้อ่านทั้ง SAT (แบบละเอียด) PAT (อ่านจากหนังสืออาจารย์อุ๊ก็ได้ แต่ไม่ต้องท่องทุกรายละเอียดก็ได้)
ความคิดเห็นส่วนตัวคือยากกว่า PAT (มันยากกว่าตรงที่ไม่ได้ออกเหมือน PAT = =)
ข้อคำนวณก็ไม่ยากนัก แต่หลายข้อกินเวลานานมากกก ต้องพลิกไปพลิกมา ระวังจะทำไม่ทัน
อย่างคำนวณพลังงานจาก Combustion reaction ดุลย์สมการ
Biology: (ไม่เคยสอบนะคะตัวนี้ แต่ทราบมาว่ามีความยากมากว่า SAT Biology พอควร แต่ไม่ยากเท่า PAT)
--ทั้ง SAT และ ATS กาผิดโดนลบ 1/4 แต้มเหมือนกันนะคะ--
คำแนะนำ
- ให้สอบเป็น SAT Subject Test (Physics, Biology, Chemistry) ดีกว่าค่ะ เพราะง่ายกว่ามาก ส่วนหนังสือแนะนำ Barron's (Physics, Chemistry), Princeton Review (Biology) แต่อย่าลืมว่า SAT แต่ละตัวต้องไม่ต่ำกว่า 600/800 คะแนน
- ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบในการเข้าสอบอย่างเคร่งครัดนะคะ เพราะอาจไม่มีคะแนนให้หลังสอบเสร็จ (จริงๆนะ)
- อย่าไปสายเกินกว่าเวลาที่กำหนดโดยเด็ดขาด! เพราะถึงไปง้อเขายังไงก็ไม่มีทางเข้าได้ ไม่ว่าในกรณีใดใด
หมายเหตุ
- ลบ 1/4 แต้มไม่ได้หมายความว่า ลบ 0.25 จาก 800 นะคะ..
ตัวอย่าง: ข้อสอบมี 50 ข้อเต็ม 800 คะแนน.. เฉลี่ยข้อละ 16 คะแนน
ถ้าหากทำผิด 1 ข้อ.. นอกจากจะไม่ได้คะแนนในข้อนั้นแล้ว ยังโดนหักไปอีก 4 คะแนน (คือโดนหักไป 1/4 ของ 16 คะแนน)
ISE
CU-AAT
- ไม่ไช้คะแนนของส่วนอังกฤษค่ะ ใช้เฉพาะเลข
CU-ATS/CU-ATS Nano
- สามารถเลือกคะแนนที่ดีที่สุดในการสอบแต่ละครั้งมายื่นได้
ตัวอย่าง:
สอบ ATS รอบแรกได้ Physics 400 Chemistry 320
จะเห็นได้ว่าคะแนนรวมยังไม่ถึง 800 (ไม่สามารถยื่นได้)
แต่รอบสองได้ Physics 300 Chemistry 480 (ไม่ถึง 800เช่นกัน)
เราสามารถดึงคะแนน Physics จากรอบแรก (400) มารวมกับ
Chemistry ของรอบหลัง (480) = 880 สามารถยื่นได้แล้ว
(สำหรับ NANO ต้องอย่างต่ำ 1200/2400 คะแนน คละคะแนนได้เช่นกัน)
ข่าวดีสำหรับน้อง ๆ ปี 55
ปีนี้น้อง ๆ สามารถคละคะแนนได้ทั้ง ATS และ SAT ค่ะ
BBA
CU-TEP
- แค่ผ่านเกณฑ์ก็พอค่ะ เพราะไม่ได้นำมาคิด %
CU-AAT
- ใช้ทั้งเลข และ อังกฤษ (และต้องเป็นคะแนนจากการสอบครั้งเดียวกัน)
BSAC
- ถึงทางคณะจะบอกว่าคะแนนผ่านเพียง 3 ใน 4 ข้อได้ (ดูในประกาศ) แต่ก็ควรผ่านให้หมดทั้ง 4 ตัว โดยเฉพาะ CU-TEP
--เกณฑ์การรับเข้า หรือ แนวข้อสอบอาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกปี ถ้ามีอะไรเพิ่มเดี๋ยว edit ให้ค่ะ--
เป็นกำลังใจให้นะคะ
สู้ สู้
ค่าน้ำหนักสำหรับ ISE
GPAX 10%
CU TEP 20 %
CU AAT(Math) 30 %
CU ATS / CU ATS(NAN0) 40 %
น้อง ๆ ที่ผ่านเกณฑ์แล้ว ยังมีเวลาสอบก็น่าจะสอบเพิ่มนะคะ...จะได้ลุ้นทุน...ทำคะแนนสูง ๆ เข้าไว้
และสำหรับคนที่ผ่านเกณฑ์มาแบบเฉียด ๆ ก็ควรจะยื่นคณะอื่นที่ชอบรองลงมาสำรองไว้ด้วย (ค่ายื่นคณะละ 1000 บาท)
ISE สามารถเลือกได้ 4 สาขา(ตามลำดับความชอบใจ) แต่ถ้าไม่ได้สอบ NANO ก็แค่ 3 นะคะ
- NANO
- ADME
- ICE
- AERO
** เมื่อสอบได้คะแนนที่พอใจแล้ว ให้เก็บใบคะแนนไว้ดี ๆ นะคะ เพราะในการยื่นสมัครจะต้องใช้ตัวจริงเท่านั้น แต่ถ้าหายให้ติดต่อขอใหม่ได้ที่ศุนย์ทดสอบจุฬาฯ จะเสียค่าธรรมเนียมใบละ 30 บาท
***สำหรับน้องที่จะสอบ SAT เวลาสมัครสอบ อย่ากด!!! รักษ์โลกนะคะ เพราะจะไม่มีใบคะแนนส่งมาที่บ้าน ยกเว้น...น้องที่ต้องการเข้า BBA CU / TU ส่งไปตามรหัสได้เลย(เช็คได้จากเว็ป)
BBA CU
น้องที่สอบ CU TEP 550 และ CU AAT 1200 ให้ยื่นรอบ Early ได้เลยค่ะ ประมาณต้นพย.
**** น้อง ๆ สามารถสอบ ATS รอบ... ที่สอบประมาณวันที่ 15 มกราปีหน้า ได้ด้วยนะคะ (คะแนนออกทันค่ะ)
มาเพิ่ม EBA ให้ค่ะ
น้องที่สนใจคณะนี้ ก็ต้องทำคะแนนให้สูง ๆ บวกกับการเตรียมสัมภาษณ์(ลือกันว่าโหด)และเป็นคณะที่มีคนสนใจมากอีกคณะหนึ่ง ใครที่ทำแต้มได้น้อยก็น่าจะยื่น BBA เผื่อไว้ด้วยเลยค่ะ
การยื่น
น้องต้องยื่นให้ครบทั้ง 3 ส่วน
GPAX
CU TEP
CU AAT
ผู้ที่ผ่าน 2 ใน 3 จะเข้าสัมภาษณ์
การพิจารณา
GPAX ค่าน้ำหนักคงน้อยที่สุด
CU TEP
CU AATตัวนี้ต้องทำให้ได้สูง ๆ
INTERVIEW สำคัญอย่างยิ่ง...น้อง ๆ ต้องอย่าเงียบนะคะ เพราะผู้สัมภาษณ์จะไม่ทราบว่าเราฟังรู้เรื่องหรือไม่ ให้ตอบ ๆ ไป แต่อย่ามั่วนะคะ ไม่ทราบก็ยอมรับกันไปเลย
*** คหสต.... ไม่ผ่าน CU TEP ไม่น่าจะเข้าเรียนหลักสูตรนานาชาติได้ เท่าที่ได้ยินมามีหลายคนที่พลาด เมื่อสอบถามไป ก็จะได้ความจริงว่าไม่ผ่าน CU TEP ถึงจะเพียง 1 หรือ 2 คะแนนก็ตาม
BBA CU รอบ Early
เปิดให้กรอก/ยื่น ต้นเดือน พย. ถึงปลายเดือน ธค.
การกรอกใบสมัครใช้เวลาพอสมควร มันเหมือนเขียน Essay สั้น ๆ ในแต่ละคำถามหรือที่ฝรั่งเรียก Mini Essay และยังต้องPrint แบบฟอร์ม letter of recommendation ให้ครูที่ รร.เขียนให้อีก 2 ฉบับ
สอบสัมภาษณ์ ประมาณ กลางเดือนมกรา
ข้อนี้น้อง ๆ ไม่ต้องกังวลอะไรเลย...ขออย่างเดียวอย่าเงียบนะคะ เพราะอาจารย์จะไม่ทราบว่าเราฟังท่านรู้เรื่องหรือไม่
พี่ เจอคำถามข่าวด้วย..อ.จะยกหัวข้อข่าวมาแล้วให้แสดงความคิดเห็น อย่างที่บอกให้แสดงความคิดเห็น จึงไม่มีคำว่าเราตอบผิดหรือถูก ก็ออกความเห็นตามความรู้สึกเราไป แต่โดยรวมแล้วพี่ว่าคณะนี้สนุกที่สุด
สามารถนัดสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ได้ (สำหรับผู้อยู่ตปท.)
สำหรับน้อง ๆ ปี 55 และยังไม่ผ่าน สอบต่อไปเพื่อรอบ 2 นะคะ
BSAC รับสมัครประมาณเมษา-ต้นพฤษภา ประกาศผลประมาณ 20 กว่ามิถุนา
ISE รับสมัคร ก็ประมาณปลายพฤษภาถึงต้นมิถุนา
น้อง ๆ ที่สนใจจะต้องหมั่นพยายามติดตามเอาจากเว็ปของแต่ละคณะ และศูนย์ทดสอบก็เช่นกันพยายามโทรถามว่ามีรอบพิเศษเปิดเมื่อไร
ขอให้น้อง ๆ ทุกคนโชคดีนะคะ
ปล.ให้เช็คสอบ SAT ด้วยก็ดีนะคะว่ายังเหลือรอบอีกหรือไม่ เรียกว่าดักให้หมด ใครไม่ผ่าน CU TEP แนะนำว่าสำหรับคนที่ 500 ขึ้นให้หนีไปสอบเป็น IELTS แทน (ค่าสอบแพงหน่อย แต่น่าจะผ่านได้ไม่ยาก)
ปีที่แล้วเปิดสอบรอบพิเศษ AAT / ATS ประมาณ 7 May เพราะฉะนั้นน้อง ๆ ต้องติดตามดี ๆ และอย่าลืมว่ารอบนี้เต็มเร็วสุด ๆ ใครช้าอดก็หมดกันแล้ว
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 19 มิถุนายน 2554 / 18:41
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 20 มิถุนายน 2554 / 13:56
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 26 มิถุนายน 2554 / 09:42
แก้ไขครั้งที่ 4 เมื่อ 27 มิถุนายน 2554 / 11:08
แก้ไขครั้งที่ 5 เมื่อ 29 มิถุนายน 2554 / 11:50
แก้ไขครั้งที่ 6 เมื่อ 8 กรกฎาคม 2554 / 22:53
แก้ไขครั้งที่ 7 เมื่อ 13 กรกฎาคม 2554 / 15:11
แก้ไขครั้งที่ 8 เมื่อ 13 กรกฎาคม 2554 / 15:17
แก้ไขครั้งที่ 9 เมื่อ 22 กรกฎาคม 2554 / 00:16
แก้ไขครั้งที่ 10 เมื่อ 22 กรกฎาคม 2554 / 00:49
แก้ไขครั้งที่ 11 เมื่อ 25 กรกฎาคม 2554 / 00:04
แก้ไขครั้งที่ 12 เมื่อ 25 กรกฎาคม 2554 / 00:13
แก้ไขครั้งที่ 13 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2554 / 21:32
แก้ไขครั้งที่ 14 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2554 / 23:49
แก้ไขครั้งที่ 15 เมื่อ 18 มกราคม 2555 / 20:05
แก้ไขครั้งที่ 16 เมื่อ 27 มกราคม 2555 / 16:23
แก้ไขครั้งที่ 17 เมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2555 / 13:37
แก้ไขครั้งที่ 18 เมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2555 / 14:07
แก้ไขครั้งที่ 19 เมื่อ 8 กันยายน 2555 / 22:43
แก้ไขครั้งที่ 20 เมื่อ 8 ตุลาคม 2555 / 23:14
84 ความคิดเห็น
ขอบคุณมากๆๆเลย ครับ
sat ส่วนเลขนี้ มีสอบประมานช่วงไหนครับ
SAT1 เวลาสอบก็ต้องสอบ 3 part ค่ะ (อังกฤษ2+เลข1)
ส่วน SAT Subject Test (Math I & II) ก็พร้อมกัน ต้องเลือกเอาว่าจะสอบอะไร
ส่วนตารางก็นี่เลยค่ะ http://sat.collegeboard.org/home
SAT1 ต้องรีบสมัครนะคะ เพราะสนามสอบเต็มเร็วมาก ๆ โดยเฉพาะรอบหลัง ๆ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 19 มิถุนายน 2554 / 18:47
IELTS ง่ายกว่า เทพ  จริงหรอคะ 
เราลองไปสอบเทพมาครั้งแรกได้ 447 เองอะ 
จะมีวี่แววผ่านมั้ยเนี้ยะ  U^U
คห.3
แนะนำให้ซื้อหนังสือ/ติว tep แล้วสอบ tep ไปเรื่อยๆก่อนดีกว่าค่ะ เพราะ IELTS ก็ไม่ได้ง่ายกว่ามากนัก และค่าสอบแพงมาก
ได้ 500 กว่าแล้วค่อยไปลองสอบดูก็ได้ค่ะ
พี่อยู่คณะอะไรหรอครับ ผมอยากเข้าise อ่ะคับ ผมอยากรู้ว่าที่นั่นเป็นยังไงอย่างสังคม อาจาน อะไรพวกนี้
คห. 5
ISE จ้า...
ที่จุฬาฯ ... ไม่เคยพบอะไรที่อบอุ่นขนาดนี้ รุ่นพี่น่ารักมาก ๆ ส่วนอินเตอร์และปกติก็เป็นเพื่อนกันหมด
เรื่องอาจารย์...พี่เชื่อมั่นในจุฬาฯ คงคล้าย ๆ กับที่นร.ที่จะเข้าจุฬาฯได้ต้องผ่านอะไรมามากมายนั่นหล่ะ
แล้วเราจะมาเป็นพี่น้องกัน
SEE YOU @ CU
ผมมีข้อสงสัยอยู่เล็กน้อยแต่จะขอถามเป็นข้อๆดังนี้ครับ
1.SAT ที่คุณแนะนำว่าง่ายกว่านั้น จะไม่ประกาศคะแนนแยกรายวิชาเหมือนกับ ATS แล้วเราจะสามารถรู้ได้อย่างไรว่าเราบกพร่องในวิชาไหน และต้องสอบถึง 3 วิชาเลยหรือไม่อย่างไร (ไม่เคยสอบ SAT มาก่อนเลยไม่รู้วิธีและกระบวนการของเขาเป็นอย่างไร)
2.การหักลบของ ATT และ ATS ถ้าเราเลือกที่จะไม่ตอบข้อนั้นจะมีค่าเท่ากับตอบผิดแล้วโดนหักคะแนนหรือไม่
3.การสอบ Math ของ SAT เป็นอย่างไร และง่ายกว่า ATT จริงหรือไม่ในความคิดของคุณ
ปล. เมื่อปีที่แล้วผมไม่อาจทำคะแนน ATS ให้เกิน 800 ได้ ปีนี้จึงอยากจะลองใหม่เป็นครั้งสุดท้าย อยากจะทุ่มทุกอย่างสุดตัวเพื่อให้ได้ สำหรับผมถือว่ากระทู้นี้ได้มีเกร็ดให้ผมได้รู้อะไรๆเพิ่มขึ้นมาอีก ขอบคุณจริงๆ
PS. ดาวบนฟ้า...ถ้าอยากได้ต้องไขว่คว้ากันมาเอง เหล่านักเรียนลูกผู้ชาย
คห. 7
ถ้าจะเข้าคณะวิศวฯต้องสอบ:
- CU TEP / TOEFL / IELTS
- CU AAT / SAT l (Math) +SAT ll (Math level II)
- CU ATS / SAT SUBJECT (CHEM / PHYSICS)
- CU ATS (NANO) / SAT SUBJECT(CHEM / BIO / PHYSICS) สำหรับวิศวฯนาโนเท่านั้น
1.คะแนนของ SAT จะประกาศแยกเป็นรายวิชาเช่นเดียวกับ ATS ( แต่ในการยื่นต้องเป็นคะแนนจากการสอบในรอบเดียวกันและแต่ละวิชาต้องไม่ต่ำกว่า 600/800 )
ในการสอบ SAT แต่ละครั้ง สามารถสอบ SAT Subject Test ได้สูงสุด 3 วิชา หรือ SAT I (ต้องเลือกเอา)
2. ถ้าไม่ตอบก็จะไม่ได้คะแนนของข้อนั้นค่ะ แต่จะไม่โดนหักเพิ่มเติม
3. ส่วนของวิชาเลขใน SAT l ง่ายกว่า AAT ค่ะ.. แต่ถ้าหากจะเข้าคณะวิศวฯ จะต้องสอบ SAT II (Math level 2) ด้วย ซึ่งก็ยากในระดับหนึ่ง สรุปคือแนะนำให้สอบเป็น AAT ดีกว่าค่ะ ตัวเดียวจบ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
SEE YOU @ CU
คะแนน CU-ATS    Physic คนละครั้ง กับ Chem รวมกันได้จริงหรือ
ใครเคยใช้ช่วย confirm หน่อยดิ
คห. 9
ทุกปีที่ผ่านมาเอามารวมกันได้ค่ะ ปีนี้ก็น่าจะได้เช่นเดียวกัน
ทาง Office เขาก็บอกอย่างนั้น แต่ต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการค่ะ (ช่วง ธันวาฯ)
เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
อยากทราบเกณฑ์ของ eba หน่อยค่ะ ว่าต้องใช้คะแนนอะไรยื่นบ้าง? แล้วการยื่นคะแนนจะมีประมาณเดือนไหนค่ะ?
คห. 11
ตามลิงค์นี้เลยค่ะ...แต่ของปี 2012 ยังไม่ออกนะคะ...ยังไงเกณฑ์ก็คงเหมือนเดิม
http://www.eba.econ.chula.ac.th/PDF/Announcement_2011.pdf
ทุกคณะยื่นต้นเดือนมกราคม...ยกเว้น ! บัญชี...จะมีรอบ Early สำหรับผู้ที่คะแนน 1200 ขึ้นไป ยื่นประมาณเดือน ธค.และรู้ผลก่อนใคร ๆ
พี่มาลงเพิ่มให้เลย เพราะเข้าไม่ค่อยได้
ใช้ 2 ใน 3 (แต่พี่ว่าน้องทำให้ผ่านทุกตัวจะดีกว่า)
1. GPAX(M.4-6) 3.25
2.CU TEP 560 / TOEFL 83 / IELTS 6.5
3.CU AAT(Math Section) 580 / SAT l (Math) 620
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 มิถุนายน 2554 / 21:34
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 20 มิถุนายน 2554 / 21:35
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 21 มิถุนายน 2554 / 10:51
เอ่อ.....ISE ถ้าสอบเข้าไปได้แล้ว ค่าธรรมเนียมการศึกษาต่อ 1 ภาคการศึกษามันจะเท่าไหร่กันเนี่ย
ตามลิงค์จ้า คห.13
เอ่อ...ผมไม่เข้าใจว่า Tuition กับ Program มันจะอะไรยังไง  คือค่าเล่าเรียนเหมาจ่ายภาคละ 18k รวมกับค่าหลักสูตรอีก 70k  หรือ 70k คือเบ็ดเสร็จต่อ 1 ภาคการศึกษา
คห. 15
88000/เทอม มี 2 เทอม
Summer 39500
ขออีเมล์พี่ dressing ได้ไหมคะ อยากปรึกษาด้วยหลายๆเรื่องค่ะ
พอดีจะเข้า ISE    รบกวนด้วยค่ะ :) thx
คห. 17
ให้เข้าไปที่ My.iD พี่ได้เลย มีอะไรก็ถามมานะคะ
SEE YOU @ CU
อืมมมม...ครั้งนี้ผมอาจจะถามล้วงลึกไปบ้างแต่ถ้าตอบได้ก็ช่วยตอบด้วยนะครับ  พี่คิดว่าการจะได้เกรด 3.25 นี่ยากขนาดไหน  และโอกาสทางการงานของรุ่นพี่ AERO ที่ผ่านๆมาส่วนใหญ่จะเป็นยังไงไปทางไหนครับ
ขอขอบคุณที่ตอบคำถามอย่างรวดเร็วและชัดเจนทุกครั้งครับ
คห. 19
อันที่จริงยังไม่อยากตอบอะไรลึก ๆ นะคะ .... แต่ที่ตั้งกระทู้เพราะเผื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ ที่กำลังจะสอบเข้า อย่างไรก็ตามพี่จะพยายามหาคำตอบให้น้อง ๆ ทุกคนให้ได้มากที่สุด
คหสต. การจะได้เกรด 3 ขึ้นในระดับมหาวิทยาลัยไม่ใช่ของง่ายอีกต่อไป แต่ไม่ใช่จะทำไม่ได้ เพราะเห็นรุ่นพี่ได้ 3 + อยู่หลายคน เท่าที่สัมผัสมาพี่ ๆ พวกนี้ขยันมาก พี่เองก็เลยจะเดินตามพี่ ๆ กลุ่มนี้ด้วย คน อิ อิ เรื่องโอกาสในการทำงานยังไม่ทราบเลย พี่เองยังอ่อนนัก ไว้รอนิดนะคะ จะถามพี่ ๆให้อีกทีจ้า
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?