ผลเสียของการแจกแท็บเล็ตเด็ก ป.1
ตั้งกระทู้ใหม่
ผลเสียของการแจกแท็บเล็ตเด็ก ป.1
สูญเสียงบประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยไม่จำเป็น ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าจัดทำเนื้อหาที่จะบรรจุลงในแท็บเล็ต แต่หากต้องการทำให้ครอบคลุมเด็กทั้งระบบต้องใช้งบประมาณ 20,000 กว่าล้านบาทเลยทีเดียว
พัฒนาการอ่าน-เขียนไม่ถึง สำหรับ ป.1-ป.3 ทั้งทักษะการใช้ภาษาที่ยังไม่คล่อง และการพัฒนาของสมองที่ยังไม่เต็มที่ ซึ่งอาจทำให้เด็กไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าที่ควร ถ้าหากมีการใช้แท็บเล็ตในวัยนี้ เด็กจะไม่ได้ฝึกเรื่องการเขียน การคิดคำนวณและ ยังส่งผลกระทบเรื่องพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย เพราะเด็กจะต้องมีการฝึกกล้ามเนื้อเวลาที่เด็กเขียน ในการจับดินสอ เพื่อที่จะใช้ในการฝึกฝน มันแตกต่างกับการที่เด็กจะใช้นิ้วกดปุ่ม ซึ่งการใช้มือในการขีดเขียนหนังสือย่อมดีกว่า
พฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตของเยาวชนไทย ส่วนใหญ่ใช้เพื่อความบันเทิง (เล่นเกม เฟชบุ๊ก แชท ดูหนัง ฟังเพลง) โดยเวลาส่วนใหญ่จะเล่นเกม และเฟซบุ๊ก ส่วนเกมที่ยอดฮิตคือ Angry bird ซึ่งชี้ให้เห็นว่า เยาวชนใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตไปในทางที่ขัดขวางการศึกษาเรียนรู้ มากกว่าการใช้เพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้ ทั้งหมดนี้จะไม่ตรงกับจุดประสงค์ในการแจกแท็บเล็ต ที่มุ่งเน้นความสะดวกด้านการศึกษา แต่จะเป็นการเอื้ออำนวยให้เด็กติดเกมมากขึ้น
เสียสุขภาพสายตา เนื่องจากเด็กและเยาวชน อาจจะใช้สายตาไปกับจอแท็บเล็ตมากเกินไป นอกจากเวลาเรียนแล้ว เวลาพัก หรือเลิกเรียน หรือแม้แต่ระหว่างเรียน เด็กยังมีเวลาพอที่จะเล่นเกม อินเตอร์เน็ตได้อีก... เพราะฉะนั้นย่อมส่งผลถึงสุขภาพด้านสายตา โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ไม่ควรมองจอภาพมากเกินไป เพราะอาจต้องใส่แว่นตั้งแต่ยังเด็ก นอกจากนี้ ถ้าหากคุณภาพของแท็บเล็ตอยู่ในระดับต่ำ และราคาถูก ก็ย่อมบ่งบอกถึงศักยภาพการใช้งานที่ต่ำลงด้วย ที่สำคัญขนาดและคุณภาพของจอ อาจทำให้เด็กต้องเพ่งจนเสียสายตา
ค่าไฟเพิ่มขึ้น การแจกแท็บเล็ตในครั้งนี้ ค่อนข้างแน่ชัดว่า ไม่ให้เด็กนำกลับบ้าน เพราะเสี่ยงต่อการพังหรือสูญหาย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องเสียแน่นอนคือค่าไฟที่เพิ่มมากขึ้น จากการชาร์ตแบตเตอรี่ของแท็บเล็ต จำนวนหลายร้อยเครื่อง ถ้าหากใช้ทุกช่วงชั้นจริงๆ อาจต้องเสียค่าไฟเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรชาติอย่างสิ้นเปลือง
ค่าบำรุงรักษา และซ่อมแซม แท็บเล็ตที่จะแจกนี้ ย่อมมีโอกาสเสียหาย จากการกระทบกระแทก หรือตกหล่นได้ทุกเมื่อ ซึ่งต้องสูญเสียเงินในการดูแลรักษาเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นค่าวัสดุ อุปกรณ์ในการซ่อมแซม ซึ่งอาจเป็นจำนวนเงินที่มากพอสมควรในแต่ละปี และเป็นเงินที่ต้องสูญเสียไปอย่างที่ไม่น่าเสีย เพราะสามารถนำไปดูแลด้านอื่นๆได้อีกมาก
กรณีสูญหาย แท็บเล็ตกลายเป็นภาระที่เพิ่มขึ้นอย่างหนึ่ง ในความรับผิดชอบของนักเรียนแต่ละคนที่จะดูแลแท็บเล็ตให้อยู่รอดปลอดภัย หากทำแท็บเล็ตสูญหาย ไม่ว่าด้วยกรณีถูกขโมย ลืมทิ้งไว้ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในการชดใช้ค่าเสียหาย ทางโรงเรียน คุณครู หรือผู้ปกครองนักเรียน หรือว่านี่จะกลายเป็นภาระทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
การนำไปแจก เพื่อหาเสียง ไม่ทราบว่าผู้ที่คิดนโยบายนี้ ได้ประเมินความคุ้มค่าของการแจกแท็บเล็ตนี้ และมีการวางแผนในการนำไปปรับใช้ต่อครูอาจารย์ และนักเรียนมากน้อยแค่ไหน จึงมีการปรับเปลี่ยนนโยบายมาโดยตลอด ในตอนแรกบอกว่าจะแจกไอแพด ตอนหลังเหลือเป็นแท็บเล็ต (แสดงคุณภาพที่ด้อยกว่า) การแจก เปลี่ยนมาเป็นการให้ยืม และเปลี่ยนจาก ป.1 มาเป็นทุกช่วงชั้น โดยที่ยังไม่มีการศึกษาวิจัย หรือการทดลองให้เห็นเป็นรูปธรรมในแต่ละระดับชั้น ถึงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่จะเพิ่มมากขึ้นหรือน้อยลง หากเด็กนักเรียนทั้งประเทศนำแท็บเล็ตไปใช้ในการศึกษา แทนการเรียนด้วยหนังสือ
นโยบายประชานิยมที่เน้นการแจกสิ่งของ มากกว่าความจำเป็นหรือความต้องการอย่างแท้จริง ย่อมเกิดผลเสียด้านความคุ้มค่า หรือเม็ดเงินที่นำไปลงทุนโดยไม่จำเป็น เพียงเพราะต้องการเรียกคะแนนเสียงในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นความต้องการเทียม ที่รัฐบาลจะต้องหมดเงินภาษีประชาชนไปอย่างไร้ประโยชน์ หรือความคุ้มค่าทางการเงินที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ ยังจะเป็นผลเสียระยะยาว หากรัฐบาลลงทุนโดยไม่มีการศึกษา และการวิจัยนำร่อง ถึงผลดีและผลเสียที่จะได้จากการแจกแท็บเล็ตในครั้งนี้
แม้ว่าแท็บเล็ตจะมีข้อดีอยู่ในตัวมันเองคือ การอำนวยความสะดวกด้านการศึกษา การเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย อย่างไรก็ตาม มันก็มีผลเสียมากมายดังที่กล่าวมา แท็บเล็ตจึงกลายเป็นดาบสองคม ที่มีด้านลบของไอทีแอบแฝงอยู่ เพราะฉะนั้นเด็กและเยาวชนไทยจึงต้องระมัดระวังในการใช้งาน เพื่อให้เกิดคุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด จากการทุ่มทุนทางการศึกษาที่มีราคาแพงในครั้งนี้
สูญเสียงบประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยไม่จำเป็น ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าจัดทำเนื้อหาที่จะบรรจุลงในแท็บเล็ต แต่หากต้องการทำให้ครอบคลุมเด็กทั้งระบบต้องใช้งบประมาณ 20,000 กว่าล้านบาทเลยทีเดียว
พัฒนาการอ่าน-เขียนไม่ถึง สำหรับ ป.1-ป.3 ทั้งทักษะการใช้ภาษาที่ยังไม่คล่อง และการพัฒนาของสมองที่ยังไม่เต็มที่ ซึ่งอาจทำให้เด็กไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าที่ควร ถ้าหากมีการใช้แท็บเล็ตในวัยนี้ เด็กจะไม่ได้ฝึกเรื่องการเขียน การคิดคำนวณและ ยังส่งผลกระทบเรื่องพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย เพราะเด็กจะต้องมีการฝึกกล้ามเนื้อเวลาที่เด็กเขียน ในการจับดินสอ เพื่อที่จะใช้ในการฝึกฝน มันแตกต่างกับการที่เด็กจะใช้นิ้วกดปุ่ม ซึ่งการใช้มือในการขีดเขียนหนังสือย่อมดีกว่า
พฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตของเยาวชนไทย ส่วนใหญ่ใช้เพื่อความบันเทิง (เล่นเกม เฟชบุ๊ก แชท ดูหนัง ฟังเพลง) โดยเวลาส่วนใหญ่จะเล่นเกม และเฟซบุ๊ก ส่วนเกมที่ยอดฮิตคือ Angry bird ซึ่งชี้ให้เห็นว่า เยาวชนใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตไปในทางที่ขัดขวางการศึกษาเรียนรู้ มากกว่าการใช้เพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้ ทั้งหมดนี้จะไม่ตรงกับจุดประสงค์ในการแจกแท็บเล็ต ที่มุ่งเน้นความสะดวกด้านการศึกษา แต่จะเป็นการเอื้ออำนวยให้เด็กติดเกมมากขึ้น
เสียสุขภาพสายตา เนื่องจากเด็กและเยาวชน อาจจะใช้สายตาไปกับจอแท็บเล็ตมากเกินไป นอกจากเวลาเรียนแล้ว เวลาพัก หรือเลิกเรียน หรือแม้แต่ระหว่างเรียน เด็กยังมีเวลาพอที่จะเล่นเกม อินเตอร์เน็ตได้อีก... เพราะฉะนั้นย่อมส่งผลถึงสุขภาพด้านสายตา โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ไม่ควรมองจอภาพมากเกินไป เพราะอาจต้องใส่แว่นตั้งแต่ยังเด็ก นอกจากนี้ ถ้าหากคุณภาพของแท็บเล็ตอยู่ในระดับต่ำ และราคาถูก ก็ย่อมบ่งบอกถึงศักยภาพการใช้งานที่ต่ำลงด้วย ที่สำคัญขนาดและคุณภาพของจอ อาจทำให้เด็กต้องเพ่งจนเสียสายตา
ค่าไฟเพิ่มขึ้น การแจกแท็บเล็ตในครั้งนี้ ค่อนข้างแน่ชัดว่า ไม่ให้เด็กนำกลับบ้าน เพราะเสี่ยงต่อการพังหรือสูญหาย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องเสียแน่นอนคือค่าไฟที่เพิ่มมากขึ้น จากการชาร์ตแบตเตอรี่ของแท็บเล็ต จำนวนหลายร้อยเครื่อง ถ้าหากใช้ทุกช่วงชั้นจริงๆ อาจต้องเสียค่าไฟเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรชาติอย่างสิ้นเปลือง
ค่าบำรุงรักษา และซ่อมแซม แท็บเล็ตที่จะแจกนี้ ย่อมมีโอกาสเสียหาย จากการกระทบกระแทก หรือตกหล่นได้ทุกเมื่อ ซึ่งต้องสูญเสียเงินในการดูแลรักษาเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นค่าวัสดุ อุปกรณ์ในการซ่อมแซม ซึ่งอาจเป็นจำนวนเงินที่มากพอสมควรในแต่ละปี และเป็นเงินที่ต้องสูญเสียไปอย่างที่ไม่น่าเสีย เพราะสามารถนำไปดูแลด้านอื่นๆได้อีกมาก
กรณีสูญหาย แท็บเล็ตกลายเป็นภาระที่เพิ่มขึ้นอย่างหนึ่ง ในความรับผิดชอบของนักเรียนแต่ละคนที่จะดูแลแท็บเล็ตให้อยู่รอดปลอดภัย หากทำแท็บเล็ตสูญหาย ไม่ว่าด้วยกรณีถูกขโมย ลืมทิ้งไว้ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในการชดใช้ค่าเสียหาย ทางโรงเรียน คุณครู หรือผู้ปกครองนักเรียน หรือว่านี่จะกลายเป็นภาระทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
การนำไปแจก เพื่อหาเสียง ไม่ทราบว่าผู้ที่คิดนโยบายนี้ ได้ประเมินความคุ้มค่าของการแจกแท็บเล็ตนี้ และมีการวางแผนในการนำไปปรับใช้ต่อครูอาจารย์ และนักเรียนมากน้อยแค่ไหน จึงมีการปรับเปลี่ยนนโยบายมาโดยตลอด ในตอนแรกบอกว่าจะแจกไอแพด ตอนหลังเหลือเป็นแท็บเล็ต (แสดงคุณภาพที่ด้อยกว่า) การแจก เปลี่ยนมาเป็นการให้ยืม และเปลี่ยนจาก ป.1 มาเป็นทุกช่วงชั้น โดยที่ยังไม่มีการศึกษาวิจัย หรือการทดลองให้เห็นเป็นรูปธรรมในแต่ละระดับชั้น ถึงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่จะเพิ่มมากขึ้นหรือน้อยลง หากเด็กนักเรียนทั้งประเทศนำแท็บเล็ตไปใช้ในการศึกษา แทนการเรียนด้วยหนังสือ
นโยบายประชานิยมที่เน้นการแจกสิ่งของ มากกว่าความจำเป็นหรือความต้องการอย่างแท้จริง ย่อมเกิดผลเสียด้านความคุ้มค่า หรือเม็ดเงินที่นำไปลงทุนโดยไม่จำเป็น เพียงเพราะต้องการเรียกคะแนนเสียงในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นความต้องการเทียม ที่รัฐบาลจะต้องหมดเงินภาษีประชาชนไปอย่างไร้ประโยชน์ หรือความคุ้มค่าทางการเงินที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ ยังจะเป็นผลเสียระยะยาว หากรัฐบาลลงทุนโดยไม่มีการศึกษา และการวิจัยนำร่อง ถึงผลดีและผลเสียที่จะได้จากการแจกแท็บเล็ตในครั้งนี้
แม้ว่าแท็บเล็ตจะมีข้อดีอยู่ในตัวมันเองคือ การอำนวยความสะดวกด้านการศึกษา การเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย อย่างไรก็ตาม มันก็มีผลเสียมากมายดังที่กล่าวมา แท็บเล็ตจึงกลายเป็นดาบสองคม ที่มีด้านลบของไอทีแอบแฝงอยู่ เพราะฉะนั้นเด็กและเยาวชนไทยจึงต้องระมัดระวังในการใช้งาน เพื่อให้เกิดคุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด จากการทุ่มทุนทางการศึกษาที่มีราคาแพงในครั้งนี้
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 30 ธันวาคม 2554 / 22:36
34 ความคิดเห็น
มันไม่สมควรที่จะแจกตั้งแต่แรก นโยบายนี้มีแต่เสียกับเสียนะเราว่า เด็กป.1ยังไม่จำเป็นต้องใช้ จะสอนให้เด็กฟุ่มเฟือยเกินไป
PS. I love Thailand
เด็กมีมันก็ไม่ได้ใช้ในการสืบหาข้อมูลหรอก
กลัวจะไปดูหรือทำอะไรอย่างอื่นมากกว่า
คหสต.
PS. อย่ายึดติดกับรักครั้งแรกที่มันฝังใจ
เอ่อ เด็กป.1 > นั่งเล่นเกมสบาย
เราๆ > เอ่อพี่ค้ะชั่วโมงเท่าไหร่ ?
ฮ่าาา~
PS. # M E D # T U 2 2 O H !! ...... เลิศ
น่าจะเอางบประมาณไปทำอย่างอื่นก่อนนะค่ะ
ใครแม้งคิดวะ!! ปัญญาอ่อนมาก!!! จะเอาอะไรกับเด็กป.1 !! ขนาด ม.1 มันยังดูแลไม่ได้เลย!!
โอ้ยย ! ไม่น่าเลือกมา ทำไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง
PS.
เค้าว่าเปลี่ยงงบมาก
ผลกระทบที่ไม่ดีก็เยอะนะ - -
PS. You are important to me.
PS. รักโจ๊ก.. So B2ST !!
ทำไมรัฐบาลไม่ไปแจกพวกมหา'ลัยอ่ะ เด็กป.1 มันรู้จะเรื่องอะไร อ่านเขียนก็ยังแทบไม่ออก
เด็กป.1 นอกจากจะอ่านไม่ออกแล้ว ยังเล่นแต่เกมส์อีกด้วย
แล้วคุณพ่อคุณแม่ช่วงลูกอยู่ประถมจะใจดีมาก ตามใจลูกสุดๆ เห็นมาเยอะแล้วอ่ะ
ลูกอยากเล่นเกมส์ก็ให้เล่น เห็นว่ายังเด็กอยู่
อย่างงี้แล้ว แท็บเล็ตมันจะมีประโยชน์อะไร เอาไว้เล่นเกมส์หร๊อ อ อ อ
แจกม.6 มั้ย เอาไว้ดูข้อมูลสอบตรง มหาวิทยาลัย อ่านหนังสือ ไรงี้ ไปไหนจะได้พก
แท็บเล็ตไปอ่านได้ทุกที่ เออ ค่อยเวิร์คหน่อย
PS. JA TRD PS ::.....[ Primadonna ]...... :: อิษฎ์อานท
PS. 글쎄 글쎄 아닐걸. 절대 절대 ain`t no girl
= =" เเจกไปทำไมเยอะเเยะ เนอะ!
PS. ตอนที่"ชอบ" ...ทำไมไม่ยอม "เลว"!? ...เสือกมา "เลว"..."ตอนกูรัก...!
เพราะนอกจากเด็กจะใช้ไม่เป็นทำให้ไม่เกิดประโยชน์แล้ว
เด็กอาจจะเขียนหนังสือไม่เป็นด้วย เพราะมัวแต่จิ้มๆแท็บเล็ต
ป.ล. คหสต^^;
PS. อย่าเอาหัวใจไปผูกไว้กับ (teen) ใคร เพราะเมื่อเขาเดินจากไปคนที่เจ็บก็คือเรา
ผลาญงบประมาณ!!!!!
เวอร์อะแจกให้เด็กใช้ว่าจะใช้กันแล้วเด็กเก็บรักษาได้่ปะละเป็นการสอนให้เด็กฟุุ่่มเฟือย
รัฐบาลรุ่นก่อนสมองราคา40 รับบาลรุ่นนี้สมองราคา500000
ชุดแรกไม่แพงเพราะมีเยอะ
ชุดนี้หายากเพราะ มันมีน้อย
เราคิดว่านโยบายนี้ไม่มีความจำเป็นเลย
....
เห็นด้วยอ่ะ
แท็บเล็ตน่าจะเอาไว้ให้พวกมัธยมใช้กัน แต่นี้เอามาให้เด็กป.1ใช้
น่าจะคิดนะว่าเด็กป.1เขาก็ต้องคัดลายมือกันอะไรแบบนี้
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?