8 เหตุผล ทำไมเด็กไทยจึงได้เกรดห่วย
ตั้งกระทู้ใหม่
1 : ไม่ใส่ใจ ไม่พยายาม
ผมว่าข้อนี้แหละ สำคัญที่สุด การบ้านมีอะไรไม่เคยใส่ใจส่ง ไม่เคยรู้ว่าเขาสั่งงานอะไรบ้าง
อาจารย์สอนหน้าห้องก็ไม่เคยใส่ใจ "เดี๋ยวกุลอกเพื่อนก็ได้"
พออาจารย์ถามว่าทำไมไม่เรียน ก็บอกว่า "ผมโง่" โง่ไม่เห็นแปลกนิ?
ก็เพราะโง่ไม่ใช่เหรอ ถึงต้องมาเรียน เอาความรู้ให้มันฉลาด ๆ ขึ้น
ถ้าเลือกเกิดได้ทุกคนคงอยากมี IQ สัก 180 200 ทุกคนแหละ
บางคนอาจจะ IQ แค่ 80-90 ก็ไม่เห็นแปลกเลย ก็เราเลือกเกิดไม่ได้นี่
ถ้ามีความพยายามเชื่อเถอะ มันต้องได้เกินเกรด 3
2 : ลอกตลอด ลอกไม่คิด
บางคนคิดเสมอว่า การบ้านไม่ทำ เดี๋ยวลอกเพื่อนเอาก็ได้
ความจริงลอกการบ้านไม่ได้ผิดมากมายเลย ใคร ๆ เขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ
ตั้งแต่คนเกรด 0 ถึงเกรด 4 ถามเลย เรียนมาใครไม่เคยลอกการบ้านเพื่อนบ้าง
เคยลอกกันทุกคนแหละ แต่บางคนชอบลอกไม่คิด
ชอบขุดมาลอกเอาวันสุดท้าย แล้วรีบ ๆ ลอก ๆ ส่ง ๆ ไป (เป็นเหตุมาจาก ไม่ใส่ใจ)
1+1 เขาตอบ 3 อินี่ลอกไป ก็ตอบ 3 ไม่เคยดูเลยว่าเขาตอบถูกหรือผิด
หรือบางคนไม่ดูด้วยซ้ำว่าเขาตอบอะไร ไม่เคยดูวิธีทำว่าเขาทำยังไง
1+1 = 2 ลอกไป 10 รอบ พอตอนสอบเขาเปลี่ยนโจทย์เป็น 1+2 ก็ตอบไม่ได้แล้ว...
เวลาลอกก็ดูนิดนึง เออ... ทำไมเขาตอบแบบนี้ เขาทำยังไงถึงได้คำตอบแบบนี้
3 : ติดเกม ติด Social Network
กลับถึงบ้าน...ลัลล้า~ Facebook จ๋า Twitter จ๋า เกมจ๋า พี่กลับมาแล้ว
จากนั้นก็นั่งจุ้มปุ้กอยู่ตรงนั้นถึงมืด อาบน้ำ นอน...
แล้วงานก็ไม่ได้ส่ง orz...
บางทีมันตัดสินตรงนี้แหละครับ ใครใจแข็งกว่ากัน
4 : ผลัดวันประกันพรุ่ง
เอ๊ะ วันนี้มีงานอังกฤษนี่นา...ไม่เป็นไร ส่งอาทิตย์หน้า เดี๋ยวค่อยทำ
เอ๊ะ มะรืนนี้มีสอบไทยนี่นา...ไว้อ่านพรุ่งนี้แล้วกัน
เป็นอย่างนี้กันแทบทุกคน ชอบขุดงานมาทำวันสุดท้ายก่อนส่ง
แล้วพอถึงวันส่ง บางคนก็ลืมเอามา ทำให้เสียคะแนนไปซะงั้น...
งานบางงานให้เวลา 1 เดือน กับ 1 อาทิตย์ มีค่าเท่ากัน
(มาปั่นอาทิตย์สุดท้ายเหมือนกัน 555+)
5 : ฉันไม่เคยจด! ฉันดูดอย่างเดียว!
เดี๋ยวนี้บางโรงเรียนอาจารย์แทบจะสอนผ่านจอโพรเจกเตอร์หมด
เพราะมันง่ายดี คลิกไปหนึ่งจึ้ก อธิบาย...จบ คลิกอีกจึ้ก อธิบายต่อ
ไม่ต้องเขียนขึ้นกระดานดำกันแล้ว
พอเป็นอย่างนี้แล้ว บางคนก็คิดว่าฉันไม่จดดีกว่า เดี๋ยวท้ายคาบฉันไปดูดสไลด์อาจารย์
ดูด ๆ ๆ ๆ ดูดทุกวิชา ไม่เคยจดใส่สมุด พอถึงตอนสอบ มานั่งอ่านสไลด์กันหัวทิ่มเลย
แถมไม่เข้าใจอีก เพราะไม่ได้จดเป็นภาษาของเราเอาไว้
เอิ่ม...แต่ที่หนักกว่านั้นคือ ไม่จดด้วย ไม่ดูดด้วย
6 : Lazy!
เป็นเหตุผลหลักอีกอันนึงที่ทำให้ไม่ส่งงาน ไม่อ่านหนังสือก่อนสอบ
ขี้เกียจ ขี้เกียจ ขี้เกียจ ขี้เกียจ ขี้เกียจ
(แหม่ ไม่มีขี้เกียจเล่นทวิต ไม่มีขี้เกียจเล่นเฟซบ้างล่ะ)
7 : ไม่เคยศึกษานอกห้องเรียน
บางคนอยู่ในห้องเรียน ก็ตั้งใจเรียน แต่ก็ยังไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจก็ไม่กล้าถามอาจารย์
กลับถึงบ้านก็...
Facebook จ๋า Twitter จ๋า เกมจ๋า~
แล้วก็เก็บการไม่เข้าใจนั้นไว้เรื่อย ๆ พอถึงตอนสอบก็ทำไม่ได้
ลองเปิดเว็บนี้บ้างเนอะ ลองถามพี่เขาดู พี่เขาตอบได้เกือบทุกอย่างแหละ >>http://www.google.co.th/<<
บางคนไปเรียนพิเศษ พอกลับมาบ้านก็ไม่เคยทำการบ้านเลย เรียนไปก็เท่านั้น
8 : เทคโนโลยีก้าวหน้าเกินไป
ที่ได้เกรดแย่กันอาจจะเป็นเพราะเทคโนโลยีมันก้าวหน้าเกินไปก็ได้เนอะ...
ถ้าไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มี BB ไม่มี Ipod Iphone ก็คงไม่มีคนนั่งเล่นเกมใต้โต๊ะ ตั้งใจฟังอาจารย์กัน
ถ้าไม่มีจอโพรเจกเตอร์ อาจารย์จดขึ้นกระดานดำ ทุกคนต้องจดตาม คงจะดีเนอะ...
ถ้าไม่มีคอมพิวเตอร์ ทุกคนกลับบ้านมาคงทำการบ้านกันมากกว่านี้
..........................................................
เมื่อรู้แบบนี่แล้วผมว่าเราควรที่จะเปลี่ยนตัวเองตั้งแต่วันนี้
ลองถามตัวเองสิว่า
อนาคตตัวคุณเองอยากเป็นอะไร แล้วคุณมีความพยายยามเพียงพอหรือยัง ??
200 ความคิดเห็น
วันๆนึง เด็กไทยสวดมนต์ นั่งสมาธิบ้างไหมครับ
บางคนแทบจะไม่เคยทำเลย และไม่คิดจะทำ
บอกเลยว่า การสวดมนต์ นั่งสมาธิ สำคัญมากที่สุด ในการเรียน รวมถึงการทำงาน
ยิ่งข้อสอบเขียน ต้องใช้ความคิดมาก ความจำมาก ทั้งหลายเหล่านี้ ช่วยได้
ผมทำมาแล้ว พิสูจน์แล้ว เขียนสารนิพนธ์ วิทยานิพนธ์ ผ่านฉลุยก็เพราะการสวดมนต์ นั่งสมาธิ
เด็กไทยไปกวดวิชา เอาความรู้เข้าสมอง
แต่ไม่เคยพัฒนาสมอง ไม่พัฒนาความจำ ไม่พัฒนาสติปัญญา
แล้วคุณจะไปทำข้อสอบได้อย่างไร
PS. I L.O.V.E >>>PARAMORE<<<!!!!!!!!!!!!!~~~~~~~
PS. พระจันทร์ยังต้องอาศัยแสงตะวันส่องสว่าง ชีวิตชั้นแค่ได้เห็นหน้าเธอก็มีแรงก้าวเดินต่อไปแล้ว
เด็กยุคใหม่ ต้อง  สักซี๊ด ห่วยขั้นเทพ 555
เด็กเองก็ส่วนหนึ่ง
แต่มันมาจากผู้ใหญ่ซะมากกว่าว่ะ
เด็กที่พยายาม ไม่มีคนไหนทำไม่สำเร็จ
แต่เด็กที่ทำไม่สำเร็จเพราะทำไม่เต็มที่ จะมีเหตุผลในการโทษคนอื่นเสมอ
อย่าโทษแต่เด็กเลยค่ะ  ผู้ใหญ่นั่นแหละเป็นคนวางรากฐานตั้งแต่ต้น
แต่ไม่สามารถบอกศักยภาพที่แท้จริงของคนๆนั้นได้
PS. เป็นในสิ่งที่เป็น
เด็กไทยมีความคิดดีแต่จะโทษแต่คนอื่น แทนที่จะมาเริ่มที่ตัวเอง ปรับปรุงตัวเองให้ดีก่อน
เกรดบอกอะไรไม่ได้หรอกครับ..บอกได้แค่ว่า ใครลอกเก่งลอกไม่เก่ง คนเก่งจริงๆมีน้อยนิด
ตัวผมเองก็ทำ แต่ผมว่าขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่มากกว่านะครับ ทุกคนก็ต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งเกรดที่ดี ผมก็
ทำงานส่งทุกอย่าง ยอมรับว่าทำข้อสอบไม่
ได้ก็ลอกเพื่อนบ้าง แต่เกรดดันน้อยถึงน้อยมากเหมือนไม่ได้ส่งงาน แล้วอย่างนี้จะให้บอกว่าอะไรละครับ
(ผมเป็นคนไม่ชอบการเอาใจ เอาหน้า หรือเลียเพื่อคะแนน)คะแนนขึ้นอยู่กับปลายปากกาอาจารย์มากกว่า
บางรร.ปล่อยเกรด บางรร.กดแทบตาย
เราเคยอยู่รร.ปล่อยเกรด เรียนง่ายๆส่งงานข้อสอบก็ง่ายสบาย
รร.ปล่อยเกรดงานหาตามเน็ตก๊อปปี้วางส่งแค่นั้นได้เต็ม
แีิต่รร.กดเกรดนี้ ทำงานแทบตายยังโดนติโดนแก้ และไม่ได้เต็มด้วย TT
คืออยากให้แต่ละรร.คิดคะแนนให้มันคล้ายๆกันหน่อย เกรดจะไ้ด้วัดได้
นี้วัดอะไรได้บ้าง4.00บางรร.ยังสู้ 2.5 บางรร.ไม่ได้เลย หรือไม่จริง ?
อาจารย์สมัยนี้ ::
1.คิดว่าเด็กส่วนใหญ่เรียนพิเศษแล้ว ฉันสอนแค่ในหนังสือที่เตรียมมาพอ ทำหน้าที่จบรับเงิน << ถามว่าอีเด็กส่วนน้อยที่ไม่เรียนพิเศษได้อะไรบ้างคะ
2.ในคลาส :: "นักเรียนไม่เข้าใจตรงไหนให้ถาม"..*พอยกมือขึ้นถาม*.."ทำไมไม่หัดฟังบ้าง" << ฟังแล้วไม่รู้เรื่องก็ถามสิคะ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 4 ตุลาคม 2554 / 23:52
PS. ๑๒๙ ๓๘ ๑๐๒ ๑๓๗ ๕๑ ๔๑๑ เมนเฮ รักบอม *เริ่มด้วย ๑ จบด้วย ๑๓*
เหนด้วยกะ คห.13
ช่วยเข้าไปลิ๊งข้างล้างกันหน่อยนะคับ แค่เข้าไปอย่างเดียวก้พอ
http://www.xpango.com?ref=92558424
มันก็แค่ส่วนหนึ่ง แต่บางคนพูดยังกับว่ามันคือทั้งหมด - -*
ถ้าคนๆหนึ่ง
- ไม่คิดจะพยายามเรียนตามระบบ(แต่ไปพยายามศึกษาเรื่องอื่นที่น่าสนใจ)
- ไม่คิดจะลอก(แต่สุดท้ายคนลอกได้คะแนนเยอะกว่า ได้เกรดเยอะกว่า มีโอกาสเลือกที่เรียนที่ดีกว่า คนรอบข้างนับถือ!!!)
- วันๆโชเชียลแต่เรื่องวงจรไฟฟ้าอิเล็กโทรนิกส์ (คิดว่าโซเชียลมันไร้สาระขนาดนั้นหรือไงวะ โซเชี่ยลบางทีก็ให้ประโยชน์มากกว่าการบ้านเยอะ)
- ผลักวันประกับพรุ่งตลอด(เรียน 8 วิชา สั่งงานครบ 8 วิชา ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน เสียสุขภาพ เคยคิดบ้างไหม - -*)
- ไม่เคยจด ??? (อันนี้แถไม่ออก ยอมไปข้อนึง - -")
- ขี้เกียจ ไม่อ่านหนังสือ ไม่ทำงานส่ง แต่สิ่งที่ศึกษากลับมีประโยชน์ชัดเจน วันข้างมีแนวทางหารายได้ที่ชัดเจนกว่า ไม่เหมือนมานั่งเรียนหนังสือที่วันๆไม่รู้เรียนไปทำไม หาคำตอบไม่ได้ เวลาคิดก็ไม่มี สุขภาพทั้งสายตา นอนไม่พอ หวัดบ่อย ร่างกายไม่แข็งแรง...
- ไม่เคยศึกษานอกโรงเรียน ถ้าจะศึกษาจากเฟสบุ๊ต ผิดไหมวะ??? อ๋อ แล้วบางอย่างที่คุณไม่เห็นค่า คนอื่นเขาอาจเห็นค่าก็ได้
- เทคโนโลยีก้าวหน้าไป อันนี้แล้วแต่คิด มีหลายแง่มุมให้เลือกแล้วแต่คนนั้น
"ความพยายามเป็นเพียงแค่เครื่องมือนำมาซึ่งความสำเร็จ แต่ไม่ได้หมายถึงมีแต่ความพยายามเพียงอย่างเดียวสามารถนำไปสู่ความสำเร็จได้" ดังนั้นจะแปลกอะไรถ้าหากจะโทษสิ่งที่ทำให้เกิดความล้มเหลว เกิดมาจากภายนอกปัจจัยของตัวเรา
ฝ่ายคุณครู - สอนตามแบบหลักสูตร (ตรงเกินไป) คือ เขียนตามกระดานหรือพูดไปอย่างงั้น แล้วก็จบ
ฝ่ายนักเรียน - ติดเพื่อน ขี้เกียจ แล้วก็ไม่กล้าถามครู บลาๆๆๆๆ
แต่ละรร.ข้อสอบเหมือนกันส้ะที่ำไหน --  เตรียมพัฒน์ข้อสอบยากชิบเป๋ง กดเกรด พอไปดูรร.อื่น{แบบที่นร.ไม่ค่อยดีหน่อยนะ} เกรดสวยงามมมมมม
ข้อสอบน่าจะออกเหมือนกันให้หมด ไม่เปนธรรมเลย --
ตรงไปตรงมาเลยนะ
บางเรื่องทีั่อาจาีรย์สอน ไม่รู้สอนไปทำไม
ออกสอบก้ไม่ใช่ ไปใ้ช้เรียนต่อก้ไม่ใช่
ไปใช้ในชีวิตประจำวันก้ไม่ได้
ถึงเวลาจริงๆ ก้สอนเนื้อหาหลักไม่ทันก้อมี
เหนื่อยจริงๆ บางที คะแนนสอบสูงลิ่ว
เกรดออกมา อยู่ใต้รองเท้า เพียงเพราะ
ไปทำให้เค้าอคติ ซึ่งใช่ความผิดเราไหม..
แค่แสดงความเห็น
ถ้าเราเลิกทำข้อ 3 ได้เมื่อไหร่ อนาคตรุ่งแน่ แต่ตอนนี้
แม้จะบอกมันก็ถูก
แต่ว่า การที่นักเรียนไม่สนใจเรียน ครูก็ไม่สนใจจะสอนเช่นกัน[ยกเว้นครูท่าน(มัน)ขี้เกียจเอง]
หากนักเรียนสนใจเรียน ขี้เกียจแต่พอดี เล่นเฟซแต่พอมันส์ สนใจคะแนนขึ้นหน่อย ส่งงานจัดตารางเวลาให้พอเหมาะ (คำว่าไม่มีทำงานจนเวลาเสียสุขภาพอาจจะมาจากการจัดเวลาไม่ดี)ทุกคนในห้องเรียนตั้งใจสนใจที่ครูสอน ไม่โดดเรียน ครูก็คงภูมิใจที่มีคนสนใจการสอนและสอนได้ดีก็ได้
คำว่าใครผิดที่ว่ามันก็มีหลายด้านหากทุกคนตั้งใจเปลี่ยนตัวเอง ไม่ว่าจะ ครู หรือ นักเรียน รวมถึงระบบการสอนอันยังไม่สมบูรณ์ของผู้ใหญ่เอาแต่ใจที่ไม่สนใจปัญหาที่แท้จริง หรือ ผู้ปกครองที่ยังไม่สนใจความสนใจของลูกตัวเอง(เอาแต่ด่า)
แต่เราก็คิดว่า หากเมืองไทยสนใจการศึกษามากขึ้นปัญหาสังคมมันมันเกิดหรอก
(เพราะไทยแลนด์ของเรายังจับจุดปัญหาไม่เป็น)
อนึง ยาวขนาดคนเขียนยังขี้เกียจอ่านเลย(ฮา)
อสอง ลืมไป ท่านอาจารย์ & คุณครูทั้งหลาย พวกท่านอย่านิ่งดูดาย กาลเวลาเปลียนไปทุกวันการปรับการสอนให้น่าสนใจก็เป็นทางออกที่ดี พวกท่านก็อย่าเอาแต่นั่งๆนอนๆ สอนตามใจตัวเอง
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 5 ตุลาคม 2554 / 17:07
PS. รักหนุ่มผมยาว หล่อ หยิ่ง แรด กรี๊สๆๆ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?