Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เมื่อสำนักพิมพ์ที่ส่งต้นฉบับไปพิจารณาทำแบบนี้...?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
 

ข้าพเจ้าได้พบเจอกับเหตุการณ์นี้มาเมื่อไม่นาน

เมื่อสี่เดือนก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าได้ส่งต้นฉบับนิยาย(รักหวานแหวว)เรื่องหนึ่งไปยังสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง(ไม่ขอเอ่ยนาม)แล้วผ่านไปโดยประมานสามเดือนก็ยังไม่ได้รับผลการพิจารณา ในขณะนั้นข้าพเจ้ากำลังเร่งปั่นเรื่องใหม่อยู่จึงนึกขึ้นได้ว่าทำไมเราไม่ส่งเมลล์ไปถามวะ -*- เมื่อคิดได้เช่นนั้นข้าพเจ้าจึงส่งเมล์ไปถามทันทีผ่านมาอีกวันทางสำนักพิมพ์บอกว่า “เสียใจด้วยค่ะ ต้นฉบับที่คุณส่งมาไม่ผ่านการพิจารณา เพราะอ่านแล้วไม่สนุกค่ะ” นั่นทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจยิ่งนัก!!

                ข้าพเจ้ายอมรับว่าข้าพเจ้าไม่ใช่นักเขียนที่เก่งเหมือนใครๆแต่ก็พยายามเต็มที่แล้ว เนื้อหาบางตอนนั้นข้าพเจ้าคิดว่ามันก็ไม่สนุกจริงๆแต่อ่านแล้วมันก็ไม่เบื่ออ่ะเพราะข้าพเจ้าได้นำไปตรวจทานและให้ทั้งเพื่อน พี่น้อง หรือนักเขียนบางท่านที่รู้จักและสนิทมากอ่านให้ เขาก็บอกว่าใช้ได้แล้ว ในเมื่อมันไม่ผ่านข้าพเจ้าก็ต้องยอมรับแต่ด้วยความกล้าหน้า ด้านของข้าพเจ้าเลยประชดด้วยการนำต้นฉบับที่ส่งไปแปะไว้หน้าเว็ปสำนักพิมพ์นั้นเป็นการแก้เผ็ด(หลายๆคนอาจไม่เห็นด้วยแต่ทำแล้วไม่มีใครเสียหายก็อยากทำเพื่อระบายความเจ็บปวด)

ผ่านมาไม่ถึงเดือนยอดวิวนิยายที่แปะไว้เริ่มมีคนเข้ามาอ่านเยอะขึ้นเรื่อยๆและก็คอมเม้นท์ให้นิยายของข้าพเจ้าถึงมันจะแค่ไม่กี่พันคน ไม่ถึงสามร้อยคอมเม้นท์แต่นั่นก็ทำให้ข้าพเจ้าดีใจอย่างยิ่งข้าพเจ้าจึงคิดที่จะแก้ไขและส่งให้สำนักพิมพ์อื่นๆพิจารณาดู

แต่...!! เมื่อสำนักพิมพ์ที่ข้าพเจ้าได้ส่งต้นฉบับไปตอนแรกนั้นได้ติดต่อกลับมาขอทำสัญญาลิขสิทธิ์และตีพิมพ์ ข้าพเจ้าจึงได้แต่งง O.O ก็ข้าพเจ้าได้ส่งต้นฉบับไปแล้วแต่ถูกปฏิเสธแล้วแบบนี้มันหมายความว่ายังไง

สิ่งที่ข้าพเจ้าสงสัยอย่างยิ่งคือ...

1.       ทางสำนักพิมพ์ไม่ได้อ่านต้นฉบับของข้าพเจ้าหรือ...?

2.       อ่านแล้วแต่ไม่สนุกเลยปฏิเสธ แต่มาขอตีพิมพ์อีกครั้งนี่มัน....?

3.       หรือว่าเห้นยอดวิวแล้วอยากตีพิมพ์ ไม่น่าจะใช่...?

4.       ข้าพเจ้าควรตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนี้หรือไม่ ? หรือจะส่งต้นฉบับไปสำนักพิมพ์อื่นๆดีกว่า...?

ใครที่รู้ช่วยบอกที่เถอะ หรือแนะนำก็ได้เพราะทางสำนักพิมพ์นั้นเพิ่งส่งเมลล์ติดต่อมาเมื่อสี่วันที่แล้วเอง...

แสดงความคิดเห็น

>

21 ความคิดเห็น

lilin4646 17 พ.ค. 55 เวลา 18:36 น. 1

เส้นทางของอาชีพนักเขียนมันแคบครับ ทางไหนเปิดก็ควรจะเอาทางนั้นก่อน
เพราะไม่มีอะไรรับประกันว่าทางมันจะเปิดขึ้นอีกครั้งตอนไหน

ที่สำคัญที่สุดผมว่านิยายที่ผ่านยากก็เล่มแรกนี่แหละ เพราะเล่นที่ 2-3 ขึ้นไปเราก็มีประวัติแล้ว
ว่าเคยออกหนังสือมา ทำให้อะไรๆก็ง่ายขึ้นเยอะ


PS.  ผิดก็กล้ายอมรับว่าผิด เท่านั้นก็จบ
1
pimmy_cherrydark 17 พ.ค. 55 เวลา 18:40 น. 2

สำนักพิมพ์ไหนครับที่ทำแบบนี้ ? จะไปวางระเบิดซะให่เจ๋งเลย


PS.  กระผมมันนักอ่านกระล่อน!!!
0
๏Pinny๏ 17 พ.ค. 55 เวลา 18:48 น. 5

เป็นเรื่องที่คาดฝันมากค่ะ เป็นเราคงดีใจและสงสัยในเวลาเดียวกัน แบบเหมือนถอดใจไปแล้ว
แต่อยู่ๆ เฮ้ยย มาได้ไง *-*
เราว่าลองคว้าโอกาสนี้ไว้ก็ไม่เสียหายนะคะ บางทีคนที่จัดการเรื่องตรวจต้นฉบับ
อาจจะไม่รอบคอบก็ได้ ดีใจด้วยนะคะ ลองดูค่ะ สู้ๆ^^

0
Alan R. 17 พ.ค. 55 เวลา 18:52 น. 6

 

อาจารย์สมคิดกับพี่นิกรบอกเหมือนกันว่า ทุกปัญหาคือโอกาส ทุกอุปสรรคคืิอโอกาส คำตอบนั้นง่ายมาก ผมคว้าทุกโอกาส แม้เล็กน้อย แต่ก็ไม่มองข้าม

สนพ.จะเป็นอย่างไร มีมุมมองอย่างไร มันเป็นเรื่องของเขา เป็นภาระทางความคิดของเขา ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับว่าเขาคิดอะไรอยู่ ถ้าไปคิดแทนเขา เราจะทุกข์ใจซะเองนะ

ถ้าเป็นผม จะมองให้เป็นบวกเอาไว้ ถือซะว่าเขามาง้อเราด้วยการรั้งขาเราไว้ข้างหนึ่ง

ปล. ความเห็นส่วนตัวนะครับ และถ้าจขกท.เลือกที่จะพิมพ์กับเขา อ่านสัญญาดีๆ นะครับ :')


PS.  www.fb.com/krungkaew
0
B 13 s.t 17 พ.ค. 55 เวลา 18:55 น. 7

เอ่อ... จะว่าดีก็ดีนะ รีบคว้าโอกาสไว้เถอะ ถึงจะงงๆ หน่อยก็ตาม
บางที่อาจเป็น บก. คนละคนที่มาอ่านงานของเราก็ได้มั้งครับ เพราะพวกแมวมองหานิยายในเน็ตไปตีพิมพ์ไม่ได้มีแค่คนเดียว คนที่เราส่งงานให้พิจารณา กับคนที่เข้ามาอ่านงานเราแล้วถูกใจอาจไม่ใช่คนเดียวกันก็ได้ครับ


PS.  รู้ไหม เรื่องตลกที่สุดของคนที่ประสบความสำเร็จคืออะไร ... พวกเขาเคยล้มเหลว...
0
ราชินีโพแดง 17 พ.ค. 55 เวลา 19:14 น. 8

รับไว้เถอะค่ะ ไหน ๆ โอกาสทองก็มากองอยู่ตรงหน้าแล้ว *0* แต่เห็นด้วยที่ว่าให้อ่านสัญญาให้ดี ๆ ก่อนเซ็นอ่ะ


PS.  ต้องทำใจให้ชินให้ได้นะเรา...
0
เคย์เซย์ (Keisei) 17 พ.ค. 55 เวลา 19:15 น. 9

ก่อนอื่นขอดูสัญญาก่อนครับว่ายุติธรรมกับเราหรือเปล่า ถ้าไม่ก็ถอยฉากออกมา แต่ถ้าโอเคค่อยพิมพ์ - - 


PS.  บัลลังก์นี้มิเคยปรารถนา บัลลังก์นี้มิเคยคิดลุ่มหลง บัลลังก์นี้มิเคยคิดชื่นชม บัลลังก์นี้มิเคยสมสุขทรวง / ไม่มีใครปฏิเสธกรรมที่เรียกว่า "การกระทำ" ได้หรอก
0
valerie[วิฬารี] 17 พ.ค. 55 เวลา 19:42 น. 10

นึกถึงภาษิตไทยที่ว่า "ถ่มน้ำลายแล้วกลับกลืนกิน" ยังไงไม่รู้..
แต่ถ้าไม่คิดมากกับการกระทำของเขา ก็รับโอกาสนี้ไว้เถอะค่ะ

0
เนกิ สปริงฟิลด์ 17 พ.ค. 55 เวลา 20:07 น. 11

ผมว่าไม่ควรนะครับการเปลี่ยนใจการตัดสินใจต้องอยู่กับเราเเละเราไม่มีหลักประกันคามปลอดภัย เขาอาจกดดันให้ยอดขายเเละการผลิตหนังสือเรามากขึ้น เร่งเราเเต่งต่อมากขึ้นผมคิดว่าควรสำนักพิมพ์ที่น่าเชื่อถือหรือคนเเต่งอื่นๆสามารถยืนยันได้จะดีที่สุดครับ

0
ล่องฟ้า 17 พ.ค. 55 เวลา 20:51 น. 12

สนุกไม่สนุกไม่สนละ ขอให้

ขายได้


ก็พอ

ตีพิมพ์ไปเลยครับ คุณได้โอกาสตีพิมพ์แล้วนับว่าโชคดีขนาดไหน รู้ไหมว่ามันยากมากๆสำหรับใครอีกหลายๆคนที่ไม่มีโอกาสแบบคุณ รีบคว้าโอกาศไว้ อย่าไปประชดสำนักพิมพ์เขา



PS.  การยิ้มนั้นดี แต่การยิ้มอยู่คนเดียวเป็นเรื่องไม่ดี
0
Lucifer 17 พ.ค. 55 เวลา 21:26 น. 13

เหมือน คห.12 เลยค่ะมีโอกาสก็รีบคว้าเอาไว้ไม่เสียหาย


PS.  ความรักก็เหมือนผี รู้ว่ามีแต่ไม่เคยเจอ
0
อคิน 17 พ.ค. 55 เวลา 21:32 น. 14

คิดในแง่ดีอาจเป็นบก.คนละคนก็ได้ค่ะ
ถือว่าตอกหน้าบก.คนที่เคยบอกว่างานของคุณไม่สนุก

แต่ถ้าไม่เเน่ใจเพราะความโลเลของสนพ.
ก็อ่านสัญญาดีๆ ก่อนเน้อ ถ้าเราพอใจก็เซ็น ไม่พอใจก็ถอน

แต่อย่าเพิ่งโกรธจนปฏิเสธประชดไปล่ะ เสียดายโอกาส


PS.  ถ้าแกวางแอปเปิ้ลไว้บนหัว ฉันสัญญาเลยว่าจะยิงให้พลาด
0
จิ้ง 18 พ.ค. 55 เวลา 04:56 น. 16
โอกาสแบบนี้มันเกิดขึ้นได้แหละครับ ผมเองเคยส่งนิยายไป สนพ.แห่งหนึ่ง 3-4 เดือนไม่มีการตอบกลับ ส่งเมล์ไปถามก็มีอะไรคืบหน้า สุดท้ายโทรไปตามก็ได้คำตอบว่าไม่ผ่าน

ผ่านไปลายเดือน สนพ.เดิมติดต่อมา ขอเรื่องเดิมที่ไม่ผ่านนี่แหละไปพิมพ์ ผมเลยถามเขาไปตรงๆ ว่าทราบหรือเปล่าว่าผมเคยส่งเรื่องนี้เข้าไปพิจารณามาก่อนและไม่ผ่าน (ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่าบก.คนไหนติดต่อมา) ทางสนพ.แน่ใจเหรอว่าต้องการงานชิ้นนี้จริงๆ ไม่ใช่ว่าประสานงานกันภายในไม่ตรง แล้วมาของยกเลิกต้นฉบับผมทีหลังไม่ได้นะ ซึ่งเขาไม่ได้บอกเหตุผลเรื่องการพิจารณาภายใน แต่ถามแค่ความสมัครใจผมว่าอยากร่วมงานกันไหม และเขาชอบงานของผม ดูสัญญาอะไรแล้วโอเค ผมก็พิมพ์เลย

หรือน้องท่านหนึ่งที่เคยมาเล่าประสบการณ์ อยากให้ทางกลุ่มผมช่วยพิมพ์หนังสือให้ เพื่อขายเองเพราะนิยายส่งไปให้สนพ.ไม่ผ่านพิจารณา แต่ต่อมาก็ขอยกเลิก เพราะสนพ.เดิม แต่บก.คนใหม่ติดต่อมาขอต้นฉบับไปพิมพ์

สาเหตุที่ผมเห็น อาจจะขึ้นอยู่กับดวงเราด้วยแหละ ว่าเจอบก.คนไหนพิจารณา มีการพุดคุยกันในกลุ่มบก.เพื่อพิจารณาว่างานชิ้นนี้ควรผ่านกี่คน บางสนพ.คนเดียวอ่าน ไม่ผ่านก็คือไม่ผ่าน แต่พอต้นฉบับตกไปถึงมือบก.อีกคน เขาอ่านแล้วชอบ ให้ผ่านก็มี บางสนพ.บก.อ่านกันสามสี่คนก่อนลงความเห็นผ่านไม่ผ่านแบบนีก็มี 

ส่วนตัวผมมีความรู้สึกว่าเราเต็มที่กับงานเขียนและงานเขียนเรามันสนุกในระดับหนึ่ง และสนุกสำหรับคนอ่านที่ิติดตามอยู่แล้วล่ะ แต่เมื่อมันเข้าสู่กระบวนการพิจารณา สายตาของผู้พิจารณาแต่ละคนไม่เหมือกกัน บางคนมองความสนุก มองภาษา บางคนมองการตลาด มองยอดขาย ก็ทำให้การพิจารณาออกมาต่างกันก็ได้ นักเขียนอย่างเราทำอะไรได้บ้างถ้าอยากผ่านพิจารณา ก็เขียนงานของเราต่อไปให้ดี สร้างโอกาสให้ตัวเองเพิ่มขึ้น แล้วหาสนพ.ที่เหมาะที่ต้องการงานเรา

ผมไม่เคยเสียความรู้สึก(ก็มีบ้างนิดหน่อยแต่เดี๋ยวก็ลืม) เวลาส่งงานแล้ว สนพ.ตอบว่างานไม่ผ่าน ไม่น่าสนใจ บราๆ อย่างเดียวที่ผมจะเสียความรู้สึกคือเมื่องานผมพิมพ์ออกไปแล้ว แต่ดันมาถามผมว่า ทำไมงานผมยอดขายไม่ดี ทำไมงานผมขายได้น้อย ทำไมแนวนิยายผมดึงดูดคนอ่านไม่ได้ อันนี้ผมตอบไม่ได้จริงๆ แต่อยากถามกลับว่า ตอนเลือกงานผมไปพิมพ์ทำไมคุณไม่ดูออกว่างานมันขายไม่ดี ขายได้น้อยและไมมีอะไรดึงดูดคนอ่าน


PS.  สมาคมคนทำหนังสืออินดี้ หนังสือดีที่คุณทำได้ พบปะกันที่ http://group.dek-d.com/handmadebook
0
ผ่านมา 18 พ.ค. 55 เวลา 10:33 น. 17

เป็นเราเราไม่พิมพ์ ศักดิ์ศรีอะ เราก็เคยโดน โทรไปถามเมื่อผ่านไปสามเดือน บอกว่ากำลังเข้าที่ประชุม ผ่านไปอีกเดือน โทรไปใหม่ บอกว่า ยังไม่เคยได้รับเรื่องนี้ แค่นี้ยังชุ่ย แล้วถ้าเข้าสู่กระบวนการตีพิมพ์แล้วจะชุ่ยขนาดไหน ไม่ได้พิมพ์ก็ไม่เป็นไร ไม่เกิดก็ไม่เป็นไร ถ้าต้องเกิดกับสำนักพิมพ์ประเภทนี้ที่เห็นผลงานที่กลั่นจากมันสมองคนอื่นเป็นสิ่งที่ไร้ค่า เราก็เลยแจ้งยกเลิกพร้อมกับเม้งสำนักพิมพ์ไปอีกหนึ่งยก อยากให้เขารู้บ้างว่า ไม่ใช่ว่าคนเขียนอยากพิมพ์จนตัวสั่น คุณเองก็ต้องอาศัยนักเขียนเหมือนกัน น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า เขาคงไม่รู้จัก
สำหรับกรณีของคุณ ก็พิจารณาดูเองว่า จำเป็นมากมั้ย และอยากพิมพ์กับเขาหรือเปล่า

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

เรือนดาหลา 11 มี.ค. 60 เวลา 15:16 น. 20

ลองเป็นว่าเรากำหนด เดทลายน์ ของตัวเองไว้ ตามหลัก 1-3 เดือนใช่มั้ย

ถ้าเขาเกินสามเดือนไม่ติดต่อมา เราควรโทรถาม

ไม่ก็ส่ง สนพ. อื่น ไปเลย ทีนี้เขาติดต่อกลับมาคงไม่ทันแล้ว

คนหนึ่งไม่เอา เราก็ต้องส่งให้คนที่เขาเอา


รอไปเรื่อยๆอย่างไร้คำตอบ มันก็กระไรอยู่



0