>> สักครั้งในชีวิต ! กับการนอนดูภูเขาไฟระเบิดแบบสด ๆ -- <<
คองโกพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ประกาศชวนนักท่องเที่ยวนอนกางเต็นท์ชม "ภูเขาไฟระเบิด "
V
V
V
V
V
อุทยานแห่งชาติ "วีรุงก้า" ในประเทศคองโก ชวนนักท่องเที่ยวตั้งแคมป์ชมภาพอันน่าตื่นตะลึงของภูเขาไฟ "ยามูลากีร่า" ขณะพ่นเถ้าถ่านและลาวาขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงกว่า 200-300 เมตรในยามค่ำคืน
นับเป็นโอกาสทองของนักท่องเที่ยวที่อยากดูภูเขาไฟระเบิดแบบใกล้ๆ โดยไม่มีอะไรมาคั่นสายตา เพราะอุทยานแห่งชาติ "วีรุงก้า" ในประเทศคองโก ประกาศชวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปตั้งแคมป์ชมน้ำพุลาวา ที่พวยพุ่งออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟ "ยามูลากีร่า" ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตอุทยาน
แคมป์ดังกล่าวตั้งอยู่ทางทิศใต้ของภูเขาไฟ "ยามูลากีร่า" ห่างจากจุดที่เกิดการปะทุเพียง 1 ไมล์ (1.6 ก.ม.) เท่านั้น ถึงแม้จะอยู่ในระยะใกล้แต่ก็ปลอดภัย เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟจากศูนย์เฝ้าระวังภูเขาไฟในเมืองโกมา เป็นผู้กำหนดจุดตั้งแคมป์สำหรับนักท่องเที่ยวด้วยตนเอง
สำหรับค่าใช้จ่ายในการตั้งแคมป์ชมภูเขาไฟระเบิดนั้น อยู่ที่คนละ $300 หรือกว่า 9 พันบาท ซึ่งจะรวมค่าบริการและอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ เต็นท์ เสื่อ ผ้าห่ม ตลอดจนรถรับส่ง แต่นักท่องเที่ยวจะต้องนำ ถุงนอน อาหาร น้ำ และเสื้อกันฝนติดตัวไปเอง ทางอุทยานจะนำรถไปรับนักท่องเที่ยวที่เมืองโกมาเพื่อมุ่งหน้าไปยังเขตอุทยานในแถบรูการี (ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง) หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าเข้าไปยังจุดตั้งแคมป์ภายใต้การดูแลและนำทางของเจ้าหน้าที่อุทยาน ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินเท้าราว 3-4 ชั่วโมง
แม้การเดินทางค่อนข้างยากลำบาก แต่เมื่อไปถึงที่หมายแล้วนักท่องเที่ยวจะได้เห็นภาพอันน่าตื่นตะลึงของภูเขาไฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพลาวาสีแดงและเถ้าถ่านสีน้ำเงินที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอันมืดมิดในยามค่ำคืน
ภูเขาไฟ "ยามูลากีร่า" เพิ่งเกิดการปะทุครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา และไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงในเร็ววัน ผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟในคองโกกล่าวว่า การปะทุในครั้งนี้อาจกินเวลานานหลายวันหรือหลายเดือนเลยทีเดียว
ภูเขาไฟดังกล่าวเคยเกิดการปะทุครั้งใหญ่ในลักษณะเดียวกันนี้เมื่อปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) ซึ่งกินเวลายาวนานถึง 9 เดือน ขณะที่การปะทุครั้งล่าสุดในปีที่ผ่านมาใช้เวลาเพียง 3-4 วันก็สงบลง
นับว่ายังโชคดีที่การปะทุครั้งนี้ไม่สร้างความเสียหายหรือเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้คน เพราะลาวาได้ไหลอย่างช้าๆ ไปในบริเวณที่ไม่มีประชาชนอาศัยอยู่ นอกจากนี้ สัตว์ป่านานาชนิดที่อาศัยอยู่ภายในเขตอุทยาน (รวมทั้ง กอริลล่าภูเขาใกล้สูญพันธุ์ราว 200 ตัว) ก็ไม่ได้รับอันตรายจากการปะทุของภูเขาไฟเช่นกัน
อุทยานแห่งชาติ "วีรุงก้า" ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) ภายในมีเนื้อที่กว้างขวางมากถึง 7,800 ตร.ก.ม. ครอบคลุมภูเขาไฟ 7 ใน 8 ลูกบนเทือกเขาวีรุงก้า ซึ่งทอดตัวเป็นแนวยาวระหว่างพรมแดนประเทศคองโก รวันดา และยูกันดา ภูเขาไฟส่วนใหญ่ในเขตอุทยานแห่งชาติ "วีรุงก้า" ล้วนเป็นภูเขาไฟที่ไม่มีพลัง คงมีเพียง 2 ลูกเท่านั้นที่ยังคงมีพลังอยู่ และหนึ่งในนั้นก็คือ "ยามูลากีร่า" ที่ได้ชื่อว่าเป็นภูเขาไฟที่มีพลังมากที่สุดในแอฟริกา
credit : http://paow007.wordpress.com
มีใครสนใจไปบ้างไหมเอ่ยย ????
เม้น & โหวต กันสักนิดนะค่ะ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2554 / 11:57
PS. เป็นตัวของตัวเอง.. เสน่ห์ง่ายๆ ที่ดูดี!!!
6 ความคิดเห็น
PS. กระบี่อยู่ที่ใจ แค่ไม้ไผ่ก้อไร้เทียมทาน!!!!
เราอยากไปดูบ้างอ่ะ ท้าทายดี (วิ่งหนีให้ทัน)
กลัวตายกันไม๊นั่นน่ะ==
ไม่ใช่ตื่นมา.. "อ่าว.. ลาวามาจากไหนเนี่ย!?" คงอาจจะต้องวิ่งมารทอนกันเลยก็ได้555
PS. http://www.facebook.com/kattz.act :: katjung_1234@hotmail.com :: คอสเพลย์เยอร์และชาวเด็กดีแอ๊ดเมลกับเฟสนี้ได้นะค้ะ :D รับหมดแต่ทางที่ดีควรจะแนะนำตัวมาก่อน เผื่อจะรับเร็วขึ้น (:
มีความสุข แต่อย่าสุก นะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?