Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สำหรับน้องๆ ที่คิดว่าจะเรียนวิทยาลัยอินเตอร์ดีมั้ย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

   ใครๆ ก็รู้ว่าภาษาเป็นเรื่องสำคัญ น้ำฝนก็รู้นะแต่ว่าใจมันไม่สู้ซะเลยตั้งแต่เรียนประถมมาจนถึงมัธยม แต่คนเราคงจะเดินหนีอยู่ตลอดเวลาไม่ได้น้ำฝนเลยฮึดสักครั้งลงเรียนมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตร Interซะเลย (แบบหนามหยอกต้องเอาหนามบ่ง) ซึ่งน้ำฝนดีใจมากๆเพราะยิ่งเรียนไปก็ยิ่งชัดว่าสิ่งที่น้ำฝนทำ น้ำฝนมาถูกทางแล้ว ^^vตอนนั้นที่น้ำฝนต้องเลือกที่เรียน น้ำฝนดูละเอียดมาก ว่าที่ไหนมีหลักสูตรอะไรสอนแบบไหน เพราะตอนนี้มีมหาวิทยาลัยหลายที่เปิดหลักสูตรอินเตอร์ตัวเลือกเยอะมาก ซึ่งน้ำฝนมาคิดๆ ดูแล้ว ไหนก็ๆ เรียนอินเตอร์ทั้งทีก็เอาให้ได้หลายๆ ภาษาไปเลย เพราะตอนนี้ภาษาอังกฤษอย่างเดียวมันไม่พอแล้วยิ่งในอนาคตประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภาษาที่สามย่อมเป็นตัวช่วยที่จะทำให้น้ำฝนภาษีดีกว่าคนอื่นๆ

 

     หลักสูตรที่น้ำฝนกำลังเรียนอยู่ก็คือ เอกสื่อสารธุรกิจระหว่างประเทศของวิทยาลัยนานาชาติศรีปทุม เพราะที่นี่นอกจากน้ำฝนจะได้ภาษาอังกฤษแล้วน้ำฝนยังได้ภาษาจีนเป็นภาษาที่สามด้วย (เท่ห์ป่ะล่ะ)โดยตอนเรียนวิชาภาษาจีนก็มีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยที่จีนมาสอนเลยโดยตรงเรียกว่า native speaker มาเองงานนี้ใช้ทั้งภาษามือภาษาจีนภาษาอังกฤษกันสนุกไปเลย งานนี้ยังไงๆน้ำฝนก็ได้ภาษาแน่ๆ สัญญากับตัวเองไว้แล้ว ไม่งั้นสิ่งที่ตั้งใจไว้แต่แรกก็จะสูญเปล่าสิ่งที่น้ำฝนชอบเกี่ยวกับที่นี่ก็คือ อาจารย์ใจดีมากๆ แถมยังติดต่อได้ 24/7 (เหมือนเซเว่นเป๊ะเลย 555) คือถ้ามีอะไรสงสัยก็ถามได้ตลอด ไม่ต้องรู้สึกกลัวอาจารย์ หรืออายที่เราพูดไม่เก่ง น้ำฝนก็เลยกล้าใช้และก็กล้าพูดทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษเลย บางทีก็รู้สึกว่าเหมือนไม่ใช่อาจารย์แต่เหมือนเป็นพ่อกับแม่อีกคนเลยนะ มีอะไรเราก็ปรึกษาได้ตลอด อุ่นใจดีๆ

 


บเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันค่ะ

 

     ที่น้ำฝนชอบอีกอย่างนึงของที่นี่คือน้ำฝนได้รู้จักเพื่อนแล้วก็อาจารย์ชาวต่างชาติเยอะมากมาจากทั่วโลกเลย ทั้งจีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ สเปน แอฟริกาใต้ เยอรมนี เยอะแยะมากจนน้ำฝนนับไม่หมดเลยล่ะ น้ำฝนรู้สึกว่าการที่น้ำฝนมีเพื่อนที่มาจากหลากหลาย background ทำให้โลกของน้ำฝนกว้างขึ้นมากกว่าเดิมเยอะเลย เพราะน้ำฝนได้ฝึกภาษากับอาจารย์และก็เพื่อนๆ แล้วก็เรียนรู้วัฒนธรรมของบ้านเค้าไปในตัวด้วย

 

     และที่สำคัญที่สุดก็คืออีกไม่นานประเทศไทยก็จะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้วซึ่งเราจะต้องได้สื่อสารและดีลงานกับประเทศเพื่อนบ้านอีกเยอะแยะแน่นอนเราจะไม่ใช่แค่ประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันเฉยๆ แค่นั้นนะ คือถ้าไม่เรียนภาษาที่สามตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปเรียนตอนไหนแล้ว แถมถ้าน้องๆ ยังอยากเรียนภาษาอื่นๆ นอกจากภาษาจีนที่มหา’ลัยก็มี ภาษาญี่ปุ่นภาษาเกาหลี ภาษาบาฮาซา (ของอินโด) ภาษาพม่า ภาษามลายูภาษาเวียดนาม(ประเทศนี้น่าจับตามองมากๆ โตเร็วสุดๆ) ให้ลงเรียนด้วยนะนอกจากจะได้เรียนในสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ภาษาตลอดเวลาแล้วน้ำฝนยังได้ทุนไปประเทศต่างๆ เพื่อร่วมกิจกรรมเยอะมาก ทั้งที่ ฝรั่งเศสจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ล่าสุดเมื่อปีที่แล้วน้ำฝนได้ทุนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนและได้ประกวดพูดสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยไป่เซ่อ (Baise) ประเทศจีนมา แฮ่ม งานนี้ไม่อยากจะอวดเลยนะ แต่ว่าน้ำฝนได้รับรางวัลชนะเลิศมานะจ๊ะ ^^

 


ตอนไปรำที่ประเทศจีน
 
ตอนไปรำที่ฝรั่งเศส อันนี้รำกลางถนนเลย สนุกมากๆ

 

     สิ่งที่น้ำฝนสังเกตุเห็นจากการไปอยู่ที่โน่นก็คือเพื่อนๆ ชาวต่างชาติเค้าก็เริ่มเตรียมตัวไม่ต่างจากเราเหมือนกันคนเริ่มสนใจและเรียนภาษาไทยกันมากขึ้นด้วยโลกมันกำลังจะเปลี่ยนไปแบบสุดๆเพราะภาษาอังกฤษจะไม่ใช่ภาษาสากล หลักอีกต่อไป แต่ทุกคนจะต้อง multi-taskคือ ต้องพูดภาษาที่สามได้ และให้ดีถ้าได้สี่ ห้า หกกันไปเลยน้องๆ เคยได้ยินกันมั้ยว่า คนออกหมัดก่อนได้เปรียบการที่เราเตรียมตัวให้พร้อมเพื่ออนาคต ก็เพื่อตัวเราเองจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายว่าทำไมตอนนี้ไม่ทำอย่างนั้น ทำไมตอนนี้ไม่ทำอย่างนี้ ตอนเริ่มอาจยากแต่ตอนต่อไปต้องสวยงามแน่นอน น้ำฝนมั่นใจ 

เครดิต: facebook.com/4yearschange


แสดงความคิดเห็น

>